The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 209 Big Sis(1)
ความโกรธ, ความเกลียดและความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะแก้แค้นสามารถเห็นได้ผ่านดวงตาของอาม่อน มันกำลังเดือดพล่านเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมที่จะระเบิดออกมา
ผมไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการระเบิดของเขาและเงียบรอให้อาม่อนฟื้นคืนสติของตัวเอง ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะสงบลงก่อนจะหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้่นมา
ดวงตาของเขากลับคืนสู่ความจริงจังและเย็นชาตามปกติในระหว่างที่เขาเริ่มอ่านเอกสาร ยิ่งเขาอ่านมันเท่าไหร่ สีหน้าของเขาก็ยิ่งแข็งกระด้างจนในที่สุดมันก็ระเบิดออกด้วยการที่เขาขว้างเอกสารลงพื้นด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวที่ปกปิดใบหน้าของเขาไว้
เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปตบไหล่เขา
“อาม่อน ใจเย็นๆ อย่าให้อารมณ์เข้าครอบงำ ศัตรูของนายรับมือไม่ง่ายหรอกนะ อีกอย่างนายจำไม่ได้งั้นเหรอ? ที่ฉันสัญญาว่าจะช่วยแก้แค้นให้นายหน่ะ”
คำพูดของผมดูเหมือนจะทำให้เขาสงบลงในขณะที่การหายใจถี่ๆ ของเขาหายไป
อาม่อนหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะมองลึกเข้ามาในดวงตาของผมก่อนที่จะพูด
“เมื่อไหร่ครับ?”
มันเป็นเพียงคำถามเดียว แต่ในฐานะคนที่เข้าใจเขา ผมเข้าใจความหมายจึงพยักหน้าให้เขา
“ในช่วงสงครามแย่งชิงราชา/ราชินีบาบิโลน พวกเขาจะมาถึงและเมื่อถึงเวลานั้นการแก้แค้นของนายจะเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด”
“เข้าใจแล้วครับ”
อาม่อนผงกศีรษะขณะกำมือ เขาต่อสู้เพื่อโอกาสนี้มานานแล้ว การรออีก 3 เดือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขา
อาม่อนเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยความขอบคุณ เขาไม่พูดอะไรอีกและทำเพียงแค่พยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องไป
‘ช่างเป็นคนที่รับมือยากจริงๆ’
ผมส่ายหัวให้เขา ผมสัญญากับเขาแล้วว่าจะแก้แค้นให้เขาและผมไม่มีแผนที่จะกลับคำพูดของตัวเอง เพราะเขาจะเป็นส่วนสำคัญในแผนการในอนาคตของผม
ผมมองเขาครั้งสุดท้ายก่อนจะเริ่มทำหน้าที่ที่ควรจะทำและหลังจากนี้ผมมีนัดกับพี่สาวที่น่ารักอยู่ด้วย
เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว ผมก็ยิ้มในขณะที่ใช้เวลาชั่วโมงถัดมาในการแก้ปัญหาบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้น จนหลังจากแน่ใจว่าทุกอย่างโอเคและเรียบร้อยดีแล้ว ผมก็ใช้เวทย์ปลอมตัวเพื่อออกเดินทางไปพบกับพี่สาวที่ปากแข็งและน่ารักที่กำลังอยากจะเจอผมจะเป็นจะตาย
เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่โดนสะกดรอยตาม ผมเดินอย่างระมัดระวังจนมาถึงร้านที่ขายขนมที่ตกแต่งอย่างดีและเงียบสงบ
เมื่อผมเข้าไปข้างในก็พบว่าผู้คนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ คนในร้านประมาณ 1-2 คน กลิ่นหอมหวานของขนมและกาแฟอบอวลอยู่ในร้านชวนให้เคลิบเคลิ้มและผ่อนคลาย แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก ในไม่ช้าผมก็จ้องมองไปยังร่างที่นั่งอยู่มุมหนึ่งซึ่งสวมชุดวันพีซสีน้ำเงินสวยงามกับหมวกสีเหลืองอ่อนที่เข้าชุดกันโดยซ่อนใบหน้าของเธอไว้เล็กน้อย
ผมยิ้มเมื่อสายตาจับจ้องไปที่เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่นั่นซึ่งซ่อนตัวอยู่อย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเดินไปถึงโต๊ะของเธออย่างรวดเร็วและนั่งลง
เมื่อพบกับใบหน้าที่สวยงามของพี่สาวซึ่งดวงตาสีเขียวจดจ้องมาที่ผมด้วยสายตาที่สงสัยก่อนที่ในไม่ช้ามันจะกลายเป็นรูปลักษณ์ที่น่ารักเมื่อผมปลดการปลอมตัวออกไป ทำให้ผมกลับมาดูมีสง่าราศีอีกครั้ง
“คิดถึงผมไหมครับ?”
ผมถามด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ซึ่งได้รับการตอบกลับเป็นอาการหงุดหงิดของนอร่า
“ทำไมฉันต้องคิดถึงน้องชายที่ไม่ได้ติดต่อมาหาในช่วงนี้เลยด้วยหล่ะ?”
“ขอโทษ….ผมขอโทษครับ พอดีตอนนี้ผมยุ่งมากเลย พี่น่าจะรู้ว่าการจัดการกลุ่มที่กำลังเติบโตนั้นยากแค่ไหนนะครับ”
เมื่อได้ยินคำขอโทษอย่างจริงใจของผมพร้อมกับคำพูดแก้ตัวแล้ว ความหงุดหงิดส่วนใหญ่ของนอร่าก็หายไป เพราะเธอเองก็รู้ว่าการสร้างและจัดการกับกลุ่มที่เพิ่มขึ้นนั้นยากเพียงใด อนิจจาเธออยู่ในความมืดที่ฝ่ายของผมส่วนใหญ่อยู่ในเงื้อมมือของผู้ใต้บังคับบัญชาของผม ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ถูกบีบบังคับง่ายๆ แบบนี้
“ฉันรู้ว่านายต้องลำบากแน่”
นอร่าพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดเล็กน้อยขณะที่เธอกุมมือผมไว้เหนือโต๊ะก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่น่ารักและไว้ใจได้
“ไม่ต้องห่วงนะ ถ้านายรู้สึกว่ามันมากเกินไปก็มาหาพี่สาวคนนี้ได้เลย นายก็รู้ว่าฉันค่อนข้างแข็งแกร่งในสถาบัน ถ้านายเหนื่อยก็แค่โยนมันทิ้งไปและมาซ่อนอยู่ข้างหลังฉันก็ได้ ฉันจะทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครทำร้ายนายเอง”
คำพูดของเธอจริงจังและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้น
ผมยิ้มให้กับคำพูดของเธอขณะที่วางมืออีกข้างเหนือมือของนอร่าก่อนจะตอบกลับ
“ไม่ต้องห่วง ผมสบายดีครับพี่สาว แล้วอีกอย่างใครมันจะกล้าท้าทายความแข็งแกร่งของผมกันหล่ะครับ?”
“จริงสิ เธอกลายเป็นคนที่ทรงพลังแล้วจริงด้วย ฉันทั้งภูมิใจและเสียใจ มันค่อนข้างซับซ้อนเลยแหละ”
นอร่าพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ซึ่งผมก็ได้แต่ส่ายหัว
ผมจับมือนอร่าแน่นขึ้นก่อนจะพูดต่อ
“แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่พึ่งพาพี่หรอกนะครับ ถ้าผมพบว่าตัวเองมีปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ผมจะรีบไปหาพี่สาวของผมอย่างแน่นอนครับ!”
“ดีมาก แค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้ว”
นอร่ายิ้มขณะที่พูด ในขณะเดียวกันเธอก็ขยับมือออกอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนการหนีออกไป ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอสังเกตเห็นหรือไม่ แต่ตอนนี้เธอมีสีแดงเล็กน้อยปรากกฎอยู่บนใบหน้าของเธอ ในขณะที่ดวงตาของเธอม้วนงอและมองมาที่ผมอย่างเขินอาย
คนงี่เง่าไร้สมองคนใดก็สามารถบอกได้ว่าเธอดูเหมือนหญิงสาวที่กำลังมีความรัก
“จริงสิครับพี่ ที่นี่คือร้านอะไรเหรอครับ? ร้านค่อนข้างดีเลย แต่ดูเหมือนจะไม่โด่งดังเท่าไหร่เลยนะครับ”
ในที่สุดผมก็พูดขึ้นมาเพื่อดึงนอร่าออกจากความคิดของเธอ
เมื่อได้ยินคำพูดของผม นอร่าก็ยิ้มขณะที่เธอมองไปรอบๆ ร้านพร้อมกับตอบกลับมา
“นายพูดถูกแล้ว ร้านนี้ไม่ดังเท่าไหร่ เหตุผลก็คือราคาสูงและเจ้าของก็นิสัยไม่ดี แต่กลับกัน ขนมก็คุณภาพสูง แถมฉันชอบบรรยากาศเงียบสงบของที่นี่ด้วย”
“งั้นเหรอครับ…”
ผมพยักหน้าให้นอร่า เพราะเธอบอกว่าที่นี่บรรยากาศดี แต่ผมไม่เห็นบริกรเลย อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่มีหรือไม่สนใจที่จะออกมาก็ได้ซึ่งผมก็ไม่สนใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว
ผมยิ้มให้นอร่าและพูดด้วยน้ำเสียงคาดหวัง
“พี่สาวพร้อมที่จะสนุกกับวันที่เหลือกับน้องชายที่รักหรือยังครับ?”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต