The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 35 Chaos(6)
หลังจากที่เอเลนอร์หายตัวไป ผมก็ล้มลงกับพื้นทันที ตอนนี้ผมมีเลือดออกอยู่หลายจุดและเกือบจะตายไปแล้ว ถ้าผมไม่รักษาตัวเองตอนนี้ ผมมั่นใจเลยว่าจะต้องตายเพราะเลือดออกแน่ๆ หูของผมอื้อจากเสียงกรีดร้องของพวกนอร่าและในหัวเต็มไปด้วยความคิดที่ไร้ประโยชน์มากมาย
“ร -ระบบ ร -รีบเอายามาให้ฉันดื่มเร็ว”
[ ซื้อสินค้าเรียบร้อย กำลังจัดส่ง ]
ทันใดนั้นภาชนะที่บรรจุของเหลวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของผมอย่างรวดเร็ว ฉันนอนอยู่บนพื้นอย่างหมดหนทางขณะมองไปที่มัน ผมดันตัวเองขึ้นมาก่อนจะใช้มือข้างเดียวที่ยังใช้ได้อยู่ยกขวดยาขึ้นและใช้ความพยายามทั้งหมดในการรีบดื่มมันเข้าไปในรวดเดียวก่อนจะล้มลงสู่พื้นดินอีกครั้ง
การรักษาลึกลับเริ่มไหลผ่านผมอย่างรวดเร็วและทำให้ร่างกายของผมกลับมาเป็นเหมือนเดิม แม้ว่ามันจะช้ากว่าก่อนหน้า อัตราการรักษาในปัจจุบันช้ากว่าครั้งก่อนอย่างน้อย 10 เท่า
ผมดีใจมากที่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่อย่างนั้นผมอาจจะนอนร้องอยู่บนพื้นก็ได้ ไม่ว่าจะยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด ผมไม่คิดว่าการถูกมีดสั้นหลายเล่มแทงจะเป็นความรู้สึกที่น่ายินดีหรอกนะ
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้ชมทุกคนประทับใจที่เห็นเด็กชายอายุ 11 ปีมีความอดทนต่อความเจ็บปวดหรือกล้าหาญขนาดนี้ มีคนเก่งมากมาย แต่คนที่สู้ต่อถึงแม้จะต้องเจ็บปวดขนาดนั้นมันน่าประทับใจมาก
เห้ออออ…ถ้าพวกเขารู้ความจริงหล่ะก็
ในขณะที่ผมกำลังท่องไปในจินตนาการต่างๆ เพื่อลืมสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเอง เสียงของ AI ที่ไร้อารมณ์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“บุคคลที่ไม่รู้จักได้เข้ามาขัดขวางการทดสอบ ทำการดัดแปลงแก้ไขการทดสอบ คำนวณมาตรการตอบโต้”
‘ห้ะ?’
‘เดี๋ยว…ว่าไงนะ?’
“คำนวณมาตรการตอบโต้เรียบร้อย ระดับความยากในรอบต่อไปจะถูกเพิ่มขึ้น”
“รอบสุดท้ายจะเกิดขึ้นในอีก 10 นาทีหลังจากนี้”
“ขอให้โชคดี”
‘เxี้ยอะไรเนี่ย?’
‘แกเพิ่มความยากเพราะเอเลนอร์งั้นเหรอ?’
‘แม้ว่าเอเลนอร์จะไม่เข้ามายุ่ง ฉันก็ไม่เป็นไรหรอกโว้ย!’
ที่ผมพูดไม่ใช่เรื่องโกหก หลังจากที่ผมรู้ว่าตัวเองเสียชีวิตอย่างไม่รู้ตัวจากการโดนยิงและหลังจากมายังโลกนี้ได้ซักพักผมก็รู้ว่ามันอันตรายกว่าโลกเก่าของผมมาก ผมได้สร้างมาตรการช่วยชีวิตตัวเองเอาไว้มากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา
แม้ว่าใบมีดจะทะลุผิวหนังของผมไปหลายชั้น แต่เวทที่ผมซ่อนไว้ในร่างกายของผมก็สามารถไอ้นักฆ่าเวรนั่นได้แน่ๆ
แล้วนี่ผมต้องทนทุกข์เพื่อสิ่งนี้เหรอ?
‘เดี๋ยวนะ พวกมันทั้งหมดจะออกมาด้วยกันในทีเดียวงั้นเหรอ?’
‘ถ้างั้นผมควรจะซื้อระเบิดลูกใหญ่แล้วค่อยระเบิดพวกมันให้หมด’
ทันใดนั้นความเครียดของผมก็หายไปและเริ่มผ่อนคลาย
‘เฮ้ระบบ ซื้อระเบิดลูกมหึมาให้ฉันทีสิ’
[ ระบบขอแนะนำว่าโอสอย่าทำแบบนั้นดีกว่า ]
‘ทำไมหล่ะ?’
[ ขณะนี้พื้นที่ถูกจำกัดอยู่ ]
[ แถมคงจะดีกว่าสำหรับโฮสที่จะชนะการทดสอบนี้ด้วยความแข็งแกร่งของโฮสเอง หากโฮสต้องการปลุกสายเลือดของตัวเอง ]
ผมเลิกคิ้วให้กับประโยคสุดท้าย นี่เป็นครั้งแรกที่ระบบขี้เหนียวพูดอะไรที่มีค่าโดยที่ผมไม่ต้องจ่ายเงิน
‘ดูเหมือนว่าเราจะพึ่งได้เพียงตัวเองในตอนสุดท้าย’
แม้ว่ายาที่ผมดื่มเข้าไปจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ผมฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ แต่มันก็ช่วยรักษาชีวิตผมไว้ได้ชั่วคราว
ผมถอนหายใจกับตัวเองและรีบหาของบางอย่างจากในแหวนมิติก่อนจะหยิบขวดบรรจุของเหลวออกมา ซึ่งมันแตกต่างจากขวดบรรจุของเหลวอื่นๆ เนื่องจากมันให้ความรู้สึกลึกลับและพลังชีวิตจำนวนมาก
[ ไอเท็ม : น้ำทิพย์ของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
คำอธิบาย : น้ำหวานที่ได้มาจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิต กล่าวกันว่ามันสามารถชุบชีวิตคนตายได้
การใช้งาน : การดื่มสิ่งนี้จะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ โรคภัยไข้เจ็บทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์และทำให้คุณกลับสู่สภาวะสูงสุด
ราคา : 300,000 ]
ไอเท็มชิ้นนี้มาราคาแพงมาก ฉันโชคดีที่พบมันในการประมูลครั้งหนึ่ง ผมเจ็บปวดใจที่จะต้องดื่มมันเพราะผมรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีหลังจากนี้ตัวเองจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันอีกครั้ง ฉันเก็บไว้ในกระเป๋าด้านในเพื่อป้องกันและหยิบได้สะดวก
ผมเปิดมันอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้เสียเวลาเปล่า กลิ่นหอมหวานและผ่อนคลายสุดๆ ปรากฏขึ้นก่อนที่ผมจะดื่มมันอย่างรวดเร็วโดยไม่รอช้า
‘ว้าว’
รสชาติมันหวานเกินไป มันเหมือนกับอะไรบางอย่างที่ผมไม่สามารถอธิบายได้ ผมรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังละลาย อาการบาดเจ็บทั้งหมดของผมหายไปอย่างรวดเร็วและมานาที่ผมใช้ไปก็ฟื้นตัวขึ้นมากจนทำให้ผู้ชมต่างประหลาดใจ
ผมยืนขึ้นและรู้สึกถึงพลังในร่างกายของตัวเอง ตอนนี้ร่างกายของผมไม่หลงเหลืออาการบาดเจ็บใดๆ อีกแล้ว แต่ร่างกายของผมยังคงเต็มไปด้วยเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้าและดูเหมือนขอทานอยู่ดี
เมื่อเห็นว่าผมเหลือเวลาอีกเพียง 5 นาที ผมก็เริ่มเตรียมตัวโดยมองไปที่คันธนูของตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเห็นว่ามันมีฝุ่นและรอยแตกอยู่ ดูเหมือนว่าคันธนูของผมจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
ขณะมองไปที่พวกนอร่าผมก็เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของพวกเธอปรากฏอยู่ ดังนั้นผมเลยเข้าไปหาพวกเธอเพื่อพูดคุยกันนิดหน่อย ตอนนี้พวกเธอกำลังนอนอยู่ในบาเรียโดยไม่สามารถขยับตัวได้ สายตาของพวกเธอมองมาตามร่างกายที่โชกไปด้วยเลือดของผม
พวกเธอรู้ว่ารอบต่อไปจะเป็นรอบสุดท้ายแล้ว แต่พวกเธอไม่รู้ว่าผมจะรอดผ่านมันไปได้ไหม ผมเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเอลด้าเมื่อเธอมองมาที่ร่างกายอันบอบช้ำของผมและความไม่เต็มใจที่ไหลผ่านนอร่าในสถานการณ์ปัจจุบัน
ผมยืนอยู่ต่อหน้าพวกเธอโดยไม่ได้พูดอะไรมากมายนัก
“ผมจะชนะครับ”
พูดอย่างนั้นแล้วผมก็ยืนขึ้นข้างหน้าพวกเธอเพื่อรอคลื่นลูกต่อไป
และแล้วเวลา 5 นาทีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ระฆังดังขึ้นเพื่อประกาศเริ่มบททดสอบรอบสุดท้าย ร่างหลายร่างเริ่มปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว คราวนี้เป็นสัตว์ประหลาดจำนวน 60 ตัว!! และรอบนี้ก็มีความแตกต่างไปจากเดิมเช่นกัน เนื่องจากตรงกลางของกลุ่มมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งซึ่งแตกต่างจากตัวอื่นๆ อย่างชิ้นเชิงยืนอยู่ มันยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนเป็นผู้บัญชาการที่พร้อมจะนำกองทัพของตัวเองและพวกมันตัวอื่นๆ ที่ปรากฏตัวขึ้นมาก็ยืนกันอย่างเป็นระเบียบราวกับได้รับการฝึกฝนมา
ครั้งนี้ผมไม่ได้เผชิญหน้ากับฝูงไก่ไร้หัวแต่เป็นทหารฝึกหัดกลุ่มหนึ่งที่มีผู้นำ
‘ดูเหมือนว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเลวร้ายสุดๆ เลยนะ’
โดยไม่รีรอผมรีบหยิบลูกธนูออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อจัดการพวกมันที่อยู่กันเป็นฝูงผมควรฆ่าเจ้าตัวที่ดูเหมือนเป็นผู้นำนั่นก่อนและค่อยจัดการตัวอื่นทีหลัง
ทันทีที่การทดสอบเริ่มขึ้น เจ้าตัวถือธนูก็ชักคันธนูขึ้น มือสังหารหายตัวไปจากสายตาของผม จอมเวทย์เริ่มร่ายเวทและนักรบก็ชูโล่ขึ้นเพื่อปกป้องตัวพวกมันเอง
‘ดูเหมือนว่าผมจะต้องทุ่มสุดตัวกับรอบนี้แล้ว’
โดยไม่รอช้า ผมเปิดใช้งานกลไกป้องกันของผมในทันที แหวนมานาที่ผมสวมอยู่เริ่มส่งมานาจำนวนมากให้ผมเพื่อสร้างเกราะป้องกันปกคลุมทุกส่วนที่สำคัญของผมอย่างรวดเร็ว
ผมใช้มานาส่วนเกินที่ไหลผ่านเปิดใช้งานเวทเต็มกำลัง ผมได้ร่ายเวทบัพเพิ่มความเร็ว, ความแข็งแกร่งและพละกำลัง
หลังจากนั้นสงคราม 1-60 ก็ได้เริ่มขึ้น…ในกรณีนี้น่าจะเป็นการลุมยำคนๆ เดียวมากกว่า
ภายใต้คำสั่งของผู้บัญชาการ พวกสัตว์ประหลาดทั้งหมดก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ผมไม่ได้อยู่นิ่งและง้างธนูหลายดอกก่อนจะยิงใส่พวกมันออกไปโดยเล็งไปที่จุดอ่อนที่ผมเห็น
เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เจ้าพวกมือสังหารหลายตัวต่างลุมใช้มีดฟันมาที่ผม แต่คราวนี้ผมรีบถือธนูไว้ด้วยมือข้างเดียวและหยิบมีดขนาดเล็กออกมา โดยผมได้ใช้มันเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและฆ่าเจ้ามือสังหารไป 2 ตัวขณะที่ดวงตาของผมกลายเป็นสีทองและดำ
ในเวลาเดียวกันนั้นเองลูกธนูหลายดอกก็พุ่งเข้ามาหาผมและบาเรียที่ปกป้องพวกนอร่าอยู่ โดยไม่รอช้าผมก็ร่ายเวท [ พายุหมุน ] เพื่อทำให้พวกมันเปลี่ยนทิศทางออกไป ในขณะที่ยิงธนูแห่งความโกลาหล 2 ดอกไปทางสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ ที่กำลังเข้ามาใกล้ผม
แต่ในขณะที่ลูกธนูกำลังเข้าไปใกล้พวกมัน จอมเวทตัวอื่นๆ ก็ได้เบี่ยงเบนทิศทางของพวกมันให้ไม่เกิดผลใดๆ เลย เช่นเดียวกับที่ผมยิงใส่เจ้าพวกมือสังหารที่โผล่มาใกล้
ผมรีบเปลี่ยนอาวุธเป็นมีดและเริ่มสู้กับพวกมันด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของตัวเอง ผมสามารถจัดการพวกมันได้ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว แต่ขณะที่ผมกำลังสู้กับพวกมัน จอมเวทและนักธนูก็เริ่มยิ่งไปที่บาเรียที่พวกนอร่าอยู่
บาเรียเริ่มมีรอยร้าวมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นแบบนั้นผมจึงรีบผลักและฆ่าเจ้าตัวเหมือนมือสังหารอย่างรวดเร็วและพยายามสร้างพื้นที่ร่วมกับพวกมัน แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกทีผมก็ถูกล้อมซะแล้ว
ขณะที่ผมกำลังสู้กับพวกมันบางตัวอยู่ พวกมันตัวอื่นๆ ก็ก่อตัวเป็นวงกลมอย่างรวดเร็วและเริ่มล้อมรอบตัวผม ขณะที่มีทั้งเจ้าตัวถือดาบและหอกที่อยู่ข้างพลังของผมเพื่อตัดเส้นทางหนึของผม
เมื่อเห็นว่าไม่มีวิธีอื่นแล้วผมเลยเริ่มสู้กลับไปมากขึ้น แต่มันก็เริ่มยากขึ้นในตอนที่การโจมตีเริ่มเข้ามาที่หลังของผมแม้ว่าผมจะยิงธนูออกไปแล้ว รอยร้าวของโล่ก็ไม่ได้ถูกหยุดแต่อย่างใด
ผมรีบขว้างระเบิดควันเพื่อซ่อนตัวเอง แต่มันกลับถูกเวทลมพันออกไปอย่างรวดเร็ว ผมก็ไม่สามารถใช้เจ้าสร้อยข้อมือล่องหนนั่นได้เหมือนกันเพราะการโจมตีทั้งหมดจะถูกดึงดูดไปทางบาเรียของพวกนอร่าแทน
ผมเริ่มได้รับอาการบาดเจ็บมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเช่นนั้นผมก็รีบนำมีของผมไปวางไว้บริเวณหน้าอกเพื่อรวบรวมมานาจำนวนมากก่อนจะทำการฟันออกไป โดยการฟันนั้นได้ทำให้เจ้าสัตว์ประหลาดที่อยู่ใกล้ๆ ผมถูกตัดออกและพยายามถอยกลับ
ผมต้องเคลื่อนไหวให้เร็วเพราะบาเรียกำลังพังทลาย
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต