The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 231 Meeting(2)
“ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมครับ?”
ผมพูดและรอนก็ฟื้นจากความงุนงงหลังจากที่ได้ยินเสียงของผมเท่านั้น นัยน์ตาที่สงบนิ่งของเขาแข็งกร้าวขึ้นชั่วขณะ แต่ก็หายไปเร็วเหมือนกับที่มันมาก่อนเขาจะหายใจออกพร้อมกับยิ้มในขณะที่พูด
“จริงๆ ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินนายและกลุ่มของนายต่ำเกินไปสินะ”
“ผมจะถือว่าเป็นคำชมนะครับ”
ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ผมบอกได้เลยว่าแรงจูงใจของเขาไม่ใช่แค่การสร้างพันธมิตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการขุดคุ้ยว่าผมเป็นคนแบบไหนด้วย ผมต้องยอมรับว่าเขาเป็นผู้นำการพูดคุยได้ดี ทุกการเคลื่อนไหวของเขาถูกวางแผนและคำนวณมาแล้ว แม้แต่ในเกมที่เขาเป็นคู่แข่งที่ต้องเผชิญหน้าแต่ตอนนั้นเป็นเพียงการโต้เถียงกันในเหตุการณ์หนึ่งเท่านั้น
ในฐานะที่เป็นเกมจีบสาวเรื่องราวมักเน้นไปที่ตัวละครผู้หญิงมากกว่า ดังนั้นผมจึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเขาจากในเกมมากนัก แต่ในชีวิตจริงตอนนี้ผมสามารถบอกได้เลยว่าเขาไม่ใช่คนที่น่าล้อเล่นด้วย แต่ผมไม่กลัวเลย ผมมีเทพธิดายันเดเระคอยสปอยล์และเป็นแบ็คให้อยู่ แค่ผมพูดคำเดียวก็จบแล้ว
และแม้จะไม่มีสิ่งนั้น แต่ด้วยพรที่ผมมี, การที่ไม่สามารถถูกฆ่าได้, สามารถชุบชีวิตคนตายได้ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็สามารถทำให้ทีมที่กำลังจะตายชนะได้ในจังหวะสุดท้าย อย่างไรก็ตามผมสามารถนำนอร่ากลับมาสู่สภาพสุดยอดของเธอได้อย่างง่ายดาย เมื่อเธอเคยต่อสู้กับนักฆ่าทั้ง 3 คนมาก่อน
เป็นความสามารถพิเศษที่จะใช้ในการต่อสู้แบบทีม ลองนึกดูว่าเมื่อศัตรูของคุณหมดแรงแล้ว แต่ในวินาทีต่อมา พวกเขาจะอยู่ในสภาพสูงสุด แม้แต่ความแข็งแกร่งทางจิตใจของพวกเขาก็จะกลับคืนมา! เท่านี้ก็มากเกินพอแล้วที่จะหว่านความสิ้นหวังในทุกสมรภูมิ
“ฮึ่มมม ก็แค่เด็กเหลือขอหน้าตาดีที่คิดว่าตัวเองเก่ง”
เสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูกเล็กน้อยดังมาถึงหูของผม ทำให้ผมหันมองไปที่ปีศาจที่มีผิวสีแดงและดวงตาทั้งสี่ดวงบนใบหน้าของเขา รูปลักษณ์ของเขาดูธรรมดา แต่แรงกดดันที่หายใจไม่ออกถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา การมองเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่าไม่ควรยุ่งกับเขา
ผมพูดโดยเน้นที่เขา
“มีปัญหาเหรอครับไอ้ 4 ตา?”
“แกไอ้-”
ปีศาจ 4 ตาไม่สามารถพูดจบคำพูดได้ เนื่องจากออร่าของดาบขนาดใหญ่ที่พุ่งไปที่ร่างกายของเขา ทำให้เขาตัวสั่น
ไมค์ที่อยู่ข้างหลังผมกำลังมองปีศาจคนนั้นด้วยสายตาเยือกเย็น ไม่ใช่แค่เขาคนอื่นๆ เองก็มีดวงตาที่แข็งกร้าวขึ้นเช่นกัน พวกเขากำลังรอสัญญาณของผมเพื่อที่จะระเบิดออกมา
แต่แล้วออร่าจากรอนก็ปล่อยออกมาเพื่อยับยั้งไมค์
‘เขาแข็งแกร่ง’
ขณะจดจ่อกับความคิดของตัวเอง ผมก็มองไปที่รอนที่ตอนนี้ยังมีรอยยิ้มสงบอยู่บนใบหน้าของเขา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ผมก็ถอนหายใจออกมา ผมเบื่อกับเรื่องไร้สาระนี้แล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เขากำลังทดสอบผมอยู่ ไม่มีทางที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจะพูดในที่ประชุมของเรา นอกเสียจากว่าเขาจะถูกบอกให้สร้างปัญหา
“พวกนายทำสิ่งที่อยากทำได้เลย”
และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องได้ยินในวินาทีต่อมาที่มาร์คหายตัวไปจากจุดที่เขายืนอยู่ ในพริบตาเดียวเขาก็ไปอยู่ต่อหน้าปีศาจ 4 ตาแล้วในขณะที่ดาบใหญ่ของเขาเคลื่อนออกไปพร้อมกับเสียงสนั่นที่ดังขึ้น
ปีศาจคนนั้นถูกส่งออกไป ขณะที่รินะมีรอยยิ้มที่กระหายการต่อสู้พร้อมกับที่แขนของเธอขยายใหญ่ขึ้นเป็น 2 เท่าก่อนจะต่อยออกไปโดยตั้งใจที่จะบดขยี้ปีศาจอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังรอน
เจค็อบส่งเสียงร้องอย่างหิวโหยให้กับเราในขณะที่ร่างกายอันใหญ่โตของเขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่น่าประหลาดใจเพื่อต่อยไปที่รอน! ในขณะเดียวกันอเล็กซ์และมิกะก็ยืนอยู่ข้างหน้าผมในฐานะผู้คุ้มกัน ดาบของมิกะอยู่ในมือของเธอ ขณะที่ดวงตาของอเล็กซ์กวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อหาการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดโดยมีมีดสั้นอยู่ในมือของเขา
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในไม่กี่วินาทีที่บางคนไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น เวลาดูเหมือนจะเดินช้าลงเมื่อไมค์เดินออกไปเพื่อโจมตี มือที่บวมของรินะไปถึงปีศาจ ในขณะที่มือของเจค็อบเอนไปทางหัวของรอนซึ่งยังคงจับจ้องมาที่ผมอยู่
เมื่อเห็นอย่างนั้นผมก็ยกมือขึ้นและชูนิ้วกลางให้เขา ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีความหมายอะไรที่โลกนี้ไหม แต่มันโคตรรู้สึกดีเลย
ตู้มมมม!
เจค็อบที่กำลังเคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อโจมตีรอนได้กระเด็นออกไปก่อนที่ร่างของเขาจะชนกำแพง มือของรินะถูกขัดขวางโดยบาเรียที่สร้างขึ้นรอบๆ ปีศาจที่เธอเล็งไว้ แต่รอยร้าวได้เริ่มปรากฏรอบๆ บาเรียแล้ว
รอยยิ้มที่กระหายการต่อสู้บนใบหน้าของรินะขยายออก
“ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
รอนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ผมเอนหลังอย่างเย่อหยิ่งขณะวางขาข้างหนึ่งทับอีกข้างหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น
“แกสนใจเรื่องนั้นด้วยเหรอ? ฉันมาที่นี่เพราะแกเรียกฉันมา และตั้งแต่ฉันมาถึง สิ่งที่แกทำก็แค่ทดสอบฉัน แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? เป็นพ่อฉันเหรอ? แกคิดว่าเพราะตัวเองเป็นเจ้าชายที่กำลังนั่งอยู่บนหลังม้างั้นเหรอ?”
คำพูดของผมแล่นไปทั่วห้องทำให้พวกปีศาจต้องตะลึงที่ไม่เคยคาดคิดว่าภาษาปากร้ายแบบนี้จะออกจากปากผม แม้แต่รอนก็ดูประหลาดใจแต่คนที่มากับผมกลับยิ้มเพราะพวกเขารู้ว่าผมเป็นยังไง สุดท้ายผมก็ยังเป็นขุนนางอยู่ดี ผมควรจะรักษาความสง่างามบางอย่างไว้ แต่ทำไมผมถึงต้องสนใจเรื่องนั้นด้วยหล่ะ? แม้แต่ตระกูลไลออนฮาร์ทก็มีพื้นเพมาจากทหาร
ปู่คนปัจจุบันของผมเคยบอกว่าถ้าผมไม่ชอบใคร ผมมีสิทธิ์เต็มที่ๆ จะด่าคนๆ นั้น! และนั่นคือสิ่งที่ผมกำลังจะทำ
“ไอ้สารเลว! แกกล้าดียังไง!”
ปีศาจที่เป็นอิสระกำลังจะโจมตีผมแต่เขากลับถูกอเล็กซ์และมิกะหยุดไว้ซะก่อน ส่วนไมค์ก็กลับมาพร้อมกับเจ้า 4 ตาที่ถูกกระทีบอย่างหนัก เมื่อมองไปที่มันลูกทีมที่เหลือของผมก็ยิ้มออกมา
มิกะชักดาบใหญ่ของเธออีกครั้งเพื่อเอาจัดการกับคนที่เหลือ แต่แล้วประตูห้องก็ถูกเปิดออกในขณะที่ปีศาจหลายร้อยตัวเปล่งออร่าออกมาว่าพวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้แล้ว
อาวุธชนิดต่างๆ เต็มมือขณะที่พวกเขาชี้มาที่เรา ตอนนี้กลุ่มของผมกลับมาอยู่ข้างผมเพื่อปกป้องผมจากทุกทิศทาง สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นห่วงความเป็นอยู่ของผมเหนือสิ่งอื่นใด
“พอก่อน”
รอนโบกมือเป็นเชิงให้ปีศาจวางอาวุธลง
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วพวกปีศาจก็ทำตามกัน แต่ถึงกระนั้นความระมัดระวังของพวกเขาก็ไม่ได้ลดลงขณะที่พวกเขาล้อมรอบเรา
“วันนี้นายทำผิดพลาดครั้งใหญ่ออสติน”
“โอ้…กัดฉันสิ”
ผมตอบเขาอย่างกวนๆ ทำให้รอนคิ้วขมวด
รอนมองกลุ่มของผมอยู่ครู่หนึ่งโดยมีนัยน์แห่งความอิจฉาฉายชัดในดวงตาของเขาก่อนที่จะพูดออกมา
“ออกไปซะ”
และสิ่งที่เราทำคือเราถูกกลุ่มปีศาจที่โกรธเกรี้ยวและโกรธจัดพาเราออกไปข้างนอก ในไม่ช้าเราก็เห็นทางนอกสถานที่สีดำขนาดใหญ่ที่มีความเงางามเป็นพิเศษ หลังจากพื้นที่ทั้งหมดถูกจัดสรรให้กับรอนแล้ว ปีศาจที่ทรงพลังจำนวนมากซึ่งอยู่ในกลุ่มของเขาก็ออกลาดตระเวนในพื้นที่
ในไม่ช้าความโกลาหลเล็กน้อยก็เกิดขึ้นในขณะที่เรากำลังถูกโยนออกไปนอกวังโดยมีปีศาจเฝ้าดูอยู่
“เอาไงต่อหล่ะออสติน?”
อเล็กซ์ถามขณะที่เดินเข้ามาหาผม
ผมทำเพียงแค่ตอบกลับไปง่ายๆ
“เตรียมพร้อมสำหรับสงคราม”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต