The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 163 The Beat Down
“เธอพร้อมไหม?”
ผมถามขณะที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับไนล่า ตอนนี้เราอยู่ในพื้นที่ต่อสู้ส่วนตัวของผม ซึ่งตั้งอยู่ในส่วนลึกของคฤหาสน์ หลังจากพูดท้าทายกันเสร็จ พวกเราก็รีบมายังพื้นที่นี้ในทันที เรายืนห่างจากกันในขณะที่เราเตรียมความพร้อม
เอลด้าและหญิงสาวอีก 2 คนยืนดูอยู่ห่างๆ ที่ซึ่งพวกเธอสามารถมองเห็นการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้นในขณะที่ไนล่าและผมสบตากัน พลังของไนล่าอยู่ในระดับต้นกำเนิดขั้น 4 ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เมื่อพิจารณาจากอายุของเธอ แต่สิ่งที่ทำให้เธอพิเศษคือเธอสามารถต่อสู้ข้ามระดับพลังของเธอได้
การต่อสู้ข้ามระดับพลังของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีเพียงอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่และดีที่สุดในยุคเท่านั้นที่สามารถทำได้ และในยุคนี้มีอัจฉริยะเช่นนี้หลายคนปรากฏตัว สิ่งที่ทำให้ไนล่าน่ารำคาญที่สุดคือเธอเป็นแวมไพร์และการต้องรับมือกับคู่ต่อสู้ที่ฮีลได้สุดยอดก็เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว
แต่ผมก็ไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย ภายในระดับต้นกำเนิดผมนั้นไร้พ่าย เนื่องจากธรรมชาติที่เป็นคนระมัดระวังของผม ทำให้ผมมีจำนวนการ์ดในมืออยู่มากมายมหาศาล บวกกับพลังของสายเลือดและการเดินทางของผม ผมเลยสามารถดึงพลังของตัวเองออกมาได้อย่างมากมาย
ขณะที่ผมยืนตัวตรงเอามือไพล่หลัง ผมก็พูดอย่างเยือกเย็นเพื่อยั่วยุไนล่า
“มาเริ่มกันเลย”
“นายจะไม่ใช้อาวุธเหรอ?”
ไนล่าถามพร้อมกับขมวดคิ้ว เมื่อเห็นท่าทีสบายๆ จากฝ่ายตรงข้าม เธอก็รู้สึกเหมือนโดนดูถูกเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงยืนยันที่จะเอาชนะผมขึ้นไปอีก
เมื่อได้ยินคำถามของไนล่า ผมก็ส่ายหัวขณะที่ตอบกลับเธอ
“ไม่ เพื่อเอาชนะเธอ ผมไม่ต้องใช้มันหรอก”
“ไม่อวดดีไปหน่อยเหรอ?”
“เดี๋ยวก็รู้”
ฉันพูดในขณะที่การนับถอยหลังสำหรับการต่อสู้เริ่มขึ้น
ไนล่าหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่เธอเตรียมพร้อมตัวเอง เล็บของเธอเริ่มยาวขึ้นเมื่อดวงตาสีแดงเลือดของเธอเริ่มเปล่งประกายอยู่ลึกๆ มานาสีแดงเลือดล้อมรอบเธอเมื่อการนับถอยหลังเริ่มขึ้น
“3.2…1”
ทันทีที่นับ 1 เสร็จ ไนล่าก็พุ่งเข้ามาหาผมด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ พื้นด้านล่างที่เธอเคยยืนอยู่แตกออกจากแรงดีดตัวของเธอ นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่าพื้นควรได้รับการเสริมความแข็งแรงเพื่อความทนทานที่มากขึ้น
ในชั่วพริบตาเธอก็ปรากฏตัวต่อหน้าผมพร้อมกับเล็บอันแหลมคมของเธอที่ขยับเล็งมาที่ตาผม
แต่ผมทำเพียงถอนหายใจขณะที่ขยับมือเร็วกว่าที่เธอทำได้และเหวี่ยงเธอออกไป การเหวี่ยงของผมทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาลจนเธอกระเด็นออกไปด้วยความเร็วสูงสุดก่อนที่เธอจะบินไปชนกำแพงและกระแทกอย่างแรงจนก่อให้เกิดเสียงดังสนั่น ทุกคนสามารถได้ยินเสียงของกระดูกที่ถูกบดในขณะที่เลือดกระเซ็นอยู่เต็มผนังได้
เด็กผู้หญิงอีก 3 คนที่ดูสิ่งนี้อยู่เบิกตาด้วยความประหลาดใจ หลังจากเหวี่ยงไนล่าออกจากมือไปแล้ว ผมก็เดินถอยหลังไปเพื่อรอ ในไม่ช้าผมก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยวในขณะที่ฝุ่นจับตัว ไนล่าที่โชกเลือดก็เดินออกมาจากมัน กระดูกทั้งหมดของเธออยู่ผิดตำแหน่ง แต่ในไม่ช้าทุกคนก็ได้ยินเสียงคลิกก่อนที่เธอจะหายเป็นปกติภายใน 12 วินาที
เธอเงยศีรษะขึ้นพร้อมกับเลือดที่อาบทั่วใบหน้า แต่กลับมีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
ไนล่าเช็ดเลือดบนใบหน้าของตัวเองออกบางส่วนแล้วบิดขี้เกียจ เธอมองมาที่ผมขณะที่เธอพูด
“ฉันได้ยินบางคนพูดว่านายอยู่ระดับต้นกำเนิดขั้น 5 แต่ด้วยสิ่งที่ฉันเห็น มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกในโลกนี้ นายอยู่ระดับต้นกำเนิดขั้น 4 นายแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่?”
“ทำไมเธอไม่มาหาคำตอบด้วยตัวเองหล่ะ?”
ผมพูดด้วยรอยยิ้ม
“อ่าา ฉันก็ตั้งใจทำแบบนั้นอยู่แล้ว”
พอเธอหายไปจากที่ที่เธอยืนอยู่ ความกระหายเลือดก็เพิ่มสูงขึ้นรอบๆ ตัวเธอ ในไม่ช้าผมก็รู้สึกว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวเองกำลังลดต่ำลง ขณะที่ผมถูกล้อมรอบด้วยน้ำแข็งที่ลอยอยู่เป็นร้อยๆ อัน พวกมันแต่ละอันโจมตีผมจากทิศทางที่ต่างกัน แต่ผมก็ยังคงสงบนิ่งอยู่พร้อมกับปล่อยลมเบาๆ ออกจากร่างกาย
เศษน้ำแข็งทั้งหมดแตกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับมีหมอกเล็กๆ ล้อมรอบตัวผม การมองเห็นของผมบกพร่องไปเล็กน้อยพร้อมกับที่ผมรู้สึกถึงแรงเฉือนขนาดใหญ่จากด้านหลัง ผมหลบไปด้านข้างโดยไม่ตื่นตระหนก ไม่นานไนล่าก็ปิดช่องว่างระหว่างเราและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์โจมตีผมในระยะประชิด แต่ผมก็หลบได้อย่างง่ายดายโดยไม่ได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
ไนล่าโจมตีผมอย่างต่อเนื่อง แต่ผมก็ยังคงหลบพวกมันได้ ในตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าขาของตัวเองกำลังถูกแช่แข็งและการโจมตีทางจิตก็กระทบที่หัวของผมจนทำให้ผมกลายเป็นน้ำแข็ง ในขณะเดียวกันไนล่าก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยพร้อมหอกเลือดในมือของเธอที่เล็งมาที่หัวใจของผม
“[ ลบล้าง ]”
ผมพูดเพียงคำเดียวก่อนที่ทุกสิ่งรอบตัวผมจะบิดเบี้ยวและถูกทำลาย ผมขยับมือและชกไปที่ท้องของไนล่าเบาๆ ขณะที่ผมจับหอกที่เล็งมาที่หัวใจของผมด้วยมืออีกข้าง
ไนล่ากระเด็นออกไปพร้อมกับเสียงตู้มที่ดังขึ้นมา แต่คราวนี้เธอจัดระเบียบร่างของตัวเองเพื่อร่อนลงอย่างนุ่มนวล เธอหยุดกระเด็นขณะที่มีเลือดจำนวนมากไหลออกจากปากและเริ่มไออย่างรุนแรง
ในไม่ช้าออร่าสีเลือดรอบตัวไนล่าก็เพิ่มสูงขึ้นไปอีก ความสงบในดวงตาของเธอหายไปเมื่อความบ้าคลั่งเข้าครอบงำ แต่ด้วยราคาดังกล่าวที่จ่ายไป ทำให้พลังของเธอเพิ่มขึ้นมาอย่างทวีคูณ เธอเคลื่อนไหวด้วยเสียงที่เหมือนสัตว์ร้ายด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม แต่ตอนนี้ผมเหนื่อยและอยากจะจบการต่อสู้นี้แล้ว
ผมมองอย่างใจเย็นขณะที่มีคลื่นหิมะและอาวุธจำนวนมากที่ทำจากเลือดโจมตีมาที่ผมจากนางฟ้าคนนี้ ด้วยพลังที่เธอปล่อยออกมานี้มันสามารถฆ่าคนที่มีระดับต้นกำเนิดขั้น 5 ได้อย่างง่ายดายเลย แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้น ผมรู้สึกได้ถึงการโจมตีทางจิตที่กำลังกระทบพื้นที่จิตใจของตัวเองอยู่ ในขณะที่ความเย็นที่ไม่สามารถอธิบายได้ปรากฎขึ้นมาเต็มร่างกายของผม
“[ Zone Zero : Break ] (โซนซีโร่ : เบรก)”
ด้วยคำพูดเพียงแค่นี้ มันเหมือนกับว่าโลกทั้งใบหยุดลงในขณะที่การโจมตีทั้งหมดที่โจมตีผมหยุดลงชั่วขณะด้วยการขัดขวางมานาและพลังที่ไหลผ่านมัน มันเล็กน้อยมากแต่นั่นคือทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับจุดจบของหายนะ ด้วยเสียงโครมครามที่ดังขึ้นมา พวกมันทั้งหมดหักหลังกันเองและความเครียดจากการสูญเสียการควบคุมอย่างรวดเร็วดังกล่าวส่งผลกับไนล่ามากที่สุด
ขณะที่เธอถูกทำให้เย็นจนสลบ หากเป็นคนอื่นโดน นอกจากสมองที่คงอยู่ร่างกายของพวกเขาคงระเบิดไปแล้ว
‘ต้องบอกว่ากฎของขอบเขตพลังของเอเลนอร์นั้นยอดเยี่ยมจริงๆ’
ถูกต้องแล้ว ท่าที่ผมใช้คือท่าที่ผมได้หลังจากนอนกับเอเลนอร์ อันที่จริงผมได้รับพลังและความสามารถที่แตกต่างกันหลังจากนอนกับเอเลนอร์, เกรซและคลาร่า ซึ่งแต่ละท่าทำให้ผมมีพลังมากขึ้นและท่าที่ผมใช้ตอนนี้คือกฎของเอเลนอร์ ท่าที่ใช้ได้เฉพาะกับเอเลนอร์แต่ตอนนี้ผมสามารถใช้มันได้เช่นกัน โดยพื้นฐานแล้วผมได้ใช้ท่าที่สามารถพบได้เฉพาะเมื่อถึงระดับจักรพรรดิแล้ว
การต่อสู้นี้มันไม่ยุติธรรมตั้งแต่เริ่มต้นแล้วหล่ะนะ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต