The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 395 Aria Dramoon And........Da
“อาเรีย ดรามูน”
ผมพูดขณะมองผู้หญิงที่ถูกตรึงอยู่ตรงหน้า แม้ว่าเธอจะมีรูปร่างหน้าตาซีดเซียวและเย็นชา แต่ความงามโดยกำเนิดของเธอก็ยังคงส่องประกายด้วยสัมผัสของความงามแบบผู้ใหญ่ที่ได้รับเมื่ออายุมากขึ้น
จากสิ่งที่เห็นเธอมีผมสีทองสดใสติดอยู่ในน้ำแข็ง ใบหน้าของเธอถูกแกะสลักมาอย่างสวยงาม และทุกอย่างช่างดูสมบูรณ์แบบด้วยรูปร่างที่สวยงามของเธอที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุมที่ดูเหมือนว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยร่างกายของเธอ ซึ่งไม่มีใครจะรู้ว่าอยู่มานานแค่ไหนแล้ว และถ้าภาพวาดและประติมากรรมตรงหน้าผมเป็นของจริง งั้นสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ดวงตาที่ปิดอยู่นั้นคงเป็นดวงตาสีเขียว
‘แล้วนี่เธออยู่ไหนกัน?’
ย้อนกลับไปในเกม ทางผู้ผลิตได้เปิดตัวทีเซอร์ว่าภายในโลกนั้นผู้กล้าในตำนานทั้ง 11 คน จะมีอยู่หนึ่งคนที่เป็นผู้หญิงและใครก็ตามที่พบและปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ จะได้รับของขวัญที่พิเศษมาก
ย้อนกลับไปตอนนั้นแม้แต่ผมและผู้เล่นมืออาชีพมากมายที่ได้พยายามแล้ว แต่เรากลับไม่เคยพบผู้กล้าลึกลับคนนี้เลย
แม้ว่าตอนนี้ผมจะรู้เหตุผลว่าทำไมก็เถอะ เราจะไปหาเจอกันได้ยังไงในเมื่อสถานที่ที่เธอถูกคุมขังต้องการคนที่ทรงพลังเท่ากับฟาร์ร่าถึงจะเข้ามาได้?
นี่เป็นกับดักที่จะฆ่าคุณหากคุณไม่มีพลังเพียงพอ แถมยังไม่มีใครในระดับจักรพรรดิที่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ ทำให้เป็นเหตุการณ์ที่แปลกมาก
‘แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้กัน?’
ใครและทำไมถึงส่งเธอมาที่นี่?
“ดูเหมือนเธอจะมีบางสิ่งที่ร้อนแรงเกินกว่าจะควบคุมในตัวเธอนะคะ”
ฟาร์ร่าพูดเหมือนรู้คำตอบสำหรับคำถามนี้ ในขณะที่ดวงตาเป็นประกายของเธอมองไปที่อาเรีย
“ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะขังตัวเองไว้ในน้ำแข็งภายในเพื่อกักความร้อนไม่ให้ระเบิดออกมาค่ะ”
เธอพูดต่อ ซึ่งเมื่อได้ยินอย่างนั้นผมก็เลยถามขึ้นมา
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากความร้อนนั้นถูกปล่อยออกมา?”
“จากสิ่งที่ฉันรวบรวมข้อมูลมาได้ มันน่าจะเพียงพอที่จะทำลายดินแดนนี้ได้เลยค่ะ”
นั่นฟังดูไม่ดีเลย ดินแดนทั้งหมดที่นี่นั้นมีขอบเขตเท่ากับอาณาจักรหนึ่งอาณาจักรเลย และพลังที่สามารถทำลายล้างดินแดนนี้นั้นได้ก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
“เธอคงขังตัวเองไว้ที่นี่เพื่อปกป้องตัวเองและคนอื่นๆ งั้นเหรอ?”
ผมถามและฟาร์ร่าก็พยักหน้า มันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่อย่างน้อยตอนนี้ผมก็มีทฤษฎีที่ถูกต้องแล้ว ผมไม่สามารถพึ่งพาระบบได้เสมอไป ไม่เช่นนั้นมันคงจะดูดแต้มของผมไปทั้งหมดเหมือนแวมไพร์
“มีวิธีช่วยชีวิตเธอไหม?”
ผมถามขึ้นมา
“เหมือนจะมีทางอยู่นะคะ ความร้อนในตัวเธอนั้นถูกดูดซับและสูญเสียไปมาก หากได้รับพลังงานเพียงพอ เธอก็น่าจะสามารถตื่นขึ้นมาได้ด้วยตัวเองค่ะ”
ฟาร์ร่าตอบ
เมื่อได้ยินดังนั้นผมก็พยักหน้าและกระพือปีกบินขึ้นไปข้างบนก่อนจะบินไปเผชิญหน้ากันกับความงาม, ตำนานและผู้กล้า
‘สงสัยจังว่ามิร่าจะเป็นดีใจแค่ไหนกันนะถ้าได้เจอเธอคนนี้’
น้าของผมเป็นแฟนตัวยงของอาเรีย ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น จอมเวทย์ทุกคนเองก็เป็นเช่นกัน
‘มาดูกันว่าเธอจะมีของขวัญพิเศษอะไรให้ฉันบ้าง’
เมื่อคิดดังนั้นแล้วมือของผมก็ขยับไปข้างหน้าและวางลงบนหน้าผากของเธอ แม้จะมีการคุ้มครองของฟาร์ร่าอยู่ แต่ผมก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่พยายามเข้ามาภายในร่างกาย ซึ่งผสมผสานกับความอบอุ่นสุดขีดที่อาจแผดเผาผมได้
หลังจากเก็บคำถามทั้งหมดไว้ในใจแล้ว ผมก็ค่อยๆ เริ่มฉีดพลังชีวิตหลายอย่างเข้าไปในตัวเธอ ซึ่งทำให้ผมได้รับรู้ว่าร่างกายของเธอแทบไม่มีแหล่งชีวิตเหลืออยู่เลย
ผมควบคุมพลังของตัวเองอย่างระมัดระวังในขณะที่เริ่มนำทางพลังชีวิตไปทั่วร่างกายของเธอ โดยค่อยๆ บำรุงส่วนที่แห้งของโครงสร้างภายในของเธอ
แสงสีเขียวเล็กๆ เริ่มเคลื่อนผ่านเธอจนทำให้ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ ไฟแห่งชีวิตในตัวเธอค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาอย่างช้าๆ ขณะที่มันเริ่มสูบฉีดไปทั่วร่างกายของเธอจนทำให้น้ำแข็งเริ่มระเหยและเข้าไปข้างในตัวเธอ
ผมที่เห็นอย่างนั้นก็กระพือปีกและขยับตัวออกมาเล็กน้อยโดยอยู่ในระดับสายตาของเธอ
น้ำแข็งเริ่มแตกออกอย่างช้าๆ และหายไป
สัญญาณชีวิตเริ่มปรากฏขึ้นภายในร่างของอาเรียและชั่วขณะต่อมาผมรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังแตกสลาย บังคับให้ผมหลับตาลงชั่วครู่ก่อนที่เมื่อเปิดตาขึ้นผมก็เห็นอาเรียที่ลอยอยู่ตรงหน้าตัวเองด้วยสภาพที่แข็งแรงดีแล้ว
ความซีดจางของเธอหายไปแล้ว, ร่างกายของเธอฟื้นคืนความมีชีวิตชีวา, ผิวของเธอขาวขึ้น, ผมของเธอกลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์อันโชติช่วงในอดีตและเสื้อคลุมของเธอก็สะอาดกว่าของผม โดยรวมแล้วเธอดูราวกับว่าคนที่เพิ่งออกมาเดินเล่น
ตอนนี้เธอลอยอยู่บนท้องฟ้าราวกับพระเจ้าที่แค่การปรากฏกายของเธอก็ได้รับความเคารพสูงสุดแล้ว
ระดับความสามารถพิเศษและออร่าตามธรรมชาติของเธอเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยสัมผัสได้จากใครก็ตามในอาณาจักรมนุษย์เลย ถ้าไม่นับพวกเทพอะนะ
เปลือกตาของอาเรียค่อยๆ เริ่มสั่นก่อนจะเปิดขึ้นมา เผยให้เห็นดวงตากลมสีเขียวเหล่านั้นที่เต็มไปด้วยสติปัญญา, อำนาจและพลัง
อาเรียเพ่งความสนใจมาที่ผมในขณะที่ผมเองก็จ้องเธอกลับไปเช่นกัน
เราทั้งคู่ต่างมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น มันอยู่แบบนั้นไม่กี่วินาทีจนกระทั่งดวงตาคู่นั้นเริ่มหรี่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งผมมองเห็นแค่เพียงความไร้เดียงสาในพวกมันเท่านั้น
‘เกิดอะไรขึ้น?’
ในขณะที่ผมกำลังคิด อาเรียก็ค่อยๆ อ้าปากออกจนรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอขณะที่เธอตะโกนออกมา
“ท่านพ่อ!”
“…”
“…”
เธอตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังกระหึ่ม
ชั่วขณะหนึ่งผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบได้ถูกแช่แข็งเอาไว้พร้อมกับสมองของผมที่เข้าสู่โหมดนิ่ง
หลังจากนั้นผมก็เริ่มตั้งสติได้ก่อนจะหันกลับไปดูว่ามีใครอยู่ข้างหลังตัวเองหรือเปล่า แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย
ผมหันกลับไปมองสาวสวยวัยผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่าร้อยปีที่เรียกผมว่าพ่อก่อนจะถามขึ้นมา
“คุณเรียกผมว่าพ่องั้นเหรอ?”
“อือ…ใช่!”
เธอตะโกนตอบกลับมาและพอรู้สึกตัวอีกทีเธอก็มาอยู่ตรงหน้าก่อนจะกอดผมแน่นพร้อมเอาหัวมาแนบหน้าอกผมเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ซึ่งทำให้ผมประหลาดใจมากเพราะว่าเธอดูไม่เหมือนเด็กหรือวัยรุ่นเลย ผมสามารถรับประกันได้จากหน้าอกใหญ่ๆ เหล่านั้นที่กำลังถูกับร่างกายของผมอยู่
‘เธอสมองพังเพราะอากาศหนาวงั้นเหรอ?’
ผมถามกับฟาร์ร่า
‘อาจจะเป็นไปได้ค่ะ’
เธอตอบพร้อมกับส่งสายตาอาฆาตแค้นและอิจฉาให้กับอาเรีย
‘เธอเองก็อยากให้ฉันเล่นเป็นพ่อด้วยเหรอไง?’
แม้อยากจะถาม แต่ผมก็อดกลั้นมันเอาไว้ขณะพยายามคิดหาสาเหตุของสถานการณ์ตรงหน้า
ทันใดนั้นเองก็มีลำแสงแวบขึ้นมาจากจุดที่อาเรียอยู่และเข้ามาในสมองของผมโดยให้ข้อมูลที่ผมต้องการ
‘ถึงใครก็ตามที่ฟังอยู่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉัน ข้อความที่บันทึกไว้นี้ใช้ในกรณีที่การนอนหลับลึกด้วยความเย็นเยือกแข็งรบกวนจิตใจของฉันและทำลายความรู้สึกข้อมูลของฉัน’
‘ในกรณีนั้นฉันคงจะเพ้อเจ้อและอาจติดอยู่กับความทรงจำที่ถูกระงับหรือบุคคลิกอื่นของตัวเอง ฉันน่าจะกลายเป็นเด็กเด็กซนหรือคนที่ความจำเสื่อม ในกรณีนี้โปรดชี้แนะและดูแลฉันจนกว่าตัวตนที่แท้จริงของฉันจะตื่นขึ้นด้วย’
‘จากการคำนวณของฉัน หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ฉันจะต้องใช้เวลาสูงสุด 1 เดือนเพื่อปลุกตัวเอง ฉันคงจะไม่เป็นไรภายในช่วงเวลานั้น ฉันรู้ว่ามีอะไรให้ถามมากมาย แต่ฉันแน่ใจว่าคุณคงรู้ว่าฉันเป็นใครและมีความสามารถอะไร ดังนั้นโปรดดูแลฉันด้วย รางวัลของคุณที่ทำตามคำขอนั้นจะสมน้ำสมเนื้ออย่างแน่นอน’
‘จากสิ่งที่ทำนายไว้ คุณผู้ที่ช่วยฉันไว้คงจะสามารถดูแลฉันได้ ดังนั้นฉันจะขอบคุณอีกครั้งและรอวันที่ตัวเองตื่นขึ้นอย่างแท้จริง และขอบคุณอีกครั้ง’
นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ข้อความจะหายไป ทำเอาผมขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่การออกนอกลู่นอกทางนำบางอย่างมาให้ผม ยิ่งกว่านั้นผมคิดว่าอาเรียเองก็คงไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะตื่นขึ้นมาเป็น..…แบบนี้
เมื่อมองไปยัง ‘เด็ก’ ที่กำลังดมกลิ่นและกอดผมอย่างมีความสุข ผมก็สงสัยในความเคารพต่อผู้กล้าของตัวเองจริงๆ
‘นี่มาจากอดีตที่เธอดกลั้นหรือความปรารถนาที่ถูกระงับไว้กันนะ?’
ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด แต่ผมก็กลายเป็นพ่อของนักเวทย์ที่ทรงพลังและยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาไปซะแล้ว
อ่าาา นี่มันไม่ตลกเลย
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต