The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 61 Fighting Together(4)
‘เห้อออ ในที่สุดก็ได้พื้นที่พักหายใจซักที’
เมื่อมองดูกลุ่มสัตว์ร้ายที่ตกลงไปในรอยแยกขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจาก [ โลกาวินาศ ] ผมสามารถพูดได้เลยว่าตัวเองมีเวลาพักเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
ถ้าพวกมันเป็นแค่สัตว์ร้ายธรรมดาที่มีมานาหล่ะก็ผมคงทำได้เพียงแค่วิ่งหนีพวกมันไปเรื่อยๆ แต่เจ้าพวกนี้ที่อยู่ข้างหน้าผมนั้นไม่มีสติปัญญา พวกมันทำได้เพียงเคลื่อนไหวไปมาเหมือนสัตว์ที่ไร้สติเท่านั้น
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของผมการจะสู้กับพวกมันอาจจะยุ่งยากไปซักหน่อย แต่มันอาจทำให้ผมได้รับแต้มความชอบจากเอเลนอร์มากขึ้น
เมื่อผมหันไปมองที่เอเลนอร์ซึ่งเฝ้าดูทุกอย่างจากด้านหลังก็พบเข้ากับแววตาที่นิ่งสงบของเธอที่กำลังปรากฏความเป็นห่วงผมอยู่ในนั้น หลังจากนั้นผมก็วิ่งตรงเข้าไปในกลุ่มสัตว์ร้าย
“ออสติน!!”
ผมได้ยินเสียงของเอเลนอร์ที่ตะโกนขึ้นมาจากด้านหลัง แต่ผมทำเพียงแค่เมินมันไปเท่านั้น ผมรู้ว่าเธอเข้าใจจุดประสงค์ของสิ่งที่ผมกำลังจะทำต่อจากนี้ แม้ว่าผมจะมีพลังพอที่จะต่อกรกับกระแสสัตว์ร้ายพวกนี้ได้ แต่ผมไม่สามารถสู้ไปพร้อมกับปกป้องเธอไปด้วยได้หรอกนะ ผมยังไม่แข็งแกร่งขนาดนั้นและวิธีที่ผมจะใช้คือการทำให้พวกสัตว์ร้ายเหล่านี้หันความสนใจมาที่ผม
โดยไม่ลังเลผมส่งมานาไปที่ขาก่อนจะกระโดดขึ้นสูงเพื่อลงจอดตรงกลางวงของสัตว์ร้าย ผมวางลูกธนู 3 ดอกบนคันธนูก่อนจะยิงมันออกไป
พวกลูกธนูแต่ละดอกบินออกไปด้วยแสงสีน้ำเงินที่ส่องประกายก่อนจะระเบิดออกเพื่อสร้างพื้นที่ว่างให้ผมร่อนลงจอดและในเวลาเดียวกับที่ผมลงมาถึงพื้นแล้ว สัตว์ประหลาดนับพันก็กรูเข้ามาล้อมรอบตัวผม
“[ เพลิงอัสนีคำราม ]”
ผมร่ายคาถาระดับ 5 อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างสายฟ้าฟาดลงมายังพื้นดินและทำให้เกิดไฟนรกขึ้นมาล้อมรอบตัวผมเอาไว้ สัตว์ร้ายหลายร้อยตัวถูกเผาและกลายเป็นเถ้าถ่านในทันทีที่สัมผัสกับไฟนรกเหล่านั้น
บรรดาสัตว์ร้ายที่รอดชีวิตตัวอื่นๆ ยังคงวิ่งกรูเข้าหาไฟที่ลดขนาดลงอยู่เรื่อยๆ ในขณะเดียวกันผมก็ยิงลูกธนูออกไปอีกหลายดอกอย่างต่อเนื่องเพื่อเอาชีวิตรอดจากพวกสัตว์ร้ายที่พยายามล้อมผมอยู่
เวลาเริ่มผ่านไปจนกระทั่งสัตว์ร้ายเริ่มตายมากขึ้นเรื่อยๆ สัตว์ร้ายที่มีระดับพลังอ่อนแอลดลงไปมากแล้ว แต่ก็มีตัวที่แข็งแกร่งกว่าเข้ามาแทนที่ในทันที
สัตว์ร้ายจากทุกทิศทางยังคงอาละวาดอย่างต่อเนื่อง จากที่ผมใช้ลูกธนูเพียงดอกเดียวเพื่อฆ่าพวกมันแต่ละตัว ตอนนี้ผมต้องใช้ถึง 3 ดอกขึ้นไปเพื่อฆ่าพวกมันให้ได้ซักตัว แถมยังมีสัตว์ร้ายบางตัวเริ่มขุดลงไปในพื้นเพื่อหวังโจมตีผมจากใต้ดินแล้วด้วย
มีอยู่หลายครั้งที่ผมเกือบจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและมานาของผมเองก็เริ่มเหลือน้อยลงเรื่อยๆ แล้วด้วย บาดแผลและเลือดเริ่มปรากฏขึ้นตามส่วนต่างๆ บนร่างกายของผมและสัตว์ร้ายเองก็ไม่มีท่าทีที่จะหมดไปเลย
ผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและเลือดที่ไหลออกมาจากส่วนต่างๆ บนร่างกาย
ในเวลาเดียวกันนั้นผมก็ยังคงเห็นสีหน้าลำบากใจของเอเลนอร์และเสียงหัวเราะของเจ้าปีศาจนั่นที่กำลังดังอยู่
ความแข็งแกร่งทางจิตใจของผมเองก็เริ่มได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน จนเริ่มยิงลูกธนูพลาดเป้าบ้างแล้ว
ผมมองไปที่เวลาก็เห็นว่าเหลือเวลาอีกกว่า 45 นาทีจนกว่านรกนี้จะสิ้นสุดลง
ผมหายใจเข้าลึกๆ ขณะวางลูกธนูลงและเริ่มร่ายคาถา [ การบิดเบือนของเสียง ]
พื้นดินเริ่มสั่นก่อนที่สัตว์ร้ายที่อยู่ใกล้ๆ ผมจะแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
หลังจากผ่านไป 2-3 วินาทีผมก็หยิบโพชั่นออกมาจากแหวนมิติและดื่มมันเพื่อฟื้นฟูมานาและร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บจนหายดี แต่ดวงตาของผมก็แดงก่ำขึ้นมา แม้ว่ามานาของผมจะฟื้นฟูขึ้นมาแล้วแต่หัวของผมก็ยังคงเจ็บอยู่
การต่อสู้เช่นนี้อย่างต่อเนื่องโดยที่ต้องตื่นตัวตลอดเวลานั้นทำร้ายร่างกายของผมมาก ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปผมคงถูกจัดการภายในเวลาไม่นานแน่
ครั้งนี้ผมดึงดาบออกมาจากด้านหลังเพื่อใช้มันสู้แทน มีบางอย่างที่ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ‘ร่างกายที่สมบูรณ์แบบ’ ในไม่กี่ปีก่อน ร่างกายของมนุษย์แต่ละคนถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ตรงกับขีดจำกัดที่กำหนด
การจัดการกล้ามเนื้อของคุณจะตัวตัดสินอาวุธที่เหมาะกับคุณ ดังนั้นพวกมันจะเป็นตัวตัดสินว่าคุณมี ‘พรสวรรค์’ ในอาวุธนั้นหรือไม่
แต่สำหรับร่างกายของผมนั้นผมสังเกตเห็นว่ามันแตกต่างออกไปเล็กน้อย เนื่องจาก ‘ร่างกายที่สมบูรณ์แบบ’ ร่างกายของผมเลยเหมาะสมกับอาวุธทุกชนิด นั้นหมายความว่าผมมี ‘พรสวรรค์’ ในทุกอาวุธที่ตัวเองใช้
ผมยิ้มด้วยดวงตาที่แดงก่ำขณะถือดาบไว้ในมือ ร่างกายของผมเคลื่อนไหวโดยสัญชาตญาณเพื่อฟันไปยังตำแหน่งที่สมบูรณ์แบบ ผมอาจไม่ใช่ปรมาจารย์ดาบหรืออาจใช้มันได้ไม่ดีเท่ากับธนู แต่ผมสามารถใช้ดาบเพื่อเอาชีวิตรอดได้อยู่ ผมแกว่งดาบในมือโดยไม่ลังเลเพื่อฟันร่างของสัตว์ร้ายให้แยกออกจากกัน
“เข้ามา!!”
ผมคำรามออกมาเมื่อเริ่มต่อสู้และเปลี่ยนจากการป้องกันมาเป็นการโจมตีที่ดุดันแทน มานาของผมอาจหมดเร็วขึ้นแต่ผมน่าจะรอดไปได้อยู่
ผมเหวี่ยงดาบในมือโดยไม่ลังเลจนสัตว์ร้ายที่โจมตีผมจากทั่วทุกทิศทางเริ่มลดลงเรื่อยๆ การตายของพวกมันแต่ละครั้งทำให้พวกมันกลายเป็นทราย
ผมเริ่มต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงการป้องกันจนทำให้บาดแผลเริ่มปรากฏขึ้นบนร่างกายอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
ในตอนนั้นเองได้มีสัตว์ร้ายตัวหนึ่งเล็งกรงเล็บของมันมาที่หัวของผม แต่ผมก็สามารถหลบมันไปได้อย่างฉิวเฉียดในขณะที่มีกรงเล็บอีก 3 อันเล็งมาที่หัวใจ คอและปอดของผมในเวลาเดียวกัน
ผมกำดาบแน่นขึ้นก่อนจะเหวี่ยงมันเป็นวงกลมเพื่อเบี่ยงการโจมตีของพวกมันทั้งหมดและใช้คาถาอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างลูกแก้วหลายลูกรอบตัว โดยลูกแก้วเหล่านั้นจะคอยป้องกันผมจากการโจมตีที่ผมไม่สามารถหลบได้
ผมเริ่มได้รับพื้นที่สำหรับการต่อสู้อย่างรวดเร็วในขณะที่เลือดเริ่มไหลออกมาจากร่างกายของตัวเองอยู่เรื่อยๆ แต่ผมก็ยังคงสู้ต่อไป
ยิ่งเวลาลดลงเท่าไหร่ ความดุร้ายของสัตว์ร้ายก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของพวกมันเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะที่พวกมันยังคงกรูเข้ามาหาผมไม่หยุด
ลุกแก้วทั้งหมดที่บินอยู่รอบตัวของผมถูกทำลายลงในขณะที่เวลาเหลืออีกเพียงไม่กี่วินาที ผมแทบจะสู้ต่อไม่ไหวแล้ว แขนและขาของผมเริ่มแข็งทื่อพร้อมกับมานาที่แทบจะแห้งเหือด
‘มีสิ่งเดียวที่เราทำได้!’
ผมใช้มานาทั้งหมดที่เหลืออยู่เพื่อใช้ท่าพิเศษที่ผมเรียนรู้สำหรับการใช้ดาบอย่างรวดเร็ว
มานาจากพื้นที่รอบๆ เริ่มเข้ามาล้อมรอบผมอย่างรวดเร็วในขณะที่ผมร่ายคาถา [ วงโคจรดาบ ]
ผมเคลื่อนดาบไปรอบๆ ตัวเหมือนวงโคจรจนดูเหมือนมีบาเรียสีเงินเล็กๆ คล้ายดวงดาวคอยปกป้องผมอยู่ สัตว์ร้ายทั้งหมดที่ล้อมรอบผมอยู่เริ่มหายไปอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกับที่ผมขยับดาบเป็นครั้งสุดท้าย เสียงระฆังก็ดังขึ้นมาพร้อมกัน
เวลาหมดลงแล้วโดยที่ผมมีชีวิตรอดมาได้ ผมถอนหายใจก่อนจะล้มลงไปนอนบนพื้น ร่างกายของผมปวดร้าวไปทั้งตัวและแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย
ผมหยิบขวดยาออกมาจากแหวนมิติเพื่อดื่มมัน ในตอนที่เปิดขวดออกก็ได้กลิ่นหอมหวานลอยโชยขึ้นมา เมื่อรสหวานของน้ำหวานไหลผ่านปากลงไปยังท้อง จิตใจของผมก็โล่งขึ้นมา อาการบาดเจ็บเริ่มหายไปพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำของผมที่เริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ในทางกลับกันท้องของผมก็ร้องขึ้นมาด้วยความหิวโหย
แปะ แปะ แปะ แปะ
ในตอนนั้นเองผมก็ได้ยินเสียงตบมือดังขึ้นมาจากด้านบน ผมเห็นเจ้าปีศาจกำลังตบมืออยู่ด้วยท่าทางประทับใจ
“ข้าประทับใจมาก…ข้าเจ็บปวดที่ต้องพูดแบบนี้ แต่แกเป็นหนึ่งในคนที่มีความสามารถสูงที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมาเลย น่าเสียดายที่แกจะต้องตายในรอบต่อไป”
“เพื่อเป็นเกียรติแก่ความแข็งแกร่งของแก ข้าจะให้เวลาแกเตรียมตัว 5 นาที ถือว่านี่ให้เกียรติจากข้าแล้วกัน”
หลังจากที่พูดจบไอ้สารเลวนั่นก็หายตัวไป
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต