The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 196 Friendly Chat
“นี่จ่ะ พูดอ้ามมมสิจ๊ะ”
ออร์เฟียสพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่ชี้ช้อนที่เต็มไปด้วยของหวานแสนยั่วเย้ามาทางผม ตอนนี้เราทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ในห้องที่ตกแต่งด้วยไม้ซึ่งใหญ่โตและถูกตกแต่งอย่างสวยงาม โดยอยู่ภายในห้องกินข้าวพร้อมกับออร์เฟียสที่กำลังป้อนอาหารให้ผมด้วยขนมที่เธอเตรียมมาเป็นพิเศษ
นอกเหนือจากรสชาติที่ระเบิดออกแล้ว ของหวานยังดูเหมือนจะเพิ่มความเข้าใจในโลกและเพิ่มพลังของผมอีกด้วย ผมแน่ใจว่าตัวเองจะบุกเข้าสู่ระดับต้นกำเนิดขั้น 9 ได้ในไม่ช้า
คุณควรรู้ว่าการทะลวงผ่านระดับต้นกำเนิดโดยเฉพาะระดับที่สูงกว่าขั้น 5 นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
การผ่านระดับต้นกำเนิดแต่ละระดับไม่ใช่แค่การสร้างเพลทและการขยายพื้นที่เก็บมานาเท่านั้น การสร้างเพลทถัดไปทำให้เราต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโลกสำหรับระดับถัดไป แต่ละเพลทต้องการความเข้าใจที่แน่นอน ไม่ใช่แค่มานาเท่านั้น แต่รวมถึงตัวเราเองด้วยและไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ มิฉะนั้นคงจะมีระดับต้นกำเนิดขั้น 10 หลายร้อยคนเดินไปทั่วโลกแล้ว
และถ้าขนมหวานที่ออร์เฟียสป้อนให้ผมตอนนี้ถูกวางไว้ในโลกภายนอกหล่ะก็ มันอาจจะทำให้มีการเสียเลือดเสียเนื้อเพราะมันก็ได้ ถึงประสิทธิภาพมันจะดีก็เถอะ แต่ความลำบากใจของผมที่ต้องถูกป้อนเหมือนเด็กทารกนั้นไม่ได้ลดลงเลย และที่แย่ที่สุดคือความรู้สึกที่ผมมีต่อออร์เฟียสนั้นดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น
‘เห้อออ…โชคของเรานี่มัน’
เมื่อคิดดังนั้นผมก็เปิดปากเพื่อกัดอาหารที่ออร์เฟียสป้อนให้ ทำให้ปากของผมมีรสชาติที่หอมหวานและซาบซ่านพร้อมกันนั้น ผมก็ยังได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพลังของตัวเองด้วย มันเป็นอาหารนักฆ่าอย่างแท้จริง
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉันโดยไม่รู้ตัวซึ่งทำให้รอยยิ้มของออร์เฟียสนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“มะ-แม่ครับ แม่รู้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับราเซลเลีย?”
เมื่อได้ยินผมเรียกเธอว่าแม่ ร่างกายของออร์เฟียสก็สั่นสะท้านขณะที่สีแดงบนใบหน้าของเธอเข้มขึ้น แต่เมื่อเธอได้ยินคำถามส่วนที่เหลือ เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบอีกครั้ง
“เกี่ยวกับเรื่องนั้น มันก็แค่…”
และด้วยเหตุนี้เธอจึงอธิบายให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับราเซลเลียเพื่อขจัดข้อสงสัยที่ผมมี อย่างไรก็ตามมันก็ถือเป็นเรื่องน่าสงสัยจริงๆ ที่เธอไม่ได้ติดต่อผมมาจนถึงตอนนี้ และดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถทำได้ด้วย จากที่ออร์เฟียสเล่ามา ดูเหมือนว่าราเซลเลียกำลังเผชิญกับการลงโทษที่ส่งพลังของเธอมาให้ผม
พลังของราเซลเลียนั้นไม่เหมือนใครแม้แต่ในหมู่เหล่าทวยเทพ แค่การส่งต่อให้มนุษย์คนหนึ่งก็อันตรายมากแล้วเพราะไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงอันตรายและปัญหาได้ง่ายๆ แต่เหล่าทวยเทพทั้งหลายก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าราเซลเลียไม่ได้โง่พอที่จะส่งพลังของเธอไปให้คนไม่ดี ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงยังสงบกันอยู่
นอกจากนี้ด้วยความเคารพในตัวราเซลเลียและกลัวว่าเธอจะระเบิดออกมา จึงไม่มีเทพเจ้าองค์ใดที่จะค้นหาอย่างจริงจังว่าเธอเลือกให้พลังกับมนุษย์คนใดไป
ในความเป็นจริงพวกเขาทุกคนดีใจที่ในที่สุดราเซลเลียก็พบคนที่เธอสามารถแบ่งปันความเจ็บปวดของเธอด้วยได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องได้รับการลงโทษอยู่ดี ดังนั้นเธอจึงถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับมนุษย์ไปชั่วขณะหนึ่ง
“เป็นแบบนี้นี่เอง…”
ในที่สุดเมื่อได้ยินถึงเหตุผล ผมก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ ในตอนนั้นเองที่ออร์เฟียสถามคำถามที่ทำให้ผมอึ้งขึ้นมา
“แล้วลูกแม่ ผู้หญิงที่มากับลูกคือใครเหรอจ๊ะ?”
หลังจากถามอย่างนั้นจบ ก็ปรากฎรอยยิ้มซุกซนบนใบหน้าของเธอ ในฐานะผู้ปกครองของมิติ เธอสามารถรู้สิ่งที่เกิดขึ้นได้และเธอก็ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเอลด้าแล้ว
ผมชะงักไปชั่วขณะเมื่อได้ยินคำถามของออร์เฟียส ก่อนที่ผมจะตอบอย่างใจเย็น
“เธอเป็นน้องสาวและคนรักของผมครับ”
“งั้นเหรอ…”
คราวนี้เป็นตาของออร์เฟียสที่จะผงกหัวของเธอ เธอดูไม่แปลกใจเลยเพราะระหว่างผมกับเอลด้ามีหน้าตาที่คล้ายกันอย่างแน่นอน
“ก็ดีจ่ะ”
ในที่สุดออร์เฟียสก็พูดขึ้น ซึ่งทำให้ผมแปลกใจกับคำพูดของเธอ
ผมเลิกคิ้วอย่างมีเลศนัยขณะที่ถาม
“แม่ไม่คิดว่ามันแปลกเหรอครับ?”
“ไม่เลยจ่ะ มันจะเป็นอะไรไปถ้าเธอเป็นพี่น้องของลูก? แม่เห็นความสกปรกในชีวิตมามากเกินไปแล้ว เรื่องแบบนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ถ้าเธอสองคนรักกัน แค่นั้นก็พอจ่ะ”
ขณะที่เธอพูดประโยคแรก ก็มีความรู้สึกเศร้าเต็มหัวใจของเธอก่อนที่มันจะหายไปอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะหนึ่งความรู้สึกเจ็บปวดก็ปรากฎขึ้นมาเต็มหัวใจของผม
ผมถอนหายใจกับตัวเองขณะที่ขยับเข้าไปใกล้เธอเพื่อกอดเธออยู่ครู่หนึ่ง
ออร์เฟียสตกตะลึงก่อนที่เธอจะยิ้มออกมาขณะที่เพลิดเพลินอยู่ในอ้อมกอดที่ผมมอบให้เธอ
ในไม่ช้าเธอก็เงยหน้าขึ้นจากหน้าอกของผมก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม
กลิ่นหอมสดชื่นของเธอโชยเข้าจมูกของผม ดวงตาสีเขียวของเธอจับจ้องมาที่ผม ริมฝีปากของเธออยู่ห่างจากผมเพียงไม่กี่เซ็น พวกเราหลงเข้าไปในโลกส่วนตัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เราจะแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว
และก่อนที่ผมจะทันได้ตอบสนองอะไร ผมก็เข้าไปอยู่ในอกของออร์เฟียสอีกครั้ง
เธอกำลังกอดผมอีกครั้งพร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“โอ้~~ ดูลูกปลอบแม่สิ แม่ของลูกมีความสุขมากเลยจั่ะ~~”
เธอกลับมามีท่าทางแบบแม่อีกครั้ง โดยพยายามซ่อนความรู้สึกที่มีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมสังเกตได้
ดูเหมือนว่าออร์เฟียสต้องการความสัมพันธ์แบบแม่ลูกที่บริสุทธิ์ แต่ความหลงใหลบางอย่างในตัวเธอกำลังบิดความรู้สึกของเธอให้กลายเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น เธอเริ่มถูกผมดึงดูดไปในอีกเส้นทางหนึ่ง
ผมไม่เข้าใจว่าความหลงใหลในตัวเธอมีที่มาที่ไปอย่างไร แต่แน่นอนว่ามันสำคัญมาก ด้านความเป็นแม่ที่บริสุทธิ์ของเธอกำลังปฏิเสธที่จะยอมรับด้านนั้นของเธอและมันสร้างความขัดแย้งอย่างมากในตัวเธอ แต่มันมีแต่เป็นผลดีกับผมเท่านั้น
ผมจะทำให้แม่เทพธิดาคนนี้ครวญครางอยู่ใต้ผมให้ได้ แต่ผมยังเริ่มตอนนี้ไม่ได้ ผมต้องค่อยเป็นค่อยไปจนกว่าเธอจะ ‘ดูแล’ ผมด้วยฐานะอื่น
รอยยิ้มร้ายกาจที่ซ่อนอยู่ในใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผม ก่อนที่มันจะหายไปอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าห้องก็ถูกทำลายโดยนางฟ้าหลายตัวที่เริ่มเข้ามาล้อมรอบผม ผมถูกระเบิดด้วยนางฟ้าที่ตื่นเต้นหลายตัวที่จ้องจะนั่งบนหัวและทุกส่วนของร่างกายของผม ตอนนี้ผมดูเหมือนมัมมี่นางฟ้าเลย
นั่นทำให้ออร์เฟียสหัวเราะคิกคักขณะมองดูทั้งหมดนี้ด้วยสายตาสนุกสนาน
สุดท้ายแล้วผมก็ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงเพื่อพูดคุยกับออร์เฟียสและนางฟ้าอีกหลายตัว เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายผมก็ต้องจากไป ไม่เพียงแต่เอลด้าจะรอฉันอยู่เท่านั้น ผมยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องจัดการเช่นกัน แม้ว่าออร์เฟียสจะไม่เต็มใจก็ตาม
แต่ก่อนจากไปผมก็ได้สัญญาว่าจะมาเยี่ยมเธอทุกวัน ถึงแม้ว่าเธอคิดจะดึงผมเข้ามาในโลกนี้ทุกวันอยู่แล้วก็เถอะ
ไม่นานนักความรู้สึกคุ้นเคยของมิติก็โอบรอบตัวผมอีกครั้งก่อนที่ผมจะกลับมาถึงห้องของตัวเอง
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต