The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 57 Ok, Scene Then Action!!
ขณะนี้เอเลนอร์กำลังเดินทางผ่านป่าเพื่อไปยังสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ จากการสืบสวนของเธอนั้นรู้มาว่ามีโลกประวัติศาสตร์ลับได้ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของป่าแห่งนี้และมันอาจจะช่วยให้เธอทะลุผ่านระดับปัจจุบันของเธอได้
ยิ่งเธอเดินลึกเข้าไปมากเท่าไหร่สภาพแวดล้อมก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เธอเริ่มรู้สึกว่ามานาในบริเวณรอบๆ เริ่มไม่คงที่แล้วและเริ่มพบกับสัตว์ป่ามากขึ้นเมื่อเธอเดินลึกเข้าไป
หลังจากเดินไปได้ครึ่งชั่วโมงเธอก็มาถึงใจกลางป่า บรรยากาศรอบๆ ต่างเงียบงัน โดยมีก้อนใหญ่ตั้งอยู่ตรงใจกลางป่า เมื่อเห็นอย่างนั้นเอเลนอร์ก็เดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะวางมือลงบนหินก้อนนั้น
โดยเมื่อเธอสัมผัสหินก้อนนั้นไปแล้วมันก็เริ่มสั่นไหวขึ้นมา หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็มีทางเข้าขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนก้อนหิน ดูเหมือนว่ามันจะกำลังเชิญชวนเธอให้ลงไปสู่ก้นบึ้งอยู่ มีเพียงความมืดเท่านั้นที่สามารถมองเห็นผ่านรูทางเข้านั้น
“ดูเหมือนว่าจะเป็นทีนี่สินะ”
เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า เอเลนอร์ก็ถอดเสื้อคลุมออก ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่เธอมักจะส่งออร่าสง่างามออกมา
ในครั้งนี้เอเลนอร์ได้แต่งกายด้วยชุดนักผจญภัยแบบทั่วๆ ไป โดยมีกางเกงขาสั้นรัดรูปซึ่งช่วยรัดบั้นท้ายของเธอได้เป็นอย่างดีและเสื้อท่อนบนที่สามารถเคลื่อนไหวได้ง่าย ตอนนี้เธอให้ความประทับใจแบบผู้หญิงที่มีเสนห์และอันตราย
เอเลนอร์ยิ้มออกมาขนะที่มองไปยังเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะสัมผัสมันเพื่อนึกถึงความทรงจำในอดีตที่ผ่านมา
“ฮ่าาา ฉันลืมมันไปได้ยังไงกันนะ”
เอเลนอร์ส่ายหัวก่อนจะเข้าไปยังทางเข้าบนหิน ซึ่งมันปิดลงทันทีหลังจากที่เธอเข้าไป
หลังจากที่เอเลนอร์ลืมตาขึ้นไม่กี่วินาทีก็พบว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยืนอยู่บนผืนดินที่เต็มไปด้วยทรายรอบด้าน ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือทรายทั้งหมดที่เธอยืนอยู่นั้นเป็นสีแดงเลือด กลิ่นของความตายโชยไปทั่วสถานที่แห่งนี้
ในตอนนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นมา
“ฮ่ะ..ฮ่ะฮ่ะ…ฮ่ะฮ่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาเอเลนอร์ก็ขมวดคิ้ว เธอรู้สึกถึงการคุมคามแห่งความตายจากบริเวณนี้
ในขณะเดียวกันเสียงหัวเราะนั่นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่หยาบกร้าน
“ใครจะไปคิดว่าข้าจะมีโอกาสได้ฆ่ามนุษย์อีกครั้ง ช่างดีงามเหลือเกิน”
ทันทีที่เสียงนั้นจางหายไปก็ได้มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้า โดยที่ร่างนั้นดูเหมือนจะสูงประมาณ 7 ฟุต (2.13 เมตร) เขามีผิวสีแดงและตาสามดวง โดยตาที่สามนั้นอยู่ที่ตรงหน้าผากของเขาพร้อมทั้งมีหางโผล่ออกมาจากหลัง
เมื่อเห็นร่างที่ปรากฏขึ้นมาเอเลนอร์ก็ยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
‘ท่าไม่ดีแล้ว ปีศาจโซลิอาเกะระดับของมันดูเหมือนจะสูงกว่าของฉันด้วยสิ’
โลกประวัติศาสตร์ทุกแห่งไม่ได้มีแต่โอกาสอย่างที่ทุกคนคิด บางครั้งคุณอาจจะพบโลกประวัติศาสตร์ที่เป็นของเผ่าพันธุ์อื่นก็ได้ ถ้าบุคคลนั้นไม่เหยียดคุณก็ไม่มีปัญหาหรอก นั่นถือว่าดีแล้วสำหรับคุณ แต่ถ้าผู้ปกครองของโลกประวัติศาสตร์เป็นคนที่มีความเกลียดชังต่อเผ่าพันธ์ุอื่นอย่างฝังรากลึกหล่ะก็ คุณอาจจะตกอยู่ในเส้นทางนรกที่ออกแบบมาเพื่อฆ่าคุณก็ได้
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง เอเลนอร์ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เธอคิดอย่างใจเย็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ หากผู้ปกครองของโลกประวัติศาสตร์มีระดับพลังที่น้อยกว่าเธอในช่วงที่เขารุ่งโรจที่สุดหล่ะก็ เธอจะสามารถหลบหนีเขาไปได้อย่างง่ายดาย แต่ดูเหมือนว่าระดับพลังของปีศาจตนนี้อย่างน้อยก็อยู่จักรพรรดิระดับ 3 ขึ้นไปแล้ว การใช้กำลังอาจไม่ให้ผลที่ดีนักเว้นแต่เธออยากจะตายหล่ะก็นะ
“กลัวอะไรอยู่เจ้ามนุษย์? ไม่ต้องห่วงข้าจะทำให้เจ้ารู้จักความสิ้นหวังที่แท้จริงเอง ข้าจะไม่ทำเจ้าพังเร็วๆ นี้หรอก”
เมื่อปีศาจตนนั้นพูดจบมันก็กระชากโซ่สีดำที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นเพื่อหวังมัดตัวเอเลนอร์
ทันทีที่โซ่มาถึงเอเลนอร์ก็พยายามจะสู้กับมัน
ในตอนแรกเธอสามารถดีดมันกลับไปได้ เมื่อปีศาจเห็นเช่นนั้นมันก็เริ่มใช้จำนวนโซ่ที่มากขึ้น เอเลนอร์สามารถทำลายโซ่ไปได้ 4 ใน 6 เส้น แต่น่าเศร้าที่โซ่ 2 เส้นสุดท้ายได้จับตัวเธอไว้ได้
ทันทีที่โซ่พันธนาการเธอได้ การเชื่อมต่อของเธอกับมานาก็ขาดสะบั้น ระดับพลังของเธอเปลี่ยนจากจักรพรรดิสู่ผู้ไร้พลังในทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…เห็นรึยังเจ้ามนุษย์ แกมันก็แค่มดปลวกเท่านั้นในตอนที่อยู่ต่อหน้าข้า”
คำพูดของเขาจะเป็นที่ยอมรับมากกว่านี้ถ้าใบหน้าของเขาไม่ซีดและร่างกายของเขาไม่สั่นหล่ะก็นะ
“ไม่ต้องกังวลเจ้ามนุษย์ ข้าเป็นคนยุติธรรมมาก ข้้าจะให้โอกาสเจ้ามีชีวิตรอด ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เจ้าได้ต่อสู้ 2 รอบที่แตกต่างกัน เอาชีวิตรอดให้ได้แล้วจากนั้นเจ้าจะเป็นอิสระ”
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าของปีศาจตรงหน้าและเห็นว่าพลังของตัวเองถูกปิดก้นอยู่ เอเลนอร์ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เธอเป็นคนสู้มาจนถึงตำแหน่งนี้ได้ด้วยตัวเอง เธอเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมามากกว่านี้แล้ว
เมื่อมองไปที่ปีศาจตรงหน้าเอเลนอร์ก็พยักหน้า
“ดี อย่ามาเสียใจทีหลังหล่ะ”
ทันทีที่เจ้าปีศาจพูดจบมันก็ดีดนิ้วก่อนที่ทรายรอบๆ จะเริ่มสั่นและมารวมตัวกัน ในไม่ช้าร่างของสัตว์ร้ายหลายตัวก็เริ่มก่อตัวขึ้น
หลักร้อย…ไม่สิ ตอนนี้ได้มีสัตว์ร้ายนับพันก่อตัวขึ้นต่อหน้าของเอเลนอร์ ทุกตัวดูดุร้ายและอันตราย พวกมันแต่ละตัวต่างแผ่รังสีขึ้นต่ำอยู่ที่ต้นกำเนิดระดับ 5
ในกรณีปกติแค่นี้คงไม่คนามือของเอเลนอร์เลย แต่ตอนนี้แค่พวกมันตัวเดียวก็เป็นอันตรายถึงชีวิตแล้วสำหรับเธอ เห็นได้ชัดว่าเจ้าปีศาจนี่ไม่มีความประสงค์ที่จะไว้ชีวิตเธอแต่แรกแล้ว
ในเวลาเดียวกันนั้นเองเบื้องหลังเอเลนอร์ได้มีบุคคลที่แอบเช็คลิสต์อะไรบางอย่างอยู่
‘ตัวร้าย เช็ค’
‘นางเอกที่กำลังตกอยู่ในอันตราย เช็ค’
‘ผมของเราที่กำลังปลิวไปตามสายลม เช็ค’
‘รอยยิ้มกระชากใจ เช็ค’
‘โอเค…ถ้างั้นเริ่มการแสดง!’
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต