The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1137 - ประตูมิติเทวะ
“เจ้าอยากตายเรอะ!พลังห้าธาตุหยุดยั้งได้แม้แต่เทพ ความเร็วใช้ไม่ได้ผล! เจ้าจะเร็วกว่าเทพได้ยังไง?”
มังกรวารีพูดอย่างร้อนรนสำหรับมัน ซือหยูกำลังหนีอย่างกับคนไร้หนทางสู้
มันรู้ดีถึงพลังของภูเขานี้มนุษย์ไม่มีทางรอดชีวิตได้
มังกรวารีตะโกนไม่หยุด
ซือหยูพูดอย่างใจเย็น
“ความเร็วจะยื้อเวลาให้ข้าหาทางอื่นเข้าถ้ำได้มากขึ้น!”
เนตรยักษ์ปรากฏบนท้องนภามันปกคลุมพื้นที่ห้าหมื่นลี้!
แสงสีม่วงไร้ขอบเขตส่องสว่างจากเนตรยักษ์มันปกคลุมทั่วทั้งเขาห้าธาตุ
“หยุดเวลา!” เนตรยักษ์จากฎีกาสวรรค์สามารถใช้พลังหยุดเวลาอีกครั้งในครั้งนี้ เป้าหมายคือเขาห้าธาตุ
พลังห้าธาตุที่ไหลในเขาห้าธาตุถูกหยุดโดยพลังเวลา
ซือหยูตาลุกวาวทันทีด้วยคุกเทวะห้าธาตุในมือซ้ายและศรทลายฟ้าในมือขวา เขาก้าวไปข้างหน้าก่อนที่ฝ่ามือยักษ์จะคว้าตัวเขา
และก็อย่างที่คิดพลังห้าธาตุที่หยุดเคลื่อนไหวมิอาจทำอะไรซือหยูได้ ซือหยูเข้าไปด้านในได้มากขึ้น
มังกรวารีตะโกนสุดเสียง
“เจ้าโง่เจ้าต้องวิ่งออกไปข้างนอก เจ้าจะเข้าไปอีกทำไมกัน! พอพลังหยุดเวลาหมดเจ้าก็ตายอยู่ดี!”
ซือหยูพูดอย่างใจเย็น
“ออกนอกถ้ำไปข้าก็ตายแน่นอนเพราะราชาเขตกลางจะจับตัวข้าได้ทันที!แต่ข้างในนั้นยังมีโอกาสที่ข้าจะรอดชีวิต!” ฟึ่บ!
ซือหยูที่ก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงกว่าเดิมสิบเท่าไปถึงส่วนลึกสุดของถ้ำที่พลังห้าธาตุหยุดเคลื่อนไหว
สามลมหายใจ…
ขณะนี้ซือหยูมาในจุดลึกสุดที่มีค่ายกลเปล่งประกายตรงหน้า
มังกรวารีพูดด้วยความดีใจ
“ประตูมิติเทวะเรอะ?ปะ…เป็นไปได้ยังไง?”
มีประตูมิติเทวะเพียงเก้าแห่งในจิวโจวที่เชื่อมต่อเขตทั้งเก้าเข้าด้วยกัน
ไม่มีใครคิดว่าจะมีประตูมิติเทวะซ่อนอยู่ในเขาห้าธาตุ!
ซือหยูถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกลบ่าวด้วยรอยยิ้ม
“อย่างที่คิดเลยมีประตูมิติอยู่ที่นี่ มิเช่นนั้นศพของกังต้าเหล่ยคงมาถึงจุดที่เซียนมาไม่ถึงไม่ได้! มันเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอก!”
ซือหยูเกิดความคิดนี้ตั้งแต่ที่พบกังต้าเหล่ยดูเหมือนว่าเขาจะคิดถูก!
ซือหยูกระโดดไปยังประตูมิติเทวะอย่างไม่ลังเลเขาวางแก้วพลังและใช้งานมัน
นี่คือประตูมิติเทวะที่นำพาไปยังจุดหมายเดียวแต่ซือหยูก็ไม่รู้เรื่องปลายทางของมันเลย
หลังจากที่เตรียมการเสร็จสิ้นซือหยูยังเหลือเวลาอีกสามลมหายใจก่อนที่ประตูจะย้ายตัวเขาไป
ขณะนี้ซือหยูสามารถเห็นราชาเขตกลางได้ แต่ราชาเขตกลางมิอาจเห็นสิ่งที่อยู่ภายในม่านพลังห้าธาตุได้เลย
ราชาเขตกลางยืนอยู่หน้าม่านพลังด้วยความลังเลเขาไม่กล้าข้ามม่านพลังไปเพราะกลัวว่ามันจะมีกับดักที่ซือหยูวางไว้รออยู่
ซือหยูสบายใจเพราะว่าเหลือเวลาเพียงสองลมหายใจเท่านั้นนั่นหมายความว่าราชาเขตกลางจะไม่มีเวลาจับตัวเขาแม้จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ซือหยูเริ่มมองรอบๆ และพบบางอย่างที่พิเศษ
เขาพบซากศพสีขาวนั่งสมาธิอยู่มันคือร่างมนุษย์มังกรวารี!
มันนั่งราวกับมนุษย์ที่หลังมีหางมังกรยาวงอกออกมา
ซือหยูสัมผัสพลังเทพจากซากศพได้ซือหยูเลื่อมใสในพลังของมัน
“ศพเทพอสูรอีกคนรึ?”
ซือหยูหรี่ตาเทพอสูรถูกฆ่าโดยเขาห้าธาตุ ส่วนเทพอสูรอีกคนก็ตายเพราะภูเขาลูกนี้
เขาเหลือบมองคุกเทวะห้าธาตุอย่างใจเย็นและพบว่ามังกรวารีได้กลับไปยังคุกเทวะห้าธาตุแล้ว
ซือหยูตาลุกวาวหลังจากเห็นดังนั้น
หลังจากสองลมหายใจประตูมิติเทวะจะทำงาน
คลื่นพลังมิติถาโถมเข้ามาจนราชาเขตกลางตกใจเขาก้าวไปข้างหน้าทันทีเมื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
แต่พลังห้าธาตุอันน่าสะพรึงกลัวที่เริ่มไหลเวียนอีกครั้งก็ผลักราชาเขตกลางออกมา
ราชาเขตกลางร้องครวญครางเพราะเขาบาดเจ็บเล็กน้อยเขาไม่คิดว่าจะมีประตูมิติเทวะซ่อนอยู่ในเขาห้าธาตุ
อาหารโอชะกำลังบินหนีเขาไป!
“ย่อมได้!ข้าจะตามหาเจ้า!”
ราชาเขตกลางพูดด้วยความมุ่งมั่น
…
ที่เขตหุยเทียน
ด้วยการเคลื่อนย้ายแบบสุ่มตงฟางอวี่ปรากฏตัวบนท้องนภาเหนือประตูมิติขั้นสุดยอดในเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน
ยอดฝีมือหลายคนตกใจกับมิติที่ปั่นป่วนตงฟางอวี่เตรียมตัวมาแล้ว แต่คนที่สังเกตเห็นก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง
คนที่ปรากฏตัวตรงหน้านางคือชายแก่ชุดขาวตงฟางอวี่รู้จักชายคนนี้ นางพูดด้วยความแปลกใจ
“ท่านคืออดีตจ้าวดินแดนมีดสวรรค์หรือ?”
ตงฟางอวี่ที่เป็นลูกหลานสายตรงของตระกูลบูรพาได้ข้อมูลเรื่องทวีปเหนือกว่าคนทั่วไปนางถึงกับรู้รายละเอียดของผู้นำสำนัก ไม่ต้องพูดถึงจ้าวดินแดน!
นางจำชายแก่ตรงหน้าได้ทันทีเขาคืออดีตจ้าวดินแดนมีดสวรรค์
แต่ทำไมอดีตจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ถึงได้มาอยู่ที่เขตหุยเทียนเล่า?
“โอ้?ลูกหลานเทพอสูรเลือดบริสุทธิ์มาถึงขั้นสองแล้ว! น่าตกใจนัก!”
ชายแก่ลูบคางมองตงฟางอวี่และเห็นสายโลหิตของนางทันที คำพูดของเขาทำให้ตงฟางอวี่ตกใจบางคนในจิวโจวรู้ว่าตระกูลบูรพาคือลูกหลานเทพอสูร แต่ก็มีเพียงบรรพบุรุษสองคนเท่านั้นที่รู้เรื่องสายเลือดบริสุทธิ์ของนาง!
อดีตจ้าวดินแดนเฒ่าผู้นี้รู้ได้อย่างไร?
“ผู้อาวุโสขออภัยที่มาโดยไม่บอกกล่าว ลาก่อน!”
ตงฟางอวี่ที่รู้สึกถึงความผิดปกติตัดสินใจหนีโดยเร็วที่สุด
แต่นางก็ถูกพลังมิติกักขังเอาไว้ในตอนที่กำลังจะออกบิน
เสียงอันเย็นชาจากอดีตจ้าวดินแดนดังมาจากด้านหลัง
“เจ้าเป็นลูกหลานเทพอสูรจะหนีไปง่าย ๆ ไม่ได้! ข้ามาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด!”
ตงฟางอวี่สับสนทำไมเขาพูดว่าเขาจะต้องฆ่าลูกหลานเทพอสูรทั้งหมดเล่า? นี่คือหน้าที่พิเศษของจ้าวดินแดนในเขตกลางรึ?
ตงฟางอวี่ชักสีหน้าทันทีเมื่อสัมผัสจิตสังหารจากชายแก่ได้
“บอกข้าว่าคนอย่างเจ้าเหลืออยู่อีกเท่าใด?พวกมันอยู่ไหน? อย่าบังคับให้ข้าต้องทรมานเจ้า!”
อดีตจ้าวดินแดนตะโกนเสียงแหบ
ตงฟางอวี่ที่เฉลียวฉลาดตอบอย่างใจเย็น
“ท่านผู้อาวุโสใจเย็นลงก่อน!ทุกคนในตระกูลข้าหนีไปที่…เขตกลาง!”
“เขตกลาง?ที่ที่ข้ามาน่ะรึ?”
อดีตจ้าวดินแดนคิดเพียงไม่นานก่อนจะพยักหน้าตอบ
“ก็ดี!นำทางข้าไป! ถ้าได้จับลูกหลานเทพอสูรอย่างเจ้า ข้าก็ถือว่าไม่กลับไปมือเปล่าแม้จะจับนังอสูรนั่นไม่ได้!”
ตงฟางอวี่ตัดสินใจล่อเขาไปยังเขตกลางด้วยสองเขตผล
ประการแรกคนที่เหลือในตระกูบูรพาเองก็ถูกส่งมาที่นี่ คนเหล่านั้นจะถูกอดีตจ้าวดินแดนกลับหากเขายังอยู่ที่นี่ ประการที่สองเขตกลางถูกเผ่าผียึดครอง ณ ขณะนี้ เป็นควสามคิดที่ดีที่จะล่อเสือให้ไปสู่ฝูงหมาป่า!
“เอาล่ะนำทางข้าได้แล้ว!”
อดีตจ้าวดินแดนตะโกนอย่างเย็นชา
…
หลังจากเคลื่อนย้ายผ่านประตูมิติมาครึ่งชั่วยามซือหยูได้ล่องลอยผ่านหลายเขตจากประตูมิติเทวะ
หลังจากใช้สัมผัสเขาก็พูดเบา ๆ
“นี่คือ…เขตกลางรึ?”
ซือหยูแปลกใจเขาลืมตามองรอบ ๆ จากนั้นเขาก็เห็นเมืองที่ไม่ยิ่งใหญ่นัก
แต่ซือหยูก็สัมผัสพลังบางอย่างจากเมืองนี้ได้
“สิ่งมีชีวิตจากเฉินหลงหรือ?”
หลังจากหายใจเข้าลึกซือหยูตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น “การเจอกังต้าเหล่ยไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่คาดเขาพยายามนะข้ามาที่นี่ผ่านประตูมิติหรือ?”
ซือหยูที่ค่อนข้างตื่นเต้นยืนยันสิ่งที่คิด
หน้าเมืองแห่งนี้ซือหยูรู้สึกว่าเขาสามารถสบายใจได้
ดูเหมือนว่าคนเฉินหลงจะไร้ภัยยุ่งเกี่ยวแต่เหตุใดกังต้าเหล่ยถึงตายเล่า?
ซือหยูร่อนเร่รอบหน้าเมืองเขาเชื่อว่าเขายังเตรียมตัวไม่พร้อมที่จะเจอคนเฉินหลง
ยิ่งเขาเข้าใกล้ชาวเฉินหลงที่ติดตามเขามากเท่าใดเขาก็ยิ่งกังวลใจมากเท่านั้น
“เจ้าเป็นใคร?ทำไมถึงมาเตร็ดเตร่รอบนอกเมืองเฉินหลง?”
ภูติร่างกำยำที่ยืนหน้ากำแพงเมืองตะโกนเสียงดัง
ซือหยูเงยหน้ามองเขาเขามีใบหน้าที่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก และยังมีพลังเฉพาะจากเฉินหลง เกิดยอดฝีมือขอบเขตภูติในระหว่างปีที่ผ่านมาแล้วหรือ?
“ข้าคือ…”
เมื่อซือหยูกำลังแนะนำตัวเขาก็ตะโกนและชักสีหน้าทันที
“ภูติระดับเก้า!!ไม่นะ! แจ้งรองเจ้าเมืองเดี๋ยวนี้! เมืองไป่หมิงที่ไม่ยอมแพ้ส่งยอดฝีมือมาโจมตีพวกเราอีกแล้ว!”
หลังพูดจบเขาก็ทุบสร้อยสื่อสารทันที
ยอดฝีมือขอบเขตภูติมากมายบินออกมาจากเมืองและจ้องมองซือหยูอย่างระมัดระวัง
ซือหยูค่อนข้างผิดหวังดูเหมือนว่าจะไม่มีใครในเมืองเลยที่รู้จักเขาเพราะเขาหายตัวไปนานเกินไป! แล้วผู้เฒ่าจิวก็กลายเป็นรองเจ้าเมือง หึหึ! เขายังกอดน้ำเต้าเหล้าอยู่เหมือนเดิมไหมนะ?
“ใครกันที่กล้าย่างกรายมาเมืองเฉินหลง?”
ชายแก่ในชุดนักพรตตะโกนเสียงแข็งเขารีบปรากฏตัวออกมา กลิ่นเหล้าจากตัวเขาฟุ้งกระจายนับลี้!
แต่เมื่อชายแก่มาถึงเขาก็ตกตะลึงเล็กน้อยจากผู้บุกรุกเขาพูดด้วยรอยยิ้ม
“พวกมันใช้กลไม้เดิมอีกแล้วรึ?คนเมืองไป่หมิงคิดว่าข้าเป็นคนโง่หรือยังไง?”
เมื่อผู้เฒ่าจิวเห็นซือหยูเขาไม่ได้ยินดีเลยแม้แต่น้อย กลับกัน เขาจู่โจมซือหยูด้วยความโมโห
ซือหยูเขินอายนี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ผู้เฒ่าจิวกลายเป็นภูติระดับเก้าในช่วงเวลาที่ผ่านมาซือหยูแปลกใจมาก
ต่อหน้าการจู่โจมของผู้เฒ่าจิวซือหยูยืนฝ่ามือออกไปอย่างแผ่วเบา พลังชีวิตของผู้เฒ่าจิวถูกดันกลับเข้าสู่ร่าง ซือหยูวางมือลงบ่นบ่าของผู้เฒ่าจิวด้วยรอยยิ้ม
“นี่ข้าเองซือหยู!”
ผู้เฒ่าจิวชักสีหน้าทันควันหลังจากได้ฟังเขาตะโกนเสียงดัง “โอ้ไม่นะ! บอกเจ้าเมืองเดี๋ยวนี้! เจ้านี่…เจ้านี่คือจ้าวเทวะ!”
อะไรนะ?จ้าวเทวะรึ? ทหารบนกำแพงเมืองหน้าซีด พวกเขาขอกำลังเสริมจากเจ้าเมืองทันที
ซือหยูตะโกนจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูด
“ผู้เฒ่าจิวนี่ข้าเอง! ท่านเสียสติไปแล้วรึ?”
ผู้เฒ่าจิวกลับโต้แย้งด้วยเสียงเมามาย
“ข้ารู้จักเจ้า!เจ้าคือเจ้าเมืองไป่หมิง! ทำไมถึงใช้กลไม้เดิมอีก?”
ใช้กลบไม้เดิมรึ?ซือหยูแปลกใจ เขาได้แต่มองเมือง จากนั้นเขาก็ได้พบกับพลังอันคุ้นเคยที่บินมาทางเขาอย่างรวดเร็ว
ไม่นานชายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลาที่สวมชุดดำก็ปรากฏตรงหน้า เมื่อเขาเห็นซือหยูที่กำลังจับตัวผู้เฒ่าจิว ใบหน้าเขาก็หม่นหมองและกำลังจะตะคอกใส่เขา แต่เขาก็เริ่มมองซือหยูด้วยความสงสัยในเวลาต่อมาราวกับเขาพยายามจะยืนยันบางอย่าง