The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms - ตอนที่ 306
บทที่306
ผู้แปล : N.
พื้นหลังของแฟนนี่นั้นไม่มีอะไร เฉพาะเรื่องนี้ก็ทำให้ลูชินรู้สึกดีต่อรองกัปตันของเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวคนนี้กว่าคนอื่นๆ
“ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พวกคุณต้องเจอเรื่องนี้” แฟนนี่พูดขอโทษออกมา
“ ไม่เป็นไร!” ซูเฉิงได้พูดถามอย่างสงสัยว่า “ นี่มันก็ดึกแล้วทำไมคุณถึงยังมาเดินสถานที่แบบนี้คนเดียวอยู่อีก?”
“เรื่องนั้น! พอดีฉันอ่านเจอว่าในประเทศจีนนั้นมีความปลอดภัยมาก ถึงแม้จะตอนกลางคืนก็ตาม ดังนั้นฉันจึงคิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่คิดว่า… “
ซูเฉิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มออกมาและพูดว่า : “มันก็จริงที่เดี่ยวนี้ประเทศจีนนั้นมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมาก! แต่นั้นมันอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าคุณต้องเป็นผู้หญิงธรรมดา ไม่ใช้สวยแบบนี้!”
“อ่า! ฉันจะให้ความสนใจในครั้งต่อไป” แฟนนี่ผงกศีรษะอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า “ฉันต้องขอบคุณพวกคุณอีกครั้งจริงๆ”
พวกเธอพูดคุยกันไม่นานซูเฉิงก็รู้สึกว่าแฟนนี่น่ารักอย่างมาก เธอจึงได้เชิญแฟนนี่มาทางอาหารเย็นด้วยกัน เมื่อถึงร้านอาหารแฟนนี่และซูเฉิงนั้นได้นั่งอยู่ด้วยกัน และให้ลูชินนั่งอีกฝั่งอยู่คนเดียว
หลังจากที่พวกเขาทานอาหารเย็นเสร็จ แฟนนี่ก็ได้ขอตัวกลับไปยังโรงแรมของเธอก่อน โดยที่ครั้งนี้เธอได้เลือกใช้บริการรถแท็กซี่แทนการเดินกลับ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอนั้นยังกลัวเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นอยู่
…
ในขณะนี้บนถนนบนภูเขาแห่งหนึ่ง เซียวไบกำลังวิ่งไปมาบนถนนโดยที่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านบนของมัน เธอได้สวมเสื้อหนังสีดำรัดรูปที่ตอนนี้กำลังขับเซียวไบไปตามถนน
หลังจากที่ฟานฟานมาถึงจีนแผ่นดินใหญ่ เธอยังคงรักการแข่งรถจักรยนต์เหมือนเดิม ดังนั้นเธอจะใช้ช่วงเวลาว่างออกมาร่วมการแข่งขันในรายการเล็กๆเป็นประจำ และเธอยังได้ขออนุญาตประธานลูในการนำเซียวไบมาใช้อีกด้วย
“ในหัวใจของคุณบิน … ” เสียงของเซียวไบที่กำลังร้องเพลงนั้นก็ยังไม่น่าฟังเช่นเดิม นั้นจึงทำให้ฟานฟานกัดฟันของเธอ: “นายช่วยหยุดร้องเพลงซักพักได้ไหม!”
“เฮ้! พ่อส่งข้อความถึงฉัน!” ระหว่างนั้นเซียวไบก็ได้รับสัญญาณจากลูชิน มันที่เห็นแบบนั้นก็ไม่รอใช้ที่จะตรวจสอบว่าพ่อมันนั้นส่งอะไรมาให้ หลังจากที่มันอ่านเนื้อหาในนั้นก็พบว่าพ่อต้องการให้มันตรวจสอบข้อมูลการสื่อสารทั้งหมดของคนที่ชื่อแฟนนี่
“ว้าว! ฉันไม่คิดเลยว่าพ่อจะสนใจผู้หญิงอื่นแบบนี้ ไม่ได้ละ! ฉันรู้สึกตื่นเต้นจริง! เอ้าละ! พี่สาวฟาน! เราคงต้องรีบกลับบ้านกันแล้ว พอดีฉันต้องกับไปทำงานที่พ่อสั่งให้เสร็จเร็วที่สุด!” เซียวไบได้ตะโกนออกมาก่อนที่มันจะเร่งความเร็วขึ้นไปอีกเท่าหนึ่งทันที!
“อย่า! นายอย่าทำแบบนี้ ปล่อยให้ฉันขับนายเอง!” ฟานฟานได้ตะโกนออกมา
……
วันรุ่งขึ้นในห้องพักของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
ลูชินได้ตื่นขึ้นมาก่อนที่เขาจะสำรวจร่างกายของตัวเอง เขาพบว่าตอนนี้เขาไม่ได้สวมอะไรอยู่ ตามตัวของเขาก็เหมือนกับว่าได้ถูกใครบางคนเช็ดตัวให้สะอาดหมดแล้ว
มันทำให้เขานึกขึ้นได้ว่าฉากนี้มันเคยเกิดขึ้นกับเขามาครั้งหนึ่งแล้ว และตอนนี้ฉากนี้มันได้หวนกลับมาหาเขาอีกครั้ง
แต่มันก็แตกต่างจากครั้งที่แล้วเช่นกัน เพราะครั้งนี้เขาไม่ได้เมาจนสติไม่อยู่กับตัว ระหว่างที่เขากำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านข้างว่า “นายตื่นแล้วเหรอ?”
“อืม? ตอนนี่มันน่าจะเก้าโมงเช้าแล้ว!” ลูชินได้เปิดผ้านวมขึ้นมาก่อนที่มันจะเผยร่างของอีกฝ่ายที่ไม่มีอะไรปกปิดเช่นเดียวกับตัวเอง เขาที่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจ: “พี่คิดดีแล้วใช้ไหม?”
“อืม!” ซูเฉิงได้พูดต่อว่า “ฉันจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของตัวเองเด็ดขาด!”
“อ่า! มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นพระราชายังไงไม่รู้?” ลูชินพูดออกมายิ้มๆ
“ฮะ! นายพูดว่าอะไรนะ!” ซูเฉิงได้ถามกลับมาอย่างจริงจัง “นายนี้ใช้คำเปรียบเทียบได้น่าเกลียดมากเลยรู้ไหม?”
“ฮาฮาฮา!”
……
หลังอาหารเช้าซูเฉิงได้พูดขึ้นว่า: “ฉันคงอยู่กับนายได้ถึงเที่ยงนี้เท่านั้น เพราะงานของฉันนั้นยังรอให้ฉันไปจัดการอีกมาก!”
“งานอะไร? อย่างบอกนะว่างานโครงการที่บ้านเกิดของผมนะนี้!” ลูชินถามออกมาอย่างสงสัย
“ไม่ใช้! ” ซูเฉิงเอามือวางหัวไว้ตรงหน้าอกของลูชินก่อนที่จะพูดออกมาอย่างสบายๆว่า: “ฉันได้ลาออกจากบริษัทเดิมมาได้สองสามเดือนแล้ว”
“อะไรนะ? พี่ลาออกแล้ว?” ลูชินถามกลับว่า “พี่ทำแบบนั้นทำไม?”
“เพราะตอนนี้ตลาดในอสังหาริมทรัพย์กำลังถึงช่วงตกต่ำ และทางรัฐเองก็ได้ออกนโยบายและกฎระเบียบที่กดดันพวกบริษัทข้ามชาติมาอย่างต่อเนื่อง มันจึงทำให้ตอนนี้บริษัทข้ามชาติต่างก็อยู่ในสภาวะตกต่ำที่สุดในรอบสิบปี” ซูเฉิงพูดออกมาด้วยใช้น้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก: “ดังนั้นฉันจึงคิดว่า ฉันควรจะหาช่องทางอื่นจะดีกว่า “
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ลูบเส้นผมของเธอเบาๆ ก่อนที่เขาจะถามว่า: “งั้นตอนนี้พี่กำลังทำอะไรอยู่?”
“ ฉันได้สร้างบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งขึ้นมา หรือมันควรจะเรียกว่ามันเป็นแค่สตูดิโอก็คงไม่ผิดมากนัก!” ซูเฉิงได้พูดต่อว่า “ บริษัทที่ฉันสร้างขึ้นมานั้นจะลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งได้แก่พวกโซเชียลมีเดีย ภาพยนตร์ และวิดีโอต่างๆ”
“ ฉันได้ตรวจสอบมาแล้วว่า เศรษฐกิจของประเทศเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น ยังไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าที่ควร แต่การพัฒนาในอุตสาหกรรมความบันเทิงนั้นกลับสวนทางกับเศรษฐกิจ มันได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว”
“ดังนั้นฉันจึงได้เล็งมาทำเงินในอุตสาหกรรมบันเทิงนี่ และฉันรู้ว่าตอนนี้ผู้คนในประเทศต้องการอะไรมากที่สุด มันหนีไม่พ้นเรื่องของการแสวงหาความเพลิดเพลินทางอารมณ์ของตัวเอง”
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็พยักหน้าออกมา: “ใช่! นี่เป็นอะไรที่ดีมาก”
เพราะพวกยักษ์ใหญ่ในวงการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ในประเทศจีนเองก็กำลังวางแผนในเรื่องนี้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เกิดพวกเว็บไซต์ไลน์สดหรือไม่ก็พวกช่องเพลงมากมายขนาดนี้
“แล้วนี่พี่จะเริ่มจากตรงไหน?” ลูชินยังคงถามต่อไป
“ในตอนแรกฉันต้องการสร้างซอฟต์แวร์วิดีโอแบบโต้ตอบสั้นๆ แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” ซูเฉิงได้พูดต่อว่า “หลังจากที่บริษัทของนายได้ทำการเปิดตัวเครื่องฉายภาพสามมิติ ฉันก็คิดว่าจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในธุรกิจของฉัน! “
พูดถึงตรงหน้าซูเฉิงก็เปลี่ยนจากนอนบนหน้าอกของลูชินมาเป็นนั่ง ก่อนที่เธอจะใช้สายที่สื่อความหมายบางอย่างออกมา เธอได้พูดอย่างอ่อนโยน: “ฉันอยากจะนำเทคโนโลยีของนายมาใช้!”
“พี่จะรวมความบันเทิงกับเครื่องฉายภาพสามมิติเหรอ?” ลูชินที่ได้ยินคำนี้ก็สงสัยออกมา จากนั้นจากความสงสัยก็เปลี่ยนไปเป็นความประหลาดใจ
“ ใช่! ฉันจึงเรียกแผนการนี้ว่าความบันเทิงเสมือนจริง!” ซูเฉิงยังได้พูดต่อ“ ตอนนี้อุตสาหกรรมบันเทิงและโซเชียลมีเดียทั้งหมดต่างก็มีความเกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออก และผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือหรือไม่ก็คอมพิวเตอร์ทั้งนั้น! “
“ นายไม่คิดเหรอว่าถ้าเราสามารถนำความบันเทิงที่ผู้บริโภคดูนั้นออกมาจากหน้าจอแบบปกติได้มันจะน่าตื่นเต้นแค่ไหน”
“ ตัวอย่างเช่น การดูภาพยนตร์หรือไม่ก็การดูกีฬา ถ้ามันสามารถออกมาปรากฏขึ้นตรงหน้าของผู้ชมได้ … มันจะเป็นการยกระดับในวงการสื่อสารและบันเทิงขึ้นไปอีกขั้นทันที!”
“นี่เป็นก้อนเค้กที่ใหญ่อย่างมาก และมันก็ยังไม่เคยมีใครที่ได้มันไปเช่นกัน!” ซูเฉิงยังพูดอย่างตื่นเต้นต่อว่า “หากอุตสาหกรรมเหล่านี้สามารถทำขึ้นมาได้จริง ฉันต้องบอกว่าสวนแบ่งในตลาดนี้จะต้องตกเป็นของเราทั้งหมดอย่างแน่นอน! ดังนั้นฉันจึงอยากขอความร่วมมือกับนายในเรื่องนี้! “
ฟังถึงตอนนี้ลูชินก็เหมือนนะคิดอะไรได้ นี้ไม่ใช้สิ่งที่เขาต้องการหรอกเหรอ การที่เทคโนโลยีนี้ของเขาสามารถพัฒนาไปยังอุสาหกรรมอีกแห่งได้ มันไม่ใช้เรื่องนี้ต่อบริษัทของเขาหรอกเหรอ!