The Devil's Cage - ตอนที่ 327 ยินดีต้อนรับ

เกวียนสองเล่มแล่นไปอย่างมั่นคงในยามค่ำคืน

Kieran ซึ่งอยู่ในหนึ่งในนั้นไม่รู้สึกสั่นสะท้านแม้แต่น้อย เขาทึ่งในฝีมือของเกวียนและเกวียนและม้าที่ไม่ธรรมดา

แม้จะมีระดับพื้นฐาน [การเล่นแร่แปรธาตุ] และ [การวิจัยสิ่งมีชีวิตลึกลับ] เขาก็ยังบอกได้ว่าเกวียนกำลังทิ้งร่องรอยเวทมนตร์ไว้เบื้องหลัง และม้าก็มีสายเลือดพิเศษ

แม้ว่าจีหรานจะรู้ว่านี่เป็นเพียงการแสดงความแข็งแกร่งจากอีกฝ่าย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดพักผ่อนในเกวียน

สิ่งที่จะตามมาก็คือการต่อสู้ที่น่าเกลียดอย่างแน่นอน

Elli นั่งอยู่ข้างๆ เขา โดยมีกระเป๋าสูงพอๆ กับตัวเธออยู่ข้างๆ กระเป๋ายัดไส้และกล่องที่มี [คำเย่อหยิ่ง] ทำให้เกวียนที่กว้างขวางดูเหมือนเล็ก

“ฉันตัดสินใจผิด! ฉันควรจะนั่งเกวียนของซีโมนส์ อย่างน้อยก็คงไม่แน่นขนาดนี้”

ชมิดต์ซึ่งนั่งตรงข้ามกับจีแรน ต้องเอาตัวเข้าไปอยู่ระหว่างกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบาย

หัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้เฉียบแหลมสังเกตเห็นว่าดวงตาของ Elli ให้ความรู้สึกแสบร้อนซึ่งทำให้เธอดูเขินอาย เมื่อ Kieran หลับตาลงเงียบๆ เพื่อพักผ่อน บรรยากาศก็ตึงจน Schmidt รู้สึกว่ากล้ามเนื้อของเขาแข็ง

“เอลลี ฉันคิดว่าเราควรคิดกันว่าจะทำอย่างไรกับพวกเชพเพิร์ดและอาถรรพ์ชายฝั่งตะวันออก คุณไม่ควรคิดเรื่องอื่นๆ ไ-”

การตายอย่างกะทันหันของเธอทำให้ชมิดท์หุบปากอย่างรวดเร็ว ขณะที่ Elli จ้องมองเขาอย่างเฉียบคม Schmidt ก็ยกมือขึ้นขอโทษ

“ขอโทษนะคนดีของฉัน” เขาพูดก่อนจะเงียบไป

ผ่านไปสองนาที เขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง

“ถ้าคนเลี้ยงแกะสามารถเช่า Morsenburg ได้ อิทธิพลของพวกเขาจะต้องยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิด! ปราสาทซึ่งเป็นของราชวงศ์ฝั่งตะวันตกก่อนสงครามพระจันทร์สีเลือด ไม่เคยถูกให้เช่า แม้ว่าจะมีเงินให้เช่าก็ตาม! ปราสาท Morsenburg มีความหมายเชิงสัญลักษณ์พิเศษสำหรับปราสาทนี้…”

“ความหมายสัญลักษณ์พิเศษ?” Elli ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น คราวนี้ไม่ได้หยุด Schmidt

“กษัตริย์องค์สุดท้ายของ West Coast ถูกสังหารใน Morsenburg เขาเป็นกษัตริย์องค์เดียวที่ถูกสังหารในปราสาทของเขาเอง หลังจากการตายของเขา ผ้าคลุมลึกลับตกลงมาเหนือปราสาท มันไม่มีอะไรเหนือธรรมชาติ แต่จากบันทึกของนักประวัติศาสตร์บางคน สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักในนามสุสานกษัตริย์!” ชมิดต์เน้นด้วยการพยักหน้า

“หลุมฝังศพของพระราชา?” Elli หันไปหา Kieran ด้วยความตกใจ

“ผู้ช่วย o’ ผู้ช่วย ในรูปของนกกา เกิดลางร้าย นกแห่งความตายที่มีร่างแห่งความโกลาหลและหัวใจแห่งแสง ผู้ที่จะปกครองแผ่นดินด้วยพลังของราชา … ”

คำทำนายของนิโคเรยังก้องอยู่ในหูของเธอ

ตามคำทำนายของ Nikorei Kieran จะปกครองแผ่นดินด้วยอำนาจของกษัตริย์ เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ที่คนเลี้ยงแกะเลือกสุสานของกษัตริย์เป็นสถานที่จัดการประชุม?

หัวใจของ Elli เต้นรัวด้วยความกังวล อาณาจักรลึกลับอาจเต็มใจที่จะเชื่อคำทำนาย แต่พวกเขาก็เชื่อในลางบอกเหตุบางอย่าง และบางคนก็เชื่อโชคลางมาก

“2567…” Elli อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เธอจะพูดได้ Kieran ก็ตัดบทเธอออกไป

“เธอคงไม่อยากให้ฉันกระโดดลงจากเกวียนตอนนี้ใช่ไหม การต่อสู้ครั้งนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ เว้นแต่เราต้องการทำให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็นขึ้น คืนนี้เราต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้! ฉันไม่เคยเชื่อคำทำนายของนิโคเรเลย!”

Kieran เปิดตาของเขาและมองไปที่เด็กสาวที่กังวล จากนั้นเขาก็ยักไหล่และยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

คำพูดของเขาไม่ได้มีไว้เพื่อปลอบโยนเธอ พวกเขาเป็นเพียงคำชี้แจงข้อเท็จจริง

หญิงสาวจ้องมองที่รอยยิ้มจางๆ ของ Kieran อย่างเงียบๆ จีหรานเอียงศีรษะลง ดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

ชมิดต์กลอกตาแล้วพูดว่า “คุณไม่เชื่อคำทำนายเพราะคุณอายใช่ไหม”

จีหรานไม่คัดค้าน นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไม แต่เขามีวิธีจัดการกับมัน

“ชมิดท์ ถ้าไม่อยากให้ฉันถีบเกวียนก็หุบปากซะ!” คีแรนกล่าวว่า

ชมิดต์แสร้งทำเป็นปิดปากทันที

ห้องโดยสารเงียบหลังจากนั้น แต่เกวียนไม่หยุด มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เร่งขึ้นเรื่อยๆ เคลื่อนออกจากเมืองชายฝั่งตะวันตก

ในที่สุดมันก็หยุดที่ชานเมือง ติดกับแม่น้ำ

สะพานหินโค้งสมัยใหม่ถูกสร้างขึ้นเหนือสะพานแขวนเก่าของราชวงศ์สมัยก่อน เชื่อมกำแพงกับหอคอยของปราสาทหิน ขณะที่พวกเขามองดูปราสาท Morsenburg จากบนสะพาน พวกเขาสังเกตเห็นว่าอุปกรณ์ให้แสงสว่างสมัยใหม่เข้ามาแทนที่คบเพลิงและเตาอั้งโล่แบบเก่า

ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่หนาวเย็น แสงไฟระยิบระยับที่เข้าคู่กับอาคารอันโอ่อ่าซึ่งแผ่รัศมีแห่งความเคารพและเทิดทูน

เมื่อประตูกำแพงปราสาทเปิดออก ทหารชุดเกราะกลุ่มหนึ่งก็เดินออกไปทีละคน ความเศร้าโศกจากโลหะของพวกเขาทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องขณะที่พวกเขาชนกับพื้นผิวของสะพาน กลุ่มแบ่งออกเป็นสองกลุ่มและเรียงรายทั้งสองด้านของสะพาน

หอกยาวสี่เมตรถูกยกขึ้นสู่ท้องฟ้าทีละอัน

ที่ปลายหอกสองอันแรกมีธงสีเงินและสีเทาตามลำดับ

ธงสีเงินมีโล่สีบรอนซ์อยู่ และมีอักษรรูนติดอยู่ทั่วโล่ สะกดชื่อของหมอผี มันคือนิโคเร

ธงสีเทามีการสาดสีแดงที่พันกับสีเทา สีแดงเป็นฐานและสีเทาเป็นหลุมฝังศพตรงกลางธง ใต้ป้ายหลุมศพมีชั้นดินสีเทาและโครงกระดูกยื่นมือขึ้นมาจับป้ายหลุมศพไว้แน่น

ด้านล่างของธงแต่ละผืนมีธงหางแฉกขนาดเล็กที่มีสีเดียวกัน

สายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านธง ทำให้ธงสั่นสะเทือนอย่างหนัก

เกวียนก็ลงมาเปิดประตูให้พวกเขา Kieran ลงจากเกวียนด้วยก้าวที่มั่นคง เขาสามารถบอกความหมายของธงทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว

ธงที่เป็นตัวแทนของ Nikorei นั้นคุ้นเคยมาก มันคล้ายกับเครื่องหมายที่นิโคเรเคยมอบให้เขาครั้งหนึ่ง

สำหรับผู้เลี้ยงแกะแห่งความตาย?

รูปภาพบนธงของพวกเขาบอกทุกอย่าง

“ไม่นานมานี้ที่ฉันได้สัมผัสพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ เดี๋ยวก่อน ทุกคน!” ซิโมนส์พูดขอให้พวกเขารอสักครู่ก่อนจะเข้าไปในปราสาท

หลังจากผ่านไป 15 วินาที พรมสีแดงสดก็กลิ้งออกจากประตูปราสาท ราวกับว่ากระบวนการนั้นได้รับการฝึกฝนเป็นล้านครั้ง ความแม่นยำของพรมลงบนสะพานนั้นไร้ที่ติ

เมื่อม้วนออกจนหมด ทหารที่ถือหอกทั้งสองข้างก็คุกเข่าลงและพูดเสียงดังว่า “ยินดีต้อนรับ วิหคแห่งความตาย!”

ความคิดของผู้แปล

เดส เดส

ยินดีต้อนรับสู่เทศกาล!

ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงพิมพ์แบบนั้น แต่จะมีประกาศเร็วๆ นี้หลังจากดันเจี้ยนนี้และก่อนหน้าถัดไป

อย่าตกใจเพราะมันเป็นข่าวดี