The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 489 What Are The Girls Up To?(Mothers Edition)(12)
- Home
- The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต
- ตอนที่ 489 What Are The Girls Up To?(Mothers Edition)(12)
มุมมองของเกรซ :
‘ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เรื่องราวมันกลับกลายมาเป็นแบบนี้?’
เกรซครุ่นคิดขณะเหม่อลอย สายตาของเธอจ้องไปยังทัศนียภาพอันน่าทึ่งของอาณาเขตไลออนฮาร์ท เธอพบว่าตัวเองกลับมาที่ภูเขาแห่งเดิม สถานที่ที่ความสัมพันธ์ของเธอกับลูกชายที่รักได้ข้ามขอบเขตของครอบครัว นำพาพวกเธอไปในทางที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
‘สถานการณ์นี้มันช่างขำจริงๆ’
เธอคิดขณะนั่งลงบนพื้น ความทรงจำของสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่เล่นวนซ้ำในใจของเธอ ขณะนี้ หัวใจของเกรซเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน แต่ละอารมณ์ต่างแย่งชิงความสนใจและบดบังความคิดของเธอ ใครจะสามารถชี้นำเธอหลังจากที่เธอได้ข้ามเส้นต้องห้ามกับลูกชายของเธอเองได้กัน?
สถานการ์ครอบครัวของเธอตอนนี้อยู่ในความระส่ำระสาย ตอนนี้แม้แต่ลูกสาวของเธอก็ยังเข้ามาพัวพันกับความสัมพันธ์ต้องห้ามที่อาจไม่ทำให้พวกเขามีความสุขในที่สุด ทุกอย่างดูสับสนสำหรับเธอ
“เห้อออ… ทำไมถึงต้องเป็นครอบครัวของฉันที่ต้องทนทุกข์ด้วยนะ?”
เกรซถามออกมาเสียงดัง แม้ว่าจะไม่มีใครเป็นพิเศษที่จะได้ยินเธอก็ตาม ดวงตาสีมรกตของเธอกวาดสายตามองอาณาเขตที่เธออุทิศตนเพื่อปกป้อง เธอจำวันที่ตัวเองได้ย้ายมาที่นี่หลังจากแต่งงานกับพ่อของออสตินได้ ช่วงเวลานั้นของชีวิตเธอเหมือนจะเลือนหายไปแล้ว ด้วยความทรงจำมากมายที่จางหายไป เธอแทบจะจำไม่ได้ถึงช่วงเวลาที่เธอได้แบ่งปันกับพ่อของออสติน
แต่แทนที่นั้น ความทรงจำของเธอถูกแทนที่ด้วยความทรงจำของออสติน การนึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นทำให้หญิงงามผู้เป็นแม่คนสวยหน้าแดง ขณะที่เธอพร่ำด่าตัวเองอีกครั้ง มันยากที่จะต่อต้านสำหรับเธอ ทุกครั้งที่เธออยู่กับออสติน บางอย่างลึกๆ ในตัวเธอตื่นขึ้นมา ทำให้เธอสูญเสียความเป็นกุลสตรีและกลายเป็นหญิงเต็มตัว
‘แต่ตอนนี้ มันกำลังจะพังทลาย…’
เกรซรู้สึกปวดใจเมื่อเธอนึกถึงคำพูดของออสตินในตอนนั้น ในฐานะแม่ของเขา เธอรับภาระความเจ็บปวดของเขาและรู้สึกผิดอย่างท่วมท้น, เศร้าใจและโกรธ รู้สึกผิดที่ไม่ได้สังเกตเห็นความทุกข์ของลูกชาย เศร้าใจที่เขาต้องทนรับมันเพียงลำพัง และโกรธที่เขาไม่ได้บอกเธอ อย่างไรก็ตามความโกรธต่อโลกของเธอจางหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือแต่ความรู้สึกผิดและเศร้าใจในใจของเธอ เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมออสตินถึงทำทุกอย่าง การกระทำของเขามาจากความต้องการที่จะนำความสุขมาสู่ครอบครัวของพวกเขา
‘เขาแบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดเพื่อให้พวกเรามีความสุข…’
ทุกฉากที่เขาเคยทำเพื่อพวกเธอเล่นในใจของเธอ — การสัมผัสที่อ่อนโยน, รอยยิ้มที่อบอุ่นและทุกอย่างที่เขาทำเพื่อความสุขของครอบครัวของเธอ เขาได้แบกรับความเจ็บปวดเพียงลำพังเพื่อให้พวกเธอทุกคนมีรอยยิ้ม เกรซจะโกรธได้ยังไง?
จุดเริ่มต้นของมันช่างน่าขัน มันเริ่มต้นจากความปรารถนาผิดศิลธรรมของเธอเองและความรู้สึกฝันที่ไม่ธรรมดาที่ครอบงำความคิดของเธอ ในที่สุดเธอก็ยอมจำนนต่อความต้องการของตัวเอง และความสัมพันธ์ครั้งแรกของพวกเธอก็เกิดขึ้นจากความต้องการทางกาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เกรซก็พบว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป เธอเริ่มเห็นออสตินเป็นผู้ชายคนหนึ่งในชีวิตของเธอจริงๆ
มันแปลกและขัดต่อบรรทัดฐานของสังคม แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว แม้ว่าเสน่ห์ของออสตินจะครองใจครอบครัวของเขาได้ แต่ชีวิตก็เต็มไปด้วยความลึกลับ และนี่คือหนึ่งในนั้น นอกจากนี้ สิ่งที่พวกเธอทำไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดเลยในสายตาของเกรซ เธอได้เห็นด้านมืดมนของโลก ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในช่วงสงคราม
เมื่อเปรียบเทียบกับทั้งหมดนั้น สิ่งต้องห้ามเล็กๆ น้อยๆ ในครอบครัวของเธอไม่ได้ทำร้ายใคร พวกเธอรักกันและออสตินก็ได้ทำให้พวกเธอมีความสุขจริงๆ เธอเห็นมันในตัวเองและในลูกสาวของเธอได้ นี่คือทั้งหมดที่เธอหวังไว้ แม้ว่าสถานการณ์จะแปลกและเป็นสิ่งต้องห้ามก็ตาม
“แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะสูญเสียทุกอย่างไป…”
เกรซกระซิบ หัวใจของเธอหนักอึ้งด้วยความโศกเศร้า ดวงตาของเธอมองไปยังอาณาเขตไลออนฮาร์ทที่ประดับด้วยดวงดาว ชีวิตที่เธอสร้างหลังจากการเสียชีวิตของสามีหมุนรอบที่แห่งนี้ มันเกือบจะทำให้เธอต้องตัดขาดความสัมพันธ์กับลูกๆ ของเธอ และตอนนี้แสงเดียวในชีวิตของเธอกลับถูกถ่วงด้วยความรับผิดชอบที่ไม่อาจบอกได้ ทิ้งให้เธอต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองเหมือนเด็กสาวที่เปราะบาง
‘มั่นใจได้เลยว่าถ้าตัวฉันในตอนเด็กได้มาเห็นตัวเองในตอนนี้คงจะรังเกียจฉันแน่ๆ…’
เสียงดังก้องเล็ดลอดออกมาจากภายในขณะที่มานาพุ่งทะลุร่างกายของเกรซ สร้อยคอที่ออสตินให้รอบคอของเธอส่องแสงสะท้อนถึงสถานะที่เพิ่มขึ้นของเธอ เกรซขึ้นสู่ระดับกลางของระดับต้นกำเนิดขั้น 7 แล้ว การพัฒนาของเธอเป็นที่น่าประหลาดใจ ต้องขอบคุณสร้อยคอที่ออสตินมอบให้
เธอลูบไล้สร้อยคออย่างรักใคร่ด้วยความหลงใหลและความภาคภูมิใจที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอ
เธอรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งในตัวชายหนุ่มที่ออสตินได้กลายเป็น แม้ว่ามันจะนำมาซึ่งความขมขื่นที่เธอไม่สามารถเทียบได้ แต่ความรู้สึกนั้นจะไม่ติดอยู่อีกต่อไป
สิ่งต่างๆ ถูกพรากไปจากเธอ ถูกดึงออกไปอย่างต่อเนื่อง และเธอจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกต่อไป
เธอรักลูกชายของเธอ รักในแบบที่เกินคำอธิบายและเธอไม่สามารถเก็บมันไว้ได้อีกต่อไป
เธอรักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา, รักเขา…
จิตใจที่เคยมีสติของเธอสุดท้ายก็แตกสลาย ปล่อยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งดีและไม่ดี
เกรซลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมกับสัญชาตญาณนักฆ่าที่หลับไหลในตัวเธอที่ตื่นขึ้นมา พลังงานสีแดงเล็กๆ ก่อตัวรอบตัวเธอขณะที่เธอยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาสีเขียวของเธอส่องประกายสีแดงเล็กน้อย จิตใจของเธอวนเวียนไปกับความคิดที่เธอได้ยอมรับ ปฏิเสธที่จะเป็นคนอ่อนแออีกต่อไป ปฏิเสธที่จะถูกพัดพาไปตามกระแสชีวิต
ตอนนี้เป็นเวลาที่ด้านที่เธอเก็บซ่อนไว้, ด้านที่เคยเดินไปในสนามรบด้วยรอยยิ้มคลั่งของการสังหาร, ด้านที่ทำให้โลกหวาดกลัวในความยิ่งใหญ่ของเธอและจิตใจของเธอ
“มีอา”
เกรซเรียกขึ้นมา
ในตอนนั้นเองที่เงารอบตัวเธอเริ่มกระเพื่อม ก่อนจะปรากฏรูปร่างของมีอาที่กำลังคุกเข่าอยู่ — มีอาคือเมดที่เคยดูแลออสตินตลอดวัยเด็กของเขา ในปัจจุบันนั้นดูเหมือนมีอาจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เธอดูไม่แก่ขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียวตั้งแต่นั้น
มีอาคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเกรซด้วยผมสีดำที่ถูกตัดสั้นและดวงตาที่เย็นชาแตกต่างจากความอ่อนโยนที่เธอเคยแสดงที่คฤหาสน์และต่อออสติน
“พร้อมรับคำสั่งค่ะนายหญิง”
มีอาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับสายตาที่จับจ้องมองเกรซ
“รวบรวมทีมแล้วเรียกทุกคนมารวมกัน บอกพวกเขาว่าหากพวกเขายังมีความภักดีอยู่ก็ให้เตรียมตัวให้พร้อม ฉันมีเรื่องที่ต้องทำให้มันถูกต้อง”
เมื่อได้ยินคำพูดของเกรซซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการที่มีอาเคารพและเกรงกลัวก็ถามขึ้นมา
“จะมีสงครามเกิดขึ้นงั้นเหรอคะ?”
“เร็วๆ นี้แหละ”
เกรซตอบด้วยสายตาที่มองออกไปไกลจากอาณาเขตสู่อนาคต
เกรซรู้ว่าตัวเองแข็งแกร่ง แต่พลังของเธออยู่ที่ความสามารถในการบัญชาการ เธอรู้ว่าถ้าออสตินเป็นผู้กล้า สงครามก็คงกำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว — สงครามที่จะเกี่ยวข้องกับลูกชายที่เธอรัก และเมื่อมันมาถึง เธอก็พร้อมที่จะนำหอกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสู้กับกำลังใดๆ ที่กล้าเข้ามาคุกคามครอบครัวของเธอ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเทพก็ตาม
…..
มุมมองของออร์เฟียส :
‘เห้อออ… อยากเจอลูกชายจัง…’
ออร์เฟียสกระซิบในใจขณะทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในฐานะผู้ดูแลกฎเกณฑ์แห่งชีวิต เธอรับผิดชอบอย่างหนักในการรักษาสมดุลของการดำรงอยู่ในทุกภูมิภาค แม้ว่าเธอจะมีช่วงเวลาที่ได้พักผ่อน แต่เธอก็พบว่าตัวเองอยู่ในช่วงที่ยุ่งเป็นพิเศษ
‘สงสัยจังว่าเราควรลองสิ่งใหม่อะไรบ้าง?’
ขณะที่ความคิดเหล่านี้ครอบครองจิตใจของเธอ หน้าอกที่ใหญ่โตของเธอก็รู้สึกกระตุก หัวนมแข็งตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่พลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอรั่วไหลออกมานิดหน่อย
‘เห้อออ… มันกลายเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมสิ่งนี้แล้วสิ’
ออร์เฟียสในฐานะเทพธิดามีความสามารถในการระงับความรู้สึกเหล่านี้ แต่เธอไม่ต้องการทำเช่นนั้นอีกต่อไป ไม่ใช่ในในตอนที่เธอมีลูก ไม่ใช่เมื่อความฝันตลอดชีวิตของเธอกลายเป็นความจริง ตอนนี้ทั้งหมดที่เธอต้องการคือการใช้เวลาร่วมกับลูกชายของเธอ อาบเขาด้วยความรัก ไม่ห่างจากเขาแม้แต่วินาทีเดียว
‘อืมม… อยากให้เขาดูดหน้าอกฉันอีกจัง ครั้งต่อไปฉันจะให้นมเขาจนอิ่มไปเลย’
เธอคิดขณะจับหน้าอกของตัวเองเพื่อหยุดการไหลออกของน้ำนมชั่วคราว ในการรับรู้ของเธอ เพิ่งผ่านไปไม่กี่วินาทีตั้งแต่เธอออกจากออสติน ลูกชายของเธอ แต่เธอก็อยากจะรีบกลับไปหาเขาแล้ว
อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เวลาที่เธอใช้กับเขาทำให้เธอมีงานค้างที่ต้องจัดการ เธอต้องดูแลเรื่องเหล่านี้ก่อนที่จะกลับไปพบกับลูกชายของเธอ
‘พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ควรเตือนลาล่าดีไหมนะ?’
ด้วยตราประทับของออร์เฟียสทำให้เธอรู้ว่ามีเทพองค์ใดเข้ามาใกล้ลูกชายของเธอหรือไม่ เธอรู้ว่าลาล่าเคยนอนกับออสตินแล้ว และความรู้นี้ทำให้ออร์เฟียสรู้สึกภาคภูมิใจ
ออร์เฟียสเป็นแม่ที่ตามใจลูกชายของเธออย่างเต็มที่ สิ่งที่เธอต้องการคือการตามใจลูกชายของเธอให้มากที่สุด อยู่เคียงข้างเขา 24 ชั่วโมงทุกวัน ป้อนอาหารเขา อาบน้ำให้เขาและทำทุกอย่างที่เป็นไปได้กับเขา
‘ฮึ่มมม… ไม่ใช่ใครก็ได้หรอกนะที่จะสามารถดึงดูดเทพได้’
เธอคิด แม้ว่าลึกๆ แล้วจะรู้ว่าไม่ว่าเทพคนไหนก็คงจะอยากอยู่กับออสตินก็ตาม โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าเขาท้าทายกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ทำให้สิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์สามารถสัมผัสกับความรู้สึกที่พวกเขาไม่ควรหรือไม่สามารถมีได้
ในความเป็นจริง ไม่มีเทพใดที่สามารถบันเทิงกับความรู้สึกเหล่านี้ได้ เนื่องจากมนุษย์ใดๆ ที่อยู่ในความใกล้ชิดของเทพจะไม่สามารถรักษาบุคลิกที่แท้จริงของพวกเขาไว้ได้ จิตใจของพวกเขาจะถูกบิดเบือนและพวกเขาจะไม่กล้าเอ่ยคำใดๆ ที่ขัดต่อเทพ นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคทางธรรมชาติที่ “มัน” ได้สร้างขึ้นอยู่อีก ทำให้เทพมีความยากลำบากในการพัฒนาความรู้สึกของความรัก, ความต้องการหรือความปรารถนาระหว่างกันหรือที่มีต่อมนุษย์ พวกเขาสามารถมีความรู้สึกอื่นใดๆ ก็ได้ยกเว้นความรัก
“มัน” ได้บังคับใช้อุปสรรคนี้เพื่อรักษาสมดุล เนื่องจาก “มัน” เข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากอิทธิพลของความรักในโลกของเทพได้ การมีอยู่ของออสตินยังคงเป็นปริศนาที่ท้าทายการไหลของธรรมชาติ คนสามารถจินตนาการได้ถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอาณาจักรสวรรค์หากเทพทั้งหมดมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับออสติน บางทีการเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นที่ขอบฟ้าเลยก็ได้
แม้ว่าออร์เฟียสจะไม่เข้าใจออสตินทุกอย่าง แต่ก็ไม่มีความคิดใดเข้ามาในใจเธอเลย ในความคิดของเธอ ทุกสิ่งที่ออสตินซึ่งเป็นลูกชายของเธอทำนั้นถูกต้อง
แม้ว่าเขาจะทำลาย 90% ของทุกภูมิภาค เธอก็จะหาทางอธิบายการกระทำของเขา โดยประณามผู้เสียชีวิต 90% ว่าเป็นพวกชั่วร้ายที่ได้ทำร้ายลูกชายของเธอ
ไม่มีใครสามารถเข้าใจน้ำหนักของแม่ที่ตามใจเกินขนาดได้ โดยเฉพาะคนที่ได้มีชีวิตผ่านยุคสมัยมากมาย ประสบกับความเจ็บปวด, ความปรารถนาและความรักมากกว่าคนอื่นใด และมีมุมมองที่ไม่เหมือนใครต่อชีวิต
‘ถ้าลาล่าตั้งใจจะเล่นสนุกกับเขาหล่ะก็…’
ชั่วขณะหนึ่งดวงตาของออร์เฟียสกลายเป็นมืดครึ้มพร้อมกับบางส่วนของอาณาจักรสวรรค์ที่สั่นสะเทือน
‘คงจะดีกว่าถ้าฉันทิ้งการแจ้งเตือนไว้…’
ด้วยความคิดนั้นออร์เฟียสก็หายตัวจากตำแหน่งปัจจุบันของเธอ โดยพยายามส่งข้อความถึงคนแปลกหน้าที่เคยพบลูกของเธอ