The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1115 - ถูกเปิดเผยตัว
“อ๊ะ!ซือหยู!!”
ผู้เฒ่าตกใจอย่างมากตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าถูกหลอกโดยวิชามายา!
เขาตกใจและหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่งอาชญากรคนสำคัญเกือบจะหนีไปต่อหน้าต่อตาเขา!
แต่เมื่อคิดดูอีกครั้งมันเป็นความตกใจที่ดี
ตั้งแต่ที่ราชาเขตกลางครองบัลลังก์เมื่อร้อยปีก่อนเขาไม่เคยยุ่งเรื่องเล็กน้อยเลยสักครั้ง แต่เขากลับเสนอรางวัลมหาศาลให้คนที่จับตัวซือหยูได้ นั่นหมายความว่าเขาจะได้รับความสนใจจากราชา
“ถ้าข้าฆ่ามันได้ท่านราชาจะต้องมองข้าดีขึ้นแน่! บางทีข้าอาจถูกแต่งตั้งเป็นจ้าวดินแดนก็ได้!”
“เจ้าเด็กชั่วช้าวันนี้เจ้าจะต้องตกมาอยู่ในมือข้า! เจ้าจะไม่มีวันได้หนีไปไหน!” ผู้เฒ่าตะโกนและวิ่งเข้าไปจากนั้นเขาก็จู่โจมประตูมิติที่ถูกใช้งานอย่างรุนแรง
เขาคิดจะทำให้ซือหยูสลบก่อนที่จ้าวดินแดนมีดสวรรค์จะลงมือเองและแย่งความดีความชอบจากเขาไป
พลังของอสูรเนรมิตรขั้นห้านั้นน่ากลัว!การจู่โจมอันทรงพลังของเขาทำให้ประตูมิติที่กำลังทำงานสั่นสะเทือน การเคลื่อนย้ายถูกขัดขวาง
ซือหยูแอบถอนหายใจ
‘ข้าต้องรีบเอาชนะมันมิเช่นนั้นกำลังเสริมจะมา’
เขาคิด
ซือหยูโบกมือกระบี่เงินสามเล่มลอยออกมาจากด้านหลัง จากนั้นกระบี่ก็หายไปในมิติและเริ่มที่จะเตรียมทำบางอย่างในการควบคุมของซือหยู
“ระวังกระบี่ด้วย!”
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์เตือนผู้เฒ่าและเริ่มจู่โจมซือหยูจากอีกด้าน
“ฮื่ม!”
ผู้เฒ่าถอนหายใจแรงเขาคิดว่าจ้าวดินแดนมีดสวรรค์จงใจทำให้เขากลัวเพราะอยากจะได้ความดีความชอบในการสังหารซือหยู
เขาไม่เชื่อว่าซือหยูจะแข็งแกร่งขนาดนั้น!
เมื่อถูกทั้งสองจู่โจมพร้อมกันซือหยูสามารถป้องกันตัวได้และโต้กลับได้อย่างไม่ร้อนรน
“ภาพทัณฑ์ภูติ!”
ดวงสุริยาร้อนระอุปรากฏในฝ่ามือทั้งสองข้างของซือหยูมันเหมือนกับสุริยาทมิฬอสูรสวรรค์ของฮั่นเฟย แต่มันแข็งแกร่งกว่ากันมาก!
ผู้เฒ่าชักสีหน้าทันทีจ้าวดินแดนมีดสวรรค์เองก็ถอยกลับด้วยความกลัว
“นั่นมันอะไรกัน?”
ทั้งสองตกตะลึง ทั้งสองสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างใหญ่หลวงจากสุริยาทั้งสองพวกเขาพร้อมจะระเหยไปหากได้แตะกับเพลิงนั้น
ดวงสุริยาทั้งสองนี้เกิดจากเพลิงอัสนีจากวิบัติสายฟ้าขนวิหคที่ยังเหลืออยู่
เมื่อวานซือหยูพยายามจะใช้วิชานี้ในการฝึกฝน อาจจะเป็นเพราะเพลิงอัสนีที่เขาเก็บไว้แข็งแกร่งมาก การฝึกฝนถึงก้าวหน้าได้เป็นอย่างดี เขาบ่มเพาะถึงขั้นหนึ่งสำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถใช้เพลิงอัสนีภายในได้เล็กน้อย
การโจมตีนี้มิได้ทำให้อสูรเนรมิตรหวาดกลัวเท่านั้นแต่เหล่าเซียนเองก็ต้องหลบเช่นกัน
ซือหยูคิดจะใช้มันเป็นอาวุธลับเพื่อทำให้ศัตรูตกใจแต่ซือหยูก็ใช้มันตอนนี้เพื่อไม่ให้เกิดการต่อสู้ยืดเยื้อ
“สิ่งนี้ฆ่าเจ้าได้ทั้งคู่!”
ซือหยูตะโกนอย่างเย็นชาเวลานี้เขาเพียงแค่อยากจะสังหารศัตรูทั้งสองด้วยพลังมหาศาล จากนั้นเขาจะได้หนีไปโดยประตูมิติเทวะ
“ไม่นะ!ให้จางอู๋ชวงมาที่นี่เถอะ!”
ผู้เฒ่าตะโกนเขชักสีหน้าอีกครั้งและคิดหนีด้วยความสะพรึงกลัว
สุริยาทมิฬอันน่าหวาดผวานี้ทำให้ผู้เฒ่ายั้งสติแทบไม่ไหวสัญชาตญาณบอกเขาว่ามันอันตรายมากและสังหารได้แม้กระทั่งเซียน!
ในเวลานี้ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองคือจางอู๋ชวง
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ตากระตุกเขาได้แต่แอบก่นด่าในใจ เขาไม่คิดเลยว่าซือหยูจะอันตรายและมีอาวุธอันแข็งแกร่งอยู่ในมือหลังจากผ่านไปไม่กี่วัน!
เขาลังเลไม่นานพร้อมกับถอยและตะโกน
“เจ้ากลับไปรายงานยอดฝีมือในวังหลวงข้าจะคุ้มกันเจ้า!”
เขารู้ว่าสุริยาทมิฬนี้อันตรายมากแต่ถ้าเขาอยู่ห่างจากซือหยู มันก็ไร้ภัย เพราะความจริงแล้วซือหยูยังมีพลังไม่มากพอ มิเช่นนั้นเขาคงจะตามจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ทัน
ผู้เฒ่าก้าวไปข้างหลังและกำลังจะหนีโดยไม่ลังเลเขาฉีกมิติและกำลังจะเข้าวังหลวงไปหากำลังเสริมมาฆ่าซือหยู
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีไปได้รึ?”
ซือหยูพูดอย่างใจเย็นแสงสีม่วงแล่นออกจากตาซ้าย
“หยุดเวลา!”
ซือหยูตะโกนผู้เฒ่าและจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ถูกแสงสีม่วงปกคลุม
ร่างกายของทั้งสองติดอยู่ในกาลเวลาพร้อมกันพวกเขามิอาจขยับตัวได้เลย สิ่งเดียวที่ยังทำงานได้ของพวกเขามีเพียงสมองเท่านั้น
แต่ต่างจากผู้เฒ่าจ้าวดินแดนมีดสวรรค์สามารถหลุดออกมาจากการหยุดเวลาได้ เขาตะโกน “พลังเวลา!ได้ยังไง…เจ้าทำได้ยังไง…”
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อเห็นฝ่ามือซือหยูเข้าใกล้เขาอย่างรวดเร็วเขารู้ว่าเขาต้องหลบการโจมตีทันที ดังนั้นเขาจึงฉีกมิติและหนีออกไป
แต่พลังหยุดเวลาสามารถทำให้จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ช้าลงได้การเคลื่อนไหวของเขาช้ามาก
“ฮื่ม!”
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ได้ยินเสียงถอนหายใจแรงจากซือหยูซือหยูพยายามจะใช้สุริยาทมิฬโจมตีเขาจากข้างหลัง
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ได้กลิ่นความตาย
แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเขาทำงานในจังหวะสุดท้ายจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ร้องคำรามอย่างรุนแรง เขาใช้ของวิเศษที่มีแรงดันวิญญาณเมื่อหยุดสุริยาทมิฬในมือซือหยู
มันน่าจะเป็นสมบัติภูติหายาก! สุริยาทมิฬที่กระทบสมบัติภูติทำให้สมบัติภูติส่งเสียงหลอมละลายสมบัติภูติถูกเผาเป็นผุยผงทีละน้อย
พร้อมกันนั้นสุริยาทมิฬยังอ่อนแอลงไปด้วย
เมื่อสมบัติภูติพังไปครึ่งชิ้นสุริยาทมิฬก็หายไปหมดแล้ว
แต่ยังมีสุริยาทมิฬอีกดวงในมือซ้ายของซือหยู
หลังจากที่ใช้พลังในมือขวาจนหมดซือหยูใช้มือซ้ายจู่โจมอย่างไม่ลังเล
เพียงไม่นานสมบัติภูติที่พังไปครึ่งชิ้นก็กลายเป็นเถ้าถ่าน
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ใช้จังหวะนี้กระโดดเข้ารอยแยกมิติและหนีไปได้สำเร็จ
ผู้เฒ่าที่เห็นสมบัติภูติถูกทำลายนตกตะลึงอย่างหนักนั่นมันบ้าอะไรกัน?
ซือหยูจ้องมองผู้เฒ่าและกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าไม่อยากฆ่าเจ้าและข้าเพียงอยากออกจากเขตกลบางเจ้าบังคับให้ข้าต้องสู้! อย่าได้บอกว่าข้าโหดร้าย!”
ฟึ่บ!
เพลิงอัสนีในมือซ้ายของซือหยูพุ่งเข้าหาผู้เฒ่าอย่างรวดเร็ว
ผู้เฒ่าเองก็อยากเอาตัวรอดไม่แพ้กันเขาเป็นอิสระจากพลังหยุดเวลาและพยายามกระโดดเข้ารอยแยกมิติเหมือนกับจ้าวดินแดนมีดสวรรค์
แต่เขาช้าเกินไปฝ่ามือของซือหยูซัดเข้าที่แผ่นหลังของเขาอย่างจัง
อั่ก!
พลังที่เหลืออยู่ของเพลิงอัสนีมิอาจเปลี่ยนผู้เฒ่าหยูให้เป็นเถ้าถ่านแต่มันทะลวงผ่านหัวใจและทำลายดวงวิญญาณของเขาโดยตรง
ผู้เฒ่ากลอกตาตายร่างกายของเขาล้มลงมาจากรอยแยกมิติหยุดอยู่ตรงหน้าซือหยู ซือหยูถอนแหวนมิติของผู้เฒ่าและเข้าประตูมิติเทวะทันทีจากนั้นเขาก็ใช้ประตูและเตรียมหนี
เสียงจากการต่อสู้ทำให้ยอดฝีมือในเมืองรู้สึกตัวยอดฝวีมือมากมายพุ่งเข้ามายังหอคอยเคลบื่อนย้าย
เมื่อพวกเขามาถึงพวกเขาก็เห็นว่าซือหยูกำลังจะหนีไปได้
หลายคนไม่รู้จักใบหน้าอ่อนเยาว์ของซือหยูแต่ก็มีหนึ่งคนจำได้
“นั่นคือมัน!ซือหยู! มันเป็นอาชญากรคนสำคัญที่ท่าราชาต้องการตัว! ใครที่ฆ่าหรือจับมันได้จะได้ขอความปรารถนาจากราชาหนึ่งเรื่อง! ท่านราชาอาจรับเป็นศิษย์ด้วย…”
คนที่จำซือหยูได้ตะโกนด้วยความตกใจแต่เมื่อเขารู้ตัวว่าเขาไม่ควรจะแบ่งปันข้อมูลล้ำค่า…มันก็สายไปแล้ว!
ในเวลาต่อมาทุกคนที่มาถึงต่างจ้องมองซือหยูด้วยความโลภ