The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 435 Just Another Day
สถานการณ์เมื่อเฮล่ามาถึงยิ่งร้อนแรงมากขึ้นจนทำเอาทั้งโบสถ์กลายเป็นเหมือนสมรภูมิ แม่ชี, นักบวชและทุกคนที่อยู่ข้างนอกส่วนใหญ่ต่างก็จับจ้องมองมาที่ผมอย่างเร่าร้อน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลมหายใจที่หนักและเร็วของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าการปรากฏตัวของผมมีอิทธิพลที่มากเกินไป
“ไปกันเลยไหมจ๊ะ?”
เฮล่าถาม ซึ่งผมก็พยักหน้า
ดังนั้นภายใต้การคุ้มครองของเธอ ผมจึงเริ่มเดินต่อ หลายคนที่มารวมตัวกันต่างจ้องมองมาที่ผมด้วยความสงสัยว่าผมนั้นเป็นใครถึงได้ได้รับความสนใจและเอาใจใส่ขนาดนี้
หลังจากที่ผมเดินจากไป ข่าวคงจะแพร่กระจายไปทุกช่องทางที่คอยจับตาดูสถานที่แห่งนี้
ทางเดินมีเสียงดังขณะที่ผมเดินผ่านโถงทางเดินยาวที่ให้ความรู้สึกสงบ นักบวชสองคนที่เฝ้าประตูเข้ามาปกป้องผมทั้งซ้ายและขวา ออร่าของพวกเขามากเกินพอที่จะผลักใครก็ตามที่คิดจะเข้าใกล้ผมให้ออกไป ในขณะเดียวกันเฮร่าก็เป็นผู้เดินนำเพื่อพาผมไปยังพื้นที่เปิดโล่งมากกว่านี้
ด้วยเหตุนี้เราจึงมาถึงห้องโถงด้วยความปลอดภัย เมื่อเข้ามาข้างในผมก็เห็นผู้สูงอายุและมีอำนาจหลายคนรวมตัวกันอยู่รอบๆ พวกเขาให้ความรู้สึกเป็นมิตรและเงียบสงบซึ่งสามารถทำให้จิตใจที่หยาบกระด้างสงบลงได้ แต่สิ่งที่น่าขนลุกคือสายตาของพวกเขาที่จ้องมองมานั้นมันเต็มไปด้วยความเคารพและความเกรงขาม มันไม่รู้สึกดีเลยที่ได้รับสายตาจากคนเฒ่าคนแก่เช่นนี้
“พวกเราขอเคารพบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
พวกเขาทั้งหมดพูดพร้อมกันและโค้งคำนับผมด้วยความเคารพ
ผมพยักหน้าพร้อมกับปลดการปลอมตัวไปเผยให้เห็นตัวตนที่หล่อเหลาของผม ไม่มีใครแปลกใจเลยเพราะเฮล่าได้แจ้งพวกเขามานานแล้วถึงตัวตนของผม ซึ่งผมได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ทำให้รู้ดีว่าพวกเขาเป็นมิตรและเชื่อถือได้
“ถ้าอย่างนั้นเราไปนั่งกันไหมคะ?”
เฮล่าถามด้วยน้ำเสียงสงบพร้อมกับพยายามควบคุมการไหลของบทสนทนาเพื่อให้ผมรู้สึกไม่สบายใจน้อยลง
“อ่า แน่นอน…”
ชายชราพูดขณะที่ทุกคนเดินไปที่โต๊ะขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง โดยให้ผมนั่งที่หัวโต๊ะ
เมื่อทุกคนนั่งกันเรียบร้อยแล้ว ความเงียบก็เกิดขึ้นระหว่างเรา ขณะที่ผมมองดูทุกคนที่มารวมตัวกันที่นี่ เช่นเดียวกันกับพวกเขาที่จ้องมองมาที่ผม เมื่อเห็นเช่นนั้นผมก็ขยายความรู้สึกของชีวิตที่ไหลผ่านเข้ามา ทำให้สีหน้าของทุกคนผ่อนคลายลงราวกับกำลังถูกนวดอยู่…
‘อะไรวะหน่ะ!’
สีหน้าของผมเปลี่ยนไปเป็นแย่ที่สุดเมื่อเห็นชายชราคนหนึ่งมีท่าทางที่มีความสุขราวกับรำลึกถึงบุคคลหนึ่งที่ทำให้เขาถึงจุดสุดยอดที่ดีที่สุดของเขา เมื่อหันความสนใจไปรอบๆ ผมก็มองเห็นเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ที่มารวมตัวกันอยู่ในห้องนี้ ยกเว้นเฮล่า แม้ว่าสีหน้าที่แดงระเรื่อบนใบหน้าของเธอจะบอกอีกอย่างก็ตาม
‘อึ๊กก…เราต้องเอาเรื่องนี้ออกไปจากความทรงจำให้ได้เลย…’
ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่ได้เห็นคนแก่กลุ่มหนึ่งดูเหมือนกำลังมีเวลาในชีวิต แน่นอนว่าไม่มีเรื่องทางเพศเกิดขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมอยากเห็นท่าทางแบบนั้นของพวกเขาหรอกนะ
“อะแห่ม…เรามาเข้าเรื่องหลักกันเลยดีกว่าค่ะ”
เฮล่าพูดอีกครั้ง น้ำเสียงของเธอดึงดูดความสนใจของทุกคน ขณะที่ผมลดพลังแห่งชีวิตลง ผมวางแผนเพียงทำให้พวกเขาผ่อนคลายเวลาอยู่ต่อหน้าผมเท่านั้น น่าเศร้าที่ดูเหมือนว่ามันจะได้ผลดีเกินไปหน่อย
“แล้วออสติน เธออยากจะประกาศกับโลกในฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเราตอนไหนเหรอจ๊ะ?”
เฮล่าถาม โดยที่ ‘ดวงตา’ ของเธอจับจ้องมาที่ผม
ผมไม่ลังเลขณะตอบ
“อย่างที่ผมบอกพี่ไปก่อนหน้านี้ ผมอยากจะรอจนกว่าตัวเองจะสำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาก่อนครับ ตอนนี้ผมมีคนจำนวนมากที่หวังจะใช้ประโยชน์จากผม มันเป็นแบบนั้นนับตั้งแต่สถานะของผมในฐานะผู้สืบทอดของอาจารย์เอเลนอร์ถูกเปิดเผย อย่างน้อยผมก็อยากลองสนุกกับชีวิตในสถาบันการศึกษาให้มากกว่านี้อีกซักหน่อยหน่ะครับ”
ไม่มีใครปฏิเสธแนวคิดนี้ พวกเขาล้วนใจดีโดยธรรมชาติและสามารถเห็นอกเห็นใจกับสิ่งที่ผมพูด นอกจากนี้การประชุมครั้งนี้เป็นเพียงพิธีการเพื่อพบปะกับทุกคนที่นี่และทำความรู้จักสิ่งต่างๆ นอกจากนี้โบสถ์ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การดูแลของผมในตอนที่ผมเข้ารับตำแหน่งในฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์
ลองนึกถึงโบสถ์ทั้งหมดที่เป็นของออร์เฟียสและผมเป็น ‘ลูกชาย’ ของเธอ ผู้ซึ่งจะได้รับมรดกทุกอย่างจากเธอ ซึ่งจะทำให้คนเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ภายใต้ผม ความแตกต่างคือผมไม่ต้องกังวลกับการทรยศใดๆ ซึ่งต่างจากบริษัทจริงๆ และคนเหล่านี้จะรับฟังทุกสิ่งที่ผมพูด 100%
โบสถ์ราเซลเลียก็เช่นเดียวกัน ซักวันหนึ่งผมจะเข้าควบคุมที่นั่นอย่างสมบูรณ์เช่นกัน ทำให้ทุกคนอยู่ใต้ปลายนิ้วของผมอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคาถาที่ผมมีอยู่ ผมจะกุมอำนาจทั้งหมดเหนือหัวใจของพวกเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า…นี่เป็นสถานการณ์ที่ดีจริงๆ! ตอนนี้เรามีบุตรศักดิ์สิทธิ์แล้ว! และถ้าโบสถ์ราเซลเลียมีบุตรศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้น เราก็จะไม่ตามหลังพวกนั้นแล้ว!”
“นั่นสิ ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
“เราต้องจัดงานปาร์ตี้กันแล้ว!”
ไม่นานทุกคนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนานและมีความสุขก่อนที่ผมจะพูดขัดขึ้นมา
“จริงๆ แล้ว ผมเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของโบสถ์ราเซลเลียด้วยครับ”
“…..”
“…..”
“…..”
“…..”
คำพูดของผมทำให้เกิดความเงียบสนิทขึ้นมา ทุกคนต่างเงียบไปกันหมด ผมเห็นริมฝีปากของเฮร่ากระตุกขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างผมด้วย เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์ของเธอกรีดร้องออกมา
‘เห้อออ…นี่คงจะเป็นการพูดคุยที่ยาวนานแน่ๆ’
ผมสรุป เนื่องจากผมไม่ต้องการเก็บข้อมูลนี้ไว้ในเมื่อสามารถแบ่งปันได้ จะดีกว่าสำหรับผมเพราะผมสามารถเชื่อมช่องว่างที่สร้างขึ้นภายในโบสถ์ทุกแห่งได้
“จริงๆ แล้วเรื่องก็คือ…”
ดังนั้นการสนทนาอันยาวนานจึงเริ่มขึ้นในห้องโถง และคราวนี้การสนทนาก็จริงจังยิ่งขึ้น
…..
‘เห้อออ..…ช่างเป็นการพูดคุยที่ยาวนานจริงๆ’
ผมคิดขณะจิบชาในมือและนั่งอยู่ในห้องที่ตกแต่งอย่างดี การพูดคุยกับพวกเขาดำเนินต่อไปเป็นเวลา 2 ชั่วโมง มันเป็นความเจ็บปวดที่ต้องรับมือกับข่าวใหญ่ราวกับว่าถ้ามันหลุดออกมา มันจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้
ชายคนเดียวเป็นเจ้าของโบสถ์ทั้ง 2 แห่ง? นั่นทำให้ผมเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกโดยอัตโนมัติ และนั่นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วแม้แต่สภาสงครามที่รักษาสันติภาพ และเป็นหนึ่งในที่เดียวที่ผมไม่ต้องการเป็นศัตรูกันก็ยังไม่กล้าที่จะต่อต้านโบสถ์ แม้แต่โบสถ์เองก็เป็นองค์กรที่ต่ำกว่าเทพธิดา และไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้
และหลังจากเรียนรู้ความลับทั้งหมดที่โบสถ์เก็บเอาไว้แล้ว ผมก็พูดได้อย่างมั่นใจว่าวันที่ผมเข้ายึดโบสถ์อย่างภาคภูมิใจ ผมจะไม่มีทางถูกหยุดยั้งในการพิชิตโลกได้ แถมในสถานการณ์ปัจจุบันผมยังมีขุมพลังหลายอย่างภายใต้การควบคุมอยู่อีก
ผมสามารถควบคุมดาร์กไนท์ได้ ทำให้ดวงตาของผมปกคลุมไปทั่วทั้งโลกใต้ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกข่าวลือและการต่อรองแบบลับๆ ไม่เคยเกิดขึ้นโดยที่ผมไม่รู้
ผมควบคุมประชาชนด้วยหนังสือและชื่อเสียง แถมจำนวนทรัพย์สินของผมก็อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก
โบสถ์ทั้งสองแห่งให้ความคุ้มครองและอำนาจแก่ผมโดยสมบูรณ์ ทำให้ผมเข้าถึงคนทั้งโลกได้
ผมมีพลังในแสงสว่างและความมืด และเมื่อผมมีศรัทธาอย่างสมบูรณ์ในการควบคุมพลังเหล่านี้ ผมจะได้โลกทั้งใบมาอยู่ในกำมือ
ถึงกระนั้นมันก็ยังยากที่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร ‘นั้น’ อย่างไม่น่าเชื่อ พลังทั้งหมดและความลึกลับของ ‘มัน’ มีแต่เพิ่มขึ้นเท่านั้น และนั่นเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่อยากให้พลังและสถานะของตัวเองถูกเปิดเผยในตอนนี้
สถานะปัจจุบันของผมเพียงพอแล้วที่จะมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องกลัวมากนัก เนื่องจากลูกชายของดยุกไม่ใช่คนที่ทอม, ดิ๊กหรือแฮรี่จะยุ่งด้วยได้ แถมผมยังเป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดินีแห่งธนูเอเลนอร์ สถานะของผมนั้นถือว่าตึงมาก
นอกจากนี้เมื่อผมมีข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการแล้ว มันคงจะน่าสนุกกว่าที่จะทำลายขุมพลัง ‘นั้น’ ด้วยการโจมตีมันแบบเต็มความสามารถของผมและทำลายมันลงทันทีและทำให้มันหายจากโลกนี้ตลอดไป
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต