The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 180 The Fight(1)
“เขาอวดดีจังนะ”
คาร์เมลพูดขณะที่เธอมองลงไปในพื้นที่ที่การต่อสู้กำลังจะเกิดขึ้น แต่ที่น่าประหลาดใจสำหรับเธอคือ เธอไม่ได้รับการตอบสนองแบบดุดันตามปกติที่เธอมักจะได้รับจากโอลิเวีย เธอขมวดคิ้วก่อนจะหันไปหาโอลิเวียซึ่งกำลังมองดูการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มขึ้นโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
ตอนนี้พวกเธออยู่บนจุดชมวิวที่คาร์เมลและโอลิเวียจองไว้แต่เพียงผู้เดียว พวกเธอพึ่งมาถึงและกำลังรอให้การต่อสู้ของออสตินเริ่มขึ้น พวกเธอไม่ได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง แต่มีเอลล่าและนอร่าอยู่กับพวกเธอด้วย โดยที่ทั้ง 2 คนยืนอยู่ข้างหลังขณะที่ตั้งสมาธิ ไปยังการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น
“โอลิเวีย…?”
เมื่อคาร์เมลเรียกเธออีก 2-3 ครั้ง โอลิเวียก็หลุดออกจากภวังค์ เธอมองไปที่คาร์เมลพร้อมกับถามขึ้นมา
“หือ…เธอพูดว่าไงนะ?”
โอลิเวียถามด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
เมื่อเห็นแบบนั้นคาร์เมลก็รู้สึกสับสน แต่ไม่นานเธอก็ลืมมันไปในขณะที่พูดขึ้นอีกครั้ง
“ฉันบอกว่าเขาดูค่อนข้างอวดดีเลยนะ”
“ฉันไม่คิดงั้นนะ บางทีเขาอาจมีเหตุผลที่มั่นใจอยู่ก็ได้”
โอลิเวียพูดเข้าข้างออสตินอย่างน่าประหลาดใจ
เมื่อได้ยินแบบนั้นคาร์เมลก็ประหลาดใจ สายตาของเธอมองโอลิเวียอย่างตั้งอกตั้งใจก่อนจะหันกลับไปหาการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มขึ้น มีเพียงเสียงพึมพำของเธอเท่านั้นที่ดังไปทั่วห้องในขณะที่หญิงสาวทั้งสี่มุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้
“เราจะได้เห็นกัน….”
‘พวกเขาดูจริงจังเลยนะ’
ผมคิดว่าขณะที่มองไปที่พวกเขาทั้ง 3 คนที่ยืนอยู่ห่างจากตัวเอง ผู้ตัดสินได้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อดูการแข่งขันและรอเข้ามาแทรกแซงหากสถานการณ์อยู่เหนือการควบคุม
น่าประหลาดใจที่เขามีพลังอยู่ในระดับต้นกำเนิดขั้น 8
ตอนนี้พวกเขาทั้ง 3 ยืนห่างจากผมขณะที่กำลังมองผมอย่างตั้งใจ พวกเขารู้ว่าพวกตัวเองไม่สามารถจัดการผมได้ง่ายๆ ต่างคนต่างมองหน้ากันเหมือนส่งความคิดถึงกัน ในไม่ช้าพวกเขาทั้ง 3 คนก็พยักหน้าให้กันขณะที่พวกเขามองมาที่ผมด้วยสายตาที่แข็งกร้าวจากการต่อสู้
สายตาของผมเคลื่อนไปมาระหว่างพวกเขาทั้ง 3 คนก่อนจะจับจ้องไปที่เจ้าชายสิงโตมารัค ตอนนี้ร่างกายของเขาดูเหมือนจะกำลังสั่นและภายในเวลาไม่ถึงวินาที ร่างกายของเขาก็สูงขึ้นอย่างมาก
และตอนนี้ต่อหน้าผม ได้มีอัจฉริยะเผ่าสิงโตที่ทรงพลังและอันตรายที่สามารถเข้าถึงร่างการต่อสู้ที่ 2 ของเขาได้
เผ่ามนุษย์สัตว์แต่ละคนเกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษที่ช่วยให้พวกเขาเข้าถึงร่างต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังให้อยู่ในระดับที่ไม่อาจจินตนาการได้ ชนเผ่าทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ถึงระดับที่ 2
แต่เชื้อพระวงศ์มีถึง 4 ร่าง และการที่มารัคเข้าถึงร่างที่ 2 ได้ตั้งแต่อายุยังน้อยก็บ่งบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะ
ในไม่ช้าดวงตาของมารัคก็แสดงความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยขณะที่เขากรีดร้องและพูดขึ้นมา
“ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่ประเมินข้าต่ำไปและข้าจะทำให้เอลด้าเป็นของข้า!!”
ดูเหมือนว่าสติของเขายังไม่เสียไปทั้งหมดทีเดียว ยิ่งเขาเข้าถึงรูปแบบต่างๆ มากเท่าไหร่ สติของเขาก็จะยิ่งหายไปเท่านั้น นั่นเป็นข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการเข้าถึงร่างต่างๆ เพื่อที่จะได้รับความแข็งแกร่งทั้งหมด
แน่นอนว่าคนที่มีอายุมากกว่าได้รับการฝึกฝนให้สามารถรักษาสติไว้ได้เมื่อพวกเขาเปลี่ยนร่าง แต่มารัคพึ่งจะมาถึงจุดนี้
“งั้นเหรอ ทำให้ดีที่สุดนะ”
ผมพูดด้วยรอยยิ้มในขณะที่ยืนอยู่โดยเอามือไว้ข้างตัว
ผมเห็นว่าอีก 2 คนต้องการสังเกตการต่อสู้ดูก่อนและทันทีที่ผมพูดจบมารัคก็หายไปจากตำแหน่งที่เขายืนอยู่ก่อนที่เขาจะมาปรากฏตัวต่อหน้าผมด้วยกรงเล็บคมกริบที่ยื่นออกมาจากมือของเขา แต่ก่อนที่แขนของเขาจะมาถึงหน้าผมได้นั้น ผมก็จับมันและพลิกมันกลับไปพร้อมกับเสียงตู้มที่ดังขึ้น เขาก็ถูกส่งลอยออกไป
หลายคนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ นอกจากนี้ยังไม่มีใครรู้ถึงระดับขั้นต้นกำเนิดของผมได้ พลังที่ผมแสดงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่มีใครสามารถมองทะลุผ่านได้ แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และขณะเดียวกับที่มารัคถูกส่งลอยออกไป มารัคก็สามารถควบคุมร่างของตัวเองได้อย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะปะทะกับพื้นและพลิกร่างของเขาให้ยืนตรง
ดวงตาแมวของเขาจดจ่ออยู่กับความบ้าคลั่งในตัวที่พวกมันดูเหมือนจะกำลังเพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อของเขากระเพื่อมในตอนที่เขาพุ่งเข้ามาหาผมอีกครั้ง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวในครั้งนี้คือค้อนขนาดใหญ่ในมือของเขาได้เล็งมาที่หัวของผม
ด้วยพลังในปัจจุบันของเขาพวกที่อยู่ในระดับต้นกำเนิดขั้น 4 คงจะถูกทุบจนตายและพวกที่อยู่ในระดับต้นกำเนิดขั้น 6 คงจะบาดเจ็บสาหัสหากเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ แต่ที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจคือผมทำเพียงแค่ยกมือขึ้นเพื่อรับค้อนที่โจมตีเข้ามาด้วยใบหน้าสงบ
และในไม่ช้า ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของทุกคน นิ้วชี้ของผมก็สัมผัสกับค้อนที่ดูเหมือนจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าพร้อมกับเสียงตู้มที่ดังขึ้นมา ขาของผมจมลงไปในพื้นเล็กน้อยเนื่องจากแรงมหาศาลที่อยู่ด้านหลังค้อน แต่มือของผมและทุกอย่างยังคงปลอดภัย แถมค้อนก็ถูกหยุดไม่ให้โจมตีผมด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวอีกด้วย!
ดวงตาของมารัคเบิกกว้าง แต่แล้วกลับมีบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่มีเรเปียร์ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของผม! เรเปียร์ที่อยู่ในมือของเขานั้นเร็วมากจนเอื้อมมาทางด้านหลังคอของผมอย่างพร่ามัว
โรไนโร เจ้าชายแห่งอาณาจักรทิลลาเบเฮมมีรอยยิ้มบนใบหน้าขณะที่เรเปียร์ของเขาเคลื่อนมาที่คอของผม
แต่มันยังไม่จบเพียงแค่นั้น ในขณะเดียวกันก็มีขวานขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและเล็งมาที่ขาของผมด้วย
เป็นเจ้าชายนาริคแห่งอาณาจักรฟาซิค ผู้มีสายตาที่ฉลาดเฉลียวนั่นเองที่เป็นคนเหวี่ยงขวานมาที่ผมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเอาขาของผมไป
ภายในวินาทีนั้นเองผมก็เห็นรอยยิ้มพอใจของมารัค ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าทั้งหมดนี้อยู่ในแผนของพวกเขา พวกเขาไม่เคยประเมินผมต่ำไปตั้งแต่แรกแล้ว
ผมถูกปิดทุกช่องทาง ‘รุกฆาต’ นั่นคงเป็นคำที่ทุกคนคงอยากบอกผม ทุกคนรู้ว่าผมเป็นนักธนู ดังนั้นการถูกต้อนจนมุมแบบนี้ในการต่อสู้ระยะประชิดหมายถึงจุดจบ แต่มันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
รอยยิ้มปรากฏขึ้บนใบหน้าของผมพร้อมกับมืออีกข้างของผมที่กางออก ภายในนั้นมีพลังมหาศาลที่ถูกบีบอัดอยู่ และในตอนที่ผมกางมือออก พวกมันก็ระเบิดออกมาในทันที
นัยน์ตาของนาริคเบิกกว้างอีกคนก็เช่นกัน แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เมื่อลมพายุขนาดใหญ่คล้ายการโจมตีระเบิดออกจากร่างของผม ได้ระเบิดทั้ง 3 คนที่ให้ออกห่างจากผมก่อนที่พวกเขาจะลอยไปชนกับพื้นอย่างแรงจนเกิดเป็นหลุมบนพื้น
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต