The Devil's Cage - ตอนที่ 321 อุกกาบาต!

ประตู! ประตูหิน!

เป้าหมายของเขาของรูปปั้นปีศาจขนาดใหญ่คือการทำลายผนึกตั้งแต่เริ่มต้น!

“2567!”

เมื่อชาร์ลส์ซึ่งกำลังเตรียมวงเวทย์เห็นสิ่งนี้ หัวใจของเขาเต้นแรง

เขาไม่มีทางเตือนจีหรานได้ ในขณะที่เขาเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการเตรียมวงเวท

ชมิดต์ ราอูล และซิดนีย์ก็ทำตามคำแนะนำของเขาเช่นกันและจากไป

“ไอ้บ้า!”

ขณะที่ปรมาจารย์นักเล่นแร่แปรธาตุมีความวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาร่ายคาถาเร็วขึ้นและเริ่มใช้พลังของวงเวทย์ต่อหน้าเขา

ในขณะนั้น สิ่งเดียวที่เขาหวังคือปีศาจภายในผนึกจะไม่อยู่ในรูปแบบที่ยอดเยี่ยม เขาหวังว่ามันจะอยู่ในลีกของเขา มิฉะนั้นทั้งกลุ่มและชายฝั่งตะวันตกทั้งหมดจะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

จีหรานซึ่งยังคงลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่ได้ใช้กำลังของเขา จู่ๆ ก็หยุดเคลื่อนไหวและบินตรงกลับไปที่รูปปั้นปีศาจขนาดใหญ่

“ใยแมงมุมงั้นเหรอ?”

ชาร์ลส์ซึ่งกำลังเฝ้าดูฉากนี้อย่างใจจดใจจ่อ ตกตะลึงในตอนแรก แต่เขาก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าความสุขของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความวิตกกังวล

ใยแมงมุมที่อยู่รอบแขนของรูปปั้นขนาดใหญ่ถูกสะบัดออกอย่างง่ายดายด้วยคลื่น

จีหรานบินไปที่ประตูหินปิดผนึกอีกครั้งขณะที่รูปปั้นกระพือปีก

ใยแมงมุมอีกอันพุ่งออกจากข้อมือขวาของเขา คราวนี้จีหรานไม่ได้เล็งไปที่แขน ขา หรือแม้แต่ลำตัวของรูปปั้น

การเคลื่อนไหวครั้งก่อนของเขาบอกจีหรานว่าความแข็งแกร่งของมันเหมาะสมกับขนาดที่ใหญ่โตของมัน แม้ว่าเขาจะยังแคสใยต่อไป [Mardos Arm, Spider Webbing] ก็ไม่รั้งมันไว้

ดังนั้น จีหรานจึงเปลี่ยนเป้าหมายและเล็งไปที่พื้น

ใยแก้วระยิบระยับตกลงบนพื้นถัดจากก้อนหินที่อยู่ไม่ไกล หดตัวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพายุไซโคลนที่เกิดจากปีกของรูปปั้นจะทรงพลัง แต่ความแรงของมันยังต่ำกว่าระดับ B

Kieran ดึงตัวเองเข้ามาใกล้และตกลงบนพื้น เมื่อเขาลงมา เขาก็กระโจนขึ้นและเหวี่ยงตัวไปที่รูปปั้น

แม้ว่านี่จะเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่เช่นนี้เป็นครั้งแรก แต่ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ของเขาบอกเขาว่าเขาจะไม่เสียโอกาสอีกต่อไป เขาต้องโจมตีรูปปั้น เขาจำเป็นต้องโจมตีก่อน เว้นแต่ว่าเขาต้องการเสียเปรียบโดยสิ้นเชิง

สำหรับ Primus Crocodile ยักษ์ใหญ่?

ถ้ารูปปั้นปีศาจมีปาก เขาก็คงไม่คิดจะใช้มัน

ดาบใหญ่สีแดงเข้มฟันเข้าที่ข้อเท้าของรูปปั้น

ประกายไฟวาบขึ้นเมื่อดาบสร้างรอยแยกลึกพอที่จะใส่ฝ่ามือได้ Kieran รู้สึกดีใจเล็กน้อย

“แม้ว่ารูปปั้นจะดูดกลืนหมอกสีเทาเพื่อที่จะเติบโต แต่ความแข็งแกร่งของมันกลับไม่เหมาะกับขนาดของมัน!”

ขณะที่เขาพยายามหาทางออกกลับไปที่ห้องบูชายัญ จีหรานได้ทำการตรวจสอบรูปปั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน มันแข็งราวกับหินแกรนิต แต่ก็ยังถูกบดขยี้ภายใต้ [Reckless Rush]

แม้ว่ามันจะมีขนาดโตขึ้น แต่ความแข็งแกร่งของมันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามสัดส่วนของการเติบโต

นี่เป็นข่าวดีสำหรับ Kieran ผู้เปิดใช้งาน [Wild Soul, Reckless Rush] โดยไม่ลังเล

ภาพลวงตาแรดขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นในพริบตาด้านหลังเขา พลังทำลายล้างดั้งเดิมที่สุดในร่างของ Kieran พุ่งเข้าใส่ข้อเท้าของรูปปั้นด้วยแรงสั่นสะเทือนจากปฐพี

ปัง

หินบิ่นปลิวว่อนไปทุกทิศทุกทาง

ข้อเท้าที่ดูเหมือนแข็งแกร่งของรูปปั้นขนาดใหญ่ถูกบดขยี้พร้อมกับเท้าของมัน

เสียงกรีดร้องทำให้รูปปั้นโยกเยกอย่างควบคุมไม่ได้

Kieran ติดตามชัยชนะของเขาอย่างรวดเร็วด้วยการไล่ตามอย่างร้อนแรง กวัดแกว่ง [Arrogant Word] และฟันอย่างเมามันที่ข้อเท้าอีกข้างของรูปปั้น

รูปปั้นขนาดใหญ่เหวี่ยงดาบใหญ่ของมันและหวดใส่ Kieran พยายามหยุดการโจมตีของเขาโดยเปล่าประโยชน์

หลังจากสูญเสียข้อเท้าและเท้าไปข้างหนึ่ง การเคลื่อนไหวของรูปปั้นก็เงอะงะ บางทีความแข็งแกร่งขนาดมหึมาที่มาพร้อมกับขนาดตัวของมันยังคงอยู่ที่นั่น แต่ข้อเสียที่มาพร้อมกับขนาดของมันและการขาดความว่องไวก็เริ่มชัดเจนขึ้นแล้วในตอนนี้

รูปปั้นจำเป็นต้องอาศัยเท้าข้างเดียวในการเคลื่อนที่และโจมตี Kieran ด้วยอาวุธในมือ อาวุธฟาดลงอย่างรวดเร็วมาก แต่เวลาที่ใช้ในการขยับร่างกายก็เพียงพอแล้วที่ Kieran จะฟันใส่มันอีกสี่ครั้งก่อนที่จะหลบการโจมตีของมัน

การโจมตีของรูปปั้นนั้นรุนแรงมาก แต่ไม่สามารถโจมตีเป้าหมายได้ มันเหมือนกับการตียุงด้วยศีล ความพยายามของมันคงจะดูตลกสำหรับใครก็ตามที่เห็นมัน

อย่างไรก็ตาม สัตว์ประหลาดแห่งหมอกไม่เพียงแค่นั่งรอความตายของมัน

หมอกสีเทาที่ถูกรูปปั้นดูดซับไว้ก็ปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว บินกลับเข้าใส่อัศวินดำอย่างรวดเร็วซึ่งอยู่ในท่าทางที่ไม่ขยับเขยื้อน

มันเหมือนกับการเปิดใช้งานเครื่องอีกครั้ง ในชั่วพริบตา เหล่าอัศวินดำก็ฟื้นคืนความคล่องตัวและกลับมาควบคุมม้าศึกอีกครั้ง

หลังจากที่หมอกสีเทาออกจากรูปปั้น รูปปั้นหนังควายก็หดกลับเป็นขนาดเดิมอย่างรวดเร็ว

แม้ว่ามันยังมีชีวิตอยู่ ดาบใหญ่และแส้ยาวในมือเล็งไปที่ Kieran และฟาดอย่างดุเดือด

หากรูปปั้นสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ มันจะสร้างปัญหาอย่างมากให้กับ Kieran แต่นับตั้งแต่ที่มันสูญเสียเท้าไปข้างหนึ่ง มันก็ช้าลงอย่างมาก Kieran เว้นระยะห่างระหว่างพวกเขาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น รูปปั้นก็ไม่เป็นภัยต่อเขาอีกต่อไป

Kieran ไม่ยุ่งกับมัน เขารีบมุ่งหน้าไปหาชาร์ลส์ซึ่งกำลังเตรียมวงเวท

Kieran ไม่ใช่เป้าหมายของ Black Knights อีกต่อไป พวกเขากลับจับจ้องไปที่นักเล่นแร่แปรธาตุผู้ซึ่งถูกทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้เนื่องจากการเตรียมวงเวทย์

อัศวินดำเฆี่ยนตีม้าของพวกเขา ยกหอกยาวและขวานต่อสู้ขึ้นในอากาศ

ครู่ต่อมา พวกเขากำลังจะสับชายชราร่างเตี้ยเป็นชิ้นๆ

ทันใดนั้น ระลอกคลื่นของพลังงานก็หลุดออกจากร่างของปรมาจารย์นักเล่นแร่แปรธาตุ

จุดที่เขายืนอยู่คือศูนย์กลางของวงกลมเวทมนตร์ยาวห้าเมตร ทันใดนั้นวงกลมเวทย์มนตร์ก็สว่างขึ้นเปล่งแสงสีแดงพราว สัญลักษณ์และอักษรรูนที่ซับซ้อนจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มหมุนวนเป็นวงกลม

ชาร์ลส์ยืนนิ่งอยู่บนวงเวท ออร่าพิเศษระเบิดออกมาและระงับสภาพแวดล้อมของพวกเขาขณะที่แสงสีแดงพร่างพรายดูเหมือนจะก่อตัวเป็นชั้นของเกราะเหนือชาร์ลส์ ทำให้เขาดูเหมือนกับนักบุญอัคคีที่ยืนอยู่ในเปลวเพลิง

ลูกไฟขนาดเท่าปิงปองปรากฏขึ้นในมือของเขา ชาร์ลส์ขว้างมันไปที่ป่าดึกดำบรรพ์ราวกับลูกธนู เฝ้าดูมันพุ่งเข้าใส่ต้นไม้อย่างรวดเร็ว

ดวงตาของ Kieran เบิกกว้างในที่เกิดเหตุ เขาต้องการเห็นการเคลื่อนไหวที่ชาร์ลส์เตรียมการมาสามนาที

บรรยากาศในสนามรบดูเหมือนจะหยุดลงทันที อัศวินดำที่พุ่งเข้ามาหยุดภายใต้รัศมีพิเศษนั้นและหันกลับมามองที่ป่าดึกดำบรรพ์ภายใต้การควบคุมของสัตว์ประหลาดหมอก

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักสองสามวินาที

วงกลมเวทมนตร์ที่สนับสนุนชาร์ลส์จากด้านล่างหายไป ชาร์ลส์ดูเหมือนเขาขึ้นมาจากน้ำ เขาหอบหนักและเซไปกับพื้น

“ผู้เชี่ยวชาญ?”

จีหรานเข้าไปช่วยเขาด้วยสีหน้าสับสน

ชาร์ลส์ไม่ได้อธิบายอะไรมาก เขาเพียงแค่จ้องไปที่สัตว์ประหลาดหมอกภายในอัศวินดำ

“เฮ้ สัตว์ประหลาด! คุณเคยโดนดาวตกไหม”

ชาร์ลส์แทบหยุดหายใจ แต่เขาก็ยังมีอารมณ์ขัน

ไม่มีใครอยู่ในอารมณ์ที่จะชื่นชมอารมณ์ขันในความคิดเห็นของเขา

ทุกคนรวมถึงจีหรานเงยหน้าขึ้นและจ้องมองท้องฟ้า

มันถูกย้อมเป็นสีแดง!

ความคิดของผู้แปล

เดส เดส

ย้ายไฟนอลแฟนตาซีบางส่วน