The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 122 Freedom Beyond Death(4)
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเซเลสทีเนียค่อนข้างเงียบขรึม แม้แต่ตอนที่เธอเห็นออสตินกำลังชำระล้างพวกที่ถูกคอร์รัปชั่น เธอทำเพียงแค่เลิกคิ้วด้วยความสงสัยเท่านั้น เธอต้องขอบอกเลยว่าจากสิ่งที่เห็นจนถึงตอนนี้เธอมีความพึงพอใจอย่างมากในตัวของออสติน แต่ถึงกระนั้นความประหลาดใจของเธอก็ค่อนข้างเบาบางจากสิ่งที่เธอเห็น
จนกระทั่งเธอเจ้าลูกธนูสีดำนั้นเผยสู่สายตาของเธอ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงด้วยความตกใจที่เข้าครอบงำ ในช่วงเวลาแห่งความประหลาดใจที่หายากนี้ ท่าทางของเธอเปลี่ยนไปขณะที่เธอตะโกนออกมา
“เป็นไปไม่ได้!!”
เสียงของเธอดังมากและสร้างความประหลาดใจให้กับสาวๆ ที่อยู่ภายในห้อง จนจึงตอนนี้พวกเธอยังไม่เคยเห็นปฏิกิริยาเช่นนี้จากเซเลสทีเนียมาก่อนเลย
สการ์เล็ตเป็นคนที่ประหลาดใจที่สุดเพราะเธอไม่เคยเห็นพี่สาวของเธอทำหน้าตาแบบนี้มาก่อน เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอก็ถามขึ้นมาในทันที
“พี่สาว เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”
เมื่อเซเลสทีเนียได้ยินเสียงของสการ์เล็ตเท่านั้นแหละ เธอก็หลุดออกจากภวังค์ ใบหน้าของเธอดูลึกล้ำมากขณะที่เธอมองไปยังที่เกิดเหตุ
“พี่สาวรู้ไหมคะว่าลูกธนูนั่นมันคืออะไร?”
สการ์เล็ตถามด้วยท่าทางที่สงสัย แม้ว่าเธอจะรู้สึกถูกสะกดข่มจากเสียงคำรามนั้นก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอรู้สึกเช่นนี้จากวัตถุบางอย่างซึ่งมีพลังพอที่จะยับยั้งพลังของเธอได้
ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงถอนหายใจจากเซเลสทีเนีย
“นั่นคือไอเทมที่ได้รับพรจากเทพเจ้ามังกร”
“เทพเจ้ามังกร?…”
สการ์เล็ตมีสีหน้าตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินชื่อนั้น ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น สาวๆ ที่เหลือเองก็รู้สึกตกใจเช่นกัน เทพเจ้ามังกรเป็นหนึ่งในสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 ของโลก เขาผงาดขึ้นสู่อำนาจในช่วงสงครามเมื่อหลายพันปีก่อน สิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเขาสามารถทำให้โลกบ้าคลั่งได้เลย
มีการหยุดอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่เซเลสทีเนียจะพูดอีกครั้ง
“มันเป็นความลับในหมู่พวกเราเผ่ามังกร แต่ในช่วงที่เทพเจ้ามังกรยังเยาว์วัย เขาค่อนข้างเป็นคนที่สุดโต่ง เนื่องจากความสนใจในสายพันธุ์อื่นเลยลงเอยด้วยการสร้างสถานที่ท้าทายขึ้นมา หลังจากที่เขาสร้างมันขึ้นมาแล้ว เขาก็กระจายพวกมันไปในที่ซ่อนทั่วโลก”
“เดี๋ยวก่อน? ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง ทำไมพวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยหล่ะ?”
เนลเป็นคนที่ถามขึ้นมา ดวงตาแมวของเธอเบิกกว้างพร้อมกับคำถามของเธอ
เซเลสทีเนียนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะเปิดปากอีกครั้ง
“มันก็ง่ายๆ นั่นก็เพราะคนที่ได้เข้าไปในสถานที่ท้าทายไม่เคยมีใครผ่านได้และก็ไม่เคยมีใครมีชีวิตรอดกลับมาไงหล่ะ ปกติแล้วการสร้างสถานที่แบบนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่ของขวัญที่เทพเจ้ามังกรเตรียมไว้เพื่อตอบแทนการผ่านการทดสอบคือพรหนึ่งข้อที่เกี่ยวกับอาวุธ”
“พูดง่ายๆ ก็คือไอเทมที่ได้รับพรจะสามารถปล่อยการโจมตีเต็มกำลังของเทพเจ้ามังกรได้หนึ่งครั้ง…”
“ห้ะ!?”
“นั่นมัน!”
“แต่ว่า?!”
ทุกคนในห้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจและหวาดกลัวอีกครั้ง พวกเธอจะไม่เป็นแบบนี้ได้ไง!? ไอเทมที่สามารถปล่อยการโจมตีเต็มกำลังของเทพเจ้ามังกรได้หนึ่งครั้งมันถือได้ว่าเป็นภัยคุกคามระดับชาติแล้ว! แม้ว่ามันจะถูกสร้างในตอนที่เทพเจ้ามังกรยังเยาว์วัยแต่พลังของมันก็ไม่อาจถูกตั้งคำถามได้
“แต่ไม่มีอะไรต้องกังวล หลังจากที่มังกรคนอื่นรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ย้ายการทดสอบเหล่านั้นออกไปแล้วเนื่องจากมันอาจเป็นอันตรายได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีใครใดผ่านการทดสอบเลย ด้วยความสัตย์จริง การทดสอบพวกนั้นไม่มีใครสามารถผ่านได้ นั่นคือสิ่งที่พวกเราคิด…จนรู้ว่า…”
เซเลสทีเนียรู้สึกโล่งใจขณะที่เธอจดจ่อกับลูกธนูสีดำอันสวยงามในมือของออสติน
จากนั้นนอร่าก็ถามขึ้นมาด้วยท่าทางที่หวาดกลัว
“แต่ว่า! นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าออสตินจะใช่พลังนั่นได้ ถูกต้องไหม?”
เสียงของนอร่าดังขึ้นดึงความสนใจของคนอื่นๆ ให้กลับมา จากนั้นทุกคนก็ตระหนักได้ว่าพวกเธอพลาดความจริงที่สำคัญไป การมีอาวุธที่ทรงพลังไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถใช้มันได้ คุณต้องมีความแข็งแกร่งที่สอดคล้องกันด้วยเพื่อที่จะใช้งานพวกมันได้ มิฉะนั้นอาวุธอาจจะกลืนกินคุณ
“ถูกต้องแล้ว การให้พรนั้นอีกนัยหนึ่งก็คือคำสาป ถ้าเธอไม่ได้มีพลังเท่ากับมังกรหล่ะก็ ทันทีที่เธอใช้อาวุธนั้นจะเป็นวาระสุดท้ายของเธอและจากที่ฉันคิด เขาต้องไม่มีแม้แต่จะเป็นระดับจักรพรรดิแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นเขาอาจจะรอดได้…บางทีอะนะ”
หลังจากที่เซเลสทีเนียพูดจบทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบที่ผิดธรรมชาติ ภายในห้องนั้นตึงเครียด แต่ตรงกับข้ามกับสิ่งที่พวกเธอคิดว่าจะเกิดขึ้นคือนอร่าไม่ได้โวยวายอะไร เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะย้อนกลับไปมองที่หน้าจอ ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้น คนที่เหลือเองก็ทำแบบนั้นเช่นกัน
ทำไมงั้นเหรอ? เหตุผลก็ง่ายๆ ไม่ใช่แค่นอร่าเท่านั้นแต่คนอื่นๆ เองก็สังเกตุเห็นแล้ว ไม่ว่าออสตินจะทำอะไรจนถึงตอนนี้เข้าก็มีแผนอยู่เสมอ แถมพอมองหน้าออสตินแล้วใครๆ ก็มองเห็นได้ว่าเขาไม่ได้ปรารถนาที่จะตาย
ในขณะเดียวกันกลับมายังโลกที่ปิดตาย
‘ให้ตายเถอะไอ้เวรนี่!’
ร่างกายของผมสั่นเทิมจากน้ำหนักที่แท้จริงและพลังของลูกหนูซึ่งกำลังอยู่ในมองของผม ไอเท็มที่ได้รับพรจากเทพเจ้ามังกร มันเป็นสิ่งที่ผมได้รับมาหลังจากต้องตกนรกทั้งเป็น ผมได้ขอลูกธนูที่ได้รับพรนี้มา ผมวางแผนที่จะใช้สิ่งนี้เฉพาะในตอนที่ผมนอนกับจักรพรรดินีมังกรเท่านั้น
‘ทำไมมันหนักงี้ฟะ?…’
ผมได้แต่ยิ้มขณะมองชายรูปงามที่ตอนนี้ยืนอยู่บนคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ซึ่งสูงชันกว่าหน้าผา 3 เท่าตรงหน้าขณะที่ผมดูเหมือนมดตัวหนึ่ง น้ำมนุนวนเป็นรูปร่างของมอนสเตอร์ปรากฏขึ้นมา
ฉันเก็บรอยยิ้มกลับไปขณะที่ถือพิณขึ้นมา
ในไม่ช้ามันก็เริ่มสั่นก่อนที่มันจะเริ่มขยายขนาด สายพิณสีม่วงขยับไปรวมตัวกันเป็นหนึ่ง ขณะที่คันพิณขยายออก ภายในไม่กี่วินาทีคันธนูสีน้ำเงินสวยงามพร้อมกับสายสีม่วงก็ปรากฏขึ้นมา
‘ขยาย!’
ผมไม่รอช้าและสั่งคันธนู คันธนูเริ่มสั่นก่อนที่มันจะเริ่มขยายขนาดในชั่วพริบตามันก็สูงพอๆ กับตัวผมแล้ว ปลายธนูร่วงลงสู่พื้นและฝังลงในหน้าผาจนทำให้มันสะเทือน
ผมเดินไปที่คันธนูในขณะที่ถือลูกธนูสีดำอยู่ในมือ แม้ว่าตอนนี้มันจะกำลังทำลายร่างกายของผมก็ตาม เมื่อผมเดินมาใกล้กับคันธนูขนาดใหญ่แล้วผมก็จับคันธนูไว้ด้วยมือซ้ายในขณะที่น้าวสายธนูพร้อมกับลูกธนูด้วยมือขวา
เสียงแตกหักดังขึ้นมาเมื่อร่างกายของผมเริ่มแตกหัก เลือดสดๆ ไหลออกมาจากแขนของผมขณะที่ร่างกายของผมเริ่มแตกหักตาม แต่ผมทำได้เพียงกัดฟันขณะที่น้าวสายจนสุดความยาวพร้อมกับเสียงคำรามของมังกรขนาดใหญ่ที่สั่นสะเทือนไปทั้งโลก
ภาพของมังกรดำปรากฏขึ้นบนหลังของผม มันมีขนาดพอๆ กับสึนามิที่อยู่ตรงหน้าผมเลยแหละ มันลอยเด่นตระหง่านอยู่ข้างหลังผม
ขณะที่ข้างนอกที่เห็นฉากนี้ต่างพากันเงียบเชียบ สาวๆ หลายคนที่อยู่ที่นั่นมีดวงดาวประดับใบหน้าเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า
พวกเธอเห็นสึนามิขนาดใหญ่ที่พยายามกลืนชายหนุ่มผมเงินตรงหน้า แต่มังกรที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาดูเหมือนมันจะปกป้องเขาเอาไว้
ชายหนุ่มมีรอยยิ้มหยิ่งยโสบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาขณะที่เขาเผชิญหน้ากับสึนามิด้วยลูกธนูเพียงดอกเดียว แล้วแบบนี้จะไม่ให้มีแรงกระเพื่อมในจิตใจของเด็กสาวเหล่านี้ได้อย่างไรกัน?
ในขณะที่ภายนอกยังคงดูดีอยู่ แต่ภายในของออสตินกำลังพังทลาย ร่างของเขากำลังแหลกสลายเพราะพลังของธนู รอยแตกและเลือดไหลเต็มร่างกายของเขา เมื่อเขาคิดว่ามันจบลงแล้ว อนุภาคสีทองก็เริ่มล้อมรอบตัวเขา
‘นี่มัน!’
ผมได้แต่มองด้วยความประหลาดใจในตอนที่อนุภาคสีทองนับพันเข้ามาล้อมรอบตัวเอง พวกมันหมุนรอบตัวผมก่อนที่จะเข้ามาสู่ภายในร่างกาย ในไม่ช้าพลังก็เริ่มเติมเต็มร่างกายของผมพร้อมกับเริ่มรักษาผม
‘ได้โปรด…ช่วยราชาของพวกเราด้วย…’
เนื่องจากพลังจากทหารที่แตกต่างกันนับพัน เพียงชั่วครู่ผมก็มีพลังเกินขีดจำกัด คำวิงวอนที่ดังขึ้นเต็มหูทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าไม่มีอะไรหยุดผมในตอนนี้ได้ ออร่าสีน้ำเงินโอบรอบลูกธนูสีดำก่อนที่ผมจะปล่อยสาย
เฟี๊ยววว…ตู้มมมม
ผมได้ยินเพียงเสียงของสายลมเมื่อผมถูกแรงระเบิดผลักให้ถอยหลังไป มือของผมหักไปแล้วขณะเนื่องจากการยิงลูกธนูดอกนั้น ภาพเสมือนของมังกรคำรามออกมาในขณะที่มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าพร้อมกับลูกธนู
“ตายซะ!”
ซาเวียร์ผู้ถูกคอร์รัปชั่นคำรามออกมาจากด้านบนขณะที่โจมตีมาด้วยทุกอย่างที่มี กระแสน้ำสั่นสะเทือนในตอนที่คลื่นสึนามิเคลื่อนที่ไปข้างหน้า จนเมื่อน้ำกับลูกธนูมาบรรจบกัน จากนั้น…ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะลูกธนูได้ทำลายสึนามิและพลังของมันไปแล้ว ในขณะที่มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
ลูกธนูพุ่งไปโดนซาร์เวียพร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น พลังของมันพยายามที่จะทำลายร่างกายของเขา แต่ในขณะนั้นออร่าสีน้ำเงินก็ได้เดินทางจากลูกธนูไปยังร่างกายของเขาเพื่อขจัดมานาที่มีมลทินออกไปจนหมด ความกระจ่างใสและความโล่งใจได้ปรากฏขึ้นเต็มตาของซาเวียร์
เพียงเสี้ยววินาทีแต่เขากลับมองเห็นทะเลอันสงบสุขและอดีตของเขา รอยยิ้มปรากฏขึ้นเต็มใบหน้าของเขาเมื่อถูกความสงบสุขเข้าครอบงำ
“ขอบคุณ…”
นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่เขาพูดออกมาก่อนที่ลูกธนูจะเจาะเข้าไปในร่างกายของเขาและรดเบิดออก
คลื่นกระแทกขนาดมหึมาได้สั่นสะเทือนขึ้นมาภายในโลกที่ปิดตายนี้พร้อมกับร่างของซาเวียร์ที่หายไป…
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต