The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1045 - จ้าวชั้นซือหย
��
“จริงๆ แล้ว วิชามาจริงก็คือ…”
ซือหยูเหลือบมองรอบๆ และเริ่มพูด
“ข้าเบื่อหน่ายกับเจ้าเต็มทนแล้ว!อย่ามายั่วข้าให้มากกว่านี้!”
เสียงในความว่างเปล่าดูโกรธแค้น
ซือหยูไม่กลัวเพราะว่าเขามีความจริงอยู่กับตัว
“ข้าพูดแล้วจะทำไมเล่า?ถ้าเจ้ามีพลังเอาชนะข้าได้ ทำไมเจ้าถึงยอมข้าล่ะ? เจ้าคงจะกระโดดออกมาฟันข้าเป็นชิ้น ๆ ไปแล้ว! ข้าต้องการรางวัล!”
“ไอ้หยา!ข้าไม่เคยเห็นคนหน้าด้านอย่างเจ้ามาก่อนเลย!”
ป๋อม!
พื้นที่ทั้งหมดขาดสะบั้นดั่งเศษผ้ามันแบ่งแยกเป็นชิ้น ๆ และสลายไปดั่งฟองน้ำ แทนที่ด้วยห้องลับกว้างขวาง
นี่คือหอคอยชั้นแรกไม่ใช่รึ?
เพียงมองครั้งแรกก็จะเห็นว่าหอคอยเต็มไปด้วยคนที่กำลังยืนหลับตา
ปิงหวูชิงปี้หลิงเทียน แม้กระทั่งฮั่นเฟยและคนที่เหลือ ทุกคนหลับตาพริ้มราวกับหลับใหล พวกเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มิอาจตื่นขึ้นได้ ทำได้แต่ยืนนิ่ง
แต่ซือหยูก็เห็นสิ่งที่ขยับได้ที่หางตา
“สุนัข?เจ้าหมาดำ?”
ซือหยูตกใจสิ่งที่วิ่งอยู่ในห้องลับคือหมาดำที่ดูคุ้น ๆ
“นี่เจ้า!”
ซือหยูจำได้แล้วมันคือหมาดำที่พูดภาษามนุษย์ได้ในตอนที่ประตูหอคอยเปิด
หมาดำนี้วิ่งอยู่ในกลุ่มคนแววตาของมันเปล่งแสงสีเขียว
“โอ้พระเจ้า!” มันตะโกน
“เจ้านั่นไปถึงชั้นเก้าสิบแล้ว!ถ้าไปไกลกว่านี้มันจะตื่นขึ้นมา!”
แสงสีเขียวของหมาดำนั้นมีพลังสะกดจิตหลายคนที่ร่างกายสั่นไหวแสดงทีท่าว่าจะตื่นจะสงบลงทันทีที่ถูกแสงสีเขียวนี้ล้อมรอบ
ซือหยูเห็นมันได้อย่างชัดเจนนี่คือพลังของวิชามายาจริง
ตราบเท่าที่ไม่มีใครยุ่งกับหมาดำผู้คนทั้งสองหมื่นคนนี้จะไม่มีวันหลุดออกจากการสะกดจิตไปได้
และที่ซือหยูกังวลก็คือคนที่กำลังไปถึงชั้นเก้าสิบก็คือฮั่นเฟย!
ซือหยูแอบทึ่งในใจเขามีพลังเวลาที่ช่วยให้เขาฝ่าการเคลื่อนไหวที่ช้าลงได้ แต่ฮั่นเฟยจะทำได้หรือ?
ซือหยูสัมผัสพลังเวลาในตัวนางไม่ได้เลย
คำอธิบายเดียวก็คือฮั่นเฟยนั้นต่อสู้มาถึงชั้นเก้าสิบด้วยพลังของนางอย่างเดียวเท่านั้น!พลังของนางน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!
“บัดซบ!ชั้นเก้าสิบสามแล้ว! โอ้ ไม่นะ ไม่นะ!!”
หมาดำกระวนกระวาย
เพียงเวลาครู่เดียวฮั่นเฟยก็มาถึงชั้นเก้าสิบสาม! หากนางมาถึงชั้นเก้าสิบหกที่ว่างเปล่าเมื่อไหร่ นางจะค้นพบความจริงของหอคอยร้อยชั้นเหมือนกับซือหยู
หอคอยแท้ที่จริงไม่เคยเปิดออกพวกเขาอยู่ในชั้นแรกมาตลอดเวลา
“เจ้าเด็กบ้าเจ้าจะยืนนิ่งอยู่ทำไม? เข้ามาช่วยข้าเร็ว! นางน่ากลัวเกินไป! นางกำลังจะกลืนกินหุ่นเชิดไปหมดแล้ว!”
หมาดำตกใจมาก
ซือหยูตอบกลับ
“เจ้านั่นแหละที่จะมีปัญหาถ้านางตื่นเกี่ยวอะไรกับข้ากัน?”
หมาดำรำคาญ “ใช่มันไม่เกี่ยวกับเจ้า! แต่ลูกแก้วที่หอคอยร้อยชั้นมันมีจำกัด ถ้านางตื่นขึ้นมาขอลูกแก้ว ลูกแก้วนั่นจะเป็นของนางหรือของเจ้าล่ะ?”
“หรือข้าจะบอกให้นางฆ่าเจ้าก่อนดี?และความตายของเจ้าจะจบทุกปัญหารึ? ข้าจำได้ว่านางไม่ได้ลงปฏิญาณบัดซบนั่นกับเจ้านะ ใช่ไหม?”
ซือหยูคิด
“อย่างไรข้าก็ยังไม่รู้ว่ารางวัลจะแลกออกมาได้ยังไงไม่ว่าข้าจะต้องสู้กับนางหรือไม่ ข้าก็ต้องหารือกับนาง”
“หารืออะไรกัน?!ลูกแก้วชั้นที่ร้อยรับรองว่าเจ้าจะได้สมบัติภูติชั้นต่ำ! เจ้ามีโอกาสครึ่งนึงที่จะได้สมบัติภูติชั้นกลาง และมีโอกาสหนึ่งในสิบที่จะได้สมบัติภูติชั้นสูง!”
“ถ้าเจ้ามีสมบัติภูติมากพอที่จะให้นางได้ตามใจก็ลืมเรื่องที่ข้าพูดไปซะ!”
หมาดำพูดยืดยาว “ไอ้หมาบัดซบทำไมไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้เล่า?!”
ซือหยูตกใจ
สมบัติภูติและสมบัติกึ่งภูตินั้นแตกต่างกันด้วยคำคำเดียวแต่แท้จริงแล้วพลังต่างกันราวฟ้ากับเหว
มันเหมือนกับความต่างระหว่าง‘เพื่อนสาว’ กับ ‘แฟนสาว’ ความแตกต่างกันเล็กน้อยนั้นทำให้ความหมายผิดแปลกไปมาก!
ซือหยูไม่สนใจสมบัติกึ่งภูติมากนักกระบี่เงินสามเล่มของเขาล้วนเป็นสมบัติกึ่งภูติอยู่แล้ว แต่มันก็ยากที่จะได้มา!
“ข้าจะช่วยเจ้ายังไง?”
ซือหยูถาม
หมาดำตอบ
“ง่ายๆ! ถอดเสื้อผ้านางแล้วสั่งสอนนางซะ ขัดขวางความคิดของนางให้นางพ่ายแพ้กับหุ่นเชิด”
“ไอ้ระยำเอ้ย!” ซือหยูง้างขาเตะมัน
หากลบเรื่องศีลธรรมทิ้งไปต่อให้เขาทำแบบนั้นจริง นางจะไม่หั่นเขาเป็นร้อยเป็นพันชิ้นเมื่อตื่นขึ้นมาเห็นเขาอยู่บนตัวนางหรือ?
“ให้ข้าเป็นจ้าวชั้นสิ!”
ซือหยูแนะนำด้วยรอยยิ้ม
หากจ้าวชั้นไม่อยู่มันก็ไม่ยากที่จะหาจ้าวชั้นคนอื่นมาแทนที่ ใช่ไหม?
“อะไรนะ?เจ้าจะเข้าไปข้างในและต่อสู้กับนางเรอะ? ข้าตกลงด้วยขาคู่หน้าข้าเลย!”
หมาดำนับถือความไม่เห็นแก่ตัวของซือหยูอย่างจริงใจ
ซือหยูถอนหายใจแรง
“ไอ้หมาบ้า!เจ้าก็ใช้วิชามายาไปสิ! เจ้าบันทึกพลังของข้าไปแล้ว”
หึหึ!
หมาดำหัวเราะแห้งๆ
“เจ้าไม่ได้โง่สินะ” “เอาแก่นโลหิตเจ้ามาข้าจะเปลี่ยนมันเอง”
ซือหยูหยดโลหิตใส่ปากหมาดำดวงตามันแดงขึ้นมา
ฮั่นเฟยสังหารจ้าวชั้นมาถึงชั้นที่เก้าสิบห้าด้วยพลังมหาศาลที่มี
“เจี๋ยนอู๋เชิงในวัยเด็กมาถึงชั้นเก้าสิบห้าช่างน่าชื่นชมนัก”
ฮั่นเฟยพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ข้าจะไปทุกชั้นที่ราชาเขตในอดีตไปถึงและไปในชั้นที่พวกนั้นมาไม่ถึงด้วย!”
ฮั่นเฟยไต่หอคอยต่อไปราวกับวิ่งบนพื้นราบ
เพียงแค่คิดนางก็ไปถึงชั้นที่เก้าสิบหก เหลืออีกแค่ห้าชั้น!
เมื่อนางลืมตาชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
“ซือหยูเซี่ยน?”
นางตกใจ นางคิดว่าถ้าจ้าวชั้นคนต่อไปไม่ใช่เจี๋ยนอู๋เชิงมันจะต้องเป็นราชาเขตจากยุคก่อน แต่กลับกลายเป็นซือหยูเซี่ยน!
“ทำไมซือหยูเซี่ยนถึงกลายเป็นจ้าวชั้นกัน?”
ฮั่นเฟยเหลือบมองรอบๆ ด้วยความกังขา
ร่างจริงในโลกภายนอกของนางสั่นไหวสื่อว่านางกำลังจะฟื้นจากวิชามายา เมื่อฮั่นเฟยรู้ว่านางถูกสะกดจิต วิชามายาจะสลายไป
“ซือหยูเซี่ยนผ่านร้อยชั้นและได้กลายเป็นจ้าวชั้นคนใหม่”
เสียงนุ่มลึกของหมาดำดังก้องหอคอย
ฮั่นเฟยขนลุกด้วยความตกใจ
“เขาผ่านทั้งร้อยชั้นแล้วรึ?”
ฮั่นเฟยไม่อยากเชื่อนางอาจไม่ตกใจเท่านี้หากเป็นปี้หลิงเทียน แต่ซือหยูเซี่ยน!
ฮั่นเฟยมองดูซือหยูครู่หนึ่ง
“ย่อมได้ขอข้าทดสอบวิชาของจ้าวชั้นคนใหม่ดูหน่อย!”
สุริยาดำสนิทลอยเหนือศีรษะฮั่นเฟยราวกับหลุมทมิฬที่ดูดกลืนทุกสิ่งในระยะทุกหนแห่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ไอลีนโนเวล
เมื่อวิชาถูกใช้พลังดูดกลืนนั่นแข็งแกร่งมาก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงไม่ได้รับผลกระทบจากเวลา เพราะนางเพียงแค่ใช้วิชาเดียวและรอให้มันดูดกลืนหุ่นเชิดไป
‘ซือหยู’ลืมตาช้า ๆ แสงสีม่วงเปล่งประกายที่ตาซ้าย
ฮั่นเฟยสัมผัสได้เลยว่าพลังเวลาที่ช้ากว่าเดิมสี่เท่าได้ช้ากว่าเดิมเจ็ดเท่าโดยที่ไม่รู้ตัว!
วายุกลืนกินช้าลงมากทำให้มันไร้พลังที่จะกลืนกินทุกสิ่งโดยรอบ
ขณะเดียวกันซือหยูชักกระบี่ออกมาซัดนาง
ฉั่วะ!
หลุมดำถูกทำลายฮั่นเฟยอยากจะขยับตัวแต่พลังโกงเวลาเจ็ดเท่าทำให้จิตใจและการเคลื่อนไหวของนางช้าลงมาก นางมองกระบี่ทะลวงร่างของนาง
เป๊าะ!
เสียงดังเบาๆฮั่นเฟยแตกสลายเป็นเศษเสี้ยว แต่การประลองยังไม่จบ!
หลุมดำที่ถูกทำลายก่อตัวขึ้นอีกครั้งแขนมนุษย์ขาวเนียนปรากฏออกมา
ไม่นานฮั่นเฟยก็ปรากฏตัวต่อหน้าซือหยูอีกครั้งทั้งร่างสวมชุดทมิฬ
“กระบี่นั่นมีพลังอสูรเนรมิตร”
ฮั่นเฟยมองศัตรูด้วยความชื่นชม
“ซือหยูเซี่ยนแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิดเอาไว้มากนักอนาคตเขาอาจเป็นคู่ฝึกที่เหมาะสมกับข้า”
เมื่อพูดจบฮั่นเฟยยกมือขึ้นซัด สุริยาเก้าดวงโผล่ขึ้นมาทันที รวมกับดวงที่แล้วเป็นสิบดวง!!
ตู้ม! สุริยาทมิฬทั้งสิบปล่อยพลังดูดกลืนมหาศาลออกมาพริบตาเดียวหุ่นเชิดซือหยูเซี่ยนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
แกร๊ง!
ลูกแก้วและเศษกระดูกหล่นลงมา
ฮั่นเฟยเก็บพวกมันนางยิ้มและคาดหวังในสิ่งที่จะได้เจอต่อไป
นางหลับตาไปสู่ชั้นเก้าสิบเจ็ดนางได้เจอกับหุ่นเชิดซือหยูเซี่ยนอีกครั้ง
ในโลกภายนอกหมาดำกำลังบ้าคลั่งและสบถไม่หยุด
“บัดซบเอ้ย!นางโกงชัด ๆ! ไอ้ดวงอาทิตย์ขี้โกงนั่นมันอะไร? อสูรเนรมิตรขั้นสามยังต้องกลัวจนเป็นลมเลย!”
“บัดซบเพื่ออาหารข้า ข้าจะต้องสู้กับเจ้าด้วยชีวิต!”
หมาดำพูดอย่างร้อนรน
ที่ชั้นเก้าสิบเจ็ดฮั่นเฟยใช้สุริยาทั้งสิบทำลายหุ่นเชิดซือหยูเซี่ยนในพริบตาเดียว ที่ชั้นเก้าสิบแปดนางสังหารอย่างรวดเร็ว
ที่ชั้นเก้าสิบเก้านางสังหาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง!
ฮั่นเฟยมาถึงชั้นที่หนึ่งร้อย
“น่าสนุกนี่ข้าคิดว่าข้าจะเป็นคนแรกที่ผ่านร้อยชั้น ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเอาที่หนึ่งไป”
ฮั่นเฟยจ้องซือหยูเซี่ยนบนลานประลองตรงหน้าด้วยความเสียดาย
แต่จากนั้นนางก็ยิ้มอย่างเย็นชา
“แต่รอยเท้าของเจ้าจะไม่เหลือในหอคอยนี้อีกต่อไป!”
เมื่อนางพิชิตชั้นสุดท้ายนางจะกลายเป็นจ้าวชั้นตั้งแต่ชั้นแรกจนถึงชั้นที่หนึ่งร้อย
ถึงอย่างนั้นเวลาที่ช้าลงในชั้นนี้ก็น่าตกใจมากมันเกือบจะช้าลงกว่าโลกภายนอกถึงแปดเท่า แม้จะแค่ความคิดก็ใช้เวลามาก ไม่ต้องพูดถึงการขยับตัว
ข้อได้เปรียบเดียวก็คือหุ่นเชิดจะไม่เริ่มโจมตีก่อนที่นางจะลงมือ
แต่ในเวลาที่นางรวบรวมพลังเพื่อจะเตรียมโจมตีสิ่งที่เกิดขึ้นกลับทำให้นางยืนนิ่ง
“ยินดีด้วยที่มาถึงชั้นสุดท้ายข้าจะเป็นคู่ประลองของเจ้า”
ซือหยูลืมตาขึ้นมาก่อนและชักกระบี่เงินขึ้นมาช้าๆ
ด้วยเวลาที่ช้าลงฮั่นเฟยถึงกับมองการเคลื่อนไหวของซือหยูแทบไม่เห็น นางเพียงเห็นแสงสีเงินแวบวาบในมือของเขา
“เดี๋ยว…เดี๋ยวสิ!”
ฮั่นเฟยพูดอย่างยากลำบาก
กฎไม่ได้บอกว่าหุ่นเชิดจะโจมตีทีหลังเรอะ?นี่มันไม่มีเหตุผลเลย!
“เพื่อเป็นรางวัลในชั้นสุดท้ายเจ้าจะได้ของขวัญเป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรม ข้าจะเป็นคนลงมือก่อน”
เสียงของซือหยูนั้นว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึกเขาชี้กระบี่ไปที่ฮั่นเฟย แม้ฮั่นเฟยจะเด็ดเดี่ยวนางก็ร้อนรนในเวลานี้
ยุติธรรมเรอะ?ความยุติธรรมมันเกี่ยวอะไรกัน? ต้องเอาเวลาที่ช้าลงออกไปก่อนสิ!!
ถ้าเป็นชั้นก่อนหน้าฮั่นเฟยอาจจะตั้งแง่กับหอคอย แต่กับชั้นสุดท้ายที่ไม่เคยมีใครมาถึง ระดับความยากจะต้องไร้เหตุผลอย่างแน่นอน
นางเพียงแค่สงสัยเรื่องเดียวเท่านั้นนั่นคือซือหยูผ่านชั้นนี้ไปได้อย่างไร และเขาเอาชนะจ้าวชั้นที่ร้อยคนก่อนด้วยวิธีไหน!
ด้วยหุ่นเชิดที่จะลงมือโจมตีก่อนและเวลาที่ช้าลงแปดเท่า…ความยากระดับนี้สูงเสียดฟ้า
“รับกระบี่อันยุติธรรมนี้ไปซะ!”
ซือหยูฟันกระบี่ออกไป