The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 499 The End Of The Snow Field
จิตใจของมาร์ลีนยังคงวุ่นวายอยู่ หน้าจอตรงหน้าเธอเริ่มมีเสียงซ่าซ่าและในไม่ช้าก็ปิดลง ตามมาด้วยเสียงอุทานจากมังกร
“หืมมม?… เป็นไปไม่ได้!”
ทันทีที่มังกรพูดจบ เปลือกตาของออสตินก็เริ่มสั่นไหว สายตาของเขาค่อยๆ โฟกัสจนมาเจอหน้ามาร์ลีน เธอมองเห็นดวงตาของออสตินที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดได้ ดวงตาของเขาแดงก่ำและมีน้ำตาหยดเล็กๆ ค้างอยู่ที่ขอบตา ซึ่งเขาก็รีบเช็ดมันออกอย่างรวดเร็ว
เขาค่อยๆ ยกศีรษะขึ้นจากตักของมาร์ลีน ขณะที่พยายามยิ้มให้เธอแบบเดิม แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม เขาถามด้วยความกังวล
“เธอเป็นยังไงบ้าง?”
เพียงได้ยินคำพูดเหล่านี้จากเขาก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของเธอฟู แต่แล้วอารมณ์ที่ขัดแย้งกันก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเธอจนเธอตอบกลับมาด้วยความลังเล
“ฉันเห็นเรื่องราวที่เจ็บปวดของนายแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของออสตินก็เบิกกว้างขึ้น ความโกรธฉายแววในแววตาขณะที่เขามองเพดาน
“แกกล้าดียังไง?”
เขาถาม แต่คำตอบที่มาจากมังกรกลับแตกต่างออกไป
“จะ-เจ้าคือบุตรศักดิ์-”
“เออ”
ออสตินพูดขัดจังหวะมังกร ดวงตาของเขาหรี่ลงขณะมองไปที่เพดาน ความเงียบที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงตามมา มาร์ลีนมองออสตินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ความจริงที่ว่าเขาซ่อนอะไรบางอย่างจากเธอทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด แต่ก็เพิ่มความลึกลับที่น่าค้นหาในตัวออสตินขึ้นไปอีก
“ฉันขอโทษ.…”
มาร์ลีนพูดกับออสตินพร้อมกับก้มหน้าลงเล็กน้อย
พอเห็นแบบนั้น ออสตินก็ส่ายหัวด้วยอารมณ์ที่ขัดแย้ง เขาโบกมือให้เธอขณะที่พูด
“ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ ถึงฉันจะไม่ชอบเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ก็ช่วยให้ฉันตัดสินใจอะไรได้บางอย่างได้แล้ว”
เมื่อได้ยินคำตอบของเขา มาร์ลีนก็มองออสตินด้วยสายตาที่แอบคิดวิเคราะห์
ออสตินมองเธอพร้อมกับถามด้วยรอยยิ้มอย่างขมขื่น
“เธอเห็นทุกอย่างเลยเหรอ?”
“อืม”
มาร์ลีนตอบตรงๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือของเขาขณะที่เธอพูดด้วยเสียงต่ำที่เต็มไปด้วยการให้กำลังใจ
“ในฐานะเพื่อน ฉันจะอยู่เคียงข้างนายเอง และไม่ว่านายต้องการอะไร ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อช่วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ออสตินก็ยิ้มอย่างมีความสุขให้มาร์ลีน ขณะที่เขาจับมือเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย
“ขอบคุณนะ ฉันคิดว่าถึงเวลาที่ฉันจะต้องจัดการกับบางสิ่งในอดีต”
ทันทีที่เขาพูดจบ บรรยากาศระหว่างทั้งสองก็เริ่มอบอุ่นขึ้น ในตอนนั้นเองที่มังกรพูดขึ้นมา
“ข้าให้เวลาเจ้าทั้ง 2 คนพอแล้ว ข้าคิดว่าถึงเวลาที่เจ้าทั้ง 2 จะต้องจากไปพร้อมรางวัลของพวกเจ้าแล้ว”
คราวนี้เมื่อมังกรพูด โดยมีการควบคุมน้ำเสียงและมาร์ลีนยังตรวจพบความเคารพเล็กน้อยได้อีกด้วย สิ่งนี้บ่งชี้เพิ่มเติมว่าสิ่งที่ออสตินขอให้มังกรเก็บเป็นความลับต้องเป็นเรื่องสำคัญมากพอที่จะทำให้มังกรต้องเคารพ
‘อะไรศักดิ์สิทธิ์…นะ?’
ดวงตาของมาร์ลีนหรี่ลงที่ความคิดนี้ แต่เธอไม่สามารถมีสมาธิกับมันได้อีกต่อไปในขณะที่เธอเริ่มง่วงนอนอย่างช้าๆ เธอมองเห็นออสตินหลับไปในขณะที่เธอหลับตามเขา
ทันทีที่มาร์ลีนหลับไป ออสตินก็ตื่นขึ้นจากท่านอน เขายืดร่างกายเล็กน้อยขณะที่เขามองไปที่มาร์ลีนที่สลบไป
‘ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นกว่าเดิมในการทำให้เธอสลบ’
เพียงแค่นี้ก็เป็นหลักฐานพอที่จะเห็นว่าความสามารถทางจิตของมาร์ลีนเติบโตขึ้นมากแค่ไหน
ออสตินยืนขึ้นช้าๆ ก่อนจะดีดนิ้ว ทำให้หนึ่งในผนังในห้องเปิดออก ก่อนจะมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และถามขึ้นมา
“ข้าทำได้ดีไหม?”
“ดี”
ออสตินตอบด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาเดินไปหาชายคนนั้นที่เริ่มถูมือด้วยความปรารถนา
“ข้าควรทำอะไรต่-”
ยังพูดไม่ทันจบคำ ก็มีดาบเล่มหนึ่งทะลุผ่านหัวใจของชายคนนั้นไป และด้วยการเคลื่อนไหวอีกครั้ง ออสตินก็เอาศีรษะของชายคนนั้นไป โดยไม่ให้เขามีโอกาสประมวลผลทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตา
ออสตินมองดูศพที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความไร้ความรู้สึก เลือดสาดกระเซ็นลงพื้นอย่างสวยงาม ขณะที่ศีรษะที่ตื่นตระหนกตกลงไปบนพื้น
“เห้อออ… การทำลายหลักฐานนี่มันยากจริงๆ”
พูดอย่างนั้นแล้วออสตินก็หันหลังกลับและยกตัวมาร์ลีนขึ้นมาก่อนจะเริ่มเดินออกจากห้องใต้ดินไป เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับการฆ่าชายคนนั้นเลยเพราะผู้ชายคนนั้นสมควรตายแล้ว
ออสตินไม่สามารถเลือกใครก็ได้ให้เป็นเสียงของมังกรเพราะเขาต้องฆ่าคนๆ นั้นอย่างไม่มีทางเลือก การปล่อยให้ตัวแปรขนาดใหญ่มีชีวิตอยู่นั้นอาจทำให้ตัวแปรนั้นกลับมากัดเขาในภายหลังได้ ทำให้เขาไม่สามารถปล่อยตัวแปรหรืออะไรทำนองนั้นไปได้ เพราะมันจะไม่ปลอดภัยกับเขาในภายภาคหน้า เขาต้องการพวกชั่วที่ทรงพลังที่จะทำสิ่งที่เขาต้องการ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อจิตสำนึกของเขามากนักในตอนที่เขาฆ่าคนๆ นั้น ซึ่งไม่ยากเลยที่จะหาคนเช่นนั้นหลังจากได้รับความช่วยเหลือจากดาร์กไนท์
ไม่นานนักออสตินก็มาถึงข้างบน หิมะและความเย็นพัดมาอีกครั้ง ขณะที่เขาปิดประตูเพื่อล็อกสถานที่นั้นก่อนจะวางมาร์ลีนลงบนพื้น จัดทุกอย่างให้เรียบร้อยและนอนลงข้างๆ มาร์ลีน
ในไม่ช้า เรื่องนี้ก็จะจบลง และสิ่งใหม่สำหรับเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้น
.….
ดวงตาของมาร์ลีนเปิดขึ้นอีกครั้งอย่างช้าๆ เธอมองเห็นท้องฟ้าอันมืดมิดก่อนจะหันกลับมาจ้องมองไปยังออสตินซึ่งดูเหมือนจะตื่นจากการหลับใหลของเขาเช่นกัน
ในไม่ช้าทั้งคู่ก็ลุกขึ้นนั่งขณะที่ออสตินพูด
“ดูเหมือนมังกรตัวนี้จะชอบทำให้เราสลบจังนะ”
มาร์ลีนหัวเราะเบาๆ กับคำพูดของเขา ขณะที่ความสนใจของเธอเปลี่ยนไปที่แหวนในมือของตัวเอง เมื่อรู้สึกถึงความเชื่อมโยงของเธอกับมัน เธอจึงเปิดแหวนมิติขึ้น และดวงตาของเธอก็ต้องเบิกกว้างกับสมบัติที่เธอเห็นในนั้น บางอย่างที่เพียงพอที่จะทำให้เธอต้องกลืนน้ำลาย
จากนั้นมาร์ลีนก็มองไปทางออสตินซึ่งมองมาที่เธอด้วยความประหลาดใจเหมือนกัน
รอยยิ้มกระจายไปทั่วใบหน้าของเขาในขณะที่เขาพูด
“ดูเหมือนเราจะได้แจ็กพอตนะ”
“นั่นสิ”
มาร์ลีนตอบโดยรู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้ให้อะไรเธอมากกว่าที่จะจินตนาการได้ ไม่นานนักก่อนที่เธอจะพูดอีกครั้ง ลูกศรเดียวกับที่นำทางพวกเธอมาที่นี่ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งและชี้กลับไปยังทิศทางที่พวกเธอเดินมา
“ดูเหมือนเราต้องกลับไปที่ประตูมิติที่เราเข้ามาเพื่อกลับไปนะ”
มาร์ลีนพยักหน้าและยืนขึ้นพร้อมกับออสตินโดยไม่ต้องพูดอะไรก่อนจะพุ่งไปในทิศทางที่ลูกศรชี้ไป
ร่างกายของมาร์ลีนเต็มไปด้วยพลัง ขณะที่เธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว สายตาของเธอเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่เธอนึกถึงตอนที่เธอขี่หลังออสติน
บางส่วนเล็กๆ ของเธอคิดถึงการถูกโอบกอดจากออสติน แต่เธอก็ระงับความปรารถนานั้นไว้ ในขณะที่ทั้งสองกำลังวิ่งอยู่ ไม่นานก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อพวกเขามาถึงจุดที่ห่างออกไป
ทั้ง 2 คนหันสายตาไปทางทิศทางที่พวกเขาพึ่งจากมา
“ดูเหมือนว่าถ้ำนั่นจะถูกทำลายไปแล้วนะ”
ออสตินพูด ขณะที่ทั้งสองคนยังคงเคลื่อนไหวต่อไป
“น่าเสียดายจัง ฉันวางแผนที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้งด้วยสิ”
มาร์ลีนตอบ ซึ่งออสตินก็แค่เดินหน้าไปต่อ
‘คิดเหรอว่าฉันจะปล่อยช่องโหว่แบบนั้นไว้’
ออสตินคิดในใจ ในขณะที่มาร์ลีนจัดการกับสัตว์ร้ายที่ขวางทาง
หลังจากวิ่งมาซักพัก พวกเขาทั้งสองก็มาถึงประตูมิติที่พวกเขาเข้ามา
หลังจากมาถึง ลูกศรก็พุ่งออกไปด้วยแสงสีทองก่อนที่ทั้ง 2 คนจะพบว่าตัวเองกลับมายังหุบเขาแคบในสถาบันแล้ว
“เรากลับมาแล้ว…สินะ”
มาร์ลีนพูดด้วยเสียงเบาๆ ขณะที่เธอรู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัว
ออสตินพยักหน้า ขณะที่ทั้งสองถอดเสื้อโค้ท
มาร์ลีนหันไปหาออสตินเป็นคนแรก ขณะที่เธอก้มศีรษะเบาๆ
“ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ออสตินก็ยิ้มและตอบกลับไป
“ไม่ใช่ว่านี่คือสิ่งที่เพื่อนเขาทำกันเหรอ?”
มาร์ลีนยิ้มกับคำตอบนั้นและเงยหน้าขึ้นมา สายตาของเธอจ้องลึกไปที่ออสติน ขณะที่เธอเคลื่อนที่เข้ามาหาเขา
ออสตินยืนนิ่งอยู่ที่จุดเดิมจนกระทั่งมาร์ลีนจูบเบาๆ ลงบนแก้มของเขา
“ถือว่านี่เป็นการเริ่มต้นของการขอบคุณของฉันแล้วกัน”
หลังจากปิดท้ายด้วยรอยยิ้มที่สว่างไสว มาร์ลีนก็เดินออกไปจากออสตินที่กำลังตะลึง
สมองของมาร์ลีนจดจ่ออยู่กับความรู้สึกของผิวออสติน ขณะที่เธอมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป