The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 125 The Rise Of The King
“ออสติน!”
หลังจากอาม่อนก็มีสาวสวยอีก 2 คนเรียกชื่อของผมพร้อมกับวิ่งมา คนหนึ่งเป็นกระต่ายสาวที่มีผมและดวงตาสีชมพู เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะจับหน้าอกอันใหญ่โตของตัวเองที่กำลังกระเด้งตามการวิ่งของเธอไว้ เธอมีหน้าตาสะสวยเข้ากับทรงผมของเธอ
รินะ มารีอิลหรือที่รู้จักกันในชื่อนักรบกระต่ายคลั่ง รินะได้สยบความคิดของทุกคนที่คิดว่ามนุษย์สัตว์กระต่ายนั้นอ่อนแอ แต่โดยทางเทคนิคแล้วความจริงข้อนี้ก็ยังคงเป็นอยู่ ภายในเผ่ามนุษย์สัตว์นั้น เผ่ากระต่ายเป็นประเภทที่เกลียดการต่อสู้ พวกเขารักสงบและโดยปกติแล้วพวกเขาจะดูแลเรื่องการทำฟาร์ม
พวกเขาไม่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์หรือการต่อสู้ แต่รินะได้เข้าเรียนที่สถาบันบาบิโลนฐานะนักเรียนทุน ในการต่อสู้เธอเป็นสัตว์ร้ายที่ต่อสู้โดยไม่ถอยเลย ความพิเศษของเธอคือความเร็วและความบ้าคลั่ง รินะ มารีอิลอยู่ใน 50 อันดับแรกของชั้นปีของเธอและอยู่ใน 100 อันดับแรกในด้านการต่อสู้ ในขณะเดียวกันเธอมีอันดับในกระดานด้านวิชาการอยู่ที่ 50 อันแรกของชั้นปีและ 300 อันดับแรกของสถาบัน
เด็กสาวที่วิ่งอยู่ข้างๆ รินะคือซานะ แมวสาวที่มีผมสีดำเช่นเดียวกับดวงตา ตรงกันข้ามกับรินะเนื่องจากเธอแทบไม่มีหน้าอกเลย เธอดูเป็นประเภทน่ารักมากกว่า เธอมีดวงตาสีดำเป็นประกายที่ให้ความรู้สึกอันตราย
เธอก็เข้าเรียนผ่านระบบนักเรียนทุนเช่นกัน ในตอนที่เข้าเรียนนั้นเธอได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้สถาบันด้วยทักษะการต่อสู้ที่น่าทึ่งและความสามารถทางสายเลือดที่ได้รับมาคือการควบคุมเงา อาจารย์นักฆ่าของสถาบันเคยกล่าวว่าวันหนึ่งเธอจะกลายเป็นนักฆ่าที่น่าสะพรึงกลัว เธอติด 1 ใน 10 อันดับแรกของชั้นปีและติด 200 อันดับแรกของสถาบัน เผ่าแมวและเผ่าอื่นๆ อีกหลายเผ่าพยายามอย่างยิ่งที่จะผูกมักเธอและรินะ แต่ก็ไม่เป็นผล
“โย่ว บอส”
อเล็กซ์ ราวานซิโอ้ มีชื่อเล่นว่า ‘ปีศาจจ้าวแผนการ’ เขาเป็นอันดับ 1 ในด้านวิชาการและผู้นำทางทหารของชั้นปีและสถาบัน นอกจากนี้เขายังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 400 อันดับแรกในด้านการต่อสู้อีกด้วย เช่นเดียวกันในตอนที่เขาเข้าเรียนได้ทำให้สถาบันสั่นคลอนด้วยการท้าทายอันดับหนึ่งของกระดาน และไม่ใช่เพียงแค่นั้น แต่เขายังชนะอีกด้วย!
อเล็กซ์หายตัวไปจากบ้านของบารอนในตอนที่เขาอายุ 13 ปี โดยทิ้งจดหมายไว้ หลังจากนั้นเขาก็ปรากฏตัวอีกครั้งในโรงเรียนพร้อมกับผู้อุปถัมภ์ลึกลับในตอนที่อายุ 16 ปี ก่อนจะสร้างการสั่นสะเทือนให้กับสถาบันด้วยสติปัญญของเขา
“ออสติน∼∼”
เป็นอีกครั้งที่มีหญิงสาวกำลังวิ่งมาหาผมด้วบใบหน้ายิ้มแย้ม เธอมีผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า พร้อมกับใบหน้าที่น่ารัก รูปร่างของเธอค่อนข้างเล็ก เอ็มม่า เกิร์ลรอล เด็กสาวที่มีพรสวรรค์ในด้านเทมเมอร์และเวทย์อันเชิญ เธออยู่ใน 20 อันดับแรกของชั้นปีและ 200 อันดับแรกของสถาบันในด้านการต่อสู้ แถมเธอยังติดอันดับหนึ่งในด้านวิชาการด้วย
ผมยิ้มให้พวกเขาที่วิ่งมาทางผมก่อนจะตอบกลับไปเสียงดัง
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ…”
“บอสเป็นยังไงบ้าง?”
“นายสบายดีไหม?”
“ว้าว ออสตินคุณหล่อขึ้นมาก!”
“ฮีโร่ของฉันเป็นยังไงบ้าง?”
ทันทีที่ผมพูดจบ คนอื่นๆ ก็กระหน่ำถามคำถามผมมากมายจนทำให้ผมเวียนหัวไปชั่วขณะเลยแหละ
ผมโบกมือให้พวกเขาหยุดก่อนจะมองไปยังเอลล่า ผมเอามือปิดหูก่อนจะพูดกับเธออีกครั้ง
“อืมม…เธอได้พูดอะไรรึเปล่านะ?”
ตอนนี้อาจมีเสียงตบ แต่ผมสามารถเห็นใบหน้าของเอลล่าที่กำลังแดงก่ำได้เลยแหละ
หน้าของเอลล่าเต็มไปด้วยความอับอาย แต่ที่มากกว่านั้นคือความไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้า ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้นแต่เหล่าผู้ที่เฝ้าดูอยู่เองก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ นักเรียนแต่ละคนที่อยู่รอบๆ ตัวออสตินในตอนนี้ต่างมีชื่อเสียงในสถานบันนี้
แต่ละคนถูกต้องการตัวจากผู้มีอำนาจต่างๆ มากมาย แต่พวกเขาเหล่านี้ต่างก็ปฏิเสธคนอื่นๆ โดยบอกว่าพวกเขามีกลุ่มอยู่แล้ว ใครจะไปเชื่อกันว่าพวกเขาทั้งหมดจะทำงานภายใต้ผมกัน?
ผมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าไม่อยากเชื่อของทุกคน ผู้ชมที่นั่งฟังอยู่ในสเตเดี้ยมรวมไปถึงอาจารย์ในห้อง VIP พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึง แต่นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
“มาร์คอยู่ไหน?”
เมื่อได้ยินคำถามของผมเอ็มม่าก็ยิ้มก่อนจะตอบกลับมา
“เขามาแล้ว”
เมื่อได้ยินคำตอบของเธอ ผมก็มองไปยังทางที่เอ็มม่าชี้ก่อนจะพบกับชายหนุ่มหน้าตาดีซึ่งมีผมสีบลอนด์และดวงตาสีฟ้ากำลังเดินเข้ามาหาผมด้วบใบหน้าเย็นชา โดยมีดาบเล่มใหญ่ถูกสะพายอยู่ที่ด้านหลังของเขา มาร์ค เกิร์ลรอล เมื่อชายคนนี้ปรากฏตัวทั้งสเตเดี้ยมก็เงียบลง
มาร์ค เกิร์ลรอล อันดับที่ 8 ด้านการต่อสู้ของทั้งสถาบัน ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจปฏิเสธได้ พรสวรรค์, สายเลือดและพลังของเขาช่างน่าสะพรึงกลัว ชายผู้ได้รับการเสนอให้รับการสอนจากนักบุญแห่งดาบ เขาและน้องสาวของเขาทั้ง 2 ได้หายตัวไปจากตระกูลเกิร์ลรอลเพียงเพื่อมาอยู่ที่สถาบันบาบิโลนในฐานะดาวรุ่ง เขาคือผู้ครอบครองแหวนลำดับที่ 11 ซึ่งเป็นคนสุดท้าย
มาร์คไม่ตอบสนองต่อการอ้าปากค้างหรือจ้องมองของคนอื่น ใบหน้าเย็นชาของเขาไม่มีความผันผวนใดๆ ในขณะที่เขาเดินมาหาผมโดยมีความรู้สึกกดดันปกคลุมบริเวณรอบๆ ขณะที่เขาเดินเข้ามา
เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าผมแล้วเขาก็ทำอะไรบางอย่างซึ่งทำให้ทั้งสเตเดี้ยมต้องสั่นสะเทือน
เขาคุกเข่าต่อหน้าผมก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“ยินดีต้อนรับกลับครับนายท่าน”
…
ความเงียบสงุดปกคลุมสเตเดี้ยมขณะที่ทุกคนมองไปยังนักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งกำลังคุกเข่าให้กับนักเรียนอีกคน ในโลกนี้ไม่มีใครควรคุกเข่าให้คนอื่นเพียงเพราะอำนาจ แม้แต่ในตอนที่พบราชาก็เพียงแค่ต้องโค้งคำนับเพื่อแสดงความเคารพเท่านั้น
การคุกเข่าต่อผู้อื่นด้วยความปรารถนาของตนเองหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้น…การยอมจำนน มันหมายความว่าคุณได้มอบชีวิตและความภักดีต่อบุคคลตรงหน้า ในกรณีของมาร์คเนื่องจากเขาเป็นอัศวินก็หมายความว่าเขาเลือกที่จะเป็นดาบของผมหรืออีกนัยหนึ่งก็คือเขาจะเอาชีวิตของผมไว้เหนือตัวเอง
แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ไม่นานนักคนที่เหลือก็เริ่มคุกเข่าล้อมรอบผมเป็นวงกลม คราวนี้หัวใจของคนที่เห็นต่างก็สั่นไหว ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์, นักเรียนหรือคนที่แอบดูอยู่ต่างก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาจากภายในร่างกาย
ผมไม่ได้พูดอะไรขณะที่ยืนมือออกไป
ไม่มีคำพูดใดๆ ทั้งนั้น มาร์คทำเพียงแค่วางแหวนวงหนึ่งลงบนมือของผม
แหวนเป็นสีม่วงและมีดอกไม้สีม่วงอยู่ตรงกลางของตัวแหวน ผมหยิบแหวนขึ้นมาก่อนที่จะสวมมันลงไปที่นิ้ว ในไม่ช้าทั้งสถาบันก็เริ่มสั่นสะเทือนเมื่อเสาขนาดใหญ่ 11 ต้นพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ในไม่ช้าชื่อที่แตกต่างกันก็เริ่มปรากฏขึ้นบนเสาแต่ละต้น
ในตอนนั้นเองผมก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมา
< ชื่อ? >
“ออสติน ออสติน ไลออนฮาร์ท”
ในไม่ช้าชื่อของผมก็ปรากฏขึ้นบนเสาสีม่วง วันนี้ทั้งสถาบันบาบิโลนต่างสั่นสะเทือนไปถึงแกนกลาง…ผู้สมัครชิงตำแหน่งราชาคนใหม่ปรากฏตัวแล้ว!
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต