The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 487 What are The Girls Up To?(10)
มุมมองของไนล่า :
‘เธอเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ…’
ไนล่าคิดขณะเฝ้าดูโซเนียที่กำลังฝึกซ้อมอย่างขยันขันแข็ง สำหรับแวมไพร์ที่พึ่งเกิดใหม่ มันต้องใช้ความพยายามและเวลามหาศาลก่อนที่พวกเขาจะสามารถควบคุมความกระหายเลือดของพวกเขาได้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะกลายเป็นบ้าจากความกระหายเลือด
‘เธอสามารถควบคุมมันได้ภายในหนึ่งสัปดาห์’
ไนล่าไม่ค่อยรู้เรื่องชีววิทยาของฮาร์ฟแวมไพร์มากนัก แต่เธอสามารถบอกได้เลยว่าโซเนียนั้นเป็นอัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อน อัตราการเติบโตของเธอเกินกว่าปกติ และพลังพิเศษที่ได้รับมาก็ทำให้เธอกลายเป็นตัวตนที่ไม่สามารถมองข้ามได้
“อึ๊กก…”
สีหน้าที่แสดงความรังเกียจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโซเนีย ขณะที่เธอดื่มเลือดจากถุงเลือดในมือ ซึ่งเป็นเลือดของไนล่าและถือว่าเป็นอาหารอันโอชะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ปฏิกิริยาของโซเนียกลับแสดงถึงความรังเกียจ ราวกับว่าเลือดนั้นมีรสชาติแย่มากสำหรับเธอ
‘เลือดของเขานี่มันอร่อยขนาดไหนกันนะ?’
ไนล่าสงสัยขณะที่รู้สึกคอแห้งเล็กน้อย เธอไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเลือดของออสตินจะอร่อยขนาดไหนที่ถึงกับทำให้โซเนียพบว่าเลือดอื่นๆ ไม่มีรสชาติเลย
‘อยากลองชิมสักหน่อยจัง…’
เมื่อเธอกำลังพยายามควบคุมความปรารถนาของตน จิตใจของไนล่าก็พาเธอนึกถึงภาพของออสติน ผู้ชายที่ไม่เหมือนใครในสายตาของเธอ ผู้ชายส่วนใหญ่จะสั่นกลัวเพียงแค่ได้ยินชื่อพ่อของเธอ ตัวตนกึ่งอมตะที่มีชื่อเสียงน่าสะพรึงกลัวไปทั่วทั้งแผ่นดิน แต่ออสตินกลับไม่สนใจเรื่องนั้นเลยในตอนที่เขาต่อสู้กับเธอ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบมัน เธอชอบผู้ชายที่มีความกล้าอย่างเขามากกว่าพวกขี้ขลาดอยู่แล้ว
จากมุมมองของไนล่าแล้ว ออสตินถือเป็นผู้ชายคนแรกที่ดึงดูดความสนใจของเธอ เขามีความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใคร และภูมิหลังของเขาก็ทัดเทียมกับเธอด้วยการสนับสนุนจากตระกูลไลออนฮาร์ทและสมาคมนักธนู ในแง่ของรูปร่างหน้าตา เขาเหนือกว่าความงามอันประณีตของแวมไพร์ สีแดงเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไนล่าขณะที่เธอคิดถึงออสติน
เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าตัวเองรู้สึกถูกดึงดูดจากเขา ออสตินดูแตกต่างจากชายคนอื่นๆ ที่เธอเคยพบ บางอย่างเกี่ยวกับเขาดึงดูดใจเธออย่างมาก
‘อ่าาา~ และกลิ่นนั้น~’
ไนล่ามีความสามารถพิเศษในการตรวจจับกลิ่นของเลือด และแม้แต่รสนิยมของเธอก็ประณีต ทำให้มีเพียงเลือดที่ดีที่สุดเท่านั้นที่ทำให้เธอพอใจได้ บางครั้งเธอสามารถจับกลิ่นของเลือดที่มีคุณภาพได้เหมือนกับแวมไพร์คนอื่นๆ อย่างไรก็ตามออสตินดูเหมือนจะเป็นหายนะที่เดินได้ในเรื่องนี้
จากช่วงเวลาที่เธอพบกับออสติน เธอสามารถสัมผัสได้ว่ามีเลือดเทพไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของเขาอยู่ สัญชาตญาณแวมไพร์ของเธอรับรู้ได้ว่าชายคนนั้นเป็นเหมือนอาหารจานหลักสุดพรีเมียมที่น่าลิ้มลองสุดๆ ด้วยความภาคภูมิใจและนิสัยที่ชอบการต่อสู้ เธอขอประลองกับออสตินโดยตรงในการต่อสู้ โดยหวังว่าจะได้รับชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ เป็นรางวัลนั่นก็คือเลือดของเขา
นับตั้งแต่นั้นมา เป้าหมายหลักของเธอก็คือการเอาชนะเขาและลิ้มลองเลือดของเขา แต่ดูเหมือนว่าแผนการจะไม่เป็นไปตามที่เธอคาดคิด
‘อืมม~ ฉันรอไม่ไหวแล้ว~’
แม้แต่ไนล่าที่มีการควบคุมตัวเองก็เข้าใจว่าเธอจะไม่สามารถระงับตัวเองได้นานอีกต่อไป ยิ่งวันเวลาผ่านไปความปรารถนาของเธอก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เชื้อสายที่หยั่งรากลึกของเธอกำลังกรีดร้องว่าเธอจำเป็นต้องได้ลิ้มรสเลือดของออสติน
‘ให้ตายเถอะ! ฉันจะขอเลือดเขาในตอนที่เขากลับมา!’
ตู้มมม!
ในขณะที่เธอคิดเช่นนั้น ลมแรงก็พัดผ่านใบหน้าของเธอ ทำให้เธอต้องกลับมามีสมาธิอีกครั้ง เธอมองไปยังโซเนียที่กำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยอาการหายใจเหนื่อยหอบโดยมีล่องรอยของการทำลายล้างล้อมอยู่รอบเธอ เมื่อเห็นดังนั้นไนล่าก็ส่ายหัวและเดินไปหาโซเนียที่เหนื่อยล้า
“ชิ… ฉันบอกให้เธอควบคุมการระเบิดให้ได้ไง”
“แฮ่ก… แฮ่ก… มันไม่ง่ายเลย และฉันต้องการ… แฮ่ก… ทำสิ่งนี้ให้เสร็จเร็วๆ… เพื่อที่ฉันจะได้มีประโยชน์ต่อเขา…”
โซเนียตอบกลับด้วยใบหน้าสว่างไสวด้วยรอยยิ้มอันงดงามขณะพูด
เมื่อเห็นดังนั้นไนล่าก็ทำได้เพียงแค่ส่ายหัวปฏิเสธ ในตอนแรกเธอคิดที่จะค่อยๆ โน้มน้าวโซเนียให้ออกจากฝ่ายของออสตินและเข้าร่วมฝ่ายของตระกูลของเธอ แต่เธอก็ล้มเลิกความคิดนั้นอย่างรวดเร็ว
‘เขาใช้เสน่ห์แบบไหนกับเธอกันถึงทำให้เธอตกหลุมรักเขาอย่างบ้าคลั่งขนาดนี้ได้?’
ไนล่าผู้มีจิตใจที่แข็งแกร่งและหยิ่งผยองไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของโซเนียได้ ถึงอย่างนั้นสีหน้าของโซเนียก็เพียงพอที่จะทำให้ไนล่าล้มเลิกความสนใจที่จะดึงเธอกลับมายังตระกูลของเธอได้แล้ว
‘อย่างไรก็ตาม ควรจะเตือนเขาดีไหมนะ?’
ไนล่าคิดทบทวนอีกครั้ง
ออสตินอาจไม่แสดงออก แต่เขากลายเป็นเป้าหมายของแวมไพร์สาวหลายคนแล้ว แม้แต่ไนล่าที่มีการควบคุมตัวเองก็ยังไม่สามารถต้านทานกลิ่นหอมจากเลือดของเขาได้นาน เหตุผลเดียวที่ออสตินยังไม่โดนดื่มเลือดจนหมดก็คือความแข็งแกร่งและสถานะของเขา อย่างไรก็ตามไนล่าได้รับรายงานว่าพวกเด็กสาวไม่สามารถทนทานได้นานอีกต่อไป
‘มีอะไรอยู่ในเลือดของเขากันแน่?’
ความปวดหัวเล็กน้อยแผ่ซ่านในหัวของไนล่าเมื่อเธอคิดถึงแผนการที่เด็กสาวแวมไพร์เหล่านี้กำลังวางแผนกัน
‘ช่างเถอะ มันไม่ใช่ปัญหาของฉันซักหน่อย แค่รอสนุกกับการแสดงก็พอ…’
ไนล่าคิดขณะกลับมาให้ความสนใจในการฝึกของโซเนีย เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าจะลิ้มรสเลือดของออสติน โดยไม่รู้ว่านี่จะเป็นการตัดสินใจที่เธอจะทั้งรักและสาปแช่งไปตลอดชีวิต
…..
มุมมองของลาโนร่า :
‘สงสัยว่าจะได้ยินเขาเล่นอีกครั้งเมื่อไหร่กันนะ?’
ลาโนร่าคิดขณะดีดสายกีตาร์ของเธออย่างเขินอาย สมองของเธอนึกย้อนกลับไปยังช่วงเวลาสั้นๆ ที่เธอได้ใช้เวลากับออสติน เธอถูกดึงดูดด้วยท่วงทำนองที่เขาเล่นในดินแดนเร้นลับด้วยพิณนั่นและเขาก็สัญญาว่าจะเล่นให้เธอกับเอลด้าฟังในตอนที่พบกันครั้งหน้า
ออสตินได้ทำตามสัญญาและเล่นให้เธอฟังครั้งหนึ่ง ทำให้เธอตื่นตาตื่นใจกับการแสดงของเขา แม้มันจะสั้นแต่ก็ทำให้เธอจดจำไปตลอดกาล สำหรับชนเผ่าของเธอ ดนตรีเป็นรูปแบบการสื่อสารที่บริสุทธิ์ที่สุดของจิตวิญญาณของบุคคลนั้น ลาโนร่าเชื่อว่าวิธีการเล่นดนตรีของคนแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของเขา
และเธอต้องบอกเลยว่าจิตวิญญาณของออสตินนั้นสวยงามเพียงพอที่จะทำให้เธอตาบอดชั่วขณะ
“เห้อออ… อยากให้เขาเล่นให้ฟังอีกจัง”
ลาโนร่ากล่าวอย่างอ่อนโยนขณะที่มือของเธอดีดสายกีตาร์อย่างงดงาม ผลิตเสียงเพลงที่สวยงาม แต่หัวใจของเธอกลับรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ที่ไหนสักแห่งในจิตใจของเธอต้องการให้ออสตินเล่นดนตรีกับเธอ ขณะที่เธอคิดถึงเรื่องนี้ใบหน้าสีน้ำเงินสวยของเธอก็เริ่มแดงขึ้นเล็กน้อยทำให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือผิดพลาดไปชั่วขณะ
ในเผ่าของลาโนร่าการที่ชายและหญิงเล่นดนตรีด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบแสดงถึงการประสานกันระหว่างพวกเขา หากหญิงสาวขอให้ผู้ชายเล่นดนตรีด้วยนั่นแสดงว่าเธอสนใจในตัวเขา และหากการเล่นครั้งแรกของพวกเขาสร้างท่วงทำนองที่กลมกลืนกัน พวกเขาก็ถือว่าเกิดมาเพื่ออยู่ร่วมกัน จากนั้นชายหญิงจะตกหลุมรักกันและแต่งงานกัน
เผ่าของลาโนร่ามีมุมมองที่อนุรักษ์นิยมและเชี่ยวชาญในเรื่องของความรัก นี่ไม่ใช่เพียงแค่ประเพณีสำหรับพวกเขา แต่ยังเป็นสิ่งที่สลักลึกในจิตวิญญาณของพวกเขา มันเป็นวิถีชีวิตที่ลาโนร่ารักและยอมรับ
‘ฉันควรขอให้เขาเล่นกับฉันดีไหมนะ?’
แม้จะรู้สึกเขินอายกับความคิดนี้ แต่ลาโนร่าก็ต้องการที่จะทำมัน ในชีวิตของเธอเคยเห็นผู้ชายหลายคนเล่นดนตรีและได้ยินท่วงทำนองและดนตรีที่หลากหลายในตอนที่อยู่ในเผ่าของเธอ เธอได้รับข้อเสนอจากผู้ชายหลายคนที่เล่นดนตรีสวยงามเพื่อชนะใจเธอ แต่เธอไม่เคยรู้สึกสะเทือนใจเท่ากับตอนที่ออสตินเล่นดนตรีในวันนั้นเลย มันเขย่าหัวใจของเธอ
“สงสัยจังว่าการเล่นดนตรีด้วยกันของเราจะสร้างเพลงได้ไหมนะ?”
ลาโนร่าถามออกมาเบาๆ ขณะกอดเครื่องดนตรีของตัวเองอย่างเขินอาย สายตาของเธอเปลี่ยนเป็นเพ้อฝันเมื่อจินตนาการถึงการเล่นดนตรีด้วยกัน ผสมผสานระหว่างความกังวลและความตื่นเต้นผ่านเธอ ในสายตาของเธอ คุณลักษณะทางกายภาพอื่นๆ ของออสตินไม่มีความสำคัญเลย ถึงเขาอาจเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างที่ไม่ดีที่สุดในโลก แต่หากดนตรีของเขายังเล่นได้อย่างที่เป็นอยู่ เธอก็จะไม่ลังเลเลยที่จะขอให้เขาเล่นด้วยกัน
‘ฉันเดาว่าคงไม่มีประโยชน์ที่จะกังวลมากไปกว่านี้ ฉันจะขอเขาในตอนที่เขากลับมา…’
ด้วยความคิดนี้ เธอก็เดินไปยังศูนย์สื่อสารในโรงเรียน วางแผนที่จะบอกพ่อของเธอว่าเธออาจพบผู้ชายผู้ที่กำหนดชะตาชีวิตของเธอแล้ว
‘โม่ววว~ อยากเล่นดนตรีกับเขาจัง!’