The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 464 The Guilty Becomes The Innocent
‘ตอนนี้ก็น่าจะโอเคแล้ว…’
ผมคิดในใจขณะเดินออกจากหอคอยนักธนู โดยพยายามเลี่ยงการกลายเป็นจุดสนใจให้น้อยที่สุด หลังจากได้รับสิ่งที่เรียกว่าการยอมรับจากเอเลนอร์แล้ว เราใช้เวลา 2 ชั่วโมงด้วยกันในการมีเซ็กส์ที่ดุเดือดและเต็มไปด้วยความรัก หลังจากนั้นเราก็พูดคุยกันเพื่อพยายามปรับความเข้าใจกันให้มากขึ้น
เอเลนอร์ระบายคำพูดมากมายที่ติดอยู่ในใจเธอ ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงแต่ทำให้เอเลนอร์เข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังจุดประกายความทะเยอทะยานในตัวเธอที่จะเดินเคียงข้างผมอีกด้วย แน่นอนว่าเธอแข็งแกร่ง แต่เมื่อได้เห็นความสามารถที่ผมใช้แล้ว เธอก็รู้ดีว่ามันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่โลกจะหมุนรอบตัวผม ทัศนคติของเธอเปลี่ยนไปกลายเป็นความทะเยอทะยานที่มากขึ้น
ประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมได้พิสูจน์ให้เธอเห็นว่ามีผู้หญิงที่มีอำนาจอีกหลายคนที่อาจจะเริ่มเข้ามาติดพันกับผมในไม่ช้า เมื่อก่อนจิตใจของเธอได้ปรับตัวเข้ากับความจริงที่ว่าผมเป็นคนพิเศษ แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่าผมจะเป็นผู้กล้า ซึ่งหมายความว่ายังมีผู้หญิงที่สวยและมีอำนาจอีกมากที่จะถูกดึงดูดโดยผม
แม้ว่าตอนนี้มันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และผมก็ได้แสดงความเป็นไปได้ของมันให้เอเลนอร์เห็นแล้ว เมื่อเธอเริ่มหาข้อมูลมากขึ้น ในไม่ช้าเธอก็จะค้นพบจำนวนผู้หญิงที่อยู่รอบตัวผม เธอจะพยายามให้หนักกว่าสาวๆ คนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวผม ซึ่งจะสนุกและเป็นประโยชน์ต่อแผนการของผมข้างหน้า
‘ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะสรุปเรื่องนี้แล้ว’
ด้วยความคิดเช่นนั้นผมจึงเคลื่อนไหวต่อไป โดยใช้เส้นทางของผมเพื่อกลับเข้าสู่สถาบัน หลังจากนั้นก็เป็นการเดินอย่างช้าๆ เพื่อไปยังสถานที่ที่ผมเคยพบกับสการ์เล็ต จนไม่นานผมก็ขึ้นมาถึงบนยอดอาคารและพบว่าสการ์เล็ตนั่งอยู่ตรงขอบขณะมองไปบนท้องฟ้าอันไกลโพ้น
ใบหน้าของเธอดูเหมือนตกอยู่ในภวังค์ขณะที่จ้องมองไปยังท้องฟ้า เมื่อเห็นเธอ ดวงตาของผมก็ส่องประกายขึ้น ก่อนที่ผมจะเริ่มการแสดงด้วยไหล่ที่เอียงเล็กน้อย ดวงตาของผมมืดมนขึ้นเล็กน้อยและสีหน้าที่เปลี่ยนไประหว่างความลังเล แต่ในไม่ช้าผมก็เอาชนะ ‘ความลังเล’ นั้นได้ในขณะที่เดินไปหาสการ์เล็ต ผมนั่งข้างเธอโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ความเงียบระหว่างเราช่างหนาวเหน็บ แต่ก็ไม่นานนักเมื่อผมเริ่มพูด
“ผู้หญิงทุกคนที่ฉันห่วงใยตอนนี้รู้เรื่องนี้แล้ว และฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ฉันจะบอกเธอด้วย…”
เมื่อพูดเช่นนั้นจบ ผมก็เริ่มเล่าเรื่องไร้สาระที่ตัวเองบอกกับเกรซและคนอื่นๆ ต่อสการ์เล็ต โดยไม่เปลี่ยนคำพูดในขณะที่เธอยังคงฟังอยู่ การแสดงออกของเธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความประหลาดใจแต่ก็ไม่สำเร็จ เหตุผลก็คือความจริงที่ว่าทั้งสการ์เล็ตและเซเลสทีเนียนั้นก็อยู่ในห้องด้วยในตอนที่ผมเล่าเรื่องเหล่านี้ให้กับพวกมิร่าฟัง
เป็นเรื่องปกติสำหรับทั้งสการ์เล็ตและเซเลสทีเนียที่รู้สึกได้ถึงพลังของอาเรียในตอนที่เธอปรากฏตัวออกมา หลังจากนั้นก็ถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิง 2 คนที่รักผมจะสงสัยมากถึงตัวตนซึ่งมีพลังระดับมังกรที่ปรากฏขึ้นใกล้ตัวผม ซึ่งหลังจากนั้นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบตามที่ผมวางแผนไว้
ไม่นานผมก็พูดจบในขณะที่สการ์เล็ตยังคงเงียบอยู่ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อเธอถามขึ้นมา
“นายช่วยบอกถึงภารกิจที่นายได้รับหน่อยได้ไหม?”
“ไม่ได้หรอก ฉันไม่สามารถทำร้ายเธอได้…”
ผมพึมพำด้วยน้ำเสียงแข็งขึ้นกว่าที่เคยในตอนที่พูดถึงส่วนนี้
“เหตุผลที่นายปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฉันเพราะมีภารกิจนั่นงั้นสินะ?”
สการ์เล็ตถามอีกครั้ง ซึ่งฉันก็ยืนยันเช่นนั้น
“อืม”
“เหตุผลที่นายกลัวที่จะผูกพันกับฉันมากกว่านี้ก็เพราะนายกลัวว่าตัวเองจะไม่รอดหลังจากภารกิจนั่นเหรอ?”
ผมไม่ตอบ แต่แค่ความเงียบก็ถือเป็นคำตอบที่เพียงพอแล้ว เป็นอีกครั้งที่ความเงียบอันน่าพิศวงปกคลุมไปทั่วบรรยากาศระหว่างเราและผมก็มองเห็นความสิ้นหวังที่เอ่อล้นลึกเข้าไปในดวงตาของสการ์เล็ตได้
“ฉันไม่เคยคิดจะจริงจังกับเธอเลย เหตุผลที่ฉันอยากให้เราเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนกันก็เพื่อยืดเยื้อสิ่งต่างๆ ให้นานที่สุด จนกว่าฉันจะมั่นใจว่าตัวเองจะรอด เพราะฉันไม่สามารถปล่อยให้เธอเจ็บปวดได้ แต่ว่า…”
“แต่?”
สการ์เล็ตถาม
ผมหันไปหาเธอ ในที่สุดเราก็ได้สบตากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สการ์เล็ตแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวตอนที่ผมพูดถึงการแอบชอบมาร์ลีน
“แต่ยิ่งฉันใช้เวลากับเธอมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งยากมากขึ้นที่จะทำตามที่ตัวเองวางแผนไว้ เพราะไม่ว่าหัวใจฉันจะรู้สึกโดดเดี่ยวซักแค่ไหน ตัวตนของเธอก็มักจะเติมเต็มมันได้เสมอ”
เมื่อพูดเช่นนั้นจบ ผมก็มองเข้าไปในดวงตาสีเข้มของสการ์เล็ต และหันไปทางพระอาทิตย์ตกขณะที่พูดต่อ
“น่าตลกดีเนอะ เธอเป็นความผิดพลาดที่ฉันช่วยไว้ในตอนที่ผ่านเส้นทางที่ฉันวางแผนไว้ เธอเป็นเพื่อนที่ฉันตัดใจว่าจะได้เจอกันอีก หลายปีต่อมา เธอก็ปรากฏตัวในชีวิตของฉัน ฉีกกำแพงที่ฉันตั้งไว้เพื่อปกป้องทุกคนที่ฉันรัก…”
เสียงของผมหนักแน่น, เสียใจและเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างยิ่งขณะพูดต่อ
“เธอรู้ไหม ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในใจฉัน…”
ผมพูดออกมาซึ่งดึงความสนใจของสการ์เล็ตขึ้นแบบ 200%
“แต่ฉันก็สูญเสียเธอไปเหมือนกันในตอนที่เธอทรยศฉันด้วยเหตุผลที่ฉันไม่มีวันเข้าใจ ในตอนนั้นที่ฉันมอบความรักให้กับเธอคนนั้น เธอก็โยนมันทิ้งไปทั้งหมด ใช่ ฉันกลัวสการ์เล็ต ฉันเลยอยากจะตีตัวออกห่างจากเธอ ฉันในตอนนี้คงน่าสมเพชสินะ?”
คำพูดของผมลอยอยู่ในอากาศขณะที่ผมหลบตาเธอ การแสดงออกของผมเพียงพอที่จะทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจจากคนใจเย็น ระหว่างเราช่วงเวลาแห่งความเงียบงันดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหลังจากนั้นสการ์เล็ตก็เริ่มพูด
“นายจากครอบครัวไปเพื่อปกป้องพวกเขา นายผลักไสทุกสิ่งเพื่อปิดกั้นหัวใจและแบกรับภาระหนักของโลกเพียงลำพัง แต่นายไม่เคยร้องไห้หรือขอความช่วยเหลือเลย แล้วตอนนี้ฉันยังมาหลบหน้านายอีก…”
แต่ละคำพูดที่สการ์เล็ตพูดนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความอัปยศอดสูที่ไหลเวียนอยู่ในใจของเธอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใจของเธอก็เจ็บปวดเพราะเธอมองไม่เห็นสิ่งที่ผมกำลังเผชิญอยู่ แม้ว่าเธอจะบอกว่าเธอรักผมก็ตาม อดีตที่เธอเฆี่ยนตีและวิ่งหนีจากผมด้วยความจริงของมาร์ลีนตอนนี้ทำให้ใจเธอแตกสลายอย่างไม่ต้องสงสัย
“ออสติน… ฉัน…”
นั่นคือทั้งหมดที่เธอพึมพำได้ก่อนจะเงียบลงเมื่อเห็นหน้าผม เธอโอบมือรอบเอวของผม วางหัวลงบนไหล่ของผมและกอดผมแน่นเพื่อปลอบโยนโดยไม่พูดอะไรเลย
“ฉันจะไม่ปล่อยให้นายเจ็บปวด ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้นายตาย และฉันจะไม่มีวันปล่อยนายไปหรอก ผู้หญิงเหล่านั้นอาจสามารถทำให้หัวใจของนายหลงเสน่ห์ได้ แต่ฉันจะอยู่เหนือพวกเธอทั้งหมด ฉันจะเป็นกำแพงที่นายสามารถพึ่งพิงได้ตลอดไป…”
เธอพึมพำด้วยความมั่นใจ ซึ่งเป็นคำสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรสักคำ ผมแค่นั่งมองเส้นขอบฟ้า รับบทเป็นผู้ชายที่ไม่สามารถยอมรับคำพูดเหล่านั้นได้ ไม่ใช่หลังจากสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปครั้งหนึ่งและเกือบจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปกับสการ์เล็ตแล้ว
ความเงียบของผมดูเหมือนจะทำร้ายเธอเมื่อผมเห็นว่าใบหน้าของสการ์เล็ตย่นลง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอกำลังวางแผนวิธีที่จะฟื้นคืนความรักและความโปรดปรานที่เธออาจสูญเสียไป ด้วยเหตุนี้ผมจึงเปลี่ยนตัวเองจากผู้ผิดไปสู่ผู้ได้รับผลกระทบ
[ คุณกำลังเล่นเกมที่อันตราย… ]
ระบบแจ้งเตือนผม
[ การเล่นกับผู้หญิงที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เพิ่มจุดประสงค์ให้สูงกว่าที่ควรจะสร้างสัตว์ประหลาด จะเกิดความวุ่นวายและผลที่ตามมา… ]
ผมบ่นกลับไป ท้ายที่สุดแล้วกระดานหมากรุกนี้จะเพียงพอสำหรับผมที่จะเข้าร่วมในฐานะผู้เล่น
แสงเย็นๆ แวบผ่านดวงตาของผมขณะที่ผมหันไปมองมุมหนึ่งที่เซเลสทีเนียยืนอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย
‘มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมังกรอัจฉริยะในรอบพันปีบ้าคลั่ง…’
[ ดูเหมือนว่าความชิบหายกำลังจะมาถึงแล้ว… ]
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต