The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms - บทที่437
บทที่437
ผู้แปล : N.
“การทำแบบนั้นมันมีค่าใช้จ่ายนับสิบล้านหยวน!” หยูหลิงได้ถอนหายใจออกมา “ถ้าเงินจำนวนนี้หายไป! มันอาจจะทำให้บริษัทของเราล้มละลายได้ แกคิดถึงปัญหานี้บ้างไหม?”
“พ่อ! พ่อไม่ได้บอกให้ผมคว้าโอกาสเอาไว้เหรอ? ก็เห็นๆอยู่ว่าตรงหน้านั้นมันเป็นโอกาสของเรา แล้วพ่อจะมัวลังเลอยู่ทำไม?” หยูกังเองก็พยายามให้คำแนะนำกับพ่อของเขา “และผมแน่ใจว่าการลงทุนครั้งนี้ของเราจะต้องประสบความสำเร็จ”
“ เฮ้อ! โอเค! ฉันจะเชื่อแกอีกครั้ง!” มาถึงจุดๆนี้หยูหลิงทำได้เพียงพยักหน้าเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของลูกชายตัวเอง
……
อีกไม่กี่วันต่อมา หยูหลิงได้เชิญพันธมิตรทางธุรกิจจำนวนมากมาที่โรงแรมเพื่อรับประทานอาหารอีกครั้ง
“เฒ่าหยู! นายมั่นใจแล้วใช้ไหม?!” พวกเพื่อนพยายามพูดโน้มน้าวใจการตัดสินใจของเขาอีกครั้ง “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย! การที่นายอยู่ในธุรกิจนี้มานานหลายสิบปี แล้วอยู่ดีๆกลับมาเปลี่ยนอาชีพแบบนี้ มันถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่นายจะล้มละลายได้!”
“นายแน่ใจแล้วใช้ไหม?!” เฟิงเจิงเองก็พูดออกมาเช่นกันว่า “เฒ่าหยู! น้องชายคนนี้ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจแบบนี้ ทำไมเราถึงไม่หาทางอื่นกันละ ถึงแม้ว่าแผนการที่เราจะทำนั้นมันอาจจะต้องใช้ระยะเวลานานซักนิด แต่มันก็รับประกันได้ว่าบริษัทของเราจะอยู่ต่อไปได้ “
“ถ้านายไปเชื่อสิ่งที่เฒ่าลูพูดออกมานั้น นายจะต้องเสียใจ!!”
“พวกลุงๆครับ! ผมขออธิบายอะไรบางอย่างนะครับ! ” หยูกังที่นั่งฟังมาตั้งแต่ต้นก็ได้ลุกขึ้นและพูดขัดขึ้นว่า “ก่อนที่ผมจะมาพูดเรื่องนี้ ผมและพ่อได้ตรวจสอบมาอย่างรอบคอบเป็นที่เรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าการจัดตั้งร้าน 4S แห่งนี้มีศักยภาพสูง และร้านของเราถือว่าเป็นเจ้าเดียวในจังหวัดอีกด้วย แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวผมก็คิดว่าโครงการนี้เราชนะเกินครึ่งไปแล้ว!”
“และถ้าเราได้รับความช่วยเหลือจากลุงลูอีกแรง ผมเชื่อว่าเราจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!”
หลังจากหยูกังพูดจบไป พวกของเฟิงเจิงที่ขัดค้านในช่วงก่อนหน้านั้นก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าหยูกังจะไปศึกษาเรื่องนี้มาอย่างละเอียด
“ นี่เป็นความคิดที่บ้าสิ้นดี! นี้เธอยังไม่ได้รับบทเรียนจากการเสียเงินไปหลายล้านจากครั้งก่อนอีกหรือไง?!”
“ผม… ” ยูกังพูดอะไรไม่ออกหลังจากที่มีคนได้ยกเรื่องเก่าของเขาขึ้นมา
หยูหลิงที่ได้ฟังแบบนั้นถึงกับพูดขึ้นว่า: “หยุดเอาเรื่องเก่าๆมาพูดได้แล้ว! ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเชื่อการตัดสินใจครั้งนี้ของหยูกัง! ถ้ามีใครต้องการถอนหุ่นออกไปตอนนี้ฉันก็ยินดี และฉันจะจ่ายเงินให้กับราคาหุ่นตอนนี้อย่างแน่นอน! “
“และฉันเชื่อว่าเฒ่าลูจะไม่หักหลังฉัน! ถึงพวกเราจะไม่ใช้ญาติกันจริงๆ แต่พวกเราก็นับถือกันเหมือนพี่น้องมาโดยตลอด ดังนั้นฉันจะเชื่อใจเขาในครั้งนี้! …”
“เอาละ! ที่ฉันจะพูดก็พูดไปหมดแล้ว ถ้าพวกนายยินดีที่จะร่วมมือกับฉันฉันเองก็ยินดี แต่ถ้าพวกนายคิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของฉันเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ก็สามารถถอนตัวออกไปได้ทันที ฉันจะไม่ถือโทษพวกนายแต่อย่างใด “
หลังจากหยูหลิงพูดจบ ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ก็ได้เงียบลงไปทันที
“เฮ้อ! เนื่องจากนายตัดสินใจไปแล้ว พวกฉันเองก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีก! พวกฉันคงต้องขอถอนตัวจากบริษัทของนาย!” เฟิงเจิงและคนอื่นๆต่างก็ตัดสินใจถอนตัวออกจากตระกูลหยู
ในความเห็นของพวกเขา ธุรกิจใหม่นี้มีความเสี่ยงมากกว่า 99% เพราะเป็นเรื่องปกติที่อุตสาหกรรมเกิดใหม่จะล้มลงอย่างน่าสังเวช ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์จะอยู่รอดได้
หลังจากเรื่องนี้ถูกตัดสินไปแล้ว พวกเขาหลายคนยังคงถอนหายใจ ก่อนที่จะได้เดินออกไป
“เห็นได้ชัดว่าพี่หยูนั้นอายุมากแล้ว การตัดสินใจอะไรของเขาไม่เหมือนกับหนุ่มๆอีกแล้ว!”
“ฉันกลัวว่าเฒ่าหยูจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของเขาอีกครั้ง!”
“แม้ว่าพวกเขาจะเปิดร้าน 4S ได้ก็ตาม แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะขายดี!”
……
ครึ่งเดือนต่อมา ตระกูลหยูได้ทำทุกอย่างที่จำเป็นไปแล้ว และพวกเขาก็ได้เดินทางไปที่บริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟโดยตรงเพื่อทำการฝึกอบรม
ลูหยูนเองก็เป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน เขาถึงกับได้โทรมาถามเรื่องนี้กับลูชินอีกครั้ง “ไอ้ลูกชาย! ลูกมั่นใจใช้ไหมว่าธุรกิจนี้ของลูกจะประสบความสำเร็จ! เพราะไม่อย่างนั้นพ่อเองก็ไม่รู้จะไปสู้หน้าเฒ่าหยูยังไงเหมือนกันถ้ามันเจ๊ง “
“พ่อมั่นใจได้เลย!” ลูชินได้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“การที่ลุงหยูมีความกล้าที่จะเปิดธุรกิจนี้ได้ พวกเขาจะต้องสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน!”
สิ่งที่เรียกว่าเจ้านายได้กลายเป็นเซียน ขนาดสุนัขและไก่ที่เขาเลี้ยงเอาไว้ก็ยังได้รับอานิสงส์
“พ่อหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างที่ลูกพูด” ลูหยูนได้พูดออกมาด้วยความไม่มั่นใจ
“ฮาฮาฮา! พ่อมั่นใจได้” ลูชินถึงกับหลุดหัวเราะออกมา “ขอแค่พวกเขาทำตามกฎหมายและปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของบริษัทได้ นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ! “
สองเดือนต่อมาอำเภอโจว จังหวัด เจียงเป่ย นี่เป็นเมืองที่สองที่อยู่ในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลกลาง
เนื่องจากตัวจังหวัดเจียงเป่ยนั้นอยู่ติดกับนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ที่บริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟตั้งอยู่ มันจึงเป็นจังหวัดแรกๆที่ได้รับอนุญาตให้รถยนต์ไร้คนขับมาใช้ได้ และในจังหวัดจียงเป่ยนี้เองก็มีเพียงร้าน 4S ของตระกูลหยูเท่านั้นที่เปิดขาย!
ในเมืองเองก็ได้มีร้านค้าที่เกี่ยวกับยานยนต์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ผลิตในประเทศหรือรถนำเข้าจากญี่ปุ่น อเมริกา เยอรมัน และอื่นๆ ต่างก็สามารถเลือกได้ทั้งหมด
ทุกวันนี้มีร้านขายรถยนต์จำวนมาก มันจึงทำให้การแข่งขันกันระหว่างแบรนด์ต่างเป็นไปอย่างรุนแรงมาโดยตลอด
และในวันนี้เองที่ร้านขายรถยนต์ไร้คนขับของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟได้ทำการเปิดเป็นวันแรก ตรงด้านหน้าร้านต่างก็ประดับไปด้วยดอกไม้และแผ่นป้ายที่แสดงความยินดีจำนวนมาก
“เฒ่าหยู! ฉันมาแสดงความยินดีกับการเปิดร้านใหม่ของนาย!” เพื่อนพันธมิตรทางธุรกิจบางคนที่สนิทกันเองก็ได้มาร่วมแสดงความยินดีนี้
ทันทีที่พวกเขามาถึง พวกเขาต่างก็พบว่ามันแตกต่างจากที่อื่นเป็นอย่างมาก เพราะร้านค้า 4S ของเฒ่าหยูนั้นได้รับการออกแบบให้คนที่เข้ามานั้นรู้สึกถึงพลังทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภายในร้านเองก็ยังมีเทคโนโลยีการฉายภาพเสมือนจริงอยู่ทุกที่ และพวกมันก็ได้ฉายรูปแบบจำลองต่างๆ แม้กระทั่งการจำลองประสบการณ์การขับขี่เองก็ยังได้รับการติดตั้งเอาไว้
“ว้าว! การตกแต่งร้านค้าของนายดีมาก! ฉันไม่เคยเห็นร้านไหนที่ตกแต่งได้น่าสนใจเท่ากับร้านของนายมาก่อนเลย!” เพื่อนบางคนถึงกับแปลกใจหลังจากที่เขาเห็นการตกแต่งภายในแบบนี้
หยูหลิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า : “ฮาฮาฮา! ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการออกแบบพวกนี้หรอก สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้รับการออกแบบโดยสำนักงานใหญ่ทั้งหมด!”