The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 408 Suspense
“ดีใจนะที่เห็นว่าเธอปลอดภัย”
มาร์ลีนพูดขณะเดินไปหาซาบริน่าและกอดเธอ ซึ่งซาบริน้าก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ในปัจจุบันเธอดูเหมือนเจ้าหญิงเอลฟ์ที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความสวยและความสง่างามที่ไหลออกมาจากตัวเธอและรอยยิ้มบางๆ ที่ส่องประกายบนใบหน้าของเธอทำให้ใครหลายคนๆ หายใจไม่ออก
ผมยืนห่างจากพวกเธอเล็กน้อยพร้อมกับกลุ่มของผมและมองเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ผู้นำทุกคนต่างเดินเข้าไปหาเธอเพื่อทักทาย ในขณะที่พวกเอลฟ์ที่มารวมตัวกันที่นี่ในไม่ช้าก็เข้าร่วมกับพวกเธอ
หลังจากพูดคุยกันระหว่างพวกเธอเสร็จแล้ว ทุกคนก็เริ่มเดินไปที่เต็นท์หลักที่เคยประชุมกันก่อนหน้านี้
ขณะที่พวกเราเดินไปที่เต็นท์นั้นผมก็รู้สึกได้ถึงสายตาแตกต่างกันที่มองมาที่ผม แคทเธอรีนดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี ทำให้ผมมองและตอบโต้ด้วยการเบือนหน้าไปทางอื่น, โอลิเวียขยิบตาให้ผม, ดวงตาของพี่สาวไม่เคยละสายตาจากผมเลย, มาร์ลีนมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์, ดวงตาที่หดหู่ของเอมิลี่มองมาที่ผมและคาร์เมลดูเหมือนจะทำหน้าบูดบึ้งเมื่อผมไม่ได้ไปเยี่ยมเธอเมื่อวันก่อน
ไม่นานพวกเราทุกคนก็มารวมตัวกันในเต็นท์ ซึ่งสถานการณ์แบบเดิมก็เกิดขึ้น โดยมีผู้นำนั่งลงและมีผู้ติดตามคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลัง ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือซาบริน่าได้เข้าร่วมการต่อสู้แล้ว
‘เธอดูโกรธมาก’
ผมคิดขณะชำเลืองมองชิร่าที่ปลอมตัวมาและยืนอยู่ข้างหลังเบล โดยมีเสื้อผ้าผู้ชายของเธอที่ปิดบังเพศที่แท้จริงของเธอเอาไว้อยู่และเธอก็ยืนอยู่ข้างหลังเบลราวกับนักรบที่ดี
หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเธอมา ผมก็สามารถสังเกตุได้ว่าตอนนี้ชิร่ารู้สึกหดหู่เล็กน้อย เธอจะไม่เป็นหยั่งงั้นได้ยังไงหล่ะในเมื่อเธอหาของที่ต้องการไม่เจอ? นี่คือดินแดนที่เธอจะได้พบกับอาวุธที่จะทำให้สายเลือดของเธอสมบูรณ์ซึ่งจะทำให้เธอขึ้นสู่ตนตัวทรงอำนาจ
เวลานี้ถือเป็นช่วงเนื้อเรื่องที่ตัวละครในเกมของคุณต้องเดินทางไปทั่วดินแดนพร้อมกับเธอเพื่อค้นหาอาวุธ, ช่วยเหลือเธอและในที่สุดก็ได้รับความรักจากเธอ ซึ่งผมไม่ยอมให้เธอได้เดินไปตามนั้นหรอก
“ฉันเข้าใจแล้ว นี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายจริงๆ”
ซาบริน่ากล่าวหลังจากที่ได้รับการอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่แผนที่ แต่ในไม่ช้าเธอก็หันมามองมาที่ผม สีหน้าของเธอไม่แสดงอะไรเลยในขณะที่เธอพูดต่อ
“คงเป็นเรื่องยากเมื่อตอนนี้มีนายอยู่ด้วย”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ ซึ่งผมก็พยักหน้า
“มาเจอฉันก็ยากหน่อย”
ผมตอบ ซึ่งซาบริน่าแค่พยักหน้าทำเหมือนว่าทุกอย่างระหว่างเราเป็นเรื่องปกติ
“ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำในตอนนี้คือ?”
จู่ๆ คาร์เมลก็พูดขึ้นมาทำให้บรรยากาศหนักขึ้น
“ฉันคิดว่ามีอะไรบางอย่างจะบอกอยู่”
ผมพูดเรียกความสนใจของทุกคนมาที่ตัวเอง ไม่นานทุกคนก็มองมาที่ผม
“เรื่องนี้ไม่ได้มาจากฉัน แต่เป็นบางสิ่งที่คนจากกลุ่มของฉันค้นพบและหากมันเป็นเรื่องจริง สิ่งต่างๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้มาก”
หลังจากที่ผมพูดจบ ทุกคนก็หันไปมองเรซยกเว้นซาบริน่า
เมื่อคืนผมไม่ได้แค่ไปเล่นกับสาวๆ เท่านั้น แต่ผมยังได้ส่งข้อมูลบางอย่างให้พวกเธออย่างรอบคอบเกี่ยวกับการทรยศของเรซอีกด้วย ดังนั้นตอนนี้ที่ด้านนอกเต็นท์จึงมีนักเรียนที่แข็งแกร่งหลายคนได้ควบคุมกลุ่มมนุษย์สัตว์เอาไว้แล้ว หากพวกเขาเคลื่อนไหวอะไรแปลกๆ มันจะกลายเป็นนองเลือดในทันที
มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ อีกหลายประการ แน่นอนว่ายังไม่มีใครเคลื่อนไหวใดๆ เนื่องจากข้อมูลที่ผมให้ไปนั้นเป็นเพียงข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่ทันทีที่เลโอนาร์โดเปิดเผยความจริง สิ่งต่างๆ ก็คงจะเริ่มเผ็ดร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“เลโอนาร์โด”
ผมเรียกและเต็นท์ก็ขยับในตอนที่เขาได้รับอนุญาตให้เข้าไป
ในไม่ช้าเลโอนาร์โดก็เข้ามาอยู่ข้างในเต็นท์และเดินเข้าไปตรงกลางเต็นท์ ด้วยประสาทสัมผัสของผมที่แผ่กระจายออกไปทำให้รู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าเล็กน้อยที่เล็ดรอดออกมาจากเรซ, เบลและเนล ดวงตาทั้ง 3 คู่ของพวกเขาหรี่ลงเมื่อเห็นเลโอนาร์โด
‘อะไรกัน? พวกนั้นคิดว่าการลอบสังหารจะได้ผลงั้นเหรอ?’
ในขณะที่ผมส่งข้อมูลให้พวกสาวๆ ผมไม่ได้แยกเบลออกจากพวกนั้น เนื่องจากเขากำลังสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มมนุษย์สัตว์ พวกเขาทั้ง 2 เชื่อมโยงกันด้วยกลุ่ม ‘นั้น’ โดยที่เบลเป็นสมาชิกหลักของความมืด
“สวัสดีครับ”
เลโอนาร์โดเข้ามาข้างในและโค้งคำนับเบาๆ ในขณะที่ดวงตาของเขาเพ่งไปที่ทุกคนที่นี่
ผมมองเห็นดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อเห็นผู้หญิงทุกคนที่นี่ เนื่องจากตกตะลึงกับความงามและพลังของพวกเธอ
“แสดงหลักฐานให้เราดูสิเลโอนาร์โด”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงกลางๆ ไม่เย็นชาหรือเป็นมิตร ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับหลายๆ คนที่นี่ พวกเขาทุกคนรู้ว่าเลโอนาร์โดเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มของผม แต่ด้วยความที่ทุกคนเป็นคนฉลาด พวกเขาจึงมองออกได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจความจริงง่ายๆ ที่ว่าเลโอนาร์โดไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผมอีกต่อไปแล้ว
ความโลภเล็ดรอดออกมาจากผู้นำบางคนที่ต้องการเลโอนาร์โด ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นที่รู้จักกันดีในสถาบันในเรื่องพลังของเขา นอกจากนี้มันไม่ได้เป็นความลับสำหรับทุกคนที่นี่ที่ว่าเขาเป็นผู้ใช้อาวุธในตำนานของผู้กล้า
“แน่นอน”
เลโอนาร์โดพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงขณะที่เขามองมาที่ผมด้วยสีหน้ารังเกียจ ท่าทางของเขาที่ทุกคนสังเกตุเห็นทำให้ความสนใจของผู้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผมหายไปอย่างรวดเร็ว ได้แก่โอลิเวีย, คาร์เมล, มาร์ลีน, ซาบริน่าและแม้แต่รอน แม้ว่าคนจะมีคนอย่างเบล, เรซ, อิซาเบลล่าและแองเจลิน่าที่สนใจเขามากกว่าเดิมก็เถอะ
มือของเลโอนาร์โดเป็นประกายก่อนจะมีลูกแก้วปรากฏขึ้นในมือของเขา
เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็เพ่งความสนใจไปที่เรซและเบลซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่มีสีหน้าที่ดีเลย รอยยิ้มปรากฏที่ริมฝีปากของผมเมื่อเห็นมัน
เลโอนาร์โดก้าวไปข้างหน้าก่อนจะวางลูกแก้วไว้ตรงกลางโต๊ะ
หลังจากที่วางลูกแก้วเสร็จ เขาก็หันไปมองเรซโดยที่คราวนี้แสดงความรังเกียจออกมาอย่างเต็มที่เมื่อเขามองไปยังเจ้าชายหนุ่ม
“แกกล้าดียังไง!”
เรซตะโกนพร้อมกับมานาอันทรงพลังของเขาที่ผลักเลโอนาร์โดออกไป
เลโอนาร์โดได้รับผลกระทบหนักมากถึงขนาดกระอักเลือดออกมา
นี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายเมื่อบรรยากาศในเต็นท์สูงขึ้นตลอดเวลา ออร่าอันทรงพลังของเราแต่ละคนถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายพร้อมกับความกดดันในห้องที่เพิ่มขึ้น
สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังเรซที่มีสีหน้าที่สู้ไม่ดีนัก
ขณะที่สถานการณ์กำลังจะระเบิด เต็นท์ก็ถูกเปิดออกพร้อมกับนักเรียนคนหนึ่งที่วิ่งตะโกนเข้ามา
“ศัตรูบุกครับ!”
สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนเมื่อเรามองไปยังทางทางเข้า ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกถึงความบิดเบี้ยวและมีศัตรูที่สวมหน้ากากปรากฏขึ้นใกล้กับลูกแก้ว ไม่มีใครสามารถตอบสนองได้ในขณะที่มือของร่างนั้นกระพริบก่อนจะทำลายลูกแก้วนั้นออกเป็นชิ้นๆ
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจเมื่อมีใครก็ไม่รู้เข้ามาถึงใจกลางเต็นท์โดยไม่มีใครสังเกตเห็นด้วยซ้ำ
“ความโกลาหลจงครอบงำ!”
ร่างนั้นตะโกนก่อนที่ร่างกายของมันจะเริ่มกลายเป็นของเหลว เหลือเพียงเสื้อคลุมสีดำและของเหลวที่ดูเหมือนส่วนผสมของเลือดและส่วนต่างๆ ของร่างกาย ภาพที่น่าขยะแขยงอย่างยิ่งพร้อมกลิ่นอันน่าสะพรึงกลัว
ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งเต็นท์ขณะที่ทุกคนมองดูของเหลวบนพื้น
เสียงตะโกนแห่งสงครามดังมาจากภายนอก และเมื่อเห็นดังนั้นผมจึงปรบมือเพื่อทำให้ทุกคนที่กำลังมึนงงอยู่หันมามองที่ตัวเอง
ท่าทางของผมจริงจังมากขณะที่พูดออกมา
“เราจะจัดการกับเรื่องนี้กันทีหลัง แต่ก่อนอื่นเราควรสนใจสงครามก่อน ในขณะที่กลุ่มมนุษย์สัตว์ควรถูกคุมตัวไว้”
“พวกเราจะยอมรับข้อเสนอ”
เรซพูดด้วยรอยยิ้มจนดูเหมือนส่วนผสมที่ลงตัวของผู้รักสงบ
ไม่มีความโกรธหรืออารมณ์อื่นๆ ของเขาที่แสดงออกมาเลย แต่ไม่มีใครยิ้มนอกจากเขา ทุกคนต่างมองเขาด้วยสายตาที่แคบลงและตอนนี้ทุกคนต่างแน่ใจว่าต้องมีบางอย่างเบื้องหลังการแสดงออกของเขา
หลักฐานทั้งหมดนี้ไร้ประโยชน์
“ทั้งกลุ่มจะถูกควบคุมตัว หากคุณมีปัญหาใดๆ คุณสามารถเผชิญหน้ากับทุกคนที่นี่ได้ค่ะ”
จู่ๆ ซาบริน่าก็พูดขึ้นด้วยดวงตาที่หรี่ลง ในขณะที่สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นเป็นนิ่งเฉย
เรซยังคงมีรอยยิ้มของเขาในขณะที่เขาพูด
“แน่นอน ด้วยความยินดี”
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนหงุดหงิดอีกครั้ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาจะเสียสมาธิ
“คุณออสติน คุณช่วยจัดการกับเขาหน่อยได้ไหมคะ?”
ซาบริน่าพูดขึ้นมาทำให้ทุกคนประหลาดใจ
“ฉันยินดี ฉันจะควบคุมตัวเขาไว้”
ผมตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่เป็นไร”
ผมพูดพร้อมเพื่อขัดนอร่าที่ไม่ต้องการและไม่เห็นด้วยให้เงียบลง
เมื่อเห็นแบบนี้ทุกคนก็เห็นด้วย เนื่องจากทุกคนรู้ว่าซาบริน่ามีแผนเชิงลึกค่อนข้างมาก ทุกคนจึงเดินออกไปข้างนอกกัน โดยรู้ว่าสงครามภายในกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า จากการที่พวกมนุษย์สัตว์จะควบคุมไม่ได้ถ้าเรซไม่ออกมา
ไม่นานทุกคนก็ออกจากเต็นท์ไป เหลือเพียงผมไว้กับเรซและเนล
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต