The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 212 Phase 1
“ที่นี่สร้างได้ค่อนข้างดีเลยไม่ใช่เหรอ?”
นอร่าถามขณะที่เราเดินผ่านโถงทางเดินที่หรูหรา
ผมไม่ปฏิเสธเธอเพราะนั่นคือความจริง เมืองนี้เต็มไปด้วยผู้มีอำนาจและคนร่ำรวยที่ต้องการทำการตกลงกันอย่างลับๆ ให้ลุล่วง แค่เงินที่ได้รับจากทั้งหมดนี้ก็มหาศาลแล้ว ดังนั้นเมืองนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนรวยได้เพลิดเพลิน แถมยังไม่มีใครรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของมันอีกด้วย ยกเว้นผมหล่ะนะ เอาไว้ถ้ามีเวลาผมจะเล่าให้ฟังทีหลังแล้วกัน
ผมหันหน้าไปหานอร่าก่อนจะตอบกลับเธอไป
“มีแต่คนรวยเท่านั้นที่มาที่นี่ได้ครับและที่พักก็สร้างมาให้พอดีกับทุกคนด้วยครับ”
“เห้ออออ….โลกนี้ช่างมืดมนเสียจริงนะ”
“นี่แหละความจริงครับ”
ผมผงกศีรษะเมื่อเรามาถึงห้องส่วนตัว ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าผมพยักหน้าให้พวกเราขณะที่เธอเปิดประตู ทำให้ผมพบกับห้องที่ตกแต่งอย่างดีเยี่ยม ห้องนี้เป็นห้อง 5 ดาวเลยก็ว่าได้ ผนังกระจกกว้างไว้ดูเล่นและมีรถขนอาหารวางเรียงรายอยู่
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาที่สุดคือความรู้สึกโรแมนติกในห้อง ตรงกลางมีเก้าอี้ตัวใหญ่ให้นั่งเพียงตัวเดียว ทำให้คนที่นั่งต้องอยู่ใกล้กันมาก เหมาะสำหรับคู่รัก
ไม่เพียงเท่านั้นแต่ในห้องยังมีเทียนหอม, อาหารรูปหัวใจและเสียงเพลงโรแมนติกที่ได้ยินไปทั่วห้องอีกด้วย
“เอ่อ…..นี่มันอะไรกัน?”
ผมถามผู้หญิงคนนั้นด้วยรอยยิ้มที่ ‘อึดอัด’ พนักงานสาวมีสีหน้าสับสนก่อนจะพูดไข้ความกระจ่าง
“มันเป็นห้องดีลักซ์พิเศษสำหรับคู่รักค่ะ คุณทั้งคู่ไม่ใช่คู่รักกันเหรอคะ?”
ขณะที่เธอพูดอย่างนั้น ดวงตาของเธอก็หรี่ลงด้วยความ ‘สงสัย’ ซึ่งรอยยิ้ม ‘อึดอัด’ ของผมก็หายไปก่อนจะตอบกลับไปด้วยความรวดเร็ว
“แน่นอน ผมแค่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย ใช่ไหมที่รัก?”
เมื่อพูดเช่นนั้นจบผมจึงมองไปที่นอร่าที่มีท่าทางมึนงง
เมื่อได้ยินคำพูดของผม นอร่าก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอจับมือผมและยิ้มอย่างน่ารักเหมือนหญิงสาวที่กำลังมีความรักขณะที่พูด
“ใช่ ถูกต้องแล้ว ฉันกับสามีพึ่งจะเคยมาหน่ะค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง ไม่มีปัญหาค่ะ แถมถ้าคุณรู้สึกว่าหนังน่าเบื่อไปหน่อย คุณก็สามารถขยับเก้าอี้ให้กว้างขึ้นแล้วทำเป็นเตียงได้นะคะ~~~”
พนักงานสาวพูดพร้อมกับขยิบตาให้เราทั้งคู่ก่อนจะเดินจากไป แม้ว่าการขยิบตาให้ผมนั้นจะมีการยิ้มเยาะเป็นพิเศษด้วยก็ตาม
เมื่อเราทั้งคู่เข้ามาในห้องด้วยบรรยากาศที่น่าอึดอัดที่ตามมาด้านหลัง ซึ่งไม่ได้ทำให้อะไรให้ดีขึ้นเลยสำหรับนอร่า เพราะเสียงเพลงโรแมนติกดังขึ้น ทำให้เธอประหม่าเล็กน้อย
“นอ-นอร่า ผมไม่รู้เลยว่าห้องเป็นแบบนี้”
ในที่สุดผมก็พูดเพื่อกำจัดบรรยากาศระหว่างเราและเริ่มแผนการที่วางเอาไว้ คำพูดของผมทำให้เธอหลุดจากความคิดขณะที่เธอไอเพื่อทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
“อะแห่ม…ก็น่าจะอย่างนั้นแหละ เราแค่ทำเหมือนทุกอย่างเป็นปกติก็พอ”
“อืม ทำไมเราไม่นั่งกันหล่ะ?”
“เอาสิ”
นอร่าพยักหน้าแล้วเราก็หันไปทางเก้าอี้คู่ตรงกลางห้อง
ความเงียบลงมาอีกครั้งก่อนที่ผมจะ ‘ลังเล’ ในการขยับ จนในที่สุดผมก็นั่งบนนั้นก่อนจะหันไปทางนอร่าและพูดขึ้นมา
“มาสิครับพี่สาว เราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมเราต้องกังวลด้วยหล่ะครับ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม นอร่าก็สงบลงเล็กน้อยขณะที่หัวใจเต้นน้อยลง เธอยิ้มให้ผม…..ผมคิดตามที่เธอพูด
“ก็จริง เราเป็นพี่น้องกัน”
แม้ว่าน้ำเสียงของเธอจะแฝงความขมขื่นในขณะที่เธอเดินมาหาผมและนั่งข้างผมก็ตาม ไหล่ของเราแตะกัน ขาและครึ่งตัวของเธอติดกับตัวผม
ปกติแล้วเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ด้วยบรรยากาศทั้งหมดเลยทำให้มันเลวร้ายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนอร่าที่พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะยั้งตัวเองไว้
“ทำไมพี่ไม่ลองกินผลไม้พวกนี้ดูหล่ะครับ?”
ผมพยายามทำให้เธอผ่อนคลาย โดยการให้ขนมที่ตัดเป็นรูปหัวใจให้เธอก่อน
นอร่ารับไว้ก่อนจะเริ่มกัดมัน ผมเริ่มคุยกับเธอเล็กน้อยเพื่อให้เธอผ่อนคลาย หลังจากไม่กี่นาทีเธอก็สงบลง ใช้เวลาไม่นานสำหรับการแสดงที่จะเริ่มต้นขึ้น เมื่อแสงไฟบนสเตเดี้ยมถูกเปิดขึ้น เวทมนตร์ลวงตาก็ปรากฎขึ้นมา และสถานที่สู้รบในยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็ปรากฏให้เห็น
ทั้งหมดนี้เริ่มเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม นักแสดงและบทละครก็สวยงาม มันเป็นเรื่องของหญิงสาวที่ออกเดินทางจากหมู่บ้าน เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงสงครามครั้งใหญ่ที่ซึ่งความตายและการต่อสู้เกิดขึ้น เด็กสาวคนนี้ระหว่างการเดินทางของเธอได้เข้าร่วมกองทัพในไม่ช้าเมื่อพลังของเธอตื่นขึ้นมา
ในไม่ช้าก็แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นอัจฉริยะทางทหารเนื่องจากกลยุทธ์และความคิดที่เฉียบแหลมของเธอทำให้เธอได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในไม่ช้า ในขณะเดียวกันเมื่อมองไปที่นอร่า ผมก็เห็นได้ว่าเธอจดจ่อกับการแสดงอย่างเต็มที่ ทำให้ผมยิ้มออกมา ในฐานะที่เป็นทหาร เธอจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้ได้ยังไงหล่ะ? เนื่องจากผมเป็นคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ให้เธอเองเลย
ด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนเร้น ผมจดจ่ออยู่กับการแสดงเป็นฉากที่เด็กผู้หญิงพบกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นวีรบุรุษอีกคนหนึ่งของสงคราม เขาสร้างชื่อให้กับการต่อสู้และการสังหารของเขา ในไม่ช้าพวกเขาก็ต่อสู้ด้วยกันและตกหลุมรักกันในไม่ช้า พวกเขาได้วางแผนที่จะอยู่ด้วยกัน แต่แล้วพวกเขาก็พบกับความจริงอันขมขื่น….พวกเขาเป็นพี่น้องกัน!
พ่อของเด็กชายผู้สูงศักดิ์เคยเร่าร้อนกับแม่ของหญิงสาวในอดีตส่งผลให้เธอเกิดมาและตอนนี้ความจริงก็ถูกเปิดเผยแล้ว
พอถึงฉากนี้นอร่าที่นั่งอยู่ข้างผมก็สะดุ้งขึ้นมา เราทั้งคู่หันมาสบตากันก่อนที่นอร่าจะเบิกตากว้าง ส่วนผมนั้นดู ‘สับสน’ และ ‘อึดอัด’
เรามองหน้ากันไปเรื่อยๆ ก่อนที่บรรยากาศก่อนหน้านี้จะแทรกเข้ามาระหว่างเรา เป็นไปได้ยังไง? หนังที่เราดูกันอยู่กลายเป็นเรื่องรักต้องห้าม! เราสามารถจินตนาการถึงความอึดอัดของกันและกันได้เลย เราไม่ได้พูดอะไรขณะที่กลับมาโฟกัสที่ฉากนั้น แม้ว่าตัวของนอร่าจะสะดุ้งและสั่นเล็กน้อยก็ตาม
ภายในหนัง ข่าวนี้สร้างความตกตะลึงให้กับคู่รักทั้ง 2 ในขณะที่พวกเขาจ้องมองกันและกันด้วยความขมขื่น ความรักระหว่างพวกเขาถูกห้าม แต่หัวใจของพวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับมัน เนื่องจากสถานการณ์ทำให้พวกเขาห่างไกลจากกัน ทั้งคู่ต่างคิดว่าอีกฝ่ายรังเกียจความคิดที่จะอยู่ด้วยกัน ดังนั้นจึงมีกำแพงขวางกั้นระหว่างพวกเขา
ไม่นานสงครามก็ดำเนินต่อไปจนทำให้การติดต่อของพวกเขาลดน้อยลง ในที่สุดเด็กชายก็ได้รับข่าวว่าผู้หญิงที่เขารักถูกซุ่มโจมตี และเพื่อปกป้องเธอ เขาได้ไปยังสนามรบเพียงเพื่อมาพบเธอที่กำลังจะตาย คำพูดสุดท้ายที่พวกเขาพูดต่อกันมีเพียงความเสียใจ มีเพียงความตายเท่านั้นที่ทำให้พวกเขาเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ความเสียใจได้ชำระล้างพวกเขาทั้งคู่ เนื่องจากมุมมองไร้สาระบางอย่างที่ทำให้พวกเขาสูญเสียกันและกัน ในที่สุดการแสดงก็จบลงโดยที่หญิงสาวกำลังจะตายภายใต้อ้อมกอดของเด็กชาย
ความเงียบนั้นปกคลุมไปทั่วห้องและไม่มีการตอบสนองใดๆ จากนอร่า ผมมองไปทางเธอก่อนจะพบกับใบหน้าซีดเซียวของเธอ
‘เอาหล่ะ พาร์ทที่ 1 เสร็จสิ้น!’
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต