The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 51 Gaining Support
1 เดือนต่อมา∼∼∼∼
ภายในเขตแดนของอาณาจักรโรซาลิน จะสามารถเห็นเด็กอายุประมาณ 14 ปีที่กำลังอยู่ในป่าได้
จะเรียกเขาว่าเด็กก็เกินไป แม้ว่าเด็กคนนั้นจะสูงประมาณ 5 ฟุต(1.5 เมตร) แต่ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยมัดกล้าม
เขาดูเหมือนรถถังเลยแม้ว่าเขาจะยังเด็กอยู่ก็ตาม แม้แต่ผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้เขาก็ยังกลัว เด็กชายมีผมสีน้ำตาลและดวงตาสีเขียว
แทนที่ดวงตาของเขาควรจะเต็มไปด้วยความสดใสและความสุขตามปกติของเด็กทั่วไป ตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยความหมดอาลัยตายอยาก ความเศร้าและความสิ้นหวัง
เด็กชายกำลังนอนอยู่บนพื้นในขณะที่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยสีดำเหมือนใยแมงมุมแผ่ไปทั่วตัวของเขา
ยาพิษ…เขาถูกวางยาโดยคนที่ไว้ใจ ครอบครัวของเขาไล่เขาออกมาเพราะไม่สามารถดูแลเขาได้ ช่างตลกดีจริงๆ
เด็กชายทำได้เพียงนอนอยู่เฉยๆ เพื่อรอให้สัตว์บางชนิดมากิน
เจค็อบนั้นได้ยอมแพ้ให้กับชีวิตของตัวเองแล้ว แต่ในขณะนั้นเองชะตากรรมของเขาก็เปลี่ยนไป มีใครบางคนปรากฏตัวต่อหน้าเขา ผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นมานั้นเป็นคนที่สวมชุดคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าและสวมหน้ากากอยู่ สิ่งเดียวที่มองเห็นได้คือดวงตาสีม่วงของเขา
คนปริศนาเดินเข้ามาใกล้เจค็อบก่อนจะยื่นมือให้เขา
“นายต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไหม?”
เสียงของชายปริศนาได้เขาความหวังกลับคืนมาสู่ชีวิตของเจค็อบ
5 เดือนต่อมา∼∼∼∼
ในอาณาจักรมูนไลท์ภายในคฤหาสน์ของดยุกตระกูลเกิร์ลรอล ได้มีเด็กหนุ่มอายุประมาณ 14 ปีกำลังเดินอยู่ เขามีผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า ถ้าจะเรียกว่าหล่อก็คงไม่ผิด
แต่ไม่มีเมดคนไหนที่เห็นเขาให้ความเคารพเขาเลย ทุกคนต่างมองเขาด้วยความรังเกียจ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเพียงแค่เดินเข้าไปในห้องๆ หนึ่งเพียงเท่านั้น
ภายในห้องนั้นมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งดูน่าจะอายุประมาณ 9 ปีอยู่ เธอมีผมสีบลอนด์และดวงตาสีฟ้า เธอคงจะดูน่ารักถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอ ซึ่งบางครั้งมันก็กระตุกด้วยความเจ็บปวด
หนูน้อยวัย 9 ปีกำลังนอนอยู่บนเตียงโดยที่ไม่มีใครดูแลอยู่ เมื่อเห็นเด็กสาวแล้วสายตาที่ดูเย็นชาของเด็กหนุ่มก็หายไปก่อนจะถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นของเขา
เขาจับมือของเด็กสาวเข้ามาใกล้ก่อนจะพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงนะเอ็มม่า พี่จะหาทางรักษาเธอให้ได้แน่นอน”
“ใช่แล้ว นายต้องหามัน”
เมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นข้างหลังตัวเอง มาร์คก็ดึงดาบหนักออกมาจากแหวนมิติก่อนจะรีบหันกลับมาชี้ดาบไปทางคนที่ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเขาโดยไม่มีการบอกกล่าว
มาร์คมองไปยังคนปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้นก็พบว่าอีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมอยู่และมีความสูงที่เตี้ยกว่าเขา
“นายเป็นใคร?”
ร่างปริศนาไม่ได้ตอบสิ่งที่มาร์คถาม เขาเหยียดนิ้วออกกว้างและพูดขึ้น
“มาเป็นสหายของผมสิ”
ความเงียบเกิดขึ้นทันที่ขณะที่มาร์คมองร่างที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา
เวลาผ่านไปเพียงไม่นานมาร์คก็ถามขึ้นมา
“ทำไม?”
“เพราะผมสามารถให้สิ่งที่นายต้องการได้ไงหล่ะ”
คำพูดเย้ายวนแสนหอมหวานของคนปริศนาได้สั่นคลอนความตั้งใจของมาร์ค และในวันนั้นเองได้มีลูกนอกสมรส 2 คนของครอบครัวเกิร์ลรอลหายตัวไป
2 เดือนต่อมา∼∼∼∼
ตามท้องถนนของอาณาจักรซาเคเรียนจะสามารถเห็นเด็กชายเผ่าปีศาจอายุประมาณ 12 ปีที่มีเลือดไหลซิบๆ พร้อมกับอีกข้างหนึ่งบนหลังที่หายไปได้
เด็กชายมีผมสีดำ ตาสีแดง สีผิวของเขาก็เป็นสีแดงเช่นกันและมีเขาหนึ่งอันอยู่บนหน้าผาก
ตอนนี้เด็กชายกำลังซ่อนตัวอยู่ในโรงงานร้างแห่งหนึ่งอยู่พร้อมกับดวงตาของเด็กชายที่เต็มไปด้วยความเศร้า ความหดหู่ใจและความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่จะแก้แค้น
ในช่วงเวลานั้นเองที่ได้มีเสียงๆ หนึ่งดังขึ้นมา
“ดูท่านายจะโดนมาหนักเลยนะ”
เมื่อได้ยินเสียงปริศนาที่ดังขึ้นข้างหลังของตัวเอง เด็กชายก็รีบดึงมีดสั้นออกมาก่อนจะยืนตั้งท่าเตรียมสู้ในทันที
ข้างหลังของเด็กชายได้มีร่างปริศนาที่สวมเสื้อคลุมยืนอยู่
คนปริศนายื่นมือมาทางเด็กชายเผ่าปีศาจก่อนจะพูดขึ้น
“นายอยากแก้แค้นสินะ∼”
เสียงกระซิบอันชั่วร้ายของคนปริศนาได้ดึงปีศาจอาม่อนเข้าสู่ความมืด
2 สัปดาห์ต่อมา∼∼∼∼
ภายในทะเลทรายซาห์ราแห่งอาณาจักรมนุษย์สัตว์สิงโต จะสามารถเห็นร่าง 2 ร่างกำลังเดินอยู่ได้ โดยทั้ง 2 นั้นเป็นผู้หญิง คนหนึ่งเป็นเผ่าแมวและอีกคนหนึ่งเป็นเผ่ากระต่าย
เด็กหญิงเผ่าแมวดูเหมือนจะอายุประมาณ 10 ปี เธอมีผมสีดำ หางและหูของเธอก็เป็นสีดำเช่นกัน ในขณะที่กระต่ายสาวอีกคนดูเหมือนจะอายุ 14 ปี เธอมีดวงตาสีชมพู หูกระต่ายยาวสีขาวของเธอขยับไปตามลม
ทั้งคู่ดูโทรมมากจากเสื้อผ้าที่มอมแมมและรูปร่างที่ผอมแห้ง พวกเธอไม่ต่างกับซอมบี้ที่ย่ำอยู่กับที่ด้วยพลังอันแรงกล้า หญิงสาวเผ่าแมวเป็นคนแรกที่ล้มลง โดยมีหญิงสาวเผ่ากระต่ายรับตัวเธอเอาไว้
“พ -พี่รินะ หนู่ไปต่อไม่ไหวแล้ว”
เด็กสาวเผ่าแมวกอดรินะพี่สาวของเธออย่างอ่อนแรง รินะมองไปยังซานะ พวกเธอทั้งสองเป็นเพียงคนสองคนที่กำลังหลบหนีอยู่ ตอนนี้พวกเธอจะต้องตายในทะเลทรายนี้เหรอ?
ขณะที่รินะกำลังก้มลงไปช่วยซานะเธอก็ล้มลง ทั้งคู่ลงไปนอนบนพื้นทราย ชีวิตของพวกเธอจะจบลงที่นี่งั้นเหรอ?
ขณะนั้นเองได้มีร่างของคนปริศนาที่สวมเสื้อคลุมปรากฏขึ้นก่อนเขาจะยื่นมือมาทางพวกเธอ
“พวกเธอต้องการความช่วยเหลือไหม?”
1 เดือนต่อมา∼∼∼∼
ภายในอาณาจักรเฟอร์ดินานด์ ในบ้านของบารอนหลังเล็กๆ หลังหนึ่ง จะสามารถเห็นเด็กชายอายุ 13 ปีกำลังเดินผ่านคฤหาสน์หลังเล็กๆ ได้
เด็กชายมีผมสีดำและตาสีฟ้า หน้าตาของเขาออกจะธรรมดาๆ เขากำลังเดินผ่านคฤหาสน์พร้อมกับหนังสือเล่มเล็กๆ ในมือ
เด็กชายดูผอมและอ่อนแอมาก แต่ดวงตาของเขากลับเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและความปรารถนาอันแรงกล้าในอำนาจและความสำเร็จ
เมดที่เดินผ่านเขาต่างทักทายเด็กชายด้วยความเคารพ แต่ความรังเกียจที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของพวกเธอก็ยังคงสามารถมองเห็นได้อยู่ เด็กชายเองก็รู้เช่นกัน แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงทำเป็นไม่สนใจสายตาพวกนั้นเท่านั้น
หลังจากที่เด็กชายเดินจากไปแล้ว พวกเมดก็เริ่มพูดคุยกัน
“นายน้อยคนที่ 3 อเล็กซ์ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ ร่างกายก็อ่อนแอ แถมยังเอาแต่อ่านหนังสืออีก”
“ฉันได้ยินมาว่านายท่านกำลังวางแผนที่จะไล่เขาออกไปเนื่องจากสภาพร่างกายของเขา เขาไม่มีพรสวรรค์ในด้านการต่อสู้เลยจริงๆ”
ในขณะที่เด็กชายที่ถูกนินทาอเล็กซ์เข้ามาในห้องของตัวเองแล้ว เขาก็เริ่มอ่านหนังสือในมือทันที กลยุทธ์ทางทหารเป็นสิ่งที่เขาโปรดปรานมาโดยตลอด
แต่วันนี้คงจะเป็นวันที่แตกต่างไปจากเดิม เนื่องจากขณะที่อเล็กซ์กำลังอ่านหนังสืออยู่นั้นก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังของเขา
“นายชอบพวกกลยุทธ์ใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเสียงที่ดังขึ้นมาอเล็กซ์ก็รู้สึกประหลาดใจ เขาหันกลับมาอย่างช้าๆ ด้วยสายตาทีสงบ ในขณะเดียวกันมือของเขาก็เลื่อนไปยังมีดสั้นที่ซ่อนอยู่ในเสื้อ
ในตอนที่อเล็กซ์หันมาเสร็จแล้วเขาก็เห็นคนปริศนาที่สวมชุดคลุมกำลังยืนอยู่ คนที่สามารถเข้ามาในห้องของเขาได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นคงจะต้องมีพลังมากแน่ๆ
“คุณเป็นใคร? คุณมาเพื่อฆ่าผมเหรอ?”
แม้จะติดอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายอเล็กซ์ก็ยังใจเย็นอยู่ได้
คนปริศนาหัวเราะเบาๆ ให้กับคำถามของอเล็กซ์ก่อนจะตอบกลับเขาไป
“ไม่ใช่ นายเข้าใจผิดแล้ว ผมมาที่นี่เพื่อจะให้อะไรบางอย่างแก่นาย”
“แล้วมันคืออะไรกันหล่ะ?”
“คำบุพบท (preposition)”
“คุณหมายความว่ายังไงกัน?”
แม้จะยังระแวดระวัง แต่ความสนใจของอเล็กซ์ก็ยังคงมีมากกว่า
“มาเป็นสหายของผมสิ”
คำพูดของชายในชุดคลุมทำให้อเล็กซ์ประหลาดใจ
เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งก่อนที่อเล็กซ์จะตอบกลับมา
“ผมจะได้อะไรหล่ะ?”
“นายจะได้รับสิ่งที่นายปรารถนามากที่สุดในตอนนี้”
“ถ้างั้นเรามาตกลงกัน”
อเล็กซ์ไม่ลังเลเลยตราบใดที่เป้าหมายของเขาลุล่วงก็ไม่มีอะไรที่สำคัญไปมากกว่านี้แล้ว
2 สัปดาห์ต่อมา∼∼∼∼
ขณะนี้ในถนนสายเล็กแห่งหนึ่ง จะสามารถเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ได้ เธอดูเหมือนจะอายุ 12 ปี ผมสีแดงของเธอถูกตัดสั้น ในขณะที่ดวงตาสีแดงของเธอนั้นเปล่งประกายไปด้วยความหิวโหย
เด็กสาวสวมชุดเฉพาะของแม่มดพร้อมกับกระโปรงและหมวกที่มีสีดำอันเป็นเครื่องหมายทางการค้าของแม่มด
แต่ถ้าใครเข้ามามองใกล้ๆ แล้วจะเห็นได้ว่าชุดของเธอเก่าและเริ่มจะใกล้หมดอายุขัยของมันแล้ว
นี่เป็นครั้งที่ 6 ที่โซร่าไม่ผ่านการสอบขององค์กรแม่มด ความคิดของเธอเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุมักจะถูกคนอื่นปฏิเสธอยู่เสมอ แม้แต่องค์กรแม่มดเองก็ปฏิเสธผลงานของเธอ ทุกคนต่างมองเธอด้วยความดูถูกเหยียดหยามในแนวคิดของเธอ เงินที่พ่อแม่ให้เธอไว้ก็หมดลงแล้ว
เส้นทางของเธอจบลงแล้วงั้นเหรอ? เธอต้องยอมทิ้งทุกอย่างเหรอ?
เธอจะบอกพ่อแม่ของเธอยังไงดี?
ตอนนี้โซร่ากำลังมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายอยู่ เธอจินตนาการไม่ออกเลยว่าพ่อแม่ของเธอจะผิดหวังขนาดไหน พวกเขาล้มละลายไปแล้วเพื่อช่วยเธอ เธอจะทำอะไรได้บ้างในตอนนี้
“สุดท้ายแล้วฉันก็ไร้ประโยชน์”
“ไม่หรอก เธอสุดยอดมากเลยต่างหาก”
ในเวลานั้นเองที่เธอได้ยินเสียงปริศนาดังขึ้นมา เสียงนั้นทำให้เธอประหลาดใจมากก่อนเธอจะหันไปเห็นคนปริศนาที่สวมชุดคลุมอยู่
ดวงตาสีม่วงของเขาคนนั้นเหมือนมันจะสามารถเจาะเข้าไปในตัวเธอได้เลย
“นายคือ?”
โซร่าใช้มาตรการป้องกันตัวอย่างระแวดระวัง
ร่างของคนปริศนายื่นธนูให้เธอ
“ผมเป็นแฟนตัวยงของผลงานเธอเลยนะ”
“นายกำลังเยาะเย้ยฉันอยู่เหรอ?”
ทุกคนดูถูกเธอและเรียกเธอว่าตัวตลกเพราะความคิดของเธอไม่เหมือนคนอื่น
สำหรับโซร่าแล้วคำพูดของคนปริศนานั้นเป็นเพียงการเยาะเย้ยเท่านั้น
คนปริศนาส่ายหัวก่อนจะพูดขึ้น
“คนที่สามารถคิดไม่เหมือนใครและก้าวไปสู่ความฝันนั้นน่าทึ่งมาก เธอคือคนที่สุดยอดมากโซร่า”
เมื่อได้ยินคำพูดของคนปริศนาซึ่งมีทั้งคำชมเชยและความเชื่อมั่น น้ำตาหยุดเล็กๆ ก็ร่วงลงบนใบหน้าของโซร่า ความรู้สึกที่ได้รับการชื่นชมทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่น
คนปริศนาในชุดคลุมยื่นมือออกมาเมื่อสบโอกาส
“เธอมาทำงานให้ผมสิ”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต