The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms - ตอนที่ 414

บทที่414

ผู้แปล : N.

ผู้หญิงคนที่เข้ามาพูดกับลูชินนั้น เขาคิดว่าเธอน่าจะอายุเท่ากับฟานฟาน ในส่วนของรูปร่างของเธอนั้นเขาให้คะแนไปเจ็ดจากสิบคะแนน ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นที่เจอเธอ พวกเขาคงจะต้องตกหลุมรักเธอไปแล้ว แต่สำหรับลูชินนั้น เขาที่เคยเห็นซู่จิงและซูเสียวมาก่อน มันก็ทำให้เขารู้สึกเฉยๆสำหรับเธอคนนี้

แต่กลับกันในความเห็นของผู้หญิงที่เข้ามาทักทายลูชิน เธอกับคิดว่าผู้ชายตรงหน้าของเธอนั้นดูค่อนข้างหล่อและมีบรรยากาศที่น่าค้นหาอย่างมาก ดังนั้นเธอจึงคิดจะเป็นฝ่ายริเริ่มตีสนิทเขาก่อน

“สวัสดี! ฉันชื่อ จ้าวเฉียวเฉียว เป็นน้องสาวของพี่ฟาน” ผู้หญิงที่แนะนำตัวเองว่า จ้าวเฉียวเฉียว ได้ยื่นมือออกมาทักทายลูชิน

“ผมชื่อลูชิน, เป็นเพื่อนของฟานฟาน” ลูชินเองก็ได้ยื่นมือไปจับกับเธอเช่นกัน แต่ระหว่างที่พวกเขาทั้งคู่จับมือกันอยู่นั้น จ้าวเฉียวเฉียวกับได้บีบหลังมือของเขาเบาๆ ก่อนที่เธอจะเผลออุทานขึ้นว่า : “โอ้! กล้ามเนื้อของคุณหนามาก! คุณจะต้องเป็นพวกออกกำลังบ่อยๆแน่เลยใช้ไหม? “

“ฮาฮาฮา! ผมแค่ออกมันเป็นครั้งคราวนะ!” ลูชินรู้สึกได้ว่าจ้าวเฉียวเฉียวนั้นต้องการสานสัมพันธ์กับเขาให้มากขึ้น แต่เขาไม่ได้สนใจที่จะทำมัน

“เอาละ! เธอปล่อยมือจากเพื่อนของฉันได้แล้ว และนายก็นั่งลงก่อน” ฟานฟานได้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างทันท่วงที ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นต่อว่า “สำหรับวันนี้นายอยากจะดื่มอะไรก็เต็มที่ได้เลย ฉันเลี้ยงเอง”

ลูชินที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำเพียงยิ้มออกมาเท่านั้น ก่อนที่เขาจะนั่งลงและเริ่มทำความรู้จักกันกับเพื่อนๆของเธอ ในโต๊ะนี้มีคนสี่คนด้วยกัน ไม่นับฟานฟาน โดยที่มีผู้ชายสามคนและผู้หญิงหนึ่งคน

พวกเขาไม่ได้ตื่นเต้นเป็นพิเศษเมื่อได้เห็นลูชิน ดูเหมือนว่าฟานฟานจะไม่ได้บอกตัวตนที่แท้จริงของเขาให้กับคนพวกนี้รู้ ไม่อย่างนั้นคนพวกนี้จะต้องรีบเข้าไปทักทายเขาแล้ว

“พี่ชาย! ฉันได้ยินมาว่าคุณเองก็ทำงานเกี่ยวกับพวกรถยนต์ใช้ไหม พี่ชายรู้จักฟังก์ชั่นรถไร้คนขับไหม??” ชายคนหนึ่งได้วางแก้วไวน์ลง ก่อนที่เขาจะได้พูดถึงเรื่องนี้

“ ตอนนี้ฉันกำลังศึกษาพวกคอมพิวเตอร์ควอนตัมและปัญญาประดิษฐ์อยู่นะ ส่วนไอ้เรื่องของรถยนต์นั้นฉันได้เลิกสนใจมันไปนานแล้ว” ลูชินได้พูดความถึงสถานการณ์ของเขาออกมาตรงๆ

“อะไรนะ! พี่ชานต้องรู้ว่าเทคโนโลยีรถไร้คนขับนั้นทรงพลังมาก … ” ก่อนซิ่วหยิงจะพูดจบ ก็มีคนได้ขัดจังหวะของเขาขึ้น “หยุดเลยซิ่วหยิง! วันนี้เรามาดื่มกันนะ! ไอ้เรื่องงานเราค่อยไปคุยกันหลังจากนั้นจะดีกว่า”

“โอเค! งั้นเราก็ไม่ควรที่จะดื่มกันแบบธรรมดา มันควรจะมีเกมเล็กๆเอาไว้เล่นด้วย พวกนายจะเล่นอะไรระหว่างเกมรับการ์ดหรือลูกเต๋า?”

ลูชินที่เห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ เขาก็ได้รีบหันไปฟานฟาน และถามขึ้นทันทีว่า “เธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่? เห็นได้ชัดว่านี้ไม่ใช้การชวนมาดื่นกันแบบปกติ?”

“ไอ!.” ฟานฟานที่กำลังดื่มไวน์อยู่นั้นก็เผลอไอออกมา

จากนั้นเธอก็ได้ก้มหน้าลงไปที่หูของลูชิน และพูดออกมาเบาๆว่า “ฉันต้องขอโทษประธานด้วย! พอดีเพื่อนๆของฉันเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง และพวกเขาก็ได้เจอเข้ากับปัญหาเล็กๆน้อยๆ และพวกนั้นเห็นว่าฉันทำงานที่บริษัทของคุณ มันก็… ได้โปรดเถอะประธาน! คุณต้องช่วยฉันนะ”

ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถึงกับส่ายหัวออกมาอย่างไร้ประโยชน์ทันที ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า “ฉันก็คิดเอาไว้แล้วว่าการมาดื่นธรรมดาในครั้งนี้ไม่มีอยู่จริง!”

“ คุณไม่ต้องไปคิดมากเกินไป ถ้าเกิดคุณไม่มีวิธีจริงๆก็บอกพวกนั้นไปตรงๆ ถึงยังไงพวกนั้นก็ไม่รู้จักสถานะที่แท้จริงของคุณอยู่แล้ว!” ฟานฟานได้ตอบกลับมาด้วยเสียงเบาๆ

“เธอยังกล้าพูดนะ !” ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ตอบกลับไปพูดด้วยอารมณ์เล็กน้อย

ในขณะที่บริษัทลู่เทคโนโลยีได้แข็งแกร่งขึ้น ผู้คนรอบตัวเขาก็ค่อยๆนับถือเขามากขึ้นเป็นเงาตามตัว ในที่นี้ไม่ได้พูดถึงพวกเพื่อนร่วมชั้นหรือคนรู้จัก แต่คือกลุ่มของญาติๆและพ่อแม่ของเขา โดยที่พวกเขาต่างก็ได้เอาเขาไปเป็นตัวอย่างให้กับเด็กๆในครอบครัวมาโดยตลอด

“คุณพอจะช่วยได้ไหม?” ฟานฟานที่ได้รับรู้ถึงอารมณ์ที่มาจากน้ำเสียงนี้ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเริ่มที่จะโกรธขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว ทำ

“ เฮ้อ! ฉันจะทำเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน” ลูชินได้ตอบกลับมาอย่างช้าๆ และหลังจากที่เธอได้ฟังคำนี้ก็ได้ยิ้มออกมาทันที

“งั้นคุณก็ควรจะดื่มไวน์แก้วนี้ให้หมด ถือว่าฉันขอโทษกับการกระทำของฉันก่อนหน้านี้ละกัน!” ฟานฟานได้รีบยื่นแก้วไวน์ของเธอไปยังลูชินทันที

“เฮ้! พวกเธอสงคนกำลังทำอะไรกัน? มาเล่นเกมกันได้แล้ว!” เป็นจ้าวเฉียวเฉียวที่ได้ใช้โอกาสนี้เข้าไปนั่งถัดจากลูชิน และเธอก็ไม่ได้ปล่อยให้โอกาสนี้หมดเร็วเกินไป เธอถึงการได้ใช้ร่างสุดเซ็กซี่ของเธอแนบชิดกับแขนของลูชินให้นานที่สุด.

“ เฮ้! เธอกำลังทำอะไรอยู่นะ! ถอยออกไปได้แล้ว” ฟานฟานได้ดันให้จ้าวเฉียวเฉียวถอยห่างจากลูชิน

“อะไรกันพี่!” จ้าวเฉียวเฉียวทำท่าทางน่ารักระหว่างที่พูดออกมา “ฉันก็แค่อยากจะได้สามีหล่อๆก็เท่านั้นเอง”

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่พูดจาเปิดเผยแบบนี้ ลูชินก็เริ่มรู้สึกกลัวเล็กน้อย “อ่า! พอดีผมมีแฟนแล้ว”

ซึ่งมันตรงข้ามกับชายทั้งสามคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง เมื่อพวกเขาได้เห็นว่าผู้หญิงสวยทั้งสองคนต่างก็ได้พยายามเบียดกันนั่งข้างชายคนหนึ่งให้ได้แบบนั้น มันก็ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา

“พี่ชาย! เรายังไม่ได้รู้จักกันดีๆเลย! งั้นผมจะขอแนะนำคุณอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกัน พวกเราสามคนตอนนี้ได้ทำการเปิดบริษัทขึ้นมาร่วมกัน” .

ชายที่พูดนั้นดูอายุน้อยกว่าสามสิบปี และเขายังได้สวมแว่นตาสมาร์ทที่ผลิตโดยบริษัทของเขาอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้นั้นเป็นคนที่มีหัวทันสมัย

คนสองคนถัดจากจินฟานเองก็ได้ออกมาแนะนำตัวเองเช่นกัน

บริษัทของพวกเขานั้นเรียกว่า บริษัททินเนอร์

“โอ้! พวกคุณเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองเหรอ? มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งอย่างมาก!” ลูชินได้พูดยกย่องทั้งสามคน ซึ่งสำหรับเขาแล้วการที่คนหนุ่มสาวนั้นกล้าที่จะเริ่มธุรกิจของตัวเองนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือความกล้าหาญและด้วยความความกล้าหาญนี้เอง จึงทำให้พวกเขาได้รับการยกย่อง

“เล็กน้อยนะ!” จินฟานแสร้งทำเป็นพูดจาสุภาพออกมา ” ถึงมันจะขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัท แต่ตอนนี้บริษัทของพวกเรานั้นก็เป็นเพียงบริษัทขนาดเล็กเท่านั้น โดยที่พวกเรามีพนักงานรวมทั้งบริษัทเพียงสิบสองคนเท่านั้น แต่ถึงยังไงก็ตามบริษัทของเรากับเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาระบบไร้คนขับที่มีโน้มที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้”

จางเหว่ยที่เป็นเพื่อนของจินฟานเองก็ได้พูดเสริมขึ้นว่า “พวกฉันได้ฟังมาจากฟานฟานว่า พี่ชายเองก็เคยศึกษาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาก่อน ดังนั้นพวกฉันจึงอยากจะขอปรึกษาเรื่องนี้กับคุณได้ไหม? “

“ลองว่ามาสิ” ลูชินได้ตอบกลับมาแบบยิ้มๆ

เพราะก่อนหน้านั้นทางบริษัทของเขาเองก็ได้มีโครงการเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน แต่มันก็ได้ถูกตัดทิ้งในภายหลัง เหตุผลที่พวกเขาจำเป็นจะต้องตัดโครงการนี้ทิ้งก็เนื่องมากจาก ปัญหาของด้านผู้เชี่ยวชาญและเงินลงทุนในด้านนี้มากเกินไป

“ได้จริงเหรอ!” ชินฟานและเพื่อนทั้งสองคนของเขาต่างก็หันมาสบตากันทันทีที่ได้ฟังสิ่งที่ลูชินได้ตอบกลับมา

ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสามได้พบกับฟานฟานในการประชุมในอุตสาหกรรมยานยนต์ และมันก็เป็นตอนนั้นที่พวกเขาทั้งสี่ได้เริ่มทำความคุ้นเคยกัน จนมีอยู่ครั้งหนึ่งในขณะที่พวกเขากำลังดื่มกันอย่างหนักนั้น พวกเขาทั้งสามก็ได้เผลอพูดถึงปัญหาที่พวกเขาพบออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

ซึ่งในเวลานั้นเองที่ฟานฟานก็ได้ดื่มมากเกินไป เธอถึงกับได้ตบเต้านม(หน้าอก)ของเธอ และเธอยังให้สัญญาว่าเธอจะพาเพื่อนที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้มาให้พวกเขารู้จัก

อย่างไรก็ตาม เพราะเธอไม่ได้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของลูชินให้พวกเขารู้จัก มันเลยทำให้พวกเขาต่างก็แสดงท่าทีไม่ไว้ใจกับการกระทำของลูชินอยู่บ้าง

“งั้นฉันขอถามได้ไหมว่า พวกนายได้นำระบบนี้ไปใช้จริงมาหรือยัง?” ลูชินได้ถามออกมาด้วยความอยากรู้

“แน่นอน!” จินฟานได้ตะโกนออกมาทันที “ระบบรถไร้คนขับที่ทางบริษัทของเราพัฒนาขึ้นมานั้นได้ถูกนำไปใช้กับรถยนต์ขนาดเล็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมันยังทำงานได้โดยไม่ต้องควบคุมมันผ่านโทรศัพท์อีกด้วย! และก่อนมาที่นี้พวกเราทั้งสามก็ได้นั่งมันมาเช่นกัน! “

“และในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ พวกเราก็ได้นำมันไปทดสอบบนท้องถนนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งผลที่ออกมาก็ถือว่าดีเป็นอย่างมาก”

หลังจากที่เขาพูดจบด้วยความภาคภูมิใจ ฟานฟานก็ทำการเทน้ำเย็นใส่เขาทันที “โอ้! แต่ทำไมฉันถึงได้ยินมาว่ามันเกิดอุบัติเหตุขึ้นละ”

“เกิดอะไรขึ้น?” ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็แสดงสีหน้าไม่เข้าออกมา!

“ มันไม่ใช้อุบัติเหตที่ร้ายแรงอะไร มันก็แค่ได้ชดเข้ากับสุนัขเท่านั้นเอง!” จินฟานได้พูดออกมาอย่างอายๆเล็กน้อย ” ใครมันจะไปคิดว่าสุนัขตัวนั้นไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรกัน อยู่ดีๆมันก็ได้วิ่งออกมากลางถนนแบบนั้น มันก็เลยทำให้ระบบตรวจจับเรดาร์ของเราไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ก่อนที่มันจะถูกชนเข้า”