The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 500 Birth Of A New Alliance
มาร์ลีนเดินก้าวเบาๆ พร้อมกับสมองที่กำลังคิดคำนวณขณะมุ่งหน้าสู่จุดศูนย์กลางที่แคทเธอรีนมักจะมาว่ายน้ำ ผ่านมาประมาณ 2 วันแล้วตั้งแต่เธอจากไป และสิ่งแรกที่มาร์ลีนทำคือเดินทางมายังสถานที่เดียวกับที่ออสตินถูกเรียกตัวก่อนที่เขาจะไปกับเธอ
ขณะที่มาร์ลีนกำลังบเดินอยู่นั้น ทุกคนรอบๆ ต่างก็เปิดทางให้พร้อมกับแสดงความเคารพด้วยการก้มหัวให้เธอเล็กน้อย ความสง่างามที่เธอแสดงเพิ่มขึ้นจากอดีต ระหว่างทางของเธอยังคงราบรื่นและไม่มีสะดุดจนกระทั่งเธอไปถึงจุดสิ้นสุดของสระน้ำขนาดใหญ่ที่แคทเธอรีนนอนอยู่
ดวงตาของแคทเธอรีนมองมาที่มาร์ลีน ขณะที่มาร์ลีนยืนอยู่เหนือสระน้ำ
“เธอเปลี่ยนไปนะ”
แคทเธอรีนพูดขึ้นมาด้วยสายตาที่หรี่ลงขณะมองไปยังเพื่อนที่รู้จักกันมานาน ด้วยเพียงแค่การมองเพียงครั้งเดียว แคทเธอรีนก็สามารถบอกได้ว่ามีบางสิ่งใหญ่โตเกิดขึ้น และเพื่อนสนิทของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นหน่ะ”
มาร์ลีนพูดขณะโบกมือสร้างฟองอากาศระหว่างเธอกับแคทเธอรีนเพื่อปิดกั้นเสียงการสนทนาของพวกเธอจากสายตาที่อยากรู้อยากเห็น
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ ขณะที่ยังคงจับตามองมาร์ลีน โดยนึกถึงสถานการณ์ต่างๆ ขึ้นในใจ มันบอกว่านักวางแผนสามารถเข้าใจนักวางแผนด้วยกันได้ และตอนนี้แคทเธอรีนที่กำลังมองมาร์ลีนอยู่ก็เข้าใจได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
“ฉันรักออสตินและฉันจะรับเขามาเป็นจักรพรรดิของฉัน”
มาร์ลีนพูดตรงๆ ทำให้แคทเธอรีนตกใจด้วยดวงตาที่เบิกกว้างขณะที่มีหลายอารมณ์ต่างๆ มากมายไหลผ่านเธอไปในคราวเดียว สุดท้ายคือความผิดหวังและความโกรธ เธอเข้าใจว่ามาร์ลีนอาจมีความสนใจในตัวออสตินอยู่บ้าง แต่เช่นเดียวกับที่ออสตินรู้จักมาร์ลีน แคทเธอรีนก็รู้ด้วยว่าเนื่องจากเธอแสดงความสนใจเขาเลยทำให้เพื่อนของเธอคนนี้ยอมถอยและปล่อยให้เธอเอาออสตินไป
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนเรื่องกำลังจะเกินการควบคุมไปแล้ว…
“ฉันเดาว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะบอกให้เธอยอมแพ้สินะ?”
มาร์ลีนถามด้วยความรู้สึกรักอันมืดมนอย่างบ้าคลั่งที่กำลังก่อตัวขึ้น
ความรู้สึกเดียวกันนี้เองก็เริ่มปรากฏรอบๆ แคทเธอรีนเช่นกัน ทั้ง 2 คนต่างผ่านสถานการณ์อันตรายมาด้วยกันกับออสติน แคทเธอรีนเคยสร้างครอบครัวกับออสตินและสูญเสียมันไปแล้วครั้งหนึ่ง ในขณะที่มาร์ลีนเองก็ผ่านทุกสถานการณ์ของอารมณ์กับออสตินมาแล้ว
มันเป็นไปไม่ได้ที่ทั้ง 2 คนจะยอมปล่อยมือจากออสติน ซึ่งหมายความว่าสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนกำลังก่อตัวระหว่างพวกเธอทั้ง 2 คน แคทเธอรีนอยู่ใต้บังคับบัญชาของมาร์ลีน แคทเธอรีนยังเป็นผู้มีอำนาจอันดับที่ 2 ของฝ่ายมาร์ลีน ไม่ว่าจะในสถาบันหรือในโลกข้างนอก ทั้งสองเชื่อมโยงกันและต้องการกันและกัน
“ขอถามคำถามเดียว ทำไมเธอถึงบอกฉันเรื่องนี้หล่ะ?”
แคทเธอรีนถาม ปัจจุบันมาร์ลีนจะได้เปรียบกว่าถ้าเธอเก็บแคทเธอรีนไว้ในความมืดและทำการเคลื่อนไหวเมื่อการป้องกันของเธอลดลง การพูดออกมานี้จะทำให้พวกเธอเท่าเทียมกัน
“เพราะเธอเป็นเพื่อนของฉัน”
มาร์ลีนตอบ คำตอบนี้ทำให้แคทเธอรีนยิ้มออกมา ขณะที่เธอเข้าใจว่าถึงแม้มาร์ลีนจะเปลี่ยนไป แต่แก่นแท้ของมาร์ลีนก็ยังคงอยู่ ลักษณะเฉพาะของความภูมิใจที่ทำให้แคทเธอรีนเลือกอยู่ใต้บังคับบัญชาของมาร์ลีน
“ถ้างั้นก็อย่ามารู้สึกเสียใจทีหลังละกันไม่ว่าออสตินจะลงเอยกับใครก็ตาม ตกลงไหม?”
แคทเธอรีนถามพร้อมกับหรี่ตามองมาร์ลีน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าของแคทเธอรีนขณะที่เธอค่อยๆ ว่ายน้ำช้าๆ ในสระน้ำ
“แน่นอน แต่ก่อนอื่นไม่ใช่ว่าเรามีคนอื่นที่ต้องจัดการก่อนเหรอ?”
มาร์ลีนพูดด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
“เธอหมายถึงโอลิเวียเหรอ?”
แคทเธอรีนถามกลับ ซึ่งมาร์ลีนก็ส่ายหัว
“ฉันเกรงว่าโอลิเวียจะเป็นปัญหาน้อยที่สุดของเรา”
มาร์ลีนกล่าว สมองของเธอฉายภาพไปที่เซเลสทีเนีย ออสตินอาจยอมแพ้กับเซเลสทีเนียแล้ว แต่สัญชาตญาณของมาร์ลีนกลับกรีดร้องว่าสิ่งต่างๆ ยังอีกยาวไกล
“เราคงต้องคุยกันอย่างละเอียดแล้วแหละ”
มาร์ลีนกล่าว ซึ่งแคทเธอรีนก็พยักหน้า
พันธมิตรเล็กๆ เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างทั้งสอง พันธมิตรแห่งทะเลเพื่อออสติน พันธมิตรที่สองรองจากพันธมิตรทางครอบครัวกำลังก่อตัวอย่างช้าๆ
…..
มุมมองของออสติน :
‘ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว’
ผมคิดขณะดูมาร์ลีนเดินจากไป สายใยระหว่างมาร์ลีนกับแคทเธอรีนนั้นพิเศษและแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ผมต้องใช้วิธีพิเศษในการทำให้หัวใจของพวกเธอทั้ง 2 คนยอมเปิดใจ หากเป็นความสนใจธรรมดาๆ ไม่ว่าจะเป็นมาร์ลีนหรือแคทเธอรีนคงจะยอมแพ้ต่อความรู้สึกที่มีต่อกัน
แต่นั่นจะไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกปัจจุบันทั้งหมดและหลังจากทุกสิ่งที่ผมได้ลงแรงไป ผมมั่นใจว่ามาร์ลีนจะสร้างพันธมิตรกับแคทเธอรีน ไม่เพียงเพื่อล้มโอลิเวีย แต่ยังเพื่อจัดการกับเซเลสทีเนียด้วย จากนั้นสิ่งต่างๆ ก็จะเริ่มคลี่คลายจริงๆ
อันที่จริงแล้วพันธมิตรระหว่างมาร์ลีนและแคทเธอรีนนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อผมมาก ผมไม่ได้แสดงทุกสิ่งให้มาร์ลีนดูเพียงเพื่อความสนุกหรอกนะ แต่ละคำที่เธอจะพูดจากนี้ไปจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเป้าหมายของผม แถมผมยังได้บอกใบ้ให้เธอรู้ว่าตัวเองเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย และมันคงใช้เวลาไม่นานนักหรอกกว่าที่มาร์ลีนจะพบว่าผมเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
แม้แต่ภาพลวงตาที่ผมทำให้มาร์ลีนเผชิญก็จะค่อยๆ หล่อหลอมตัวตนของเธอให้เป็นในแบบที่ผมต้องการ และตัวตนนั้นที่เพิ่มเข้าไปในมาร์ลีนจะเป็นหอกที่มีประโยชน์มากในการจัดการกับภัยคุกคามในอนาคตที่อาจมุ่งมาทางผม
‘แม้ว่าการนอนอยู่ที่นั่นและปล่อยให้มาร์ลีนดูทุกสิ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายก็เถอะ’
สิ่งที่มาร์ลีนดูเป็นการบันทึกที่ผมตั้งไว้ ผมได้เอาส่วนที่เกี่ยวกับเซเลสทีเนียจากความทรงจำของตัวเองมาแสดง ในขณะที่ผู้หญิงคนที่ 2 เป็น ‘นักแสดง’ ที่ผมต้องการสำหรับการแสดงของผม สายใยที่เริ่มขึ้นระหว่างผมกับมาร์ลีนมาจากประสบการณ์เดียวกันที่เราทั้ง 2 คนพบเจอเหมือนกัน
นอกจากนี้ สิ่งนี้จะเสริมสร้างความเห็นใจที่ผมจะได้รับจากผู้หญิงคนอื่นๆ ทุกคน ส่วนที่ดีที่สุดคือมันจะไม่มีวันตามรอยกลับมาหาผมได้เพราะมาร์ลีนจะเป็นคนพูดทุกอย่างออกมาเอง ซึ่งหากผู้หญิงคนไหนสงสัยและทำการตรวจสอบผู้หญิงคนที่ 2 นั้น พวกเธอก็จะพบกับร่องรอยที่ผมทิ้งไว้ให้พวกเธอเจอ
ผู้หญิงธรรมดาที่ผมพบระหว่างการเดินทางและมีเรื่องราวดีๆ ให้พวกเธอได้สืบ แม้ว่าพวกเธอจะค้นหาทั่วโลก แต่พวกเธอก็จะไม่พบผู้หญิงคนนั้นหรอกเพราะเธอเสียชีวิตไปแล้ว อย่างที่ผมบอกไว้ก่อนหน้านี้ ผมไม่สามารถทิ้งช่องโหว่ใดๆ ไว้ได้ ผู้หญิงเหล่านี้ฉลาดและเจ้าเล่ห์ การพลั้งพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้พวกเธอขุดคุ้ยความจริงออกมาได้
ความเกลียดชังคืออีกด้านหนึ่งของความรัก ท้ายที่สุดแล้ว การพลิกเหรียญง่ายๆ ก็สามารถเปลี่ยนความรักที่ลึกซึ้งที่สุดให้กลายเป็นความเกลียดชังที่เลวร้ายที่สุดได้
‘ก็หวังว่าพวกเธอจะใจเย็นกันบ้างนะ…’
ขณะที่ผมครุ่นคิดอยู่ ผมก็เริ่มเดินออกจากตำแหน่งของตัวเอง
ในตอนที่ผมปรากฏตัวให้เห็นอีกครั้งก็ทำให้สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ผม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจสายตาพวกนั้นแต่อย่างและเดินต่อไป
ผมรู้เป้าหมายต่อไปของตัวเองดี ด้วยก้าวที่มั่นคงผมก็มาถึงยังศูนย์เคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วและถูกเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์การสอนสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นนายพลในอนาคต
ที่นี่ผมค่อยๆ คลุมตัวเองด้วยผ้าคลุมเล็กๆ หลังจากทำเสร็จแล้วผมก็ก้าวเดินต่อเข้าไปในอาคารขนาดใหญ่ เดินอย่างช้าๆ จนกระทั่งมาถึงหอประชุม ประตูถูกปิดเพราะกำลังมีการสอนอยู่ แต่ด้วยอำนาจของผมทำให้สามารถเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และพอผมเข้าไปแล้วก็พบกับนักเรียนที่กำลังนั่งอยู่หลายร้อยคนในห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีที่นั่งเป็นวงกลม โดยที่ทุกสายตาจับจ้องไปยังบุคคลที่ยื่นอยู่ตรงกลาง
เกรซยืนอยู่หน้าเหล่านักเรียนด้วยภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูดและทรงพลัง ผมสีบลอนด์อันงดงามของเธอลดลอนลงอย่างสง่างาม ถูกมัดเป็นหางม้าซึ่งเผยให้เห็นคอเรียวของเธอ ดวงตาสีเขียวที่จับใจของเธอมีประกายลึกลับที่ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจของทุกคน
แต่เป็นเพราะชุดเครื่องแบบทหารที่ทำให้เธอโดดเด่นจริงๆ เครื่องแบบได้รับการปรับแต่งอย่างความสมบูรณ์แบบ โอบรับส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอในทุกจุดที่เหมาะสม แทบไม่เหลือให้จินตนาการเลย ผ้านี้เป็นการผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งและความเย้ายวน ออกแบบมาเพื่อทั้งการต่อสู้และการยั่วยวน
กระโปรงของเธอยาวลงมาถึงข้อเท้า ถูกตัดเย็บจากวัสดุที่ทนทานแต่ยังคงความนุ่มนวล อนุญาตให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในขณะที่ยังคงความสง่างาม รอยกรีดเชิงกลยุทธ์ประดับด้านข้าง เผยให้เห็นเรียวขาที่กระชับของเธอขณะที่เธอเดิน เป็นสิ่งเตือนใจถึงความเป็นผู้หญิงของเธอแม้จะอยู่ท่ามกลางชุดต่อสู้ของเธอก็ตาม
หัวเข็มขัดเงินประดับที่เอวของเธอ เน้นรูปร่างเพรียวของเธอและดึงดูดความสนใจต่อเสน่ห์ที่อันตรายที่เธอมี แต่สิ่งที่น่าดึงดูดที่สุดในชุดของเธอคือดาบที่เธอพกติดตัว อาวุธนั้นดูเหมือนจะมีออร่าที่ทรงพลังและอันตราย เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนถึงความเชี่ยวชาญของเธอในฐานะแม่ทัพที่มีฝีมือ
กระโปรงของเธอพลิ้วไหวไปตามแต่ละย่างก้าวที่เดิน สร้างจังหวะอันน่าหลงใหลสะท้อนจังหวะการเต้นของหัวใจในห้อง ชุดทหารของเกรซไม่เพียงแต่สื่อถึงอำนาจและความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องเพศที่ปฏิเสธไม่ได้ซึ่งทำให้คนรอบข้างเธอต้องมนต์สะกด
ไม่แปลกใจเลยที่เธอได้รับฉายาว่า “เจ้าหญิงกุหลาบโลหิต”การปรากฏตัวของเธอเปล่งประกายผสมผสานระหว่างความเป็นผู้นำและความเป็นผู้หญิง ดึงดูดความชื่นชมและความปรารถนาจากทุกคนที่มีโอกาสได้เห็นเธอ
‘ดูเหมือนว่าเธอฟื้นตัวตนภายในของเธอที่เธอเก็บกดไว้กลับมาแล้ว’
ผมสามารถรู้สึกได้ถึงความภูมิใจและความกระหายในการต่อสู้ที่เธอได้รับคืนมา คุณคงไม่ใช่คนธรรมดาหรอกหากมีฉายาเดียวกับแม่ของผม แม้ในอดีตผมจะเข้าใจว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ต้องการสงครามและความตาย แต่หลังจากมีครอบครัว แม่ของผมก็ดูเหมือนจะกักเก็บทั้งหมดนั้นไว้ทำให้บรรยากาศรอบตัวเธออ่อนโยนขึ้น
แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ด้านนั้นของเธอยังคงอยู่ เพียงแต่ผสมผสานกับด้านใหม่นี้ และเกรซคนใหม่นี้จะเป็นประโยชน์มากสำหรับผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอนาคตใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า
‘แต่ให้ตายสิ เธอเซ็กซี่จริงๆ’
ผมเห็นนักเรียนชายหลายคนต่างจ้องไปยังเกรซ ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับชายหนุ่มเหล่านี้ โอกาสที่จะได้สาวรุ่นแม่ที่เซ็กซี่และแก่กว่านั้นน่าดึงดูดยิ่งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเธอยังโสด
‘น่าเสียดายที่เธอเป็นของฉันแล้ว’