The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1141 - ช้อนวารีด้วยกระชอน
ราชาเขตกลางไม่พอใจเขาพูดอย่างเย็นชา
“เจ้าไม่เหมือนข้าเจ้าไม่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าอาจารย์ตัวเอง! น่าเวทนานัก! ไปให้พ้น!”
เขาตัวสั่นเล็กน้อยเขาใช้พลังมหาศาลของเซียนระเบิดรอยกายราวกับคลื่นกระแทก
แต่การโจมตีของเขาก็ไร้ความหมายต่อหน้าฉินเซี่ยนเอ๋อราวกับว่าพลังของเขาได้ไหลผ่านร่างกายของนางไปแต่ก็ไม่มีผลต่อนาง
ในเวลานี้แม้แต่ซือหยูก็สับสนกับพลังที่แท้จริงของเซี่ยนเอ๋อ
นางสามารถเข้าใกล้เขาได้โดยที่เขาสัมผัสไม่ได้และตอนนี้นางยังรับมือกับพลังเซียนได้อย่างไม่ยากเย็นอีก
ฉินเซี่ยนเอ๋อปล่อยด้ามมีดและพูดอย่างไม่แยแส
“อย่างที่คิดมีดสังหารฆ่าคนที่เคยผ่านวิบัติเทพอย่างเจ้าไม่ได้!”
จากนั้นมีดที่แทงราาเขตกลางก็สลายเป็นควัน พิษสีเทาเองก็สลายไปจากร่างกาย
โลหิตที่ไกลออกมาแห้งเหือดในทันที
ถ้าพลังที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความตายนี้ไหลเข้าทั่วร่างของเขาแม้แต่เซียนก็ตายได้ ไม่รอดแม้แต่ดวงวิญญาณ
แต่ราชาเขตกลางเคยผ่านวิบัติเทพมาก่อนเขามีเพลิงเทวะในร่างกายที่สามารถหยุดพลังของนางได้
“บัดซบวิหคเพลิงแห่งความตาย! ถ้าข้ารู้ตั้งแต่แรก ข้าคงจะไม่ชี้แนะวิธีใช้พลังสายโลหิตให้เจ้า!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อยืนอยู่หน้าราชาเขตกลางแต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะฆ่านาง เขาได้แต่ยืนนิ่ง
เพราะเขาต้องกำจัดพลังแห่งความตายในร่างก่อนโดยการใช้เพลิงเทวะในตัว
ฉินเซี่ยนเอ๋อสร้างมีดสังหารทมิฬอีกครั้งในมือจากนั้นนางก็แทงไปที่เอวของราชาเขตกลบางอีก
ราชาเขตกลางกัดฟันแน่นด้วยความแค้น
“เจ้าคิดจะฆ่าข้าตั้งแต่แรกใช่ไหม?เจ้าแสร้งเป็นเกลียดซือหยูใช่ไหม?”
ฉินเซี่ยนเอ๋อดึงมือกลับมือของนางโปร่งใสไปครู่ก่อนจะหายไป
จากนั้นนางก็พยักหน้าอย่างใจเย็น
“ใช่!ข้าต้องทำให้เจ้าเชื่อใจเพื่อที่ข้าจะเข้าถึงตัวเจ้าได้ แล้วข้าก็จะช่วยพี่ซือหยูผ่านวิบัติได้ด้วย ข้าถึงยอมเป็นศิษย์เจ้าในตอนที่เจ้าเจอตัวข้ายังไงล่ะ!”
ราชาเขตกลางแค้นยิ่งกว่าเดิมเขาคิดว่าเขาเป็นฝ่ายชนะใจนาง เขาไม่คิดเลยว่าสุดท้ายเขาจะโดนเด็กสาวคนนี้หลอกในท้ายที่สุด
ความชิงชังฝังรากลึกของนางมันสมจริงจนเขาไม่เอะใจ
“สิ่งเดียวที่เจ้าพลาดก็คือเจ้าฆ่าข้าไม่ได้!” ราชาเขตกลางแสยะยิ้ม
ฉินเซี่ยนเอ๋อส่ายหน้าเบาๆ นางเวทนาเขา
“ไม่ใช่ข้าแต่คนอื่นน่ะฆ่าเจ้าได้!”
“ใครกัน?”
ราชาเขตกลางแสยะยิ้ม
“ศรทลายฟ้ายังไงล่ะ!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อมองไปยังศรสีทองในมือซือหยู
ราชาเขตกลางหัวเราะเสียงดัง
“มีแต่เซียนขั้นสูงสุดเท่านั้นที่จะใช้พลังทั้งหมดของศรทลายฟ้าได้!ไม่มีใครไปถึงระดับนั้นได้หรอก!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อกล่าว
“แน่นอน!แต่ข้าสร้างได้คนนึง!”
สร้าง…ราชาเขตกลางแสยะยิ้มก่อนจะหัวใจอันเยือกเย็นในมือฉินเซี่ยนเอ๋อเขาสีหน้าหม่นหมองและตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เขาตัวสั่นด้วยความแค้น “เจ้าทำอะไรกับฮั่นเสวียน?”
“ข้าไม่ได้ทำอะไร!ข้าแค่ทำอย่างที่เจ้าอยากจะทำยังไงล่ะ!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อตอบอย่างใจเย็น
“ข้าขอให้นางเอาหัวใจสตรีหยกสวรรค์เยือกแข็งระดับสูงสุดออกมาแล้วข้าก็ชิง…สายโลหิตเทพของนางออกมา!”
ราชาเขตกลางเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงใบหน้าเขาบิดเบี้ยวเพราะความโกรธแค้น เขาตะโกนด้วยโทสะอย่างกับคนโลภที่สมบัติถูกขโมย
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่านางมีสายโลหิตเทะ?สายโลหิตนางพิเศษมาก เจ้าไม่ควรจะสัมผัสพลังลูกหลานเทพของนางได้!”
“พิเศษมากรึ?ใช่! มันพิเศษแน่นอน สายโลหิตเทพที่หลับใหลอยู่จะช่วยให้เจ้ากลายเป็นเทพได้อย่างกับโอสถวิเศษ!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อพูด
ราชาเขตกลางชักสีหน้าอีกครั้งจากนั้นเขาก็สีหน้าหม่นหมองและถามอย่างเคร่งเครียด
“ใครเป็นคนบอกเจ้า?ทุกคนที่รู้ความลับตายไปหมดแล้ว!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อชี้ที่หูตัวเอง
“ข้าเป็นวิหคเพลิงแห่งความตายข้าได้ยินเสียงของทุกสิ่งที่ตายไปจากโลกใบนี้ คนที่ยังรอดย่อมเก็บความลับได้ แต่คนตายย่อมไร้ความลับต่อข้า คนที่เจ้าฆ่าตายบอกความลับกับข้าหมดแล้ว!”
หลังจากใช้พลังวิหคเพลิงนางจึงได้รู้ความลับของฮั่นเสวียนมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ฮั่นเสวียนไม่รู้ตัวเลยว่านางมีสายโลหิตเทพหายากของเทพบ่มเพาะอยู่
เทพบ่มเพาะถือเทพประเภทหนึ่งที่มีความเร็วในการบ่มเพาะเหนือกว่าคนทั่วไปอย่างมาก
เทพประเภทนี้จะเติบโตอย่างรวดเร็วลูกหลานเองก็เติบโตได้อย่างรวดเร็วถ้าหากสายโลหิตเทพตื่นขึ้นมา
แต่สายโลหิตเทพบ่มเพาะของฮั่นเสวียนยังหลับใหลอยู่สวยโลหิตที่หลับใหลมิอาจถูกใช้งานได้ มันเป็นดั่งสิ่งที่ไร้เจ้าของ ดังนั้นมันจะเป็นของใครที่ได้มันไปก็ได้
ด้วยสายโลหิตพิเศษนี้ใครก็สามารถเติบโตอย่างรวดเร็วได้ในระยะเวลาอันสั้น
แม้ว่าผลของพลังจะเกิดขึ้นเป็นเวลาสั้นๆ มันก็มีความหมายมากสำหรับเซียนขั้นสูงสุดอย่างราชาเขตกลางที่กำลังจะกลายเป็นเทพ อย่างน้อยมันก็เพิ่มโอกาสที่เขาจะกลายเป็นเทพได้!
แต่มันค่อนข้างยากที่คนอื่นจะบังคับให้ฮั่นเสวียนนำสายโลหิตออกมาถ้าหากสายโลหิตบนตัวนางตื่นเต้นโดยไม่ตั้งใจ สายโลหิตจะกลายเป็นของฮั่นเสวียนตลอดกาล
หัวใจสตรีหยกสวรรค์เยือกแข็งนี้คือวิธีโหดร้ายที่ทำขึ้นเพื่อชิงสายโลหิต
ถ้าหากคนที่มีสายโลหิตที่หลับใหลได้บ่มเพาะวิชานี้โดยไม่รู้ตัวสายโลหิตจะถูกแช่แข็งและถูกชิงมาอย่างง่ายดาย
และสิ่งที่คล้ายหัวใจเยือกแข็งในมือฉินเซี่ยนเอ๋อก็คือสายโลหิตเทพบ่มเพาะที่ถูกดึงออกมาจากตัวฮั่นเสวียน
“เจ้าจะกินมันรึ?”
ราชาเขตกลางสีหน้าหม่นหมองเขาตาแดงก่ำราวกับอสุรกาย เขากำลังจะกลายร่างเป็นอสูรในอีกไม่นาน
ฉินเซี่ยนเอ๋อส่ายหน้า
“ไม่!”
อะไรนะ?ราชาเขตกลางตกตะลึง ฉินเซี่ยนเอ๋อทำสุดความสามารถเพื่อที่จะได้สายโลหิตเทพบ่มเพาะมาครอง แล้วทำไมนางถึงไม่อยากจะกินมันเล่า?
ฉินเซี่ยนเอ๋อบินไปยังอ้อมแขนของซือหยูราวกับลูกนกนางแอ่นนางวางมือลงบนอกของซือหยูด้วยความรัก
พลังสีเทาในร่างกายซือหยูถูกนางดูดซับกลับคืน
“ขอโทษนะพี่ซือหยู!เพื่อที่จะทำให้มันเชื่อใจ ข้าเลยไม่ได้บอกแผนกับพี่ก่อน!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อพูดด้วยความกังวลใจราวกับสาวน้อยที่ทำผิด
ซือหยูถอนหายใจเขาลูบหัวนางด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าโง่ข้ารู้แผนของเจ้าอยู่แล้ว!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อพูดด้วยความตกใจ
“พี่รู้หรือว่าข้าไม่ได้หักหลังพี่?”
“ถ้าเจ้าอยากจะฆ่าเจ้าเจ้าฆ่าข้าได้เป็นพันครั้งตั้งแต่ที่เจ้ากอดข้าจากข้างหลังเมื่อวาน ใยต้องเลือกใช้พิษด้วยเลบ่า?”
ซือหยูตอบด้วยรอยยิ้ม
ในยามที่เซี่ยนเอ๋อกอดซือหยูจากข้างหลังมันง่ายมากที่นางจะแทงเขาด้วยมีดสังหารจากข้างหลังเขา!
ราชาเขตกลางทนรับพลังของมีดสังหารได้แต่ซือหยูไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำเช่นนั้น!
ดังนั้นเมื่อซือหยูรู้ว่าเซี่ยนเอ๋อใช้พิษที่ทำงานช้ากับเขา เขาก็รู้ว่านางกำลังพยายามหลอกราชาเขตกลาง
“พี่ซือหยูมองแผนข้าออกตั้งแต่แรก!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อหน้าแดงนางหันไปเบ้ปาก
“แล้วทำไมไม่บอกข้าก่อนเล่า?ฮื่ม!”
อะไรของเขา?ตายในมือข้าด้วยความเต็มใจรึ?
“ตอนที่ข้าได้ยินข้าเกือบจะร้องไห้ ข้าคิดว่าพี่จะเชื่อคำลวงของข้าจริง ๆ! ข้าจะฆ่าพี่ได้ยังไง?”
เซี่ยนเอ๋อพูดทั้งน้ำตานางเสี่ยงในครั้งนี้แต่ก็กลัวเช่นกัน
ซือหยูกอดเซี่ยนเอ๋ออีกครั้ง
“เซี่ยนเอ๋อ…เด็กดีของข้า…เจ้ายังหลอกข้าได้!แล้วทำไมข้าจะเอาคืนบ้างไม่ได้เลบ่า?”
เซี่ยนเอ๋อหน้าแดงอีกครั้งนางทำท่างอน “ข้าไม่สนใจแล้ว!ข้ากลัวแทบตาย!”
“ฮ่าๆๆๆๆ….”
ซือหยูหัวเราะเสียงดังเขาไม่รู้เลยว่าเซี่ยนเอ๋อกลายเป็นคนชอบถูกเอาใจตั้งแต่เมื่อใด
“เจ้าค่อยลงโทษข้าหลังจากนี้ก็ได้ตอนนี้มาจบเรื่องตรงหน้าเราก่อนเถอะ!”
ซือหยูพูดอย่างจริงจัง
แม้ราชาเขตกลางจะหยุดนิ่งซือหยูก็ไม่มีอะไรจะทำร้ายเขาได้นอกจากศรทลายฟ้าในมือ
“ไม่ต้องห่วง!ข้าจะให้สายโลหิตเทพบ่มเพาะกับพี่ ถึงพี่จะเป็นเทพไม่ได้ พี่ก็จะกลายเป็นเซียนขั้นสูงสุดได้ไม่ยาก!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อมอบหัวใจเยือกแข็งกับซือหยูอย่างระมัดระวัง
“ท่านเฉินอี้เจิงให้ศรทลายฟ้ากับพี่เพราะท่านหวังจะให้พี่ล้างแค้นได้โปรดอย่าปฏิเสธเลย!” ซือหยูรักเซี่ยนเอ๋อยิ่งกว่าเดิม
ในยามแยกจากเซี่ยนเอ๋อได้เตรียมการเพื่อเขามากมาย หลังจากนั้นนางก็มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาอีกครั้งในการพบหน้าครั้งนี้
นางไม่เคยพลาดที่จะทำเพื่อเขาสักครั้ง
ครั้งนี้นางเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะได้สายโลหิตของเทพบ่มเพาะมา นางวางแผนทุกอย่างมาครึ่งปีก่อน นางจะต้องตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันนี้ ซือหยูพูดเมื่อได้รับหัวใจ
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ามีศรทลายฟ้า?เจ้าเป็นคนนำกังต้าเหล่ยไปที่เขาห้าธาตุสินะ? เจ้ารู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าทำมาแล้วหรือ?”
เป็นเรื่องงว่ายที่วิหคเพลิงแห่งความตายจะควบคุมร่างไร้วิญญาณ
นี่ก็เป็นเหตุผลที่กังต้าเหล่ยที่ไร้วิญญาณจะขยับตัวได้อย่างอิสระ
เซี่ยนเอ๋อตาเป็นประกายนางพยักหน้า
“นี่คือวิถีเทพของพี่จิงหยู!พี่จิงหยูได้ฎีกาสวรรค์สืบทอดจากผู้อาวุโสเทียนจี่จื้อ ครึ่งปีก่อน นางพยากรณ์เหตุการณ์ในวันนี้ได้ นางจึงวางแผนล่วงหน้า ข้าพยายามสังหารราชาเขตกลางโดยการเป็นศิษย์ของเขา ถ้าแผนข้าล้มเหลว ข้าก็จะได้โลหิตเทพบ่มเพาะมาอยู่ดี นี่คือแผนของพี่จิงหยู นางรู้ทุกอย่างจากวิถีเทพของนาง!”
แผนที่วางเอาไว้เมื่อครึ่งปีก่อนหรือ?ซือหยูตกใจเมื่อได้รู้เรื่องราว ฎีกาสวรรค์ของเซี่ยจิงหยูจะต้องไปถึงระดับสูงมากแน่ มิเช่นนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะรู้ทุกอย่างตั้งแต่ครึ่งปีก่อน
นางถึงกับนำให้ซือหยูมาที่นี่ตามแผนของนาง
ในตอนนั้นซือหยูคิดถึงคำพูดของหยุนหยาซือที่บอกเขาว่าคนที่จะแก้วิบัติให้เขาได้นั้นเกี่ยวข้องกับ ‘วิหคเพลิง’
ฉินเซี่ยนเอ๋อกับเซี่ยจิงหยูไม่มีคำว่าวิหคเพลิงในนามแต่ฉินเซี่ยนเอ๋อมีพลังวิหคเพลิงแห่งความตาย และนางก็มีรอยปานรูปวิหคเพลิงที่หลังคออีกด้วย! ดังนั้นฉินเซี่ยนเอ๋อก็คือความหวังในการแก้ไขวิบัติของเขา
นางสองคนเร่ิมวางแผนเพื่อซือหยูเมื่อครึ่งปีก่อนเพราะพวกนางรักเขามาก
ชายที่มีคู่ชีวิตทั้งสองอย่างพวกนางย่อมไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้วในชีวิตนี้!
“ข้าจะใช้สายโลหิตนี้ได้ยังไง?”
ซือหยูถามเขารู้ว่ามันจะต้องใช้เวลาอย่างมากในการดูดซับมันด้วยหม้อเก้ามังกร และมันทำให้ผลของพลังลดลงด้วย
ฉินเซี่ยนเอ๋อตอบ
“พี่กินมันได้เลยหัวใจสตรีหยกสวรรค์เยือกแข็งคือวิชาชิงสายโลหิต มันกดพลังของสายโลหิตเทพเอาไว้ ใครก็ตามที่เป็นภูติสามารถกินมันได้โดยไม่มีอันตราย!”
ถ้าเช่นนั้น…มันก็ง่ายแล้ว!