The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 36 Awakening(1)
เมื่อฟันเจ้าพวกสัตว์ประหลาดจนหมดผมก็ได้พื้นที่หายใจในทันที ผมใช้ช่วงเวลานั้นง้างคันธนูเพื่อยิงธนูเปลวเพลิงทั้ง 2 ดอก โดยเล็งไปยังพวกสัตว์ประหลาดที่โจมตีบาเรียอยู่เพื่อสร้างกำแพงไฟปิดทางพวกมันไว้
หลังจากนั้นผมก็เปิดใช้งานสร้อยข้อมือล่องหนอย่างรวดเร็วเพื่อเคลื่อนที่ผ่านสิ่งกีดขวางรอบๆ ผมค่อยๆ เดินผ่านพวกสัตว์ประหลาดที่กำลังสับสนหลังจากที่พวกมันเห็นว่าเป้าหมายหายตัวไป ผมเดินท่ามกลางพวกมันมาจนถึงด้านหน้าของบาเรียที่ซึ่งมีเปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับกำลังลุกไหม้อยู่
ผมหยุดยืนอยู่ตรงพื้นที่ว่างตรงนั้นก่อนจะปลดการใช้งานสร้อยข้อมือและรีบง้างลูกธนูว่างเปล่าและยิงไปยังผู้บัญชาการของพวกมัน ในขณะที่ลูกธนูพุ่งเข้าหามัน เจ้าพวกตัวถือโล่ก็มายืนอยู่ข้างหน้าผู้บัญชาการของพวกมันอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดกั้นลูกธนู แต่ลูกธนูกลับผ่านเจ้าตัวถือโล่และบินไปทางผู้บัญชาการของพวกมัน
แต่แทนที่ลูกธนูจะโดนเจ้าผู้บัญชาการนั่นมันกลับหลบได้และทำลายลูกธนู
‘มันเหมือนมันจะไม่ได้ดูดีแค่รูปร่างภายนอก’
ผมยืนหลังตรงขณะมองดูสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเอง ผมกำลังถูกสัตว์ประหลาดประเภทต่างๆ โจมตีจากรอบทิศทางและสิ่งที่ผมมีนั่นมีแค่ธนูกับลูกธนูเท่านั้นเอง
ผมยิ้มขึ้นมาก่อนจะรวบรวมมานาทั้งหมดและหยิบลูกธนูออกมา 3 ดอก ลูกธนูน้ำแข็ง, เปลวเพลิง และว่างเปล่า จากนั้นก็รายเวท [รวม]
ทันใดนั้นลูกธนูทั้ง 3 ประเภทก็รวมตัวกัน เมื่อพวกมันรวมกันเป็นหนึ่งเดียวก็กลายเป็นลูกธนูที่สะดุดตาอย่างยิ่งและยิงพวกมันออกไปในทันที
ผมโฟกัสไปที่พวกสัตว์ประหลาดข้างหลังของผมเพื่อกำจัดอันตรายที่พวกมันอาจจะก่อขึ้นทีหลัง
หลังจากผ่านไปครึ่งนาทีผมก็หยุดยิงและเห็นว่าพวกสัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างหลังผมหายไปหมดแล้วและเหลือตัวอื่นๆ อยู่อย่างน้อย 30 ตัว
ในตอนนั้นเองผมก็ได้ยินเสียงแตกก่อนจะเห็นว่าบาเรียที่กำลังปกป้องพวกนอร่านั้นแตกออกพร้อมๆ กับที่ลูกธนูตกลงมาจากท้องฟ้า ผมหันไปมองรอบๆ และเห็นว่าเจ้าตัวผู้บัญชาการนั้นได้รับการปกป้องจากพวกทหารที่อยู่อย่างแข็งแกร่ง
เอลด้าและนอร่ามองดูฝนลูกธนูที่ตกลงมาอย่างรวดเร็ว พวกเธอหลับตาเพื่อยอมรับชะตากรรมของตัวเองแล้ว บางทีมันอาจจะดีกว่าเพราะหลังจากที่พวกเธอเสียชีวิต บางทีออสตินอาจจะรอดชีวิตก็ได้
แต่แม้พวกเธอจะหลับตาไปแล้ว 2-3 วินาทีแล้วกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย พวกเธอจึงลืมตาขึ้นก็พบกับร่างของออสตินที่ยืนตระหง่านอยู่เหนือพวกเธอพร้อมกับลูกธนูจำนวนมากที่พุ่งเข้าใส่เขา!!
เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากร่างกายของออสติน แต่เขายังคงยืนอยู่อย่างมั่นคงเพื่อปกป้องพวกเธอ
“ออสติน!”
“พี่ชาย!!”
นอร่าและเอลด้าร้องเรียกผมด้วยความสิ้นหวัง แต่ผมไม่ได้ตอบพวกเธอไปและทำเพียงแค่ยิ้มบางๆ ให้พวกเธอ ซึ่งนั่นทำให้น้ำตาที่ร่วงหล่นของพวกเธอยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ในขณะเดียวกันที่ห้องรับชม เอเลนอร์ได้ทำลายกระเบื้องที่อยู่ใต้ตัวเธอด้วยการปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเธอออกมาด้วยความโกรธ!
เกรซน้ำตาไหลพรากในขณะที่หัวใจของเธอใกล้จะแตกสลายแล้ว
แรงกดดันจากเอเลนอร์ทำให้คนอื่นๆ ถูกผลักกระเด็นอย่างรวดเร็ว
“โลกประวัติศาสตร์ของพวกเจ้าเชื่อมต่อกับที่ไหน?”
เสียงของเอเลนอร์แผ่วเบา แต่พลังในแต่ละคำพูดของเธอนั้นไม่ใช่เลย ดวงตาของจักรพรรดิคลอสเป็นประกายด้วยความโกรธ
“จักรพรรดินีธนูจนถึงตอนนี้ข้าอดทนกับเจ้าด้วยความจริงที่ว่าเจ้าเป็นอาจารย์ของออสติน แต่สิ่งที่เจ้าทำตอนนี้มันมากเกินไปแล้ว”
แทนที่จะตอบกลับ เอเลนอร์เริ่มหัวเราะออกมาเสียงดังแทน หลังจากหัวเราะไปได้สักพักเธอก็พูดขึ้น
“เจ้าเป็นปู่ทวดภาษาอะไร?”
เสียงของเอเลนอร์เต็มไปด้วยการเสียดสี
“เจ้าหมายความว่ายังไง?”
“ที่นั่นเจ้าเห็นลูกหลานของตัวเองคนหนึ่งต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอยู่รึเปล่า? ทำไมเด็กอายุ 11 ปีต้องเสี่ยงชีวิตทำในสิ่งที่พวกเจ้าต้องทำด้วย?”
“และตอนนี้เจ้ากำลังดูเขาเหมือนกับดูการแสดงโดยไม่พยายามจะทำอะไรสักอย่าง”
“เจ้าไม่เหมาะที่จะเกี่ยวข้องกับออสตินด้วยซ้ำ เขามีความกล้าหาญมากกว่าเจ้าเจ้าที่อยู่มาหลายร้อยปีหลายเท่านัก”
คำพูดแต่ละคะของเอเลนอร์กระทบจิตใจของบรูซในทันที ทำให้ความโกรธของเขาพลุ่งพล่านขึ้นมา แต่เขายังคงควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้อยู่ เขาไม่ได้ใช้ชีวิตตลอดมาโดยไม่รู้วิธีควบคุมอารมณ์ของตัวเองหรอกนะ
“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำยังไงหล่ะ?”
“เจ้าก็รู้ดีว่าไม่มีอะไรที่พวกเราสามารถทำได้”
เอเลนอร์กัดริมฝีปากของเธอเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอรู้ว่าแม้ตัวเองจะแข็งแกร่ง แต่เธอก็ไม่สามารถบุกเข้าไปในโลกประวัติศาสตร์ที่สร้างโดยบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งได้
“แต่ข้าก็ยังจะพยายามดูอยู่ดี”
เอเลนอร์ไม่ต้องการคนช่วย เธอไม่ต้องการเสียออสตินไปและเธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขากลับมา เธอคงไม่สามารถรับมือกับการสูญเสียเขาไปได้แน่
“ถ้างั้นข้าก็จะหยุดเจ้าเอง”
บรูซไม่ถอยเช่นกัน ทั้งคู่หายตัวไปอย่างรวดเร็วและไปต่อสู้กันที่อื่นแทน
ในตอนนี้โอลิเวียกำลังดูหน้าจออยู่ด้วยอารมณ์ที่ยุ่งเหยิง
เธอคิดว่าตัวเองควรจะมีความสุขกับการได้เห็นออสตินถูกทุบตี แต่กลับไม่ใช่เลย เธอรู้ว่าด้านที่มีนิสัยซาดิสต์ของตัวเองต้องการเหยียบย่ำเขาหลังจากที่เขาทำลายความภาคภูมิใจของเธอ แต่เธอไม่สามารถมีความสุขที่เห็นเขาตอนนี้ได้ ทุกสิ่งที่ออสตินทำก็เพื่อปกป้องครอบครัวของเขา แม้แต่การทำให้ตัวเองเป็นปรปักษ์กับเธอก็เพื่อพวกนอร่า เธอเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง เธอควรจะดีใจหรือเสียใจดี แต่ตอนนี้เธอรู้อย่างหนึ่งว่าความเกลียดชังที่ตัวเองมีต่อออสตินก่อนหน้านี้กำลังลดลงเล็กน้อย
‘มันคงจะดีกว่าถ้านายไม่ตายนะ ออสติน’
ขณะที่โอลิเวียกำลังทบทวนความคิดของตัวเองก็มีบางคนที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่เช่นกัน
จักรพรรดินีโลร่ากำลังคิดที่จะฆ่าตัวตาย
ขณะที่เธอกำลังมองดูออสตินถูกทำร้ายอยู่ความกระหายเลือดของเธอก็พลุ่งพล่านขึ้นมา เธอไม่สามารถจัดการกับมันได้ เธอรู้ว่าความคิดของตัวเองไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เธอก็หยุดคิดไม่ได้เลย
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังมีความคิดที่แตกต่างกัน สถานการณ์ในโลกประวัติศาสตร์ก็เปลี่ยนไป
‘บ้าจริง ตอนนี้เราคงเหมือนเม่นแล้วมั้ง’
ทันทีที่ผมเห็นลูกธนูเหล่านั้นบินเข้ามาทางพวกนอร่า ผมก็รู้ว่าด้วยมานาที่จำกัดของตัวเองน่าจะทำอะไรไม่ได้มาก ผมเลยต้องใช้ร่างกายของตัวเองรับลูกธนูเหล่านั้นแทน แม้ว่าผมรับการโจมตีเหล่านั้น พลังชีวิตของผมก็ยังคงได้รับการปกป้องอยู่
ผมไอเป็นเลือดเล็กน้อยก่อนจะมองไปยังพวกนอร่าที่ตกตะลึงและไม่สามารถประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้อย่างสมบูรณ์ ผมยิ้มให้พวกเธออย่างอ่อนแรงและค่อยๆ หมุนตัวกลับไป มันไม่ง่ายเลยที่จะทำอย่างนั้นในตอนที่ร่างกายของผมเต็มไปด้วยลูกธนูอยู่
เมื่อผมหันกลับไปก็เห็นสัตว์ประหลาดที่เหลือกำลังมองมาที่ตัวเองอยู่ พวกมันกำลังเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการขั้นต่อไป แต่ทันใดนั้นเองพวกมันก็หยุดขยับและตัวแข็งทื่อ
เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้าได้มีร่างๆ หนึ่งเริ่มก่อตัวขึ้น มันคือลุคจักรพรรดิผู้ก่อตั้งนั่นเอง เขายืนลอยตัวอยู่บนท้องฟ้าขณะที่มองมาทางผม ดวงตาที่ไม่ยินดียินร้ายก่อนหน้านี้แสดงความเคารพเล็กน้อยก่อนที่จะมีร่างอื่นๆ อีกหลายร่างเริ่มปรากฏตัวตามมาอย่างรวดเร็ว โดยร่างที่ปรากฏตัวขึ้นมานั้นล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและอำนาจทั้งสิ้น
ลุคพูดขึ้นมา
“ข้าได้เห็นเด็กหลายคนเข้ามาในโลกนี้และออกจากโลกนี้ไป พวกเขาทั้งหมดมีความพรสวรรค์และความสามารถที่แตกต่างกันออกไป”
“ข้าเคยเห็นพวกเขามีชีวิตและตายไป แต่ข้าและจิตสำนึกใดๆ ในโลกนี้ไม่เคยแทรกแซงการทดสอบมาก่อน”
“แต่ครั้งนี้พวกเราเลือกที่จะเข้ามาแทรกแซง เจ้าหนู…ไม่สิออสติน ข้าจะให้โอกาสเจ้าออกจากการทดสอบนี้ไปแบบยังมีชีวิตอยู่ เจ้าจะรับมันไว้ไหม?”
“เจ้าอยากจะจบเจอกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานทั้งหมดนี้จริงๆ หรือ?”
“ข้าเห็นว่าเจ้ากำลังใช้เทคนิคต้องห้ามเพื่อดึงพลังจากศักยภาพของตัวเองอยู่”
“ข้าไม่อยากเห็นเด็กที่มีพรสวรรค์เด็กที่มีพรสวรรค์แบบเจ้าต้องตาย ดังนั้นจงรับข้อเสนอซะ”
ยิ่งลุคพูดผมก็ยิ่งมึนงง เจ็บปวดเหรอ? ทรมานเหรอ?
ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยนะพี่ชาย แน่นอนว่าผมดูเหมือนกำลังถูกกระทีบอยู่ แต่ผมไม่เจ็บปวดเลยแม้แต่น้อยและสำหรับเทคนิคต้องห้ามอะไรนั่น ผมแค่ดึงมานาจำนวนมากจากแหวนที่สวมอยู่เท่านั้นเอง นี่คุณกำลังพูดอะไรกัน?
เดี๋ยวนะ…นี่อาจเป็นช่วงเวลาแห่งการแสดงที่สมบูรณ์แบบก็ได้
ผมเปิดใช้งานโหมดแสดงปาหี่ของตัวเองในทันที
ในขณะที่ออสตินกำลังคิดหาคำพูดที่กระตุกจิตกระชากใจอยู่นั้นเอง สาวๆ ที่ตะลึงงันอยู่ก็ฟื้นคืนสติกลับมาได้แล้ว พวกเธอมองไปยังออสตินที่ยืนอยู่ข้างหน้าตัวเองด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยลูกธนู
ภาพของออสตินที่ยืนปกป้องพวกนอร่าในขณะที่ร่างกายเต็มไปด้วยลูกธนูและเลือดนั้นตราตรึงใจของพวกเธอมาก พวกเธอจะไม่มีวันลืมเลือนภาพในวันนี้ไปจากชีวิตของพวกเธอแน่ๆ
ในตอนนั้นเองที่มีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น
[ ติ้ง…! ]
[ ชื่อ : นอร่า ไลออนฮาร์ท
ความสัมพันธ์ : 100% (รักแบบพี่น้อง)>>>100% (รักต้องห้าม) ]
[ กำลังคำนวณ… ]
[ ชื่อ : นอร่า ไลออนฮาร์ท
ความสัมพันธ์ : 100% (รักต้องห้าม)
หมายเหตุ : ทำไมถึงเป็นนาย? ]
[ ชื่อ : เอลด้า ไลออนฮาร์ท
ความสัมพันธ์ : 100% (รักแบบพี่น้อง)>>>100% (รักต้องห้าม) ]
[ กำลังคำนวณ… ]
[ ชื่อ : นอร่า ไลออนฮาร์ท
ความสัมพันธ์ : 100% (รักต้องห้าม)
หมายเหตุ : พี่ชายคือทุกอย่างที่ฉันต้องการ ]
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต