The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 226 Senior(2)
“บอกฉันทีออสตินว่านายเรียนการใช้ธนูมาจากไหน?”
คาร์เมลถามผมขณะจิบชา ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในห้องส่วนตัวกัน หลังจากยิงครั้งที่ 1 ได้ ผมก็ยิงไปอีก 2-3 ครั้งจนทำให้คนที่เหลือดูด้วยความงุนงง ในการยิงครั้งที่ 6 ผมก็ได้รับการยอมรับจากทุกคนแล้ว หลังจากการทดสอบเสร็จสิ้นคาร์เมลก็ต้องการคุยกับผมเป็นการส่วนตัว
ผมตอบตกลงไปและตอนนี้เราเลยมาอยู่กันที่นี่ คาร์เมลนั่งตรงข้ามกับผมบนโซฟาขณะกำลังดื่มชาด้วยความสง่างาม ในขณะที่ผมนั่งอยู่ตรงข้ามเธอพร้อมกับแก้วของผม ผมเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่สดชื่นที่เติมความคิดก่อนจะตอบกลับไป
“ผมมีอาจารย์ที่ดีหน่ะครับ”
“แล้วคนๆ นั่นเป็นใครงั้นเหรอ?”
คาร์เมลถามกลับด้วยแววตาเป็นประกาย เธอดูมั่นใจครึ่งๆ กลางๆ กับสถานะของผม ผมยิ้มให้เธออย่างรู้ทันพร้อมกับวางชาไว้ตรงหน้าบนโต๊ะตัวเอง
“แน่นอนว่าเป็นอาจารย์ของเราไงครับ รุ่นพี่”
“รุ่นพี่เหรอ?”
คาร์เมลถามพร้อมกับกระตุกร่างกายของเธอ ดูเหมือนเธอจะสับสนกับคำพูดของผม แถมทัศนคติของเธอที่มีต่อผมก็อบอุ่นขึ้นด้วย น้ำเสียงของเธอไม่มีข้อบกพร่องเลย คาร์เมลโดยธรรมชาติแล้วมีดีมากกว่าแค่ภายนอกและมองโลกในแง่ดีต่อทุกคน แต่ระดับของพวกเขาในทัศนคติของเธอนั้นแบ่งออกเป็นคนที่เธอพึ่งพบ, คนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนและคนที่เป็นศัตรูของเธอ
เราจะต้องไม่ดูถูกเธอเนื่องจากธรรมชาติที่มีชีวิตชีวาของเธอ ความจริงแล้วเนื่องจากสายเลือดทไวไลท์ของเธอ เธอควรจะเย็นชาและสงบมากกว่านี้ คาร์เมลมีปมในใจที่เปลี่ยนไปเมื่อเธอเผชิญหน้ากับศัตรู ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่เย็นชาและอันตราย
เธอเรียนรู้ที่จะควบคุมด้านนั้นของเธอเสมอ ทำให้มันเปลี่ยนไปก็ต่อเมื่อเธอเผชิญหน้ากับคนที่เธอไม่ชอบและเมื่อมันเกิดขึ้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เหตุผลกับเธอ เธอจะกลายเป็นดวงจันทร์ที่ส่องแสงในค่ำคืนที่เย็นชาที่สุด อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผมจะใกล้ชิดเธอมากขึ้นเพียงแค่บอกเธอว่าผมเป็นลูกศิษย์ของเอเลนอร์ นั่นแสดงว่าคาร์เมลเคารพเอเลนอร์มากเพียงใด
“ครับ ถูกต้องแล้วครับรุ่นพี่ คุณเองก็เป็นลูกศิษย์ของเอเลนอร์เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ? นั่นทำให้คุณกลายเป็นรุ่นพี่ของผม อาจารย์เคยเล่าเรื่องของคุณให้ฟังผมมากมายเลยครับ”
“จริงเหรอ?!”
คาร์เมลตอบสนองเล็กน้อยในขณะที่ร่างกายของเธอเอนมาข้างหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
ผมพยักหน้าตามคำพูดของเธอขณะที่พูด
“ใช่ครับ อาจารย์มักพูดเสมอว่าเธอไม่สามารถรับรุ่นพี่เป็นศิษย์ที่สมบูรณ์ได้ แต่เธอบอกว่าในใจของเธอ รุ่นพี่เองก็เป็นลูกศิษย์ของเธอเหมือนกันครับ”
“งั้นเหรอ…”
คาร์เมลตอบด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขแต่เศร้า สถานการณ์รอบตัวคาร์เมลค่อนข้างแปลกและยากที่จะฟันฝ่า ในเกมเราต้องเอาชนะพวกมันเพื่อเอาชนะใจคาร์เมล นั่นคือเงื่อนไขอย่างหนึ่งในการเข้าใกล้เธอมากขึ้น แม้ว่าตอนนี้จะไม่จำเป็นสำหรับผมก็เถอะ
ผมยิ้มเบาๆ เพื่อปลอบโยนเธอ
“อย่าเศร้าไปเลยครับรุ่นพี่ สักวันมันอาจจะเกิดขึ้นได้ก็ได้ ใครจะรู้ครับ?”
“อ่า…คงงั้น”
คาร์เมลถอนหายใจออกมาด้วยความสิ้นหวัง แต่เพียงไม่นานก่อนที่ตัวตนปกติของเธอจะกลับมา เธอพูดด้วยรอยยิ้มผ่อนคลาย โดยที่น้ำเสียงของเธอเจือไปด้วยความตื่นเต้น
“นี่! ช่างเรื่องนั้นเถอะ เล่าเรื่องเกี่ยวกับอาจารย์ให้ฟังหน่อยสิ เธอเป็นยังไงบ้าง? เจอกันที่ไหน? เล่าให้ฉันฟังทุกอย่างเลยนะ!”
“ได้ครับ แต่รุ่นพี่ต้องใจเย็นๆ ก่อนนะครับ”
เมื่อพูดจบผมก็โบกมือให้เธอใจเย็นๆ จนในที่สุดเธอก็เย็นลง ผมจึงเริ่มเล่าเรื่องการผจญภัยทั้งหมดของตัวเอง, การเรียนการสอนและความสนุกที่ผมมีกับเอเลนอร์ แน่นอนว่าผมข้ามข้อมูลสำคัญบางอย่าง เช่น การนอนกับเอเลนอร์ไป นอกเหนือจากนั้นผมก็เล่าถึงเรื่องอื่นๆ อย่างสนุกสนาน ทำให้คาร์เมลรู้สึกหลงทางและอิจฉาเล็กน้อย
“เห้อออ…นายทำเรื่องสนุกกับอาจารย์เยอะเลยนะ”
“ใช่ครับ เรา ‘สนุก’ กัน ‘เยอะ’ เลยแหละครับ”
ผมตอบเธอโดยคำพูดของผมซ่อนข้อมูลไว้มากเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้ ตอนนี้ผมได้คุยกับเธอเกี่ยวกับเรื่องราวส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น ระหว่างการพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ นี้พวกเราสนิทกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องค่อยๆ พัฒนาอย่างช้าๆ แต่มั่นคง
ผมสามารถใช้ข้ออ้างว่าต้องการ ‘ความช่วยเหลือ’ หรือแบ่งปัน ‘เรื่องราว’ เพื่อเข้าหาเธอได้เสมอ
ตั้งแต่นั้นมาผมก็สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายหน่อย แม้ว่าผมจะต้องระวังตัวมากๆ เพื่อไม่ให้ตกอยู่ไปใน ‘เฟรนด์โซน’ ของเธอก็เถอะ แตกต่างจากภายในเกมที่ผมไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ที่นี่ได้ และการตกอยู่ในโซนนั้นของเธอหมายถึงโทษประหารชีวิตสำหรับผม ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ผมพูดผมจะทำให้แน่ใจว่าจะหลีกเลี่ยงสิ่งที่ควร การเล่นในรูทของเธอหลายครั้งทำให้ผมรู้วิธีที่จะจัดการกับเธออย่างมีประสิทธิภาพ
“นายอยากเข้าชมรมยิงธนูใช่ไหม?”
“ครับ”
“นี่อาจเป็นปัญหานิดหน่อยแฮะ”
“ทำไมเหรอครับ?”
สำหรับคำถามของผม คาร์เมลได้แต่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เธอตอบ
“เพราะฉันไม่รู้ว่าจะให้ตำแหน่งอะไรกับนายดีหน่ะสิ โครงสร้างลำดับชั้นจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มีรองหัวหน้า 2 คนจะดีที่สุดในการจัดการชมรม การเพิ่มตำแหน่งที่ 3 ขึ้นมามีแต่จะทำให้เรื่องวุ่นวายมากขึ้น บวกกับทักษะของนายแล้ว ฉันสามารถให้นายเป็นหัวหน้าชมรมได้ด้วยซ้ำ แต่ว่า…”
“แต่ว่าคนอื่นจะไม่ยอมใช่ไหมครับ?”
ผมพูดจบเธอก็ผงกศีรษะ
‘อืมมม…นี่มันชักยุ่งยากแล้วสิ’
แม้ว่าเป้าหมายอย่างหนึ่งของผมคือการยกระดับชมรม แต่ผมก็อยากจะใกล้ชิดกับคาร์เมลมากขึ้นด้วย การสละตำแหน่งของเธอออกไปอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด แถมทุกคนที่นี่ก็นับถือเธออีกด้วย เธอคือผู้ที่ยึดชมรมที่แตกหักนี้และสร้างมันขึ้นมาใหม่ใน 3 ปี เธอจึงได้รับการสนับสนุนจากคนในชมรม
นอกจากนี้คือผมไม่สามารถต่ำกว่าเธอได้ แน่นอนว่านี่คือชมรมและเราไม่ควรเลือกปฏิบัติ แต่ผมยังคงเป็นผู้นำของกลุ่มอยู่และคาร์เมลก็เช่นกัน
การที่ผมอยู่ต่ำกว่าเธอในชมรมอาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มของผมทำให้พวกเขามีกำลังใจต่อต้านกลุ่มของคาร์เมลได้ยากขึ้นและเธอก็รู้เรื่องนั้นเช่นกัน นั่นจึงเป็นที่มาของปัญหา
“รุ่นพี่สร้างตำแหน่งพิเศษให้ผมไม่ได้เหรอครับ?”
“ตำแหน่งพิเศษงั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ”
ผมพยักหน้าและพูดต่อ
“ตำแหน่งที่ไม่ได้ต่ำกว่าคุณหรือเหนือใคร ตำแหน่งพิเศษที่มีเพียงคนเดียวในชมรมเท่านั้นที่จะดำรงตำแหน่งนี้ได้ครับ”
“อืมมม…ก็ไม่แย่ แต่นายแน่ใจเหรอว่านายไม่ต้องการเป็นประธานหน่ะ?”
“ผมแน่ใจครับ ผมแค่ต้องการยกระดับชมรมยิงธนูให้ไปสู่จุดสูงสุดและพบกับรุ่นพี่ของผมเท่านั้น นอกนั้นผมก็ไม่สนใจเรื่องที่เหลือแล้วครับ ไม่ใช่ว่าคุณเป็นรุ่นพี่ของผม ผมจึงควรฟังที่รุ่นพี่พูดงั้นเหรอครับ?”
“ฮิฮิฮิฮิ…”
“ขำอะไรเหรอครับ?”
ผมถามคาร์เมลที่ตอนนี้กำลังหัวเราะคำถามของผม
คาร์เมลยิ้มให้ผมขณะที่เธอพูด
“เปล่า ก็แค่ว่านายแตกต่างจากที่ฉันคิดไว้นิดหน่อยหน่ะ”
“รุ่นพี่คิดว่าผมเป็นยังไงเหรอครับ?”
“เย่อหยิ่ง, ตรงไปตรงมาและเป็นคนที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใครหน่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ผมก็ผงะไปก่อนจะตอบกลับไป
“รุ่นพี่พูดถูกแล้วครับ ผมเป็นแบบทั้งหมดที่คุณพูดมานั่นแหละครับ แต่มันต่างกับรุ่นพี่ครับ”
“ทำไมหล่ะ?”
คราวนี้เป็นคาร์เมลที่ดูสับสนเล็กน้อย แต่ผมไม่ได้ปล่อยให้เธอค้างคาในขณะที่ตอบกลับไป
“เพราะรุ่นพี่คือครอบครัวครับ”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต