The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 469 Time To Conquer Another Princess
‘อืมม…’
เมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักเล็กน้อยบนร่างกายของตัวเอง ผมจึงลืมตาขึ้นและเห็นหัวสีเงินที่ซบอยู่บนหน้าอกของตัวเอง สายตาของผมกวาดไปทั่วร่างอันงดงามของเธอก่อนจะสังเกตเห็นร่องรอยที่ผมทิ้งไว้บนคอ, หน้าอกหรือแม้แต่ก้นของเอลด้าที่ร่างกายยังคงดูยั่วเย้าเช่นเคย
แม้ว่าผมจะทำทุกอย่างกับร่างกายของเธอแล้ว แต่ผมกับเอลด้าก็ยังไม่ได้ก้าวล้ำเส้นไป อาจจะต้องเผชิญหน้ากันอีก 2-3 ครั้งและในไม่ช้าผมก็จะสามารถอ้างสิทธิ์เธอเป็นของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ จริงๆ แล้วผมไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องพวกนั้นก็ได้ เนื่องด้วยสิทธิอำนาจและพรของผมทำให้ผมสามารถขจัดข้อจำกัดเหล่านี้ไปจากเธอได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามนั่นก็หมายความว่าเธอจะสูญเสียหนทางที่จะเอาชนะสิ่งนี้ด้วยตัวเอง และเมื่อเธอทำได้ รางวัลจะน่าดึงดูดมาก
‘เธอน่ารักจริงๆ…’
ผมประหลาดใจกับรูปร่างที่สวยงามของเธอก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวเองและจัดหมอนเพื่อให้เอลด้าสบายขึ้น เราใช้เวลาเกือบทั้งคืนด้วยกัน ซึ่งเธอขาดพลังที่ผมมี
หลังจากจูบหน้าผากเธอและเห็นรอยยิ้มของเธอแล้ว ผมก็มุ่งหน้าไปห้องน้ำเพื่อเติมความสดชื่น
‘ตอนนี้เกรซคงจะถึงทางตันแล้วสินะ…’
ตอนนี้ผมได้ติดต่อกับเอเลนอร์, มิร่าและสการ์เล็ตแล้ว แต่ผมยังไม่ได้เข้าใกล้เกรซเลย ผมอยากปล่อยเธอไว้สัก 2-3 วันเพื่อกำจัดความลังเลในใจของเธอให้หมดไป ทิ้งชีวิตสบายๆ ของเธอไว้ข้างหลังและยอมรับการก้าวไปข้างหน้า เธอคงจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่จะเป็นผู้นำกลุ่มฮาเร็มของครอบครัวผม
‘สงสัยจังว่าการจุดประกายระหว่างโอลิเวียและแคทเธอรีนเป็นยังไงกันบ้างนะ?’
ผมได้จุดชนวนไปแล้ว แต่ทิศทางที่จะใช้นั้นขึ้นอยู่กับทั้งสองคนเท่านั้น ขณะที่ผมกำลังคิดอยู่ อุปกรณ์สื่อสารของผมก็สว่างขึ้นพร้อมกับข้อมูลที่แสดงบนนั้นที่ทำให้ผมยิ้มออกมา
‘เร็วกว่าที่คิดไว้แหะ…’
เพื่อยืนยันความคิดของตัวเอง ผมจึงออกจากคฤหาสน์ไป เพลิดเพลินกับสายลมยามเช้าขณะเดินอย่างราบรื่น สายตาของคนอื่นจ้องมองมาที่ผมเช่นเคยเมื่อผมมาถึงสถานีเทเลพอร์ตและเดินผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย
ภายในไม่กี่วินาทีต่อมาผมก็มาถึงยังจุดหมายปลายทาง สายตาของผมมุ่งความสนใจไปยังชมรมยิงธนู ในขณะที่สมาชิกทุกคนต่างมองมาที่ผมด้วยความเคารพขณะที่ผมเข้าไปในอาคาร
ไม่จำเป็นต้องได้รับการร้องขอใดๆ เพราะผมมาถึงพื้นที่ฝึกส่วนตัวได้อย่างง่ายดาย มันมีสมาชิกอยู่ข้างในอยู่แล้ว และผมก็ใช้อำนาจของตัวเองเพื่อเข้าไปในห้องก่อนจะพบเข้ากับลูกธนูที่ถูกยิงมาจากคาร์เมลอย่างแม่นยำในตอนที่ผมก้าวเข้าไปในห้อง ซึ่งผมก็สามารถหลบพวกมันได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร
“นี่คือการทักทายงั้นเหรอครับ…”
ผมพูดด้วยรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้า
หลังจากที่รู้ว่าคือผมที่เข้ามาในห้อง คาร์เมลก็วางคันธนูลงด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลายลงจนกลายเป็นรอยยิ้มหยอกล้อขณะที่เธอพูด
“นั่นก็เพราะเธอเข้ามาในห้องส่วนตัวยังไงหล่ะ…”
“ผมต้องทำแบบนี้เพราะเห็นว่ารุ่นพี่กำลังรู้สึกแย่หน่ะสิครับ…”
ผมตอบทำให้คาร์เมลสะดุ้งก่อนที่เธอจะถามกลับมา
“เธอรู้ได้ยังไงกัน?”
“ก็รุ่นพี่ยิงพลาดหนิครับ”
ผมพูดแล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเอง นี่เกินพอที่จะทำให้เธอยิ้มอย่างเขินอายได้แล้ว
คาร์เมลส่ายหัวขณะที่มองดูเป้าซ้อมที่ถูกทำลายรอบๆ ตัวเธอ
“ฉันไม่อยากจะพูดถึงมัน”
เธอพูดพร้อมกับมุ่งความสนใจไปที่เป้าซ้อมของเธออีกครั้ง มือของเธอไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียวในขณะที่เธอยังคงยิงเป้าหมายหลายเป้าหมายลงไป โดยแต่ละเป้าหมายจะยากกว่าเป้าหมายถัดไปเรื่อยๆ
“แล้วเพื่อนสนิทของรุ่นพี่ 2 คนนั้นไปไหนงั้นเหรอครับ?”
ผมถามขณะยืนอยู่ข้างหลังเธอและเฝ้าดูเธอระบายความคับข้องใจทั้งหมด
“พวกเขายุ่งอยู่หน่ะ”
เธอตอบง่ายๆ พร้อมยิงธนูที่ผิวปากไปติดที่กึ่งกลางของเป้าหมาย
เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็ส่ายหัวแล้วหยิบธนูธรรมดาและลูกธนูออกมา ในตอนที่คาร์เมลยิงธนูลูกถัดไป ผมก็ยิงอีกลูกหนึ่งต่อหลังจากเธอไปโดนลูกธนูของเธอทำให้มันเบี่ยงเส้นทางและทำให้เธอพลาดเป้า
“ทำอะไรของเธอหน่ะ?”
เธอถามอย่างรำคาญขณะที่หัวของเธอเชิดไปทางผม
ผมยักไหล่มองเธอขณะพูด
“มาสู้กันหน่อยเป็นไงครับ?”
คำพูดของผมกระตุ้นความสนใจของเธอทำให้ถามกลับมา
“สู้แบบจริงๆ งั้นเหรอ?”
“สู้จริงๆ ครับ”
ผมตอบทำให้คาร์เมลยิ้มและไม่พูดอะไรอีก เธอเคลื่อนตัวออกห่างจากผมก่อนจะยิงลูกธนูมาใส่ด้วยความพร้อมที่จะสู้กันแล้ว
ผมเอียงศีรษะไปด้านข้างอย่างรวดเร็วก่อนจะรู้สึกถึงลมกระโชกในตอนที่ลูกธนูแล่นผ่านแก้มไป
ผมยิ้มแล้วถอยไป 2-3 ก้าวเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างเรา
คาร์เมลเลิกคิ้วพร้อมกับแววตาที่เป็นประกายจากการแข่งขัน เธอน้าวลูกธนูอีกลูกหนึ่ง โดยเน้นอย่างเฉียบแหลมขณะที่ดึงสายกลับมาอย่างง่ายดาย
หลังจากที่คาร์เมลปล่อยลูกธนู ผมก็ก้าวเท้าเลี่ยงได้อย่างนุ่มนวลพร้อมกับรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นของอะดรีนาลีนที่ไหลผ่านเส้นเลือด
ลูกธนูของคาร์เมลพุ่งผ่านผมไป วิถีของมันเบลอหายไปในอากาศ ผมหายใจเข้าลึกๆ ขณะสัมผัสถึงน้ำหนักคันธนูที่คุ้นเคยในมือและน้าวลูกธนูของตัวเอง
เราเคลื่อนไหวด้วยความสง่างาม เราแต่ละคนยิงธนูด้วยความแม่นยำและตรงเป้า มันเป็นการร่ายรำของทักษะและเทคนิค ลูกธนูที่บินไปในอากาศราวกับดาวตก เราสู้กันต่อผ่านพื้นที่ฝึกซ้อม รอยเท้าของเราบ่งบอกถึงรูปแบบของความมุ่งมั่นและการแข่งขัน
การยิงของคาร์เมลนั้นแม่นยำ ลูกธนูของเธอตกลงไปใกล้กับเป้าหมายอย่างอันตราย แต่ผมรู้สไตล์, จุดอ่อนและนิสัยของเธอดี ผมสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของเธอเพื่อหลบและหันเหลูกธนูของเธอด้วยความเฉียบแหลมจากการคำนวณได้
แต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไป ความเข้มข้นของการแข่งขันก็เพิ่มขึ้น ความตึงเครียดระหว่างเราเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความหลงใหลในการยิงธนูที่มีร่วมกัน เราหลับตาลง และผมเห็นได้ถึงไฟที่ลุกโชนอยู่ในสายตาของคาร์เมล ความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเอง
ผมตัดสินใจทดสอบเธอเพิ่มเติม ในตอนที่เธอเล็งไปยังเป้าหมายที่อยู่ปลายสุดของพื้นที่ฝึก ผมก็ย่นระยะห่างระหว่างเราด้วยการวิ่งอย่างมีเป้าหมาย ร่างกายของผมเคลื่อนไหวไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ผมตั้งใจแน่วแน่ที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของเธอ เพื่อดูว่าเธอจะเข้ากับจังหวะของผมได้หรือไม่
คาร์เมลสังเกตเห็นการเข้าใกล้ของผมจึงเร่งฝีเท้าของเธอให้เร็วขึ้น เธอยิงธนูอย่างรวดเร็วติดต่อกัน ทำให้ผมต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว ผมเบี่ยงพวกมันออกทีละลูก ลูกธนูพุ่งผ่านผมไปขณะที่ผมลดระยะห่างระหว่างเราลง ผมสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของความท้าทายที่แล่นผ่านเส้นเลือดไปยังหัวใจที่เต้นแรงอยู่ในอก
ในที่สุดผมก็มาอยู่ในระยะโจมตี ด้วยการเคลื่อนไหวที่คำนวณไว้แล้ว ผมจึงพุ่งตัวไปข้างหน้า โดยมีคันธนูทำหน้าที่เป็นส่วนขยายของร่างกาย
คาร์เมลตอบสนองตามสัญชาตญาณ แต่ผมเร็วกว่า ผมบิดตัวหลบลูกธนูของเธอและลดระยะห่างสุดท้ายระหว่างเรา
ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเพียงครั้งเดียวทำให้ผมสามารถปลดอาวุธเธอได้ก่อนที่คันธนูของผมจะกดเข้าหาเธอ ใบหน้าของเราห่างกันเพียงไม่กี่นิ้ว ลมหายใจของเราปะปนกันในอากาศ เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งเมื่อเรายืนอยู่ตรงนั้น ติดอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสัมพันธ์อันเข้มข้น
ดวงตาของคาร์เมลเบิกกว้างด้วยทั้งความประหลาดใจและความชื่นชมที่เปล่งประกายอยู่ในแววตา
รอยยิ้มกระตุกที่มุมริมฝีปากของผมขณะที่ผมพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงใจ
“สู้ได้ดีเลยนะครับรุ่นพี่คาร์เมล ทักษะและความมุ่งมั่นของรุ่นพี่ไม่มีใครเทียบได้เลยครับ”
ริมฝีปากของเธอโค้งเป็นรอยยิ้ม แววตาของเธอเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
“นายเองก็ทำได้ดีเหมือนกันคุณรุ่นน้อง”
เราอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง สนุกสนานกับการโต้ตอบระหว่างกันและกัน จากนั้นผมก็ปล่อยคันธนูของเธออย่างช้าๆ และถอยกลับไปหนึ่งก้าวเพื่อให้เธอมีที่ว่าง ความเข้มข้นของการแข่งขันเริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยความสนิทสนมกันและความเคารพซึ่งกันและกัน
“ถ้ารุ่นพี่ตั้งใจจริงๆ มันคงไม่จบลงเร็วขนาดนี้หรอกครับ”
คำพูดของผมทำให้คาร์เมลเงียบไป เธอส่ายหัวด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนไหลผ่านใบหน้าของผู้หญิงที่กระตือรือร้นและใจดีคนนี้ขณะตอบกลับ
“มันเป็นเรื่องของครอบครัวฉันหน่ะ ฉันไม่อยากลากเธอเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้”
คาร์เมลตอบพร้อมกับหันศีรษะไปทางด้านข้าง คำพูดของเธอบ่งบอกถึงจุดยืนของผมในฐานะไลออนฮาร์ทซึ่งเป็นข้อจำกัดที่มีบทบาทในแวดวงการเมือง เมื่อเห็นความแน่วแน่ของเธอ ผมก็ยิ้มแล้วเดินเข้าไปหาทำให้เธอสบตากับผม
“ผมไม่ได้ถามในฐานะออสติน ไลออนฮาร์ทครับ แต่เป็นในฐานะของออสติน ผู้สืบทอดของเอเลนอร์ รุ่นน้องและครอบครัวคุณ”
คำพูดของผมทำให้ดวงตาของคาร์เมลสั่นสะเทือน คำว่า ‘ครอบครัว’ โดนใจเธอและทำให้เธอเข้าถึงได้ง่าย เธอกัดริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ขณะมองมาที่ผม การไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งผ่านเข้ามาในจิตใจของเธอจนกระทั่งในที่สุดเธอก็พูดออกมา
“มันเกี่ยวกับน้องสาวของฉันหน่ะ…”
‘และก็สำมะเร็จ’
ผมดีใจกับโอกาสที่ตัวเองได้รับ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต