The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 194 The Goddess Of Life
มุมมองของออร์เฟียส :
“โลกเป็นสถานที่ๆ สวยงาม…”
…นั่นคือสิ่งที่เธอคิดเมื่อลืมตาขึ้นเป็นครั้งแรก เธอคือชีวิต เธอคือคนแรกที่ถือกำเนิดขึ้นในตอนที่โลกเกิดความโกลาหล เธอเป็นคนแรกที่ใช้พลังที่ได้รับเพื่อสร้างเจตจำนงใหม่ สำหรับเธอ ทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวด้วยชีวิตคือลูกๆ ของเธอ เนื่องจากทุกสิ่งเป็นการสร้างของเธอ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาควรมีความบริสุทธิ์ นั่นคือสิ่งที่เธอคิด แต่นั่นยังห่างไกลจากความเป็นจริง
เมฆสีขาวที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่สิ้นสุดลอยอยู่เหนือท้องฟ้าสีครามอันไร้ขอบเขต ต้นไม้เก่าแก่ขนาดมหึมาที่ให้ความรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ ต้นกล้าใหม่ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นสิ่งที่ทำให้เธอเพลิดเพลินจนพอใจ ความงามตามธรรมชาติรูปแบบดังกล่าวเป็นสิ่งที่นำความสงบมาสู่เธอ
แน่นอนว่าโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนหรือเรียบง่ายเลย
ออร์เฟียสยังจำสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อความโกลาหลต้องการเอาคืน สงครามที่เธอเคยเข้าร่วมยังคงฝังแน่นอยู่ในใจของเธอ ศพของน้องสาวของเธอ การตายของชีวิตที่เธอสร้าง หลายคนสูญหายไป เธอทำตามเจตจำนงของเทพธิดาที่เธอเลือก ในตอนที่พวกเขาเป็นผู้นำในสงครามที่ตัดสินชะตากรรมของโลก
เธอต่อสู้ในสงครามที่กินพื้นที่และเวลา ได้มองดูเพื่อนและสหายของเธอตกอยู่ในอ้อมกอดของมารดาแห่งความโกลาหล(Mother Chaos)ทีละคน หรือเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย เธอคือชีวิตแต่ในสายตาเธอ ชีวิตของหลายคนล่วงลับไปแล้ว หลายชีวิตที่เธอสร้างขึ้นไม่ลังเลที่จะเคลื่อนไหวและแทงเธอจากข้างหลัง
สิ่งมีชีวิตที่เธอสร้างขึ้นเพื่อสร้างสมดุลให้กับความโกลาหลในไม่ช้าก็กลายเป็นฝันร้ายของเธอ เธอเป็นแม่ของพวกเขา เธอเป็นผู้สร้างพวกเขา แต่ทั้งหมดที่เธอเห็นในจิตวิญญาณของพวกเขามีเพียงความมืด ทำไมกัน? ทำไมพวกเขาถึงไม่สวยงามอย่างที่เธอคาดหวังไว้กัน? เหตุใดวิญญาณของพวกเขาจึงอัปลักษณ์และเต็มไปด้วยความน่าขยะแขยงกันนะ?
เธอได้เห็นชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนที่เธอสร้างไว้ร่วงหล่น หลายชีวิตดับสูญด้วยมือของเธอเอง เธอผู้เป็นผู้มอบชีวิตได้นำความตายมาสู่คนมากมาย แล้วทำไมกัน? ทำไมเธอถึงยังคงต่อสู้อยู่หล่ะ? ถ้าไม่ใช่เพราะความตายที่ยื่นมือมาช่วย ชีวิตเธอคงร่วงโรยไปนานแล้ว การมีชีวิตนั้นสวยงาม แต่ก็เปราะบางมากเช่นกัน
แต่เธอยังไม่สิ้นหวัง เธอเข้าร่วมสงครามกับเหล่าผองเพื่อนที่เป็นฐานของสรรพสิ่งที่เกิดจากความโกลาหล เธอเชื่อสุดหัวใจว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบกับดวงวิญญาณหนึ่งเดียวในโลกนับไม่ถ้วน หนึ่งดวงวิญญาณที่แผดเผาด้วยแสงที่งดงามที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
บาดเจ็บ, เศร้า, โดดเดี่ยว, หวั่นเกรง, หวาดกลัว เธอต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไม่เคยยอมแพ้ต่อความหวังเลยสักครั้งและยังคงก้าวต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นในความเชื่อของเธอ
ความเชื่อของเธอมั่นคงเสมอมา
เธอเชื่อในความเป็นไปของโลกนี้ เธอเชื่อว่าวันหนึ่งเธอจะได้พบกับดวงวิญญาณดวงหนึ่งซึ่งเปล่งประกายด้วยความปรารถนาแห่งชีวิต ดวงวิญญาณดวงเดียวที่แม้จะถือกำเนิดมาตามธรรมชาติก็ยังส่องแสงเจิดจ้ากว่าทางที่สว่างไสว
ดังนั้นฝันร้ายของเธอจึงดำเนินต่อไป จนกระทั่งเธอและเทพีที่เธอติดตามทำสำเร็จแล้ว พวกเขาหยุดการกบฏได้สำเร็จ
ชีวิตที่สูญเสียไปนับไม่ถ้วน แต่พวกเธอก็ทำสำเร็จ ทุกชีวิตที่สูญเสียเป็นของเธอ ถ้าเธอต้องการเธอก็สามารถทำให้ชีวิตพวกนั้นเกิดได้อีกครั้ง แต่เธอก็อดกลั้นไว้ เธอไม่ต้องการทำให้ชีวิตของทุกคนที่ต่อสู้ต้องอับอายขายหน้า และเช่นนี้เป็นเวลาหลายล้านปีผ่านไป ขณะที่เธอยังคงเห็น ความมืดของชีวิตนั่นเอง
ทำไมกันนะ? ทำไมไม่มีแม้แต่ชีวิตเดียวที่เปล่งประกายด้วยชีวิตเลย?
ในยามที่เธอสิ้นหวัง เธอได้ใช้พลังแห่งชีวิตของเธอสร้างเผ่าพันธุ์ที่เปล่งประกายด้วยความบริสุทธิ์ พวกเขาคือเผ่านางฟ้า แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ สุดท้ายก็ล้วนแต่เป็นของปลอม พวกมันทั้งหมดถูกสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มเจตจำนงของเธอเท่านั้น
สิ่งที่เธอต้องการคือคนที่เปล่งประกายกว่าทุกคนโดยธรรมชาติ แต่ ณ จนถึงตอนนี้ใจของเธอบางส่วนนั้นหมดศรัทธาไปแล้วจนกระทั่งวันแห่งโชคชะตา
เธอพึ่งออกจากการประชุมของเทพและในขณะที่เธอกลับมายังมิติที่เธอสร้างขึ้นซึ่งทุกชีวิตบริสุทธิ์นั้นเอง ทันทีที่เธอกลับมาก็จับสัมผัสได้ว่ามีคน 2 คนที่ไม่ควรอยู่ที่นั่น ก่อนหน้านั้นมีนางฟ้านับพันมาล้อมเธอขณะที่พวกเขาคุยกันอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับมนุษย์ที่พวกนางฟ้า ‘รู้สึก’ ดีด้วย
เธอผู้ไม่เคยสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับมนุษย์ได้ถูกจุดประกายแห่งความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา ดวงตาของเธอสอดส่องผ่านมิติและมิติว่างเปล่าขณะที่มองลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของมนุษย์พวกนั้น และทันทีที่เธอเผชิญหน้ากับวิญญาณที่ส่องประกาย ดวงตาของเธอก็เบิกโพลง
มันช่างงดงาม…
ในบรรดาดวงวิญญาณหลายล้านดวงที่เธอจ้องมอง ไม่มีดวงใดสว่างกว่าดวงที่เธอกำลังจ้องมองอยู่เลย มันส่องแสงเรืองรองราวกับดวงอาทิตย์ มันถูกสร้างขึ้นด้วยชีวิตที่ครั้งหนึ่งเธอไม่สามารถละสายตาจากมันได้ ใช่แล้ว นี่แหละ
นี่คือดวงวิญญาณที่ส่องสว่างกว่าชีวิตตัวเอง ชีวิตที่ห่างไกลเกินกว่าที่ควรจะเป็น ดวงวิญญาณที่เผาไหม้ด้วยความไร้เดียงสาและชีวิต ดวงวิญญาณที่เธอรอคอย….เธอไม่ลังเลเลยที่จะฉีกมิติออกและพาเขามาตรงหน้าเธอ และยิ่งเธอจ้องมองเข้าไปในจิตวิญญาณของเขามากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งตกอยู่ในภวังค์
เป็นครั้งแรกในชีวิตอันยืนยาวของเธอเลยที่ได้รู้สึกถึงจิตวิญญาณที่นำความสงบสุขมาสู่เธอ จิตวิญญาณที่จุดประกายความรักอันลึกซึ้งที่สุดของด้านความเป็นแม่ของเธอ
สำหรับออร์เฟียสนั้น ทุกสิ่งมีชีวิตคือลูกๆ ของเธอ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกสิ่งมีชีวิตจะสะพ้องกับเธอ
ในความเป็นจริงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่สั่นพ้องกับเธอเลย แต่ดวงวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าเธอกลับถูกผูกมัดกับความรู้สึกที่ลึกซึ้งของเธอ
จากความทุกข์ใจนับล้านปีของเธอ ในที่สุดเธอก็พบคนที่สมควรได้รับการเลี้ยงดูจากเธอ ในที่สุดเธอก็พบชีวิตที่เธอสามารถมีความสุขด้วยได้ ในที่สุดเธอก็พบลูกของเธอ….
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต