The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms - ตอนที่ 396
บทที่396
ผู้แปล : N.
(แอดขอเปลี่ยนจากราชินีแดงจูเนียร์ เป็นแดงน้อยนะครับ ตามต้นฉบับนะ)
“เรายินดีที่จะบอกว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะไม่ถูกจำกัดอยู่ที่ซอฟต์แวร์หรือบริการอีกต่อไป มันจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีของผู้ใช้งานทุกคนและมันยังสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆที่ผู้ใช้ป้อนให้อีกด้วย หรือจะพูดง่ายๆก็คือปัญญาประดิษฐ์นี้จะเติบโตไปพร้อมกับพวกคุณนั้นเอง”
“และด้วยการทำงานกันอย่างหนักของทางนักวิจัยของเรา เราจึงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้! “
“ดังนั้นผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในวงการคอมพิวเตอร์ นั่นก็คือ สมองควอนตัม!”
“สมองควอนตัม?” ผู้ชมต่างก็ได้ยินคำนี้อย่างชัดเจน และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาฟังบริษัทลู่เทคโนโลยี พูดถึงแนวคิดนี้!
“สมองควอนตัมคืออะไร? แล้วศูนย์ข้อมูลที่พวกเขาพูดออกมามันคืออะไรกันแน่” ผู้สื่อข่าวเองก็ได้หันไปกระซิบกันอย่างรวดเร็ว
“บางทีนี้อาจจะชื่อซีรีส์ของผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ได้” บางคนเองก็ได้คิดว่านี่อาจจะเป็นชื่อผลิตภัณฑ์ของคอมพิวเตอร์ที่บริษัทลู่เทคโนโลยีผลิตออกมาก็เป็นได้
ครั้งนี้วังถังไม่ได้ปล่อยเวลาผ่านไปนานมากนัก เขาได้อธิบายต่อทันที: “สมองควอนตัมถือว่าเป็นศูนย์กลางที่จำเป็นในการใช้ประมวลผลข้อมูลขั้นสูงที่เราจะเตรียมเอาไว้ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะต้องผ่านศูนย์กลางนี้! “
“ด้วยวิธีนี้จึงทำให้ปัญญาประดิษฐ์สามารถวิวัฒน์ได้ตลอดเวลา!”
“เอาละ! ตอนนี้ผมขอเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ที่แข็งแกร่งที่สุด เธอมีชื่อเรียกว่า ‘แดงน้อย’!”
หลังจากที่วังถังพูดจบ จอภาพด้านหลังของเขาก็ได้เกิดสว่างขึ้น และก็มีรูปของตัวอักษรคำว่าแดงน้อยปรากฏขึ้น
“สวัสดีทุกคน! หนูชื่อว่าแดงน้อย หนูดีใจมากที่ได้พบทุกคน!” เสียงที่แดงน้อยใช้ออกมานั้นดูเป็นเด็ก
หลังจากที่เธอพูดจบลง เธอก็ได้รับเสียงปรบมือจากทุกคนในงานนี้ทันที แต่ผู้คนในงานเองก็ยังเกิดความสับสนขึ้นมาในใจของพวกเขาเช่นกัน
วังถังยังได้พูดแนะนำด้วยความภูมิใจว่า : “แดงน้อยถือว่าเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังที่สุดแล้วในตอนนี้ เธอนั้นแข็งแกร่งมากกว่าเรทคลาวด์ที่เราเปิดตัวมาก่อนหน้านี้เสียอีก”
“สิ่งที่ถือว่าเธอเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังที่สุดนั้นก็คือ การที่เธอนั้นมีความสามารถในการเรียนรู้และเติบโตขึ้นได้อย่างอิสระ ดังนั้นเราจึงไม่ได้ออกแบบตัวละครของเธอแบบเดียวกับเรทคลาวด์ และตัวอักษรที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่เธอออกแบบด้วยตัวเอง “
ทันใดนั้นผู้ชมที่อยู่ในงานนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง พวกเขาถึงกับปรบมือด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม พวกเขาต่างก็เข้าใจสิ่งที่วังถังพูดออกมา มันหมายความว่าปัญญาประดิษฐ์ตรงหน้าของพวกเขานั้นมีความสามารถที่แข็งแกร่งอย่างมาก เผลอๆมันอาจจะถือได้ว่านี้เป็นความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมนี้เลยก็ว่าได้!
เพราะเธอมีความสามารถในการ “เรียนรู้” และ “การสร้าง” นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุดของมนุษย์เลยก็ว่าได้!
“เอาละ! พวกคุณมีเวลาสิบนาทีในการตั้งคำถามกับเธอ และผมจะปล่อยเวทีนี้ให้กับแดงน้อยต้นแต่นี้เป็นต้นไป” วังถังได้พูดถึงตรงนี้ก็ได้หยุดไปซักพัก ก่อนที่เขาจะหันไปทางรูปตัวอักษรที่เขียนว่าแดงน้อย และถามออกมาว่า
“ดูเหมือนว่าทุกคนจะตื่นเต้นอย่างมาก! ฉันไม่แน่ใจว่าหนูพร้อมไหม??!”
“แน่นอนว่าหนูพร้อมค่ะ! หนูเลือกผู้หญิงที่อยู่ทางขวาสุดของแถวที่ห้าเป็นคนตั้งคำถามคนแรก” แดงน้อยได้เข้าใจความหมายที่วังถังได้ถามออกมา และเห็นได้ชัดว่าความเร็วในปฏิกิริยาตอบโต้ของเธอนั้นใกล้เคียงกับมนุษย์อย่างมาก
แต่คนที่แปลกใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นนักข่าวสาวที่ถูกเลือก เธอนั้นเป็นผู้หญิงที่ไม่สูงมากนัก ดังนั้นเธอจึงถูกมองข้ามมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ใครจะไปคิดว่าเธอกับถูกเลือกให้เป็นคนเปิดงานที่ยิ่งใหญ่แบบนี้กัน
เมื่อเวลาผ่านไปซักพัก ก็เหมือนกับว่าเธอได้ตื่นจากความประหลาดใจ เธอรีบลุกขึ้นยืนและแนะนำตัวเองว่า: “สวัสดีแดงน้อย! ฉันเป็นนักข่าวจากช่องจดหมายข่าว”
“สวัสดีเช่นกันค่ะ! พี่สาวน่ารักมากเลย” คำชมฉับพลันของแดงน้อยทำให้นักข่าวตกใจเป็นครั้งแรก และเห็นได้ชัดว่าการกระทำนี้ของเธอได้รับการยกย่องให้เกินปัญญาประดิษฐ์ไปแล้ว ถ้านี้ไม่ใช้ความฉลาดของแดงน้อยเอง เธอก็สงสัยว่าอาจจะมีคนบังคับที่อยู่เบื้องหลังการกระทำของเธอก็เป็นไปได้
“ขอบคุณสำหรับคำชม! แดงน้อย! พอดีฉันมีคำถามสำหรับเธอเล็กน้อย? เธอคิดว่าตัวเองนั้นเป็นโปรแกรมหรืออะไรที่คล้ายอย่างเครื่องจักรไหม?”
คำถามแรกของนักข่าวที่ถามออกมาก็เป็นเรื่องของปรัชญาเข้าไปแล้ว ถึงแม้ว่าคำถามนี้ถามกับมนุษย์ปกติ มันก็ยังถือว่าเป็นคำถามที่อยากอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม คำตอบที่แดงน้อยตอบออกมาทำให้ทุกคนคาดไม่ถึง แม้แต่ลูชินเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินเรื่องนี้
เธอได้ตอบมาว่า “หนูเป็นลูกของแม่ราชินีแดงและพ่อลูชิน”
ทุกคนสับสนกับคำตอบนี้อย่างเห็นได้ชัด และพวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าความฉลาดของเธอนั้นเท่ากับเด็กอนุบาลเท่านั้น!
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็แสดงสีหน้าตื่นตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เขาจำเป็นจะต้องให้หัวข้อนี้จบลงโดยเร็วที่สุด ดังนั้นเขาจึงได้ทำการเชื่อมต่อกับแดงน้อยโดยตรงผ่านโทรศัพท์มือถือของเขา ก่อนที่เขาจะได้พิมพ์คำสั่งลงไปอย่างรวดเร็ว
แดงน้อยที่ได้รับคำอธิบายของลูชินเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็ได้อธิบายให้ทุกคนฟังเพิ่มเติมว่า: “ราชินีแดงที่หนูพูดถึงนั้น เธอเป็นวิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกแบบหนูมา”
เห็นได้ชัดว่าคำตอบนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าพอใจสำหรับทุกคน แต่มันกับทำให้พวกเขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับแดงน้อยมากยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นก็ได้มีการถามตอบกันจนหมดเวลา และตลอดการตอบคำถามนั้นแดงน้อยได้แสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของเด็กตลอดเวลา นั้นจึงทำให้พวกเขาต่างก็รู้สึกว่าคนที่พูดคุยกับพวกเขานั้นเป็นเด็กมากกว่าปัญญาประดิษฐ์
แต่เมื่อเวลาที่วังถังให้หมดลง มันกับทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานนี้ต่างก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ทางบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ทำการเปิดตัวระบบผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะอย่างเรทคลาวด์ แต่เมื่อนำมาเทียบกับแดงน้อยที่เปิดตัวตอนนี้กับมีความแตกต่างอย่างจัดเจน
เห็นได้ชัดว่าเสียงที่ตอบกลับมาจากระบบผู้ช่วยเรทคลาวด์นั้นมันเหมือนกับหุ่นยนต์มากเกินไป ส่วนของแดงน้อยนั้นมันกับแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวามากกว่า
“ฮาฮาฮา! ที่พวกคุณสัมผัสนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของฟังก์ชั่นมากมายของเธอเท่านั้น” วังถังได้พูดออกมาต่อว่า “เมื่อพูดถึงฟังก์ชั่นในด้านปัญญาประดิษฐ์แล้ว สิ่งที่ทุกคนคิดได้ก็อาจจะเป็นเพียง ผู้ช่วยอัจฉริยะ การจัดการทางการเงิน ฯลฯ แต่ผมจะบอกว่าฟังก์ชั่นพวกนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เพราะฟังก์ชั่นที่เธอมีนั้นทรงพลังกว่ามาก เธอสามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกไปตามผู้ใช้ของเธอได้โดยตรง ดังนั้นผมจึงบอกได้ว่าเธอนั้นจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอน! “
“ทุกคนต่างก็มีงานและไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ปัญญาประดิษฐ์เองก็จะมีนิสัยที่แตกต่างกันเช่นกัน”
“ดังนั้นคอมพิวเตอร์ควอนตัมแต่ละเครื่องที่ทางเราผลิตออกมานั้น จะมาพร้อมกับการติดตั้งมาปัญญาประดิษฐ์ขั้นพื้นฐานเอาไว้ ซึ่งมันจะมีฟังก์ชั่นพื้นฐานทั้งหมดครบถ้วน และในเวลาเดี่ยวกันยิ่งคุณได้ใช้บริหารผ่านปัญญาประดิษฐ์มากเท่าไหร่ ปัญญาประดิษฐ์ที่อยู่ในเครื่องของคุณก็จะยิ่งพัฒนาได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น “
“หรือจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆเลยก็คือ ผู้ใช้ก็เป็นเหมือนกับครู ปัญญาประดิษฐ์นั้นถือว่าเป็นเด็กนักเรียนของคุณเอง ไม่ว่าคุณครูจะสอนอะไรออกไป นักเรียนก็มีหน้าที่รับมันมาและพยายามนำเรื่องที่ครูสอนนั้นไปปรับใช้ … “
“ดังนั้นมันจึงไม่แปลกอะไรที่จะบอกว่า ปัญญาประดิษฐ์ของแต่ละครนั้นจะมีบุคลิกที่ไม่เหมือนกันเลย “