The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 49 Destiny
วันต่อมาภายในห้องของโรงแรมได้มีชายหนุ่มหน้าตาดีพันผ้าพันแผลกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง โดยที่ข้างๆ เขาได้มีเด็กผู้ชาย? หน้าตาสะสวยนอนอยู่ ใช่แล้วออสตินกับสการ์เล็ตนั่นเอง
ออสตินค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆ
‘อ๊ะ ดูเหมือนจะได้ผลสินะ’
เห็นสการ์เล็ตที่กำลังนอนอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ ผมก็เลยเปิดใช้งานฟังก์ชันอ่านในทันที
[ ชื่อ : สการ์เล็ต
ความสัมพันธ์ : 100%
หมายเหตุ : ทำได้ดีมาก ฉันภูมิใจในตัวคุณ ]
ผมเมินข้อมูลในช่องหมายเหตุไปในตอนที่เห็นมัน เมื่อเห็นระดับความสัมพันธ์ของสการ์เล็ตแล้วผมก็ถอนหายใจออกมา ร่างกายที่ตึงเครียดของผมผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว โดยปกติแล้วระดับความสัมพันธ์ไม่ควรถึงระดับนี้เร็วขนาดนี้ แต่นั่นเฉพาะเผ่าพันธุ์ทั่วไปหล่ะนะ
สำหรับมังกรเมื่อพวกเขาเลือกใครสักคนแล้วพวกเขาก็จะเป็นแบบนี้แหละ สการ์เล็ตอาจจะยังคงเป็นมนุษย์อยู่ในตอนนี้ แต่เธอก็ยังมีความรู้สึกภักดีที่มังกรทุกคนมี ผู้หญิงที่จะไม่หักหลังคุณ
‘โอ้ยย!’
ผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากร่ายกายของตัวเอง เพื่อโน้มน้าวใจสการ์เล็ตผมเลยต้องทำร้ายตัวเองจริงๆ มันไม่ใช่สิ่งที่น่าทำเลย แต่ผมไม่มีทางเลือก ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ยอมรับผมเร็วขนาดนี้หรอก
พอผมเริ่มขยับตัว สการ์เล็ตก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน เธอลุกขึ้นนั่งทันทีในตอนที่เห็นว่าผมตื่นแล้ว หลังจากนั้นเธอก็กระโดดเข้ามาในอ้อมกอดของผม
“ออสติน!”
+35,000 ความชอบ
ผมรับเธอไว้ด้วยอ้อมกอดของตัวเองโดยที่เธออยู่แบบนั้นไม่กี่นาทีก่อนที่จะผละออกไป
ตอนนี้สการ์เล็ตกำลังยืนอยู่ตรงหน้าผมด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด
“ทำไมนายถึงทำอย่างนี้หล่ะ?”
“ผมทำสิ่งที่ต้องทำ แถมผมเองก็รอดมาได้ด้วยจริงไหม?”
ผมส่งยิ้มที่ ‘อ่อนแรง’ ‘แบบเด็กๆ’ ให้เธอ ซึ่งนั่นทำให้เธอหน้ามุ่ย
“เพื่อน ตอนนี้เธอน่ารักเหมือนผู้หญิงเลยนะ”
ผมชี้ไปที่เธอแล้วก็หัวเราะ
ในตอนที่ผมบอกว่าเธอน่ารักนั้นก็ทำให้หน้าของเธอแดงขึ้นเล็กน้อย
เมื่อสการ์เล็ตเห็นว่าออสตินยังมองว่าเธอเป็นผู้ชายอยู่ เธอก็แทบอยากจะตะโกนใส่เขาจริงๆ
คำใบ! มีคำใบ้อยู่ตั้งมากมายแต่เจ้าผู้ชายซื่อบื้อคนนี้ก็ยังคงไม่รับรู้ถึงมัน! เธออยากรู้จริงๆ ว่าเขาซื่อบื้อขนาดนี้ได้ยังไงกัน
ขณะที่พวกเราทั้งคู่กำลังโต้เถียงกันอยู่นั้นเอง ผู้หญิงผมสีน้ำตาลสวยสุขภาพดีก็เข้ามา
เมื่อเห็นหน้าเธอแล้วผมก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ดูเหมือนน้าซาร่าจะดีขึ้นแล้วนะครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม ซาร่าก็ยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้และโค้งคำนับผมเล็กน้อย
“ขอบคุณนะออสติน ที่ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้”
ผมรีบห้ามเธอเพื่อไม่ให้โค้งคำนับด้วยความ ‘ลุกลี้ลุกลน’
“ไม่ต้องทำแบบนี้หรอกครับน้าซาร่า ผมสัญญากับเคนไว้ว่าจะช่วยคุณ แถมผมต้องช่วยอยู่แล้วในฐานะที่เป็นเพื่อนของเคนครับ”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผม ซาร่ายิ้มออกมาก่อนจะตอบกลับ
“เห้อออ∼∼∼น่าเศร้าจริงๆ ที่ฉันไม่มีลูกสาว ไม่งั้นฉันคงได้หมั้นหมายกับเธอแล้วแน่ๆ เลยแหละจ๊ะ”
“น่าเสียดายจังนะครับ”
ผมยอมเล่นกับการแสดงของเธอด้วย เมื่อเห็นว่าสการ์เล็ตหน้าแดงมากขึ้น
“หยุดเลยนะทั้งสองคน!!”
และในจังหวะที่พวกเราทั้ง 3 คนใช้เวลาพูดคุยกันอยู่นั้นเองก็เป็นจังหวะที่ซาร่าถามคำถามที่จริงจังขึ้น
“แล้วออสติน เธอจะทำอะไรต่อจากนี้เหรอ?”
แตกต่างจากลูกสาวของเธอที่ซาร่าเห็นว่าออสตินไม่ใช่แค่ขุนนางธรรมดาๆ ความแข็งแกร่งของออสตินตั้งแต่อายุยังน้อยก็ไม่ธรรมดาแล้ว เขาต้องมีเหตุผลที่มาที่นี่แน่ๆ
“ผมมาที่นี่ด้วยเหตุผลพิเศษครับ แต่ผมยังไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่เพราะผมได้พบกับเคนและต้องการใช้เวลากับเขาในฐานะเพื่อนครับ”
เมื่อได้ยินคำตอบของผม สการ์เล็ตก็เกร็งเล็กน้อย เธอกลัวว่าผมจะทิ้งเธอไปเลยลดเสียงลง
ผมพูดขึ้นต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
“ผมมาที่นี่เพราะผมพบโลกประวัติศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ครับ”
คำพูดของผมทำให้ทั้งสการ์เล็ตและซาร่าตะลึงงันเพราะพวกเธอจะรู้ถึงคุณค่าของโลกประวัติศาสตร์ว่าโลกพวกนั้นถูกทิ้งไว้โดยขุมพลังที่มีอำนาจ เป็นสิ่งที่ประเทศต่างๆ ต่อสู้เพื่อมัน
เมื่อพวกเธอเห็นว่าผมบอกข้อมูลสำคัญกับพวกเธออย่างเปิดเผยแบบนี้แล้ว มันก็ทำให้หัวใจของสการ์เล็ตรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
หลังจากที่ทั้งคู่ย่อยข้อมูลเสร็จแล้ว ผมก็พูดบางอย่างที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าขึ้นมา
“เคน ทำไมเธอไม่ไปกับผมหล่ะ?”
“เอาจริงเหรอ? นายแน่ใจนะ”
‘ใช่แล้วผมไม่สามารถเข้าไปได้’
“อืม ผมเห็นว่าตอนนี้เธอไม่มีพลังอะไรเลย บางทีเราอาจจะพบสิ่งที่มีประโยชน์ที่นั้นก็ได้นะ”
หลังจากที่ผมพูดจบ สการ์เล็ตก็มองไปทางแม่ของเธอเพื่อขออนุญาตก่อนเธอจะพยักหน้าอย่างมีความสุข ตอนนี้สการ์เล็ตรู้แล้วว่าตัวเองไม่มีพลังพอที่จะอยู่เคียงข้างเขาได้ บางทีการเดินทางครั้งนี้อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นก็ได้
2 วันต่อมา∼∼∼
ตอนนี้ทั้งผมและสการ์เล็ตกำลังเดินทางผ่านป่าใกล้เมืองอยู่ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ‘อาการบาดเจ็บ’ ของผมหายเป็นปกติแล้วและผมก็กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมแล้วด้วย
พวกเราให้ซาร่าอยู่ที่โรงแรมไปในช่วงที่พวกเราไม่อยู่
ในช่วงเวลานี้ผมสังเกตเห็นว่าสการ์เล็ตมักจะเข้ามาใกล้ผมเพื่อพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดมันออกมา ผมเดาว่าเธอคงตั้งใจที่จะสารภาพกับผมหลังจากที่เราไปเยี่ยมโลกประวัติศาสตร์เสร็จแล้วละมั้ง
ผมกำลังเดินทางโดยดูจากแผนที่ที่ระบบให้มา เราใช้เวลาเดินไปตามป่าประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนจะถึงที่โล่งที่ค่อนข้างใหญ่
ระหว่างการเดินทางเราได้พบกับสัตว์ร้ายบางตัว แต่พวกมันเป็นสัตว์ปกติที่ไม่มีมานา ดังนั้นผมเลยจัดการกับพวกมันได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเราเข้าไปถึงก็เห็นทะเลสาบใสที่มีก้อนหินขนาดใหญ่ยาวประมาณ 5 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นอยู่ภายในทะเลสาบได้อยู่ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษ
“ที่นี่ใช่หรือเปล่า?”
ผมได้ยินเสียงของสการ์เล็ตดังมาจากด้านหลัง มันเจือด้วยความตื่นเต้นและผิดหวังเล็กน้อย
ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบกลับ
“เธอคาดหวังอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อยู่เหรอไง?”
“อืม บางทีฉันอาจจะตื่นเต้นเกินไปหน่อย”
“เธอแค่ต้องรออีกซักหน่อย”
ผมกับสการ์เล็ตเดินไปที่ทะเลสาบ พวกเราเข้าไปใกล้ขอบทะเลสาบและเห็นหินก้อนใหญ่ได้ชัดเจนขึ้น
“เราจะทำอะไรกันต่อหล่ะ?”
แทนที่จะตอบเธอ ผมเข้าไปมองหินก้อนนั้นอย่างใกล้ยิ่งขึ้นก่อนจะเห็นว่ามันเริ่มสั่นอย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้นเองที่ผมเห็นว่าสการ์เล็ตกำลังจับแขนเสื้อของผมไว้อยู่ หลังจากหินสั่นไปได้ซักพักมันก็ปล่อยแรงกดดันมหาศาลออกมา เมื่อมันปกคลุมร่างกายของผมแล้ว ผมก็รู้สึกได้ถึงแรงกดมหาศาลบนร่างกายของตัวเองก่อนที่ผมจะปรับตัวให้เข้ากับมัน ส่วนสการ์เล็ตนั้นดูเหมือนเธอจะสบายดี
“น่าสนใจ”
ผมได้ยินเสียงที่แหบแห้งมากดังขึ้นมา หลังจากนั้นก็มีอนุภาคแสงขนาดเล็กเริ่มก่อตัวขึ้นเหนือก้อนหินและปรากฏเป็นชายวัยกลางคนขึ้นมา เขามีดวงตาสีทองและผมสีทองพร้อมกับใบหน้าที่หล่อเหลา
ทันทีที่ร่างของชายคนนั้นปรากฏขึ้น เขาก็มองมาทางพวกเราในทันที ผมรู้สึกว่าร่างกายจองตัวเองกำลังสั่นราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุผ่านร่างกายของผมได้
“อืมมม ครึ่งมังกรที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นมาได้และมนุษย์ที่ไม่เหมือนใครซึ่งสามารถต้านทานแรงกดดันของมังกรได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้กันนะ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของชายคนนั้น พวกเราทั้งคู่ก็ตัวแข็งทื่อ
“อ -ออสติน?”
สการ์เล็ตกอดผมแน่นโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณคือใครเหรอครับ?”
ผมเป็นคนพูดขึ้นก่อนแต่เขากลับไม่มองมาที่ผมเลย เขาหันหน้าไปทางสการ์เล็ตแทน
“เด็กน้อย เจ้ารู้ตัวรึเปล่าว่าตัวเองเป็นลูกครึ่งมังกร?”
“อะไรนะครับ?”
ทั้งผมและสการ์เล็ตต่างอุทานขึ้นมาพร้อมกัน ถึงแม้ว่าสำหรับผมมันจะเป็นแค่การแสดงก็เถอะนะ
“คุณหมายความว่ายังไงกัน?”
คราวนี้สการ์เล็ตถามขึ้นมา
“มันยาวเกินไปที่จะอธิบาย ทำไมเจ้าไม่ลองผ่านบททดสอบของข้าให้ได้ดูหล่ะ แล้วข้าจะบอกเจ้าทุกอย่างที่เจ้าอยากรู้”
ชายผมทองพูดด้วยความเย่อหยิ่ง
หลังจากนั้นสการ์เล็ตก็มองมาที่ผมที่กำลังยิ้มให้เธออยู่
“ไม่ต้องเป็นห่วง กล่าวกันว่าโลกประวัติศาสตร์เป็นของผู้ที่ถูกลิขิตไว้ บางทีเธออาจถูกลิขิตมาเพื่อสิ่งนี้ก็ได้นะ”
“แต่นายเป็นคนพบที่นี่นะ”
“อย่ากังวลไปเลยและทำให้ดีที่สุด บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เธอสามารถเปลี่ยนแปลงชะตะกรรมของตัวเองได้ก็ได้นะ”
สการ์เล็ตลังเลเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพยักหน้า
ชายผมทองดีดนิ้วพร้อมกับสการ์เล็ตที่หายตัวไปเพื่อเข้ารับบททดสอบ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต