The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 470 Fight Between Senior and Junior
เทีย ทไวไลท์น้องสาวของคาร์เมลและเป็นหนึ่งในเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรทไวไลท์และเป็นหนึ่งในเป้าหมายการจีบของผมอีกด้วย คล้ายกับของเอลด้าที่ผู้เล่นจะต้องช่วยเธอเพื่อรับคะแนนความรักเพิ่มเติมจากคาร์เมล ผลลัพธ์ของเรื่องราวขึ้นอยู่กับว่ามันถูกถักทออย่างไร แต่เทียเป็นตัวละครที่แปลกประหลาดมากที่ต้องรับมือและผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะอยู่ห่างจากเธอ
สาเหตุหลักคือคำสาปที่ส่งผลในการนำพาความโชคร้ายมาสู่ชีวิตของเธอ มันรุนแรงมากจนเธอมีส่วนที่แตกต่างกันของตัวเองที่จะอยู่ อันที่จริงข้อมูลส่วนนี้ของเธอถูกเก็บเป็นความลับที่ได้รับการปกป้องอย่างใกล้ชิด ทางอาณาจักรยังเคยเรียกนักบุญหญิงของโบสถ์ราเซลเลียมาเพื่อดูว่าเหตุใดคำสาปดังกล่าวจึงส่งผลต่อเธอด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับก็คือเทียถูกสาปด้วยคำสาปอันทรงพลังที่แม้แต่นักบุญหญิงก็ไม่สามารถทำอะไรได้
คำสาปพิเศษของเทียยังส่งผลต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวเธอและนำโชคร้ายมาสู่ผู้อื่นอีกด้วย ในเกมผมได้เห็นผู้เล่นหลายคนประสบโชคร้ายหลังจากเลือกเทียเป็นเป้าหมายในการจีบ มีแม้กระทั่งสถานการณ์ที่ตัวละครเสียชีวิตจากการดื่มยาพิษ ซึ่งจริงๆ แล้วมีไว้สำหรับคนอื่น!
นั่นเป็นเพียงหนึ่งในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับโชคร้ายที่อาจเข้ามาในชีวิตของคุณหากคุณต้องการจะจีบเทีย อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผมเนื่องมาจากพรของราเซลเลียที่จะปกป้องผมจากคำสาปทุกประเภทอยู่ ดังนั้นผมจึงไม่มีปัญหาในการเข้าหาเทียแต่อย่างใด
“น้องสาวของรุ่นพี่เป็นอะไรงั้นเหรอครับ?”
ผมถามขณะที่คาร์เมลและผมนั่งลง ดวงตาของผมเพ่งความสนใจไปที่เธอ
ความลังเลแวบหนึ่งแวบผ่านดวงตาของเธอขณะที่เธอตอบ
“เธอป่วยหน่ะ ผู้เชี่ยวชาญทุกคนถูกเรียกเข้าไปแล้ว แต่กลับยังไม่มีใครสามารถระบุได้ว่าเธอเป็นอะไร ดูเหมือนว่าความโชคร้ายของเธอกำลังส่งผลแล้ว…”
“ความโชคร้ายงั้นเหรอครับ?”
ผมถามด้วยน้ำเสียงสนใจ
เมื่อได้ยินคำพูดของผม คาร์เมลก็หายใจเข้าลึกๆ และเริ่มอธิบายอาการพิเศษของเทีย ในตอนนั้นเองที่ท่าทางของผมเปลี่ยนจากความสงบเป็นความประหลาดใจและในที่สุดก็กลายเป็นความเห็นอกเห็นใจ ความรู้สึกไม่อยากเชื่อเต็มอยู่ในน้ำเสียงของผมขณะที่ผมถามต่อ
“นี่มัน…มีคนอยู่แบบนี้ได้ยังไงกันครับ?”
“นั่นนะสิ เทียเจอเรื่องแย่ๆ มามากเกินไปแล้ว…”
คาร์เมลเสริมคำพูดของผม
เทียต่างจากพี่น้องคนอื่นๆ ตรงที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับคาร์เมล เนื่องจากมีแม่คนเดียวกัน คาร์เมลห่วงใยเทียอย่างลึกซึ้ง บางครั้งเธอถึงกับเสี่ยงต่อสุขภาพและโชคร้ายเพื่อที่จะให้ได้อยู่ใกล้เทียด้วยซ้ำ
“ฉันคงแก้ไขเรื่องโชคร้ายของเธอไม่ได้ แต่ฉันคงเสียใจแน่ๆ ถ้าฉันยังปล่อยให้เธอป่วยอยู่แบบนี้”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว แต่ความโศกเศร้าในดวงตาของเธอยังคงอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็ยังคงเงียบ สีหน้าของผมมองผ่านมุมที่แตกต่างกัน สะท้อนถึงความลังเลและความสงสัย ท่าทางของผมดูเหมือนคนที่กำลังครุ่นอะไรบางอย่างอยู่ คาร์เมลจับจ้องมาที่ผมและมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เป็นคำถาม
“อาการป่วยที่รุ่นพี่พูดถึงนั่น ผมอาจจะรู้ก็ได้นะครับว่ามันคืออะไร”
ผมพูดด้วยความเอะใจ แต่คำพูดของผมก็มากเกินพอที่จะดึงประกายแวววาวในดวงตาของคาร์เมลกลับมา
“จริงเหรอ?!”
เธอถามพร้อมกับขยับหน้าเข้ามาใกล้ผมด้วยความคาดหวัง
ผมยิ้มเจื่อนๆ ให้เธอก่อนจะผลักใบหน้าที่สวยงามของเธอออกไปเล็กน้อยและตอบกลับไป
“ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ผมยังไม่สามารถยืนยันได้จนกว่าจะได้ฟังอาการเพิ่มเติมหรอกนะครับ”
คาร์เมลพยักหน้ากับคำตอบของผมและเริ่มเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับอาการป่วยของเทีย
ผมยังคงครุ่นคิดระหว่างที่เธอเล่าก่อนที่สีหน้าของผมจะกลายเป็นมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่คาร์เมลยังคงเล่าต่อไป ในที่สุดเธอก็หยุดและสีหน้าครุ่นคิดบนใบหน้าของผมก็กลับมาแน่วแน่
“อืม ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นโรคเดียวกับที่ผมรู้จักก็ได้ครับ”
เมื่อผมพูดจบ คาร์เมลไม่ได้โต้ตอบในทันที ใบหน้าของเธอดูงุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกลายเป็นเย็นชา
ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นคาร์เมเลียที่กำลังควบคุมร่างอยู่ขณะที่เธอมองมาที่ผมด้วยสายตาเย็นชาและถามขึ้นมา
“นายรู้จักอาการป่วยที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในด้านการรักษาก็ไม่รู้ได้ยังไงกัน?”
เธอถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ผม ‘สะดุ้ง’ อยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้ยินน้ำเสียงของเธอก่อนที่สีหน้าของผมจะจริงจังขึ้นขณะถามเธอกลับด้วยน้ำเสียงสงบ
“คุณกำลังบอกเป็นนัยว่าผมอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่น้องสาวคุณป่วยงั้นเหรอครับ?”
เมื่อเห็นสีหน้าของผมเปลี่ยนไป คาร์เมเลียก็ไม่สะทกสะท้านในขณะที่เธอตอบกลับ
“น้องสาวของฉันป่วยอย่างลึกลับ แล้วนายก็มาปรากฏตัวในเวลาที่เหมาะเจาะ โดยรู้วิธีแก้ปัญหาเดียวที่จะช่วยน้องสาวของฉันได้ ขอโทษทีที่ฉันต้องบอกว่ามันยากที่จะเชื่อว่านายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”
คำพูดของเธอทำให้ผมมีสีหน้าผ่อนคลาย ดวงตาของผมยอมรับคำพูดของเธอก่อนที่ผมจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ
“นั่นก็จริงครับ กลับกันถ้าผมเป็นก็คงจะคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่ผมอยากจะถามอะไรคุณสักหน่อยครับ หลังจากที่คุณได้รู้แล้วว่าผมเป็นคนยังไง ใจของคุณก็ยังคงคิดว่าผมเป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจอยู่งั้นเหรอครับ? คุณไม่เห็นผมเป็นครอบครัวเลยเหรอครับ?”
คำพูดของผมดูเหมือนจะกระทบใจคาร์เมเลียขณะที่เธอเงียบไปครู่หนึ่ง สีหน้าเย็นชาของเธอแสดงความสับสนขณะที่เธอถามผมกลับ
“ในฐานะเจ้าหญิง ฉันต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมายในชีวิต การโกหกและความเสแสร้งมักจะอยู่รอบๆ ฉันเสมอ การระมัดระวังตัวเป็นสิ่งที่ควรมีสำหรับผู้ปกครอง”
คำพูดของเธอดูเหมือนจะหลบเลี่ยงคำตอบ แต่ผมไม่ยอมรับ สีหน้าของผมกลายตึงเครียดขณะพูดกับคาร์เมเลีย
“ไม่ต้องอ้อมค้อมหรอกครับ คุณก็รู้จักผมดี เราใช้เวลาหลายคืนต่อสู้กันในตอนกลางคืน หลายคืนที่คุณลิ้มรสอาหารของผม วิธีง่ายๆ ที่ผมสามารถฆ่าหรือควบคุมคุณได้ เราต่อสู้จนตัวตายในเมืองและความสัมพันธ์ของเราก็ดำเนินไปอย่างลึกซึ้งในฐานะรุ่นพี่และรุ่นน้อง หลังจากทั้งหมดนี้คุณยังสงสัยผมอยู่อีกเหรอครับ?”
คราวนี้เสียงของผมหนักแน่นขึ้นเพื่อให้คาร์เมเลียเข้าใจ บุคลิกคาร์เมเลียที่เกี่ยวข้องกับความสกปรกทางการเมืองและโลกที่อันตรายถึงชีวิตเงียบไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเธอเปลี่ยนไประหว่างความงุนงงและระงับใจ
ตอนนี้คาร์เมลคงกำลังพยายามควบคุมร่างกายอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย ผมเงียบรอคำตัดสินขั้นสุดท้าย
ในไม่ช้าสีหน้าของคาร์เมเลียก็อ่อนลง ในที่สุดสีหน้าเย็นชาของเธอก็ละลายเมื่อเธอพูดขึ้น
“ใช่”
มันเป็นคำง่ายๆ แต่มันทำให้ผมต้องหลับตาลง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะเอนตัวพิงเก้าอี้ ความเงียบอันตึงเครียดปกคลุมเราอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถูกทำลายจากการลืมตาและคำพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สนใจ
“ระหว่างการเดินทางของผมไปทั่วโลก ผมลงเอยในอาณาเขตปิดที่ซึ่งผู้คนอาศัยอยู่ถูกตัดขาดจากส่วนที่เหลือ ที่นั่นผมได้พบกับโรคประหลาดนี้ ซึ่งถูกลืมไปในยุคนี้ครับ”
ขณะที่คาร์เมเลียอ้าปากจะพูด ผมก็ยกมือขึ้นเพื่อหยุดเธอ โดยยังคงจ้องมองอย่างเฉยเมยขณะพูดต่อ
“สถานที่นั้นถูกผนึกไว้ และไม่สามารถเข้าถึงได้หากไม่มีผม ผมสาบานว่าจะเก็บสถานที่นั้นไว้เป็นความลับ แต่เมื่อรู้ถึงชีวิตของหญิงสาวคนนี้ ผมจะเสี่ยงเข้าไปในสถานที่นั้นและหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อช่วยเธอและควบคุมพลังของเธอเองครับ”
คำพูดสุดท้ายของผมลอยอยู่ในอากาศ และคาร์เมเลียก็ตัวสั่นต่อหน้าผมขณะที่ผมพูดต่อ
“ใช่ครับ นี่ไม่ใช่อาการป่วย เป็นสิ่งที่อาจช่วยได้ ไว้ผมจะเล่าให้ฟังทีหลัง ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเธอหรอก อาการของเธอจะค่อยๆ จางหายไป เธอจะไม่เป็นไรจนกว่าผมจะพบวิธีแก้ปัญหาครับ”
หลังจากพูดมาถึงจุดนี้ผมก็ยืนขึ้น สายตาจับจ้องไปที่คาร์เมเลียขณะที่ผมวางหม้อปรุงอาหารลงบนโต๊ะ
“นี่เป็นของหวานที่ผมทำเพื่อเป็นกำลังใจให้คุณครับ”
ผมเปิดมันออกเผยให้เห็นบิสกิตชนิดโปรดของคาร์เมเลียและคาร์เมล
“และสำหรับน้องสาวของคุณที่มีปัญหาแปลกประหลาดนี้ได้ยังไง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ลองตรวจสอบกับทางวังของคุณเอาแล้วกันนะครับ ผมจะแจ้งให้ทราบถึงเวลาที่จะออกไปเพื่อหาทางปัญหานี้ ดังนั้นขอให้เป็นวันดีนะครับเจ้าหญิง”
เมื่อพูดจบผมก็เดินออกจากห้องไป แต่ก็มีเสียงจากด้านหลังมาขัดไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวก่อน! พวกเราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!”
ผมหันสายตาไปทางคาร์เมลซึ่งกำลังจับแขนเสื้อของผมอยู่ ผมไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในขณะที่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่แยแส
“คุณทั้งสองมีกระบวนการคิดและความคิดที่เหมือนกัน สิ่งที่คาร์เมเลียกลัว คุณก็กลัวเช่นกัน ได้โปรดปล่อยมือผมเถอะครับเจ้าหญิง ผมมีเรื่องที่ต้องไปทำครับ”
ผมค่อยๆ ผลักคาร์เมลออกไปโดยยังคงรักษาท่าทางสุภาพเอาไว้ จากนั้นผมก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งคาร์เมลและคาร์เมเลียที่สั่นคลอนไว้เบื้องหลัง
‘คงถึงเวลาที่จะจัดการกับมาร์ลีนแล้ว’
ผมคิดด้วยเสียงครวญครางอย่างมีความสุขขณะเดินจากไป
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต