The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms - ตอนที่ 410
บทที่410
ผู้แปล : N.
“นี้ครับ … … ” หัวหน้าเกาที่ได้ฟังแบบนั้นเขาก็หยุดได้พูดกลางคัน และหันไปดูภาพที่ฉายออกมาโดยคอมพิวเตอร์ของวังเซียนอย่างระมัดระวัง
“นี่คือการออกแบบที่นายทำเหรอ? ฉันจำได้ว่าฉันพึ่งจะส่งงานนี้ให้นายเมื่อชั่วโมงก่อนนี้เองนิ! แล้วทำไมนายถึงทำมันเสร็จแล้วละ ไม่ใช้ว่านายแอบคัดลอกเลียนแบบงานนี้มาจากออนไลน์นะ?”
“ไม่ครับ! ผมไม่ทำอะไรที่เป็นการลอกเลียนแบบอย่างแน่นอน ถ้าหัวหน้าไม่เชื่อ หัวหน้าก็สามารถตรวจสอบการใช้ซอฟต์แวร์ได้ครับ!” วังเซียนพูดจบ เขาก็ได้ทำการเรียกหน้าซอฟต์แวร์ขึ้นมา ก่อนที่เขาจะแสดงประวัติการทำงานของเขาออกมา
“ ในส่วนของข้อกำหนดการออกแบบเองนั้น มันได้เหมือนกับความต้องการของลูกค้าบอกทุกอย่างครับ ถ้ามันเป็นการลอกเลียนแบบอย่างที่หัวหน้าพูดออกมาก่อนหน้านี้ มันคงทำแบบนี้ไม่ได้” วังเซียนยังคงอธิบายเรื่องนี้ต่อไป
“แต่มันก็ยังดูแปลกอยู่ดี เวลามันพึ่งจะพาไปเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่นายกับทำงานนี้เสร็จไปแล้ว” หัวหน้าเกาพูดออกมาอย่างสงสัย
“ นี้ไม่ใช้ฝีมือของวังเซียนค่ะ! แต่เป็นฝีมือของปัญญาประดิษฐ์ของเขาตั่งหาก!” เพื่อนร่วมงานที่อยู่ถัดจากเขาไปได้พูดขึ้นมา
“ปัญญาประดิษฐ์?” หัวหน้าเกาที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา “ตอนนี้ปัญญาประดิษฐ์ถึงขั้นทำสิ่งนี้ได้แล้วเหรอ?”
“แน่นอนครับ!” วังเซียนได้เริ่มแสดงให้หัวหน้าเกาเห็นถึงพลังของปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่าลิลี่
ไม่กี่นาทีต่อมาใบหน้าที่ตึงตัวของหัวหน้าเกาก็ได้คลายลง และมันกับแทนที่ด้วยความประหลาดใจและความตื่นเต้นแทน
“ยอดเยี่ยม! มันน่าทึ่งจริงๆ! ปัญญาประดิษฐ์นี้ทรงพลังอย่างมาก!” ตอนนี้ในหัวสมองของเขาได้คิดเรื่องที่จะนำคอมพิวเตอร์นี้มาปรับใช้กับการทำงานของตัวบริษัทแล้ว!
หากแผนการนี้ประสบความสำเร็จ มันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการจ้างพนักงานถึงร้อยเท่า! และราคาของมันก็เป็นเรื่องที่ทางบริษัทสามารถรับได้!
ถึงแม้ว่าสำหรับบุคคลทั่วไป เรื่องราคานี้อาจจะเกิดความลังเลที่จะซื้อ แต่สำหรับบริษัทแล้วราคาเพียงหนึ่งแสนหยวนนั้นถือว่าถูกเป็นอย่างมาก! เพราะถ้าคิดตามหลักการจริงๆแล้ว เจ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมเพียงหนึ่งเครื่องมันก็ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างพนักงานได้หลายสิบเลยทีเดียว!
“เป็นสิ่งที่ดี! ฉันจะไปหาเจ้านายทันที!!”
……
ในตัวจังหวัดแห่งหนึ่ง ตรงตัวสี่แยกที่วุ่นวาย นี่คือหนึ่งในพื้นที่แออัดที่มีชื่อเสียงของเมือง ทันทีที่ถึงเวลาเลิกงาน การจราจรที่นี้จะคับคั่งเป็นที่สุด
และเมื่อไม่นานมานี้ทางคณะรัฐบาลเมืองได้อนุมัติการจัดสร้างสะพานขึ้นอีกแห่ง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องการจราจรติดขัดให้หายไป
ดังนั้นทางคณะรัฐบาลเมืองจึงได้จัดสันให้มีตำรวจจารจรมาคอยอำนวยความสะดวกในบริเวณนี้อยู่เสมอมา
“พี่ใหญ่แพน! พี่ช่วยยื่นไอ้อุปกรณ์นี้มาให้ผมหน่อยได้ไหม?! “ที่สี่แยก ตำรวจจราจรหนุ่มที่ชื่อว่าเซียวฟ่างกำลังติดตั้งอุปกรณ์บนเสาจราจรทางด้านข้างของถนน
“เซียวฟ่าง! นายกำลังติดตั้งอะไรอยู่นะ?” แพนไฮ่ตำรวจจราจรรุ่นพี่ได้ถามขึ้นระหว่างที่เขายื่นไอ้อุปกรณ์บางอย่างไปให้
“มันเป็นอุปกรณ์ใหม่นะครับ! เห็นหัวหน้าว่าเจ้าเครื่องนี้มันได้เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สำนักงานใหญ่ด้วย!” เซียวฟ่างได้อธิบายว่า “เท่าที่ผมรู้ว่า มันน่าจะเป็นพวกอุปกรณ์สำหรับการตอบกลับข้อมูลและการฉายภาพนะ”
“แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?” แพนไฮ่ยังคงไม่เข้าใจถึงความสำคัญของเจ้าอุปกรณ์นี้อยู่ดี
เซียวฟ่างได้เช็ดเหงื่อของเขาแล้วพูดว่า “เห็นหัวหน้าว่ามันจะมีปัญญาประดิษฐ์ที่จะมาทำหน้าที่จัดการจราจรละมั้ง อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่าอีกไม่นานเราก็คงจะได้เห็นผลลัพธ์กันด้วยตาตัวเองแล้วละ”
“เฮ้อ! พวกหัวหน้าก็คิดแต่วิธีการผลาญงบนะ” แพนไฮ่ได้พูดจาดูหมิ่นออกมา “สู้เอาเงินส่วนนั้นมาจัดซื้อพวกอุปกรณ์ป้องกันให้กับพวกเราไม่ดีกว่าเหรอไง?”
“และไม่ใช้ว่าคนทั่วไปจะเชื่อฟังคำสั่งเสียเมื่อไหร่ ไม่แน่บางที่อาจจะมีคนฝ่าฝืนกฎจราจรก็เป็นไปได้!”
“แล้วไหนจะเป็นการประเมินสภาพของการจราจรอีกละ ฉันคิดว่าไอ้โปรแกรมนี้มันคงทำอะไรยากๆแบบนั้นไม่ได้หรอก!”
“อันนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ทางพวกหัวหน้ารู้สึกมีความเชื่อมั่นกับเจ้าสิ่งนี้มากเลยนะครับ และผมยังได้ยินพวกฝ่ายเทคนิคคุยกันว่า เจ้าสิ่งนี้มันเป็นถึงปัญญาประดิษฐ์ชั้นสูงที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย” ทางเซียวฟ่างเองก็ยังสงสัยในเรื่องนี้เช่นกัน
ในไม่ช้าอุปกรณ์ก็ถูกติดตั้งสำเร็จ และข้อมูลทั้งหมดที่นี่เชื่อมต่อกับ เออร์บัน ทรานสปอร์ต แอดมิสเตรชั่น
กล้องหลายสิบตัวได้ส่งภาพจากทุกมุมมองและพวกอุปกรณ์บันทึกเสียงเองก็ยังได้ถูกติดตั้งเข้าไปเพิ่มอีกด้วย
ในสำนักจัดการจราจรของเมือง ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการกำลังนั่งอยู่หน้าจอเสมือนจริงและเฝ้าดูสถานการณ์
“คอมพิวเตอร์ควอนตัมนี้จัดการปริมาณการใช้งานได้จริงใช้ไหม” มีใครบางคนได้ถามขึ้นมา
“มันจะต้องมีประโยชน์!” เจ้าหน้าที่จากบริษัทลู่เทคโนโลยีได้ตอบกลับมาแบบเรียบๆ “พวกคุณก็คงรู้ว่าในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาทางเรานั้นได้ทำงานร่วมกับแผนกการจัดการจราจรมามาโดยตลอด ซึ่งเราได้รับมือกับข้อมูลจำนวนมากและยังได้รับมือกับสภาพการจราจรที่หลากหลาย”
“ดังนั้นผมจึงมั่นใจว่าประสิทธิภาพที่เราจะนำเสนอต่อพวกคุณ มันจะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน “
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ก็ถึงช่วงเวลาเลิกงานกันแล้ว นั้นก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่การจราจรแออัด และพวกเขาถือว่าในช่วงเวลานี้มีเปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดอุบัติเหตุจากจราจรมากที่สุด
“เริ่มเปิดใช้งานระบบได้เลย!” ในสำนักการจัดการการจราจร ผู้อำนวยของสำนักงานก็ได้พูดขึ้น
ที่จุดตัดของสี่แยก ก็ได้ปรากฏภาพฉายเสมือนจริงของตำรวจจราจรปรากฏขึ้น
“ปัญญาประดิษฐ์ได้เริ่มทำงานแล้ว!” ตำรวจจราจรที่อยู่ตรงสี่แยกต่างก็ได้ให้ความสนใจกับการฉายภาพเสมือนจริงเหล่านี้
ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่จับตามองเรื่องนี้ แต่รวมไปถึงผู้ใช้ถนนทั้งหมดต่างก็จับตามองสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน
สภาพถนนที่ซับซ้อนถูกจับตามองโดยอุปกรณ์กล้องทั้งหมด ก่อนที่มันจะป้อนกลับไปยังคอมพิวเตอร์ควอนตัมสำหรับการวิเคราะห์และการคำนวณ
ระหว่างนั้นเองตรงถนนที่การจราจรติดขัดอยู่นั้น ก็มีมอเตอไซต์คันหนึ่งที่เห็นว่าตรงทางเดินเท้านั้นว่าง และเขาต้องการที่จะใช้ทางนั้นผ่านไป
ในขณะที่เขากำลังจะเลี้ยวขึ้นไปทางเท้าอยู่นั้น ก็ปรากฏภาพสามมิติขึ้นตรงหน้าของเขา ก่อนที่ตำรวจสามมิตินั้นจะพูดออกมาว่า “คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกเส้นทาง! โปรดปฏิบัติตามคำสั่งการจราจร!”
มันเป็นครั้งแรกที่คนขี่รถมอเตอไซต์ได้เจอกับสิ่งนี้ ดังนั้นเขาจึงอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
“โปรดถอยกลับไป! ขอบคุณสำหรับความร่วมมือของคุณ!” ตำรวจจราจรเสมือนจริงยังคงออกคำสั่งต่อไป ซึ่งการกระทำนี้ได้รับความสนใจจากทุกคนที่อยู่บริเวณนี้ทั้งหมด
“ตำรวจจราจรนั้นเป็นภาพสามมิติเหรอ?”
“โอ้! ในที่สุดจังหวัดเราก็เริ่มใช้อุปกรณ์ไฮเทคแล้ว! ฉันละอยากรู้จริงๆว่าชายคนนั้นจะทำยังไงต่อ?” ชายหนุ่มคนหนึ่งได้พูดขึ้นมา
“หยุด! คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากถนน ถ้าคุณฝ่าฝืนจะต้องถูกถ่ายรูปเอาไว้”
“โอ้!”
“เด็กๆ โปรดไปทางนี้” ตำรวจจราจรเสมือนจริงยังคงทำหน้าที่ต่อไป โดยที่เขาได้ทำช่องทางเดินให้พวกเขาผ่านทางไป
“ขอบคุณคุณลุงตำรวจ! คุณเป็นคนจริงไหม?!” เด็กชายคนหนึ่งได้พูดขึ้นมา
“ไม่ใช้! ผมเป็นปัญญาประดิษฐ์ คุณโปรดเดินทางกลับบ้านด้วยดี” ตำรวจจราจรเสมือนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
นอกเหนือจากผู้คนที่เดินไปมาแล้ว คนที่ขับรถยนต์เองก็ยังได้รับคำแนะนำจากตำรวจจราจรเสมือนเพื่อทำการเปลี่ยนเส้นทางการจราจรอีกด้วย
“มันสุดยอดจริงๆ!” ตำรวจจราจรเก่าอย่างแพนไฮ่ที่เห็นแบบนั้นก็ตกใจอย่างมาก “ถ้าเป็นเมื่อก่อน ถนนสี่แยกตรงนี้จะต้องใช้ตำรวจอย่างน้อยห้าถึงหกคน ถึงจะสามารถดูแลได้ทั่วถึง แต่นี้อะไร! กับไม่ต้องใช้ตำรวจคนไหนเลย ก็สามารถทำให้การจราจรเป็นไปได้ด้วยดี”
“ในอนาคตเราจะสบายมากขึ้น!” เซียวฟ่างได้ตอบกลับมาอย่างตื่นเต้น