The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 490 What Are The Girls Up To?(13)
มุมมองของเอลล่า :
‘เขามีอะไรที่พิเศษนักนะ?’
เธอถามตัวเองขณะมองตามหัวหน้าและเพื่อนของเธอ คาร์เมลที่เพิ่งออกมาจากห้องหลังจากได้รับคำแนะนำจากเธอ จิตใจของเธอยังคงสั่นคลอนกับความจริงที่ว่าอนาคตจักรพรรดินีผู้มีอำนาจที่จะได้รับความเคารพและสั่งการอำนาจสูงสุดภายในทั้งสองอาณาจักรมาถามเธอเกี่ยวกับวิธีการคืนดีกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นผู้ชายที่ขณะนี้กำลังได้รับความสนใจจากคนทั้งโลกอยู่
เอลล่ายังคงจำครั้งแรกที่ตัวเองพบกับออสตินได้อยู่เลย ดวงตาสีม่วงของเขาส่องประกายขณะที่เขาเล่นหมากรุกกับเธอ เกมนั้นเป็นเกมแรกและเกมสุดท้ายที่เธอเคยแพ้ในหมากรุก เธอต้องยอมรับว่ามันทิ้งรอยเล็กๆ ไว้ในใจของเธอ เป็นรอยแผลที่เธอเก็บไว้ในใจมาโดยตลอด
ตั้งแต่วันนั้นเธอได้เฝ้าดูออสตินอย่างลับๆ หวังที่จะพัฒนาตัวเอง เธอยอมรับว่าตัวเองเป็นคนหยิ่งและมีจิตใจมืดมน และเธอต้องการแก้แค้น แต่เธอต้องตกใจเพราะเธอไม่มีโอกาสเลย ในปีต่อมาราวกับว่าออสตินถูกลบออกไปจากแผนที่โลก เขายังหายตัวไปจากอาณาเขตของเขาเองด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ยังเริ่มมีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับออสตินถูกเผยแพร่ออกมาอีก ทำให้เอลล่ายากที่จะจับข้อมูลที่ถูกต้องได้ อีกทั้งเธอยังอาศัยและเจริญเติบโตนอกจักรวรรดิเอซเรอิล ทำให้ยิ่งยากที่จะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป รอยแผลในใจของเธอก็กลายเป็นแผลที่รักษาไม่หาย เป็นแผลที่เธอคิดว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก
ความคิดของเธอในตอนนั้น ออสตินถือเป็นอดีตของเธอ เขาอาจจะเคยชนะเธอได้ครั้งหนึ่ง แต่มันก็แค่นั้น ขณะที่เขาหายตัวไปจากโลกเธอได้เติบโตขึ้น, แข็งแกร่งขึ้น, งดงามขึ้นและฉลาดขึ้น
สิ่งที่เธออยากจะพูดคือทุกๆ วันที่ผ่านไปทำให้เธอดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อยๆ อดีตของเธอก็แค่อดีต และชายคนนั้น ออสตินได้ถูกลืมไปแล้ว
โอ้… ความคิดของเธอช่างไร้เดียงสาจริงๆ…
ออสตินได้หายตัวไปจากโลกนี้ แต่เขากลับมาแล้ว สั่นสะเทือนทั้งอาณาจักรจนสุดแก่นของมัน
เธอยังคงจำฉากที่ตัวเองเห็นเด็กชายที่เคยเอาชนะตัวเองอีกครั้งได้ดี คราวนี้เขาเติบโตกลายเป็นชายหนุ่มแล้ว ชายที่ทำให้หัวใจเธอเต้นเร็วเกินกว่าที่เธอจะยอมรับอยู่ครู่หนึ่ง รูปลักษณ์และความกล้าหาญของเขาทำให้ใจเธอสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็สะบัดมันออกไป ในตอนนั้นเองที่รอยแผลเป็นที่รักษาไม่หายส่งผลออกมาและความอัปลักษณ์ที่เธอพยายามซ่อนไว้ในใจก็ระเบิดออกมา
เธอเผชิญหน้ากับเขาต่อหน้าทุกคนและได้รับการตบหน้าอย่างรุนแรงที่สุด ในตอนนั้นเธอช่างโง่เขลาเหมือนเมื่อหลายปีก่อน รอยแผลที่ไม่เคยหายกลับมาเต้นในใจของเธอ และเธอก็เห็นชัดเจนว่าตัวเองยืนอยู่ต่ำกว่าเขาแค่ไหน
เพียงไม่กี่วันหลังจากเข้าโรงเรียน ออสตินก็ขึ้นสู่ความโดดเด่นเหมือนที่ไม่เคยมีมาก่อน หลายเดือนที่ต้องใช้ในการสร้างพรรคพวกที่มีอำนาจเริ่มเกิดขึ้นกับเขาภายในไม่กี่วัน ความมีเสน่ห์แบบที่ไม่มีใครเหมือนล้อมรอบตัวเขา และโลกดูเหมือนจะเปิดทางให้เขา และเอลล่าก็ยืนอยู่ข้างๆ ดูทั้งหมดที่เกิดขึ้น
อดีตที่เธอพยายามฝังลึกลงไปในจิตใจของเธอกลับมาไหม้อย่างรุนแรงด้วยอารมณ์ที่เธอไม่สามารถบรรยายได้ เอลล่ารู้ดีตั้งแต่ในอดีตว่าตัวเองต่างจากเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน แม้ว่าเด็กคนอื่นๆ จะละทิ้งความดื้อรั้น แต่เธอกลับมักจะยึดติดกับมันเสมอ สำหรับเธอ เธอต้องการที่จะทำให้ดีที่สุดในทุกสิ่ง และเธอก็ภูมิใจในความฉลาดของตัวเอง ความภาคภูมิใจนี้เพิ่มมากขึ้นหลังจากที่เธอได้กลายเป็นมือขวาของคาร์เมลเท่านั้น
เธอต้องการเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดและเป็นที่หนึ่ง มันถูกฝังลึกในตัวเธอ และในบางครั้งที่อยู่ต่อหน้าออสติน ดูเหมือนว่าเธอจะล้มเหลว เธอเคยแพ้เขามาแล้วครั้งหนึ่งและในตอนที่เขากลับมา เธอก็แพ้เขาอีกครั้ง ตัวเองที่หยิ่งยโสในอดีตที่มองดูออสตินกลายเป็นภาพลักษณ์ที่น่าเกลียดในใจของเธอ และต่อจากนี้ไป เธอต้องการพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็น เพื่อเอาชนะเขาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
แต่เธอไม่เคยได้รับโอกาสนั้นเลย แม้ว่าเอลล่าอยากจะเป็นแข่งขันกับเขามากเพียงใด เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถบุกเข้าไปหาออสตินและขอให้เขาแข่งขันกับเธอได้ เขาเป็นคนที่ยุ่งมากเนื่องจากต้องดูแลทั้งฝ่ายของเขาและสมาคมนักธนู จากทุกมุมมองเชิงตรรกะ เอลล่าควรมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับออสติน
เเขามีภูมิหลังและมีความเกี่ยวข้องในการก้าวไปสู่จุดสูงสุดของโลก ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคาร์เมล ทำให้พวกเขาจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กันมากในอนาคต ถึงแม้ตอนนี้เธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพบเขาอยู่ แต่คงทำแบบนั้นได้อีกไม่นาน
‘เขาจะจำฉันได้ไหมนะ?’
เอลล่าคิดด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้ยตัวเองขณะลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมกับมองไปที่ประตู เธอเดินไปที่โต๊ะของตัวเองเพื่อกดลำดับบางอย่างและหมุนโต๊ะ ไม่นานก็มีโต๊ะอีกโต๊ะปรากฏขึ้น และเมื่อเห็นเช่นนั้น เธอก็ขยับมือเปิดลิ้นชักแรกที่เต็มไปด้วยแฟ้มต่างๆ โต๊ะมีลิ้นชักทั้งหมด 3 ชั้น และแต่ละลิ้นชักต่างเต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับออสติน
หลังจากหยิบเอกสารมาอ่านแล้ว เอลล่าก็คิดว่าตัวเองไม่น่าเสียเวลาจนถึงตอนนี้เพื่อเลี่ยงออสตินเลย เธอกำลังวางแผนเพื่อเอาความภาคภูมิใจของตัวเองกลับมา เธอจะต้องเอาชนะออสตินให้ได้ซักหนึ่งครั้งเพื่อทำคะแนนให้เท่ากัน และเพื่อสิ่งนั้น เธอต้องการข้อมูล ไม่เหมือนครั้งก่อน เธอปฏิเสธที่จะบุกเข้าไปโดยไม่มีแผน
‘อืม… อันนี้น่าจะใช้ได้…’
เอลล่าคิดขณะที่กำลังเข้าใกล้แผนที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อยๆ แผนที่จะทำให้เธอเท่าเทียมกับเขา เพื่อให้เธอสามารถหาความสงบของจิตใจได้และเริ่มความสัมพันธ์ใหม่กับออสตินในทิศทางที่ดี เหมือนเมื่อก่อนเธอไม่อยากให้เขามองเธอในแง่ไม่ดี การทำให้เขาประทับใจและสร้างความสัมพันธ์กับเขาจะทำให้เธอได้รับสิ่งดีๆ
ไม่นานหลังจากอ่านเอกสารเสร็จ เอลล่าก็ปิดมัน ดวงตาของเธอวิ่งไปรอบๆ ด้วยตัวเลข และรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“ถึงเวลาลงมือแล้ว…”
…..
มุมมองของโซเนีย :
‘คิดถึงเขาจัง…’
โซเนียคิดขณะนอนอยู่บนเตียงด้วยร่างที่เปลือยเปล่า ผมบลอนด์เข้มของเธอแพร่กระจายไปทั่ว ในขณะที่ดวงตาสีแดงทับทิมที่กำลังเปล่งประกายของเธอมองขึ้นไปบนเพดาน ร่างเปลือยของเธอช่างเป็นภาพที่สวยงาม ผิวขาวซีดของเธอทำให้หัวนมสีชมพูของเธอดูน่าลิ้มลอง เธอนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงขณะที่ความทรงจำของออสตินเข้ามาเติมเต็มในใจทำให้ดวงตาสีเลือดของเธอเปล่งประกาย
มือของเธอขยับไปที่ลิ้นชักข้างเตียงเพื่อหยิบถุงเลือดออกมา เธอมองมันด้วยรอยยิ้มผ่อนคลายขณะเริ่มส่งมันเข้าไปในปากอย่างช้าๆ รสชาติแห่งสวรรค์เติมเต็มลิ้นของเธอขณะที่เธอบิดตัวเล็กน้อยบนเตียง
‘อ๊าาา~ ยังไม่อร่อยเท่าการดื่มจากเขาโดยตรงอยู่ดี~’
โซเนียตั้งข้อสังเกต
ถุงเลือดในมือเธอเป็นหนึ่งในหลายๆ ถุงที่ออสตินให้เธอไว้ ในกรณีที่เธอไม่สามารถเจอเขาได้ ซึ่งเธอทะนุถนอมแต่ละถุงอย่างมาก มีบางอย่างที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับเลือดของออสติน และยิ่งเธอดื่มมันมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งถูกดึงดูดเข้าหาออสตินมากขึ้น และยิ่งเขาบุกเข้ามาในใจของเธอจนไม่เหลือแม้แต่วินาทีเดียวที่เธอจะไม่คิดถึงเขา
‘ใครจะคิดว่าฉันจะลงเอยแบบนี้…’
โซเนียคิดด้วยรอยยิ้มที่ซับซ้อนขณะเลียเลือดหยดสุดท้าย พลังอันบริสุทธิ์เติมเต็มเธอทำให้เธอกลัวเล็กน้อย เธอยังคงจำช่วงเวลาที่ตัวเองต้องดิ้นรนเพื่อสู้ เพื่อมีชีวิตอยู่อีกวันในสถาบันได้อยู่เลย ทั้งหมดเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเขา
พอคิดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของเลโอนาร์โด้ก็แวบขึ้นในใจเธอ โดยไม่ได้กระตุ้นความรู้สึกใดๆ ในตัวเธอเลยด้วยซ้ำ ในอดีตมันทำให้เธอรู้สึกสงบและหัวใจเต้นแรง แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่างเปล่าและไม่รู้สึกอะไรเลย
หัวใจของเธอตายไปแล้วในวันนั้น วันที่เลโอนาร์โด้เผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา และเป็นออสตินที่ทำให้หัวใจของเธอกลับมาอีกครั้ง เขาอยู่ที่นั่นเพื่อเธอเหมือนผู้พิทักษ์ที่เงียบสงบที่คอยดูแลเธอ พูดอย่างตลกๆ ออสตินก็คล้ายกับเธอ เขามีความรู้สึกดีๆ ให้กับเธอในขณะที่เธอในตอนนั้นมีความรู้สึกดีๆ ต่อเลโอนาร์โด้
และหากโซเนียพูดตามตรง เธอรู้สึกดีใจมากกว่าที่สิ่งต่างๆ ลงเอยแบบนี้ ทั้งหมดสอนบทเรียนให้เธอและนำเธอมาสู่ความรักที่แท้จริงที่เธอสมควรได้รับ
เสียงหัวเราะเบาๆ หลุดออกจากปากของโซเนียเมื่อเธอนึกถึงปฏิกิริยาของพ่อเธอในตอนที่เขาเห็นเธอ เขาทั้งดีใจและหวาดกลัว
“ฉันอยู่ตรงนี้ได้เพราะเขา”
เธอไม่สามารถแม้แต่จะเริ่มจินตนาการว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นอย่างไรหากไม่มีออสติน บางทีเธออาจจะปลุกพลังอีกครึ่งหนึ่งของตัวเองขึ้นมาได้ แต่เธอจะมีการสนับสนุนทั้งหมดที่เธอมีในตอนนี้หรือไม่?
แค่คิดถึงออสตินก็ทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกแตกต่างไป ฮอร์โมนของเธอเริ่มเดือดพล่านขณะที่ดวงตาสีแดงของเธอเริ่มมืดลง จิตใจของเธอเต็มไปด้วยจินตนาการต่างๆ ทั้งหมดที่มีออสตินทำในสิ่งที่เธอต้องการ โซเนียอาจไม่รู้ตัว แต่ทุกหยดเลือดของออสตินทำให้เธอเชื่อฟังออสตินมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเธออีกด้วย แต่ละเผ่าพันธุ์ต่างก็มีจิตใจของตัวเอง มีจิตวิทยาเฉพาะตัวเพื่อจัดการกับลักษณะเฉพาะของเผ่าพันธุ์นั้นๆ และโซเนียก็ได้รับทั้งหมดในตอนที่เธอกลายเป็นครึ่งแวมไพร์ เธอจะดื่มเลือดเหมือนเป็นเรื่องปกติได้อย่างไร?
มันยังเปลี่ยนวิธีที่โซเนียมองชีวิตด้วย โซเนียเป็นคนใจดีและไร้เดียงสาโดยธรรมชาติ และส่วนหนึ่งของเธอก็ยังคงเป็นเช่นนั้น แต่ส่วนหนึ่งของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา ทั้งสองด้านปะทะกันอยู่ภายในตัวเธอจนสร้างจิตใจใหม่ให้กับเธอ ง่ายๆ คือความใจดีของเธอที่มีอยู่เพียงสำหรับคนที่เธอถือว่าเป็นครอบครัวเท่านั้น
“อื๊มมม~”
โซเนียครางออกมาเมื่อมือของเธอไปอยู่ที่ระหว่างขา ความต้องการของเธอล้นหลามขณะที่จิตใจของเธอเต็มไปด้วยออสติน
“ฮ่าาา… ฮ่าาา… นายท่าน… ได้โปรดกลับมาเร็วๆ นะคะ~…”
เธอครางอีกครั้ง ขณะที่จิตใจของเธอถูกครอบงำโดยเลือดของออสตินอย่างสมบูรณ์ มันกำลังเปลี่ยนแปลงเธออย่างช้าๆ ผลกระทบเช่นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เธอกลายเป็นครึ่งแวมไพร์ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากแวมไพร์สายเลือดแท้ดื่มเลือดของออสตินกันหล่ะ?
มีแต่เวลาที่จะบอกได้