The Devil's Cage - ตอนที่ 196
เมื่อจีหรานเห็นอู๋ฝ่าอู๋เทียนดึงเอาโลหะยาวกลวงที่ปลายด้านหนึ่งติดกับแผ่นวงกลมออกมาเขาก็ประหลาดใจ
เครื่องตรวจหาระเบิด!
ต่อให้ไม่คุ้นเคยกับอาวุธปืนก็ยังจำอุปกรณ์นี้ได้ และจีหรานที่รู้เรื่องปืนมากมายเพราะทักษะหลายอย่างของเขาจะไม่รู้จักได้อย่างไร
เขาเข้าใจทันทีว่าทำไมอู๋ฝ่าอู๋เทียนถึงต้องการใช้เครื่องตรวจหาระเบิด
กับดักที่คนโจมตีชุดแรกใช้นั้นน่าจะเป็นทุ่งระเบิด
มันเป็นวิธีการที่ง่ายและได้ผลในการจัดการกับศัตรู
จีหรานขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้เมื่อนึกถึงความรู้เกี่ยวกับระเบิดของเขา
เขาประหลาดใจกับหลากหลายวิธีการที่องค์กรนักฆ่าสรรหามาใช้
ระบบ [ร้านค้า] นั้นไม่มีของพวกนี้ขาย และใน [กระดานสนทนา] ก็มีแค่ระเบิดที่ใช้ในการป้องกันแบบพื้นฐานบางชนิด ระเบิดโจมตีนั้นหายาก
แต่ว่า พวกมันก็ยังสามารถหาระเบิด ปืนใหญ่ และยังเกราะสนามแม่เหล็กมาใช้ได้
อย่างหลังนี่ทำให้จีหรานหายใจกระชั้น
ไม่มีสถานการณ์ไหนสิ้นหวังยิ่งไปกว่าการโจมตีของคุณไม่เป็นผล และผลลัพธ์ถูกล้างเป็นศูนย์ กระทั่งรัศมียิงอันน่าขำของปืนใหญ่ยังดีกว่านี้เลย
จีหรานนั้นหาทางโต้กลับได้เสมอนั่นแหละ แต่ถ้าการโจมตีของเขาไม่เป็นผล เช่นนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์
คิ้วของเขาขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม
“องค์กรนักฆ่ามีอำนาจและอิทธิพลมากกว่าที่ฉันคิด!” เขาพึมพำกับตัวเอง
เขาแน่ใจเรื่องนั้น ถึงแม้การโจมตีทั้งสองครั้งนั้นจะดูไม่เกี่ยวข้องกัน แต่พวกมันน่าจะมาจากองค์กรเดียวกัน
ส่วนทำไมถึงแบ่งกันโจมตีนั้น?
จีหรานนั้นมีค่าหัว และเท่าที่ดู รางวัลน่าจะสูงทีเดียว ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ล่อเหล่านักฆ่าพวกนั้นให้ลงมือได้
“นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังจะมีนักฆ่าคนอื่น ๆ มาอีกไม่ช้าก็เร็ว ความสามารถของฉันค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้นนักฆ่าที่จะปรากฏตัวขึ้นย่อมมีแต่เก่งขึ้นกว่าก่อนหน้า ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วกว่าที่พวกมันคิด นั่นเป็นวิธีเดียวที่ฉันจะสามารถรอดจากการต่อสู้กับพวกมันได้!”
นี่เป็นอะไรที่จีหรานรู้อยู่แล้ว สัมผัสของอันตรายค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในใจของเขา
เขาไม่กลัวอันตรายพวกนั้น
หลังจากผ่านความกดดันอันสิ้นหวังและการไต่อยู่ริมขอบเหวแห่งความตาย เขาก็ถึกขึ้น และแกร่งกล้าขึ้น
เขาจะไม่หนี เขาจะก้าวหน้าขึ้นด้วยแผนการที่วางเอาไว้อย่างรอบคอบและระมัดระวังเพื่อที่จะข้ามผ่านอุปสรรคใหญ่น้อยใด ๆ
แต่ว่า จีหรานก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุผลหนึ่งที่ผลักดันเขาไปข้างหน้าก็คือการสังหารอันสมควรและการชดเชยนั่น
หลังจากการต่อสู้จบลง เขาได้ทั้งหมด 26000 Points กับ 4 Skill Points และการสังหารอันสมควรยังให้เขาได้รับไอเทมและห้องรับรองของผู้โจมตีทั้งสองด้วย
รางวัลนั้นเกือบจะเท่ากับรางวัลของการผ่านดันเจี้ยนธรรมดาหนึ่งครั้งเลย ยกเว้น Golden Skill Point และ Golden Attribute Point
Points และ Skill Points นั้นเป็นแรงผลักดันของจีหราน เพราะมันมีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตตอนนี้และอนาคตของเขา
หลังจากผ่านไปประมาณสองนาที อู๋ฝ่าอู๋เทียนก็นำระเบิดที่ถูกวางเอาไว้มาให้
“อ่ะ นายเก็บนี่เอาไว้เป็นของที่ระลึก มันจะนำโชคดีมาให้นายอ่ะ!” เขาพูดขณะโยนระเบิดนั่นมาให้จีหราน
[ชื่อ: Z-II]
[ชนิด: กับระเบิด]
[Rarity: ดีมาก]
[Attack: รุนแรง]
[Attributes: ความรุนแรงเพิ่มขึ้น 45% เมื่อกระทบเป้าหมายที่อ่อนแอกว่า]
[Effects: ไม่มี]
[การนำออกจากดันเจี้ยน: ได้]
[หมายเหตุ: นี่เป็นกับระเบิดสังหารทหารราบ การระเบิดมีรัศมีกว้างกว่ากับระเบิดทั่วไป]
…
“นี่ไม่ใช่อะไรที่นายจะหาได้จากตลาดนะ!” จีหรานบอกอู๋ฝ่าอู๋เทียนหลังจากอ่านคำอธิบายของ [Z-II] เร็ว ๆ
ความหมายของเขาก็ชัดเจนในตัว เขาหมายถึงวิธีการซึ่งผู้โจมตีสองคนนั้นได้มาซึ่งกับระเบิดนี่
สองคนแรกน่าจะบังเอิญเจอกับระเบิดหรือว่าได้มาจากผู้เล่นอื่น แต่กลุ่มที่สองนั้นมีร่องรอยให้ตามได้
“ฉันว่าฉันพอจะคิดอะไรออกแล้ว ถ้ามันเป็นอย่างที่ฉันคิด ฉันสามารถตามมันไปได้ด้วยเงื่อนงำพวกนั้น” อู๋ฝ่าอู๋เทียนพูดท่าทางจริงจัง
“ไม่มีเวลาแล้ว รีบไปดูรอบ ๆ จากนั้นก็กลับไปที่ฮาร์เวสต์อินน์กัน” จีหรานพูด
“อืม!” อู๋ฝ่าอู๋เทียนพยักหน้า
…
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง ทั้งสองคนอยู่บนรถไฟมุ่งหน้าไปฮาร์เวสต์อินน์
คิ้วของทั้งคู่ขมวดแน่น และดูคิดหนัก
พวกเขาพบร่องรอยของผู้โจมตีทั้งคู่แต่ไม่สามารถตามรอยคนที่สะกดรอยตามจีหรานได้
จีหรานนั้นตรวจสอบจุดดี ๆ หลายจุดที่ผู้อื่นจะสามารถใช้ติดตามเขาได้ด้วย [ตามรอย] แต่ว่าไม่มีเงื่อนงำอะไรเลย
ทุกจุดนั้นสะอาดเอี่ยมและยังดูไม่เหมือนว่าเคยมีใครเข้าไป
“อย่าเปลืองสมองคิดเลย บางทีพวกเราอาจจะพบอะไรที่ฮาร์เวสต์อินน์ก็ได้! เอาชื่อของพวกนั้นมาอีกทีซิ?”
อู๋ฝ่าอู๋เทียนก็สรุปชัดเจนไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงผลักความคิดพวกนั้นออกไปแล้วถามเกี่ยวกับมือลอบโจมตี
“มีสองกลุ่ม ฉันไม่รู้เรื่องกลุ่มที่สอง แต่ว่ากลุ่มแรกน่ะ ชื่อชิลเดอร์กับคอร์เรย์ เคยได้ยินชื่อพวกมันไหม?” จีหรานถาม บอกชื่อเล่นของมือลอบโจมตีกลุ่มแรกออกไป
หลังจากคิดดูแล้วอู๋ฝ่าอู๋เทียนก็ส่ายหน้า “ชิลเดอร์กับคอร์เรย์? ไม่อ่ะ พวกนั้นไม่น่าใช่ผู้เล่นเก่า”
“อย่างนั้นนายน่าจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับกลุ่มที่สอง พวกมันใช้อาวุธที่พิเศษมาก ปืนใหญ่กับไรเฟิลลอบสังหาร มือลอบสังหารนั่นมีสนามพลังแม่เหล็กที่ทำให้การโจมตีของฉันไร้ผลด้วย!” จีหรานเสริม
“ปืนใหญ่? นายแน่ใจนะ?”
อู๋ฝ่าอู๋เทียนเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ ซิการ์ที่เขาคาดเอาไว้เกือบจะร่วงลงพื้น
“พวกเขามีชื่อเสียงเหรอ?”
จีหรานคิดว่าต้องมีอะไรแน่นอนจากสีหน้าของอู๋ฝ่าอู๋เทียน
“เฮลล์ไฟร์! กลุ่มห้าคน สองในนั้นเป็นผู้เล่นเก่า อีกสามมาทีหลัง พวกเขาค่อนข้างเป็นที่นับถือในหมู่ผู้เล่นเพราะปืนใหญ่ของพวกเขา มีผู้เล่นรวย ๆ หลายคนจ้างพวกเขาเคลียร์ดันเจี้ยน ก็ไม่ใช่ราคาถูก ๆ หรอกนะ ดังนั้นก็ไม่มีเหตุผลให้พวกเขาต้องฆ่าใครเพื่อเงิน…” อู๋ฝ่าอู๋เทียนอธิบายสั้น ๆ
จากนั้นเขาก็ดูอึมครึมไปอีกและเหม่อลอยไป
เห็นได้ชัดว่าเฮลล์ไฟร์นั้นเป็นหนึ่งในองค์กรนักฆ่า อู๋ฝ่าอู๋เทียนงุนงงเพราะว่าพวกเขานั้นไม่น่ามีปัญหาขาดแคลน Points
“บางทีพวกเขาอาจจะร่ำรวยขึ้นมาจากเฮลล์ไฟร์ แต่ก่อนหน้านั้นล่ะ? ฉันคิดว่าถ้าพวกเราตามเงื่อนงำพวกนี้ไป พวกเราอาจจะพบอะไรก็ได้” จีหรานชี้ประเด็นออกมาด้วยสัมผัสอันเฉียบคมของตัวเอง เขาไม่ได้รับผลกระทบจากอารมณ์ที่เปลี่ยนไปกะทันหันของอู๋ฝ่าอู๋เทียน
“ถูกต้อง! พวกเขาเป็นใครก็ไม่รู้มาก่อนเป็นเฮลล์ไฟร์! หลังจากที่พวกเขารวมกลุ่มกันแล้วได้ปืนใหญ่มาถึงได้มีชื่อเสียง! ทุกคนบอกว่าพวกเขาเข้ากันได้ดี และดูเหมือนนั่นจะจริง แต่บางทีอาจจะไม่ใช่ทั้งหมด อาจจะมีหนึ่งหรือสองคนที่ดูแลเรื่องนี้!” อู๋ฝ่าอู๋เทียนตอบสนองกับประเด็นของจีหรานอย่างรวดเร็ว
จากนั้นจีหรานก็เห็นเขาเริ่มส่งข้อความ
เขานั่งอยู่เงียบ ๆ และไม่ขัดจังหวะ
เส้นสายเป็นสิ่งที่อู๋ฝ่าอู๋เทียนนั้นมีดีกว่าจีหราน
จีหรานเชื่อว่าตราบใดที่คนผู้นั้นไม่ได้มีจิตใจบิดเบี้ยว ย่อมยินดีเป็นสหายกับอู๋ฝ่าอู๋เทียน
นี่ต่างกันไปตามนิสัยของแต่ละคน แต่ก็ยังดีกว่าจีหรานนั่นแหละ
จีหรานไม่เคยคิดสักทีว่าตัวเองนั้นเป็นคนเข้าหาง่ายหรือชอบอยู่คนเดียว แต่เพราะความเจ็บป่วยกะทันหันที่ทำให้เขาย่ำแย่ลงและต้องดิ้นรนตั้งแต่ยังเยาว์ เขาแทบจะลบความว่า ‘เพื่อน’ ออกไปจากคลังศัพท์ส่วนตัวแล้ว
ในตอนที่เขาเพิ่งตระหนักเรื่องนี้ รอบตัวเขานั้นก็มีเพียงเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายซึ่งย่อมไม่นับว่าเป็นเพื่อน
“เพื่อนเหรอ? ก็แค่คำพูดสวยหรู” จีหรานให้ความเห็นก่อนจะปิดตาลงเพื่อพัก
การต่อสู้ก่อนหน้านี้ทำเขาหมดแรง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่การต่อสู้ยืดเยื้อ จีหรานก็ทุ่มเท 120% และการค้นหาต่อจากนั้นก็ด้วย
จะยังมีการค้นหาอีกครั้งเมื่อพวกเขาไปถึงฮาร์เวสต์อินน์ ดังนั้นเขารู้ว่าเขาควรจะทำอะไรในตอนนี้
เขาไม่ได้คุยกับอู๋ฝ่าอู๋เทียนตลอดการเดินทางที่เหลือ
เมื่อพวกเขาลงจากรถไฟ อู๋ฝ่าอู๋เทียนก็ยังคงติดต่อกับเพื่อนของตนอยู่หวังว่าจะรวบรวมข้อมูลให้ได้มากกว่าที่มีอยู่ในมือ
ฮานส์กับราเชลนั้นรอพวกเขาอยู่ที่สถานีรถไฟ
“ฉันไม่ชอบเลยที่โรงพักแรมของฉันกลายเป็นที่จับตามองโดยอาชญากรพวกนั้น! ถ้าฉันจับพวกมันไม่ได้ ฉันก็หลับไม่สงบ!” ราเชลพูด เธอมีเหตุผลที่มาอยู่ที่นี่โดยไม่มีข้อโต้แย้ง
ฮานส์ออกเดินนำไป “ตามฉันมา!”
เขาเดินอยู่ข้างหน้า นำทุกคนไปที่จุดต่าง ๆ ที่เหมาะสมที่จะจับตามองฮาร์เวสต์อินน์ ทั้งหมดล้วนว่างเปล่า
จีหรานงุนงง
“ฉันคิดผิดเหรอ? เป็นไปไม่ได้! ถ้าพวกเขารู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน อย่างนั้นก็ต้องมีใครสักคนจับตามองฉันอยู่ ไม่มีร่องรอยอะไรเลย… หรือว่าคนร้ายเป็นวิญญาณสักตนหนึ่ง?” จีหรานสรุปออกมาดื้อ ๆ หลังจากความพยายามมากมายล้วนเป็นหมันไปหมด
ฮานส์และอู๋ฝ่าอู๋เทียนไม่ปฏิเสธความคิดนี้ ในฐานะผู้เล่นเก่า ทั้งสองคนรู้ดีว่าเกมใต้ดินนั้นมีทักษะลึกลับประหลาด ๆ เป็นล้าน ไม่มีใครยืนยันได้ว่าจะไม่มีทักษะอะไรแบบนั้น
ถ้าศัตรูของเขาครอบครองทักษะอย่างนั้นจริง เช่นนั้นพวกเขาก็เจอปัญหาใหญ่แล้ว!
จีหรานไม่สามารถตามรอยพวกมันได้ด้วยวิธีปกติธรรมดาใด ๆ และหากพวกมันพยายามลอบสังหารเขาอีกครั้ง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะป้องกันตัวเองและหนีพ้นมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ
อู๋ฝ่าอู๋เทียนและฮานส์มองหน้ากัน ในดวงตามีความกังวล
“วิญญาณ?” ราเชลหัวเราะเสียงเย็น ดวงตาของเธอมองจ้องไปที่จุดหนึ่ง
ทุกคนตามสายตาของเธอไปทันทีและเห็นนกตัวหนึ่งอยู่ตรงนั้น
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นนกธรรมดา ๆ ตัวหนึ่ง เมื่อมันสัมผัสได้ถึงสายตาสงสัยของมนุษย์ มันก็หวาดกลัวอย่างไม่ปกติและพยายามบินหนี
แต่ก่อนที่มันจะทันได้บินไป ราเชลก็ยกมือขึ้นโยนแหปากหนึ่งออกไปจับมันเอาไว้
ราเชลดึงแหกลับมาและดม ๆ ไปที่นกตัวน้อย
รอยยิ้มเย็นชาของเธอเย็นเยือกขึ้นกว่าเดิม
Wufen’s note: ว้าววว ตอนนี้ไม่ค้างแหละะะะ สุดยอดไปเลยเนาะะะะ
แจ้งข่าวร้ายด้วย Wufen ถูกแมวฟัดมือ เละ แผลเท่านี่ ๆ //กางมือ //อ้อ กางไม่ได้ ปวดมากกกกกก
ปกติพิมพ์สัมผัสอ่ะ จิ้มดีดละแปลไม่ออก //ส่งใบลา 2 สัปดาห์เด้ออออ
นี่ฝืนนั่งแปลจนจบตอน ไม่อยากมาแค่แจ้งข่าว ทีนี้ เลือดเลยชุ่มผ้าแปะแผลเลยจ้าาา //ไปหาหมออีกรอบ