The Devil's Cage - ตอนที่ 181

จีหรานถูกหมอกสีดำลากลงไปด้านล่าง

แม้ว่าเขาจะอยู่ในหมอก แต่เขาก็ไม่ได้รับผลกระทบจากการขาดออกซิเจนและแรงกดดันใต้น้ำ เขายังคงระแวดระวังมากขึ้นแม้ว่า

การตอบโต้ครั้งสุดท้ายของ Gilfren Hatch จะไม่ง่ายอย่างนั้น Kieran มองไปที่แหวนในมือของเขา

มันมีพื้นผิวขรุขระสีดำ แต่นั่นไม่ได้ลดคุณค่าของมันลงเลยแม้แต่น้อย

[ชื่อ: Spectre Grip]

[ประเภท: อุปกรณ์เสริม]

[หายาก: หายาก]

[โจมตี/ป้องกัน: ไม่มี]

[คุณสมบัติ: Shadow Chain]

[เอฟเฟกต์: ไม่มี]

[ข้อกำหนดเบื้องต้น: ไม่มี]

[สามารถนำออกจากดันเจี้ยนได้: ใช่]

[ข้อสังเกต: นี่คือพลังของวิญญาณที่กลับชาติมาเกิด!]

…

[Shadow Chain: สร้างสายโซ่แห่งความมืดโดยใช้พลังงานด้านลบเพื่อผูกมัดเป้าหมายของคุณ Target จะต้องผ่านการตรวจสอบความแข็งแกร่งร่วมกับความแข็งแกร่งของคุณ หากผ่านไปได้ จะถูกปล่อย หากไม่ผ่าน จะถูกผูกมัดเป็นเวลาหนึ่งวินาที ความเสียหายจากการกัดกร่อนเชิงลบ 15 ต่อวินาที เป็นเวลาสามวินาที สองครั้งต่อวัน]

…

Kieran เข้าใจถึงคุณค่าของ [Spectre Grip] หลังจากที่เขาได้สัมผัสกับมันด้วยตัวเอง

สามารถใช้ได้ทั้งหลบหนีและต่อสู้ ดังนั้นมันจึงเป็นส่วนเสริมที่มีค่าสำหรับคลังแสงของเขา

เขาสวมแหวนที่นิ้วชี้ข้างซ้ายและหันความสนใจไปที่ร่างของเฟนเกส

หลังจากที่วิญญาณของ Gilfren Hatch จากไป ร่างกายของ Fenke ก็เริ่มเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว

จากที่ดู Fenke ต้องตายมาหลายเดือนแล้ว Kieran ไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งที่ชายคนนั้นเจอมา แต่เขาแน่ใจว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าพึงใจ

“Fenke ตายหลังจากที่เราออกจากคุกใต้ดินหรือไม่? เขาถูกครอบงำโดย Gilfren Hatch หรือไม่” เขาเดา

หากไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ จีหรานไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเขาถูกหรือผิด

เมื่อหมอกดำรอบตัวเขาเริ่มเคลื่อนไหว เขารวบรวมความคิดและหันความสนใจไปที่มันอย่างเต็มที่

บูม!

หมอกสีดำเริ่มขยายตัวเหมือนฟองสบู่

จีหรานตื่นตระหนกกับการขยายตัวอย่างกะทันหันและกลิ้งออกไปอย่างรวดเร็ว

มันกลายเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง เมื่อมีร่างที่ฉีกขาดขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากฟองสบู่หลังจากที่ฟองสบู่แตก

ร่างนั้นมีปีกที่หลัง และมีลายเลือดบนใบหน้าคล้ายกับที่ Kieran ครึ่งคนตายเคยเจอมาก่อนหน้านี้

ร่างนั้นกระจายหมอกดำและตกลงไปที่ก้นหิน ทันทีที่เท้าแตะพื้น พวกเขาก็บดขยี้มัน

“ครึ่งคนตาย!”

Kieran ไม่แน่ใจเกี่ยวกับตัวตนของสัตว์ประหลาดที่ปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน

เขาคุ้นเคยกับรูปแบบเลือดบนใบหน้าของสัตว์ประหลาด นั่นคือสิ่งที่ Zywane มีบนใบหน้าของเขาเมื่อ Gilfren Hatch ครอบครองเขา อย่างไรก็ตาม Zywane ไม่ได้ตัวใหญ่และฉีกขาดเหมือนสัตว์ประหลาดก่อนหน้า Kieran และแน่นอนว่าเขาไม่มีปีก

รูปแบบเลือดดูเหมือนจะไม่มีลักษณะเดียวกันกับรูปแบบบนใบหน้าของ Zywane เนื่องจากรูปแบบดังกล่าวสามารถทำให้เกิด [ความกลัว] และ [ภาพลวงตา] ได้

ขณะที่จีหรานกำลังตรวจสอบสัตว์ประหลาด มันก็คำรามเสียงดังและหายไป

“ไอ้บ้า!”

หัวใจของ Kieran เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเขาตระหนักว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

เขาเปิดใช้งาน [Primus Arm, Primus Scale] และ [Tessirot Blessing, Scale of Blessing] ทันที

ปัง!

แรงระเบิดกระแทกเข้าที่หลังของ Kieran และส่งเขาพุ่งไปข้างหน้าราวกับกระสุน

Barrier Field Force อันทรงพลังและเกราะป้องกันผิวหินขนาดกลาง 500 ชิ้นถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆ

แม้จะมีการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของ Kieran แต่สิ่งที่ได้รับก็คือการโจมตีครั้งเดียวจากสัตว์ประหลาด

หลังจากการโจมตีครั้งนั้น สัตว์ประหลาดก็หายไปอีกครั้งและปรากฏขึ้นอีกครั้งเหนือหัวของ Kieran

มันปล่อยหมัดใส่หน้าของ Kieran อย่างแรงในขณะที่ Kieran อยู่กลางอากาศ ดวงตาของเขาเบิกกว้างในขณะที่เขาเฝ้าดูหมัดที่เข้ามา เขาไม่มีที่พึ่งเลย

แรงลมของหมัดเพียงพอที่จะส่ง Kieran ลงไปที่พื้น แต่ก่อนที่เขาจะได้ล้มลง ร่างกายของเขาก็ปลิวไปด้านข้างและออกห่างจากสัตว์ประหลาด

ลวดสีเงินหนาเท่าเส้นผมถูกไล่ออกจากมือของ Kieran และคล้องเข้ากับก้อนหิน Kieran อาศัยพละกำลังของเขาเพื่อลากร่างของเขาออกจากการโจมตีร้ายแรง

มันคือ [Deceiver’s Key]!

สัตว์ประหลาดไม่ได้หยุดแม้ว่า หมัดของมันตกลงพื้นด้วยแรงมหาศาล

แขนเกือบครึ่งจมลงสู่พื้น

จีหรานรู้สึกยินดีเล็กน้อยที่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ได้

เมื่อสัตว์ประหลาดดึงมือออก Kieran ก็ขยายระยะห่างระหว่างพวกมันโดยสัญชาตญาณเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีที่เข้ามาของสัตว์ประหลาด

สัตว์ประหลาดไม่ได้ไล่ตาม Kieran มันกลับยืนอยู่ตรงจุดนั้นและมองไปรอบๆ

“การมองเห็นและการได้ยินไม่ดี?”

Kieran เลิกคิ้วด้วยความโล่งใจ

เมื่อพิจารณาถึงพละกำลังและความเร็วที่น่าเกรงขามของสัตว์ประหลาด หากการมองเห็นและการได้ยินของมันไม่แย่ เขาคงตายไปแล้ว

ตอนนี้เขาเห็นแสงแห่งความหวังบางๆ

Kieran ปรับท่าทางของเขาใหม่และเดินไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง

ระดับ Musou ของเขา [Undercover] ทำให้เขาสามารถกลมกลืนกับหมอกมืดได้อย่างเต็มที่

เสียงหายใจดังมาจากปากของสัตว์ประหลาด ขณะที่หน้าอกของมันขยายออกและยุบลงตามจังหวะการหายใจของมัน

มีแสงจากพื้นผิวเพียงเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จีหรานจะสังเกตเห็นว่าสัตว์ประหลาดมีรูขนาดใหญ่ที่ด้านขวาของหน้าอก

หัวใจควรจะอยู่ที่นั่น แต่ที่ว่างเปล่า มีเพียงเส้นเลือดอยู่ข้างใน

“หัวใจของมันอยู่ที่ไหน? อาจจะเป็น…?”

หัวใจที่หายไปทำให้จีหรานนึกถึงโลงศพทองสัมฤทธิ์ที่เต้นเป็นจังหวะ

“อ๊ากกก!”

ก่อนที่จีหรานจะคิดทฤษฎีอะไรได้มากกว่านี้ สัตว์ประหลาดก็กระพือปีกบิน มันไม่ยอมแพ้ที่จะตามหา Kieran มันขยายปีกออกเพื่อทำการค้นหาทั่วบริเวณ

จีหรานมุ่งความสนใจไปที่มันอีกครั้งและจ้องมองสัตว์ประหลาดขณะที่เขาเดินไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง

แม้ว่าสัตว์ประหลาดจะมีการมองเห็นและการได้ยินที่ไม่ดี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันตาบอดหรือหูหนวก

มันยังสามารถตรวจจับ Kieran ได้เมื่อเข้าใกล้เขามากพอ ระยะการตรวจจับต้องอยู่ที่ประมาณ 10 เมตร

Kieran คิดค่าประมาณนั้นโดยอิงจากท่าหลบหลีกก่อนหน้าของเขา

แม้ว่ารัศมี 10 เมตรนั้นแทบจะไม่เพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจจับสัญญาณรบกวนที่นุ่มนวล เสียงดังกว่านี้จะทำให้สัตว์ประหลาดค้นพบเขา

Kieran พยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขา

เมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่วินาที สัตว์ประหลาดก็ยังคงบินไปรอบๆ เพื่อค้นหา Kieran

Kieran ใช้หน้าต่างเวลานั้นเพื่อระบุตำแหน่งที่เขาอยู่

ดูเหมือนว่าเขาและสัตว์ประหลาดจะอยู่ในถ้ำรูปสามเหลี่ยมที่มีพื้นที่แคบด้านบนและด้านล่างกว้าง

ภายในถ้ำมีขนาดปานกลาง และมีประตูสองบานที่หันหน้าเข้าหากัน

ประตูทำจากวัสดุวุ้นโปร่งแสง

หนึ่งในนั้นคือทางเข้าที่ Kieran ถูกลากเข้ามา เขาพยายามเข้าถึง แต่มันถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา วัสดุที่เป็นวุ้นนั้นแข็งเหมือนเหล็ก เขาไม่สามารถหนีออกจากทางเข้านั้นได้ และสัตว์ประหลาดก็เริ่มปกป้องประตูอีกบานหลังจากที่ไม่สามารถจับตัวจีหรานได้

“แม้สติปัญญาจะต่ำ แต่สัญชาตญาณนักล่าตามธรรมชาติของมันก็บอกให้รู้ว่าต้องทำอะไร” คีแรนคิดกับตัวเอง

สัตว์ประหลาดมีการมองเห็นและการได้ยินที่แย่ และมันขาดสติปัญญาของมนุษย์ มันเหมือนสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ล่าได้เท่านั้น ไม่สามารถคิดได้ในระดับสติปัญญาเหมือนมนุษย์

จีหรานไม่รู้ว่าอะไรทำให้สัตว์ประหลาดกลายเป็นแบบนั้น แต่เขารู้ว่าต้องทำอะไร

เขาดึงหมุดระเบิดจากระยะปลอดภัยแล้วขว้างไปที่สัตว์ประหลาด

เสียงระเบิดลงพื้นดึงความสนใจของสัตว์ประหลาดทันที ซึ่งพุ่งเข้าหาระเบิด

บูม!

แรงระเบิดทำให้มันออกไป มันล้มลงกับพื้น แต่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีรอยขีดข่วน มันคำรามอย่างดุเดือด

[การระเบิด: สร้างความเสียหาย 200 ดาเมจแก่เป้าหมาย HP, เป้าหมายมีสกิล Immune Lethal Damage, High Dead-Man’s Skin, High Iron Armor Skill, Resisted 200 Damage, 0 True Damage…]

การแจ้งเตือนบันทึกการต่อสู้แจ้งให้จีหรานทราบว่าสัตว์ประหลาดนั้นไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ในขณะที่เขาใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวนี้เพื่อเปิดประตูที่สัตว์ประหลาดเฝ้าอยู่

หลังจากมองดูการแจ้งเตือนบันทึกการต่อสู้อย่างรวดเร็ว จีหรานก็ไม่หยุด แม้ว่าเขาจะมีทฤษฎีของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังมุ่งหน้าต่อไป

หลังจากออกไปทางประตูวุ้น จีหรานก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างแรง

สัตว์ประหลาดกำลังกระแทกมันเต็มกำลัง แต่ประตูก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย

ต้องขอบคุณการป้องกันประตู จีหรานมีเวลามากขึ้นในการประเมินสัตว์ประหลาดที่เขาเผชิญหน้าอีกครั้ง

เขาต้องการทดสอบสิ่งอื่น เขาจึงหยิบ [Python-W2] ออกมาแล้วโหลดใหม่ด้วย [Bullets of Blessing]

ความคิดของผู้แปล

เดส เดส

ลองนึกภาพสัตว์ประหลาดเป็นปีศาจบินตาบอดด้วยพละกำลังและความเร็วของซูเปอร์แมน