The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1151 - ตั๋วเรือไปได้ทุกท
แต่ความตกใจของซือหยูก็หายไปอย่างรวดเร็วเมื่อคิดถึงการได้พบกับผู้คุมกฎ
“หากเจ้ารู้อยู่แล้วว่าปกป้องไม่ได้ใยต้องพยายามเป็นร้อยปีเพื่อฆ่าราชาเขตกลางเล่า?”
ซือหยูถามหากเทพกิเลนพูดเช่นนี้ เขาย่อมต้องมีแผนรองรับ
เทพกิเลนถอนหายใจ
“หนึ่งในเงื่อนไขของโลกถ้ำคือต้องมีทรัพยากรมหาศาลสำหรับเหล่าเทพ โลกถ้ำไม่ต่างจากแหล่งพลังเทพที่เข้มข้น การดูดซับโลกถ้ำสามารถเปลี่ยนเป็นแหล่งพลังเทพได้”
ซือหยูรู้จักสิ่งที่เรียกว่าโลกถ้ำอยู่แล้วสิ่งมีชีวิต พืชผัก ภูเขาและแม่น้ำ ทุกสิ่งล้วนถูกสร้างขึ้นโดยเทพที่สร้างโลกใบนั้นขึ้นมา ถ้าหากโลกถ้ำถูกชำระล้าง ตามทฤษฎี ผู้ที่ชำระล้างมันย่อมจะได้แหล่งพลังเทพที่เทพคนก่อนเคยมีไป
ยิ่งโลกถ้ำเจริญรุ่งเรืองเท่าใดแหล่งพลังเทพก็ยิ่งมากเท่านั้น ความล้ำค่าก็ยิ่งมากขึ้น
“ข้าตายไปหมื่นปีแล้วข้าส่งแหล่งพลังเทพของจิวโจวไปยังโลกถ้ำอีกเก้าสิบเก้าใบเล็กที่ข้าสร้างขึ้นมาตอนที่ข้ายังอยู่”
เทพกิเลนกล่าว
ซือหยูหัวใจหยุดเต้มเขาเรียกหอคอยร้อยชั้นออกมาและหัวเราะ
“ข้าเดินทางไปมาโดยพกโลกถ้ำร้อยใบเอาไว้งั้นเรอะ”
เขาจำได้ว่าหอคอยชั้นที่หนึ่งร้อยจะมีโลกถ้ำที่ขนาดเท่ากับโลกเฉินหลงอยู่ด้วย
ยกเว้นแต่ชั้นแรกอีกเก้าสิบแปดชั้นที่เหลือนั้นเหมือนกัน
“ใช่ถูกต้องแล้ว มีโลกเก้าสิบเก้าใบอยู่ในหอคอย”
เทพกิเลนกระพริบตามันปิดบังอะไรจากซือหยูไม่ได้อยาก มันอยากจะพูดต่อแต่ก็เกรงว่าซือหยูจะเดาได้
“แต่การเปลี่ยนถ่ายพลังไปยังโลกถ้ำนั้นต้องทำอย่างช้าๆ”
ซือหยูคิดอยู่ครู่หนึ่งและนึกถึงคำที่เทพกิเลนเคยพูดการสังหารอัจฉริยะในแดนมณีคือการช่วยเหลือพวกเขา เซียนมณีเองก็เป็นคนยืนยัน
“ในแดนมณีคนที่เข้าไปตายที่นั่นถูกย้ายไปในโลกในหอคอยไม่ใช่หรือ?”
ซือหยูยิ้มอย่างขมขื่น
เทพกิเลนโมโหเล็กน้อย
“เจ้าเดาได้ทุกอย่างแบบนี้ข้าจะยังรู้สึกเหนือกว่าเจ้าอยู่ได้ยังไงกัน?”
เทพกิเลนกลอกตา
“ใช่ทุกำคนที่ตายในแดนมณีถูกย้ายไปอยู่ในหอคอย มนุษย์ที่เจ้าเห็นในชั้นที่หนึ่งร้อยคือคนชุดล่าสุดแห่งจิวโจว พวกเขาใช้ชีวิตออกลูกหลานกันในโลกใบนั้น”
“แต่วิธีนี้มันช้าเกินไปข้าทำได้แค่ย้ายคนเก้าพันคนจากแดนหลักในทุกร้อยปี! แต่ถ้าเจ้ารีบ เจ้าก็ย้ายดวงวิญญาณทั้งหมดไปได้ แต่คนนอกจะต้องรู้แน่นอน ราชาเขตกลางก็เป็นหนึ่งในนั้น! ตอนที่ข้ารู้ว่าชีวิตในจิวโจวกำลังอ่อนแอลง มันก็เดาได้ว่าเป็นฝีมือข้า มันเลยรีบมาจิวโจวเพื่อที่จะขายจิวโจวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เทพกิเลนถอนหายใจยาว
“ข้ารู้สึกถึงเรื่องนี้ได้มานานแล้วยิ่งสหายข้าตายไปเท่าใด ก็ยิ่งมีพวกหมายปองจิวโจวมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะมีราชาเขตกลางคนที่สอง และวันหนึ่งเราจะรับไม่ไหวอีกต่อไป ข้าจึงอยากจะทำให้พวกที่หวังจิวโจวตกใจโดยการอพยพทุกคนออกจากจิวโจว!”
“แผนสังหารราชาเขตกลางจึงทำให้แผนเดินง่ายกว่าเดิมสินะ?”
ซือหยูคิดตามและเข้าใจเหตุผลที่เทพกิเลนนิ่งเงียบมาร้อยปี
เทพกิเลนตอบ “ใช่!ถ้ามันยังอยู่ แผนของข้าจะต้องถูกมันขัดขวาง ข่าวเรื่องสิ่งที่ข้าคิดจะถูกแพร่งพรายออกไป หลายคนอาจคิดฉวยโอกาส เจ้ากับข้าจะหยุดพวกมันไม่ได้อีก”
“ตอนนี้ราชาเขตกลางตายแล้วข่าวเรื่องความตายของมันยังไม่ไปถึงทั่วโลกถ้ำ เราจะเคลื่อนจิวโจวไปได้ จากนั้นเจ้าก็เอาหอคอยไป ปล่อยให้พวกที่หวังได้จิวโจวได้เพียงแต่เปลือกกลวงเปล่า”
เทพกิเลนอธิบาย
ซือหยูตกใจ
“โลกในหอคอยจะถูกย้ายไปตามที่จิวโจวถูกย้ายไปหรือไม่?”
“เจ้าไม่ต้องห่วงชั้นที่ร้อยคือโลกใบเล็กที่สุด ยิ่งลงไปมากเท่าใดจะยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น! ข้าคิดจะเปิดชั้นที่เก้าสิบเก้าและสร้างโลกที่ใหญ่ยิ่งกว่าจิวโจว ให้ใหญ่พอที่จะแบกรับทุกดวงวิญญาณในจิวโจว…”
เทพกิเลนกล่าว ซือหยูเห็นด้วยกับความคิดนี้เขากับเทพเฉินหลงฝังรากลึกในจิวโจวไปแล้ว พวกเขาจะยอมถูกเทพคนอื่นดูดซับแหล่งพลังเทพไปหรือ?
“แต่ก็ยังมีอีกสองปัญหา”
เทพกิเลนขมวดคิ้ว
“ประการแรกหอคอยร้อยชั้นกับจิวโจวมาจากมือข้า ถ้าเจ้าอยากจะเคลื่อนย้ายสิ่งใด มันก็มีเพียงแต่ดวงวิญญาณจากแหล่งพลังเทพของข้าเท่านั้นที่จะเข้าไปในหอคอยได้ ถ้าหากไร้ซึ่งพลังของข้า มันจะถูกหอคอยขับออก เท่าที่ข้ารู้ มีอยู่สี่กลุ่มในจิวโจวที่หอคอยรับไม่ได้”
ซือหยูหัวใจหยุดเต้นเขารู้ทันทีว่าสามกลุ่มคือกลุ่มใดบ้าง
มันคือเผ่าไม้ในป่าปีศาจร้างเพราะพวกเขาคือพลังจากภายนอก
ตระกูลตงฟางเองก็มีสายโลหิตจากเทพอสูรต้นตอของพวกเขาย่อมไม่ได้มาจากเทพกิเลน
ส่วนที่สามคือจ้าวผาบั่นภูติว่ากันว่าราชาเขตที่สิบได้ต่อสู้กับราชาเขตกลางด้วยตัวเองและพ่ายแพ้ในไม่นาน ซือหยูเพิ่งจะรู้ว่าจ้าวผาบั่นภูติสู้กับราชาเขตกลางได้ถึงห้าวัน ดังนั้นเขาจะต้องน่ากลัวมาก!! เขาจะต้องกำลังจะเป็นเซียนขั้นสูงสุดแน่นอน!
ส่วนกลุ่มสุดท้ายนั่นจะต้องเป็นเผ่าผีที่มาเพื่อช่วย หยุนหยาซือเองก็บอกว่ามีเซียนสิบเอ็ดคนในจิวโจว คนที่สิบเอ็ดจะต้องเป็นจักรพรรดิผีแน่นอน
“ทั้งสี่กลุ่มนี้มิอาจเข้าสู่หอคอยได้คนเหล่านั้นทำได้แค่หนีไปกับเจ้า”
เทพกิเลนกล่าว
หนีไปกับข้ารึ?ซือหยูจำข้อตกลงระหว่างเขากับจ้าวผาบั่นภูติได้ ถ้าหากเขาได้ตั๋วเรือ เขาจะต้องพาจ้าวผาบั่นภูติไปด้วย
ไม่ใช่ว่าสิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับตั๋วเรือหรือ? “เมื่อโลกจิวโจวถูกสร้างขึ้นเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้คนภายนอกรุกราน ทางเข้าจิวโจวถูกขวางกั้นไว้ ธารดาราไหลเข้ามาปิดทางเข้า มีสัตว์อสูรในธารดารานั้น ไม่มีใครนอกจากเทพที่จะข้ามธารดารามาได้”
เทพกิเลนกล่าวซือหยูแอบคิดถึงเรื่องในแดนตะวันตก มันคือพื้นที่หวงห้ามของจิวโจว มีสิ่งแปลกประหลาดมากมายที่นั่น ทั้งยังมีอสรพิษที่น่ากลัวมากอยู่ด้วย หรือว่านั่นจะเป็นทางเข้าจิวโจว?
“คนโลกภายนอกต้องการเข้าจิวโจวแต่ก็มีเพียงแต่ดวงวิญญาณที่ผ่านเข้ามาได้ จิวโจวปลอดภัยจากอันตรายมากมายโดยที่ไม่มีใครรู้ ถ้าไม่อย่างนั้น ที่นี่ก็คงถูกรุกรานหลายครั้งตั้งแต่ข้าตายแล้ว…”
เทพกิเลนอธิบายเพิ่ม
ซือหยูตัวแข็งทื่อไม่แปลกใจเลยที่ผู้คุมกฎมาได้เพียงร่างวิญญาณ เขาต้องรับมือกับสิ่งที่ปกป้องจิวโจวเอาไว้
แต่เซียนมณีกับราชาเขตกลางมาจิวโจวได้ทั้งกายหยาบนั่นหมายความว่าทั้งคู่จะต้องเป็นเทพ!
“แต่เมื่อคนนอกเข้าจิวโจวได้ยากมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนในจิวโจวจะออกไปจากโลกใบนี้ด้วย…”
เทพกิเลนกล่าว
นี่คือปัญหาคนที่เหลือในจิวโจวจะต้องถูกย้ายไปยังหอคอยทั้งหมด
และซือหยูจะต้องเป็นคนสุดท้ายที่หนีตามไป
แต่ซือหยูจะหนีจากสัตว์อสูรในแดนตะวันตกได้หรือ?
“โชคดีที่ข้าทำข้อตกลงไว้ในอดีตและทิ้งตั๋วเอาไว้”
เทพกิเลนหัวเราะเบาๆ มันอ้าปากคายภาพเขียนจากวัตถุดิบประหลาดออกมา
ซือหยูมองมันและเห็นคำว่า‘การเข้าถึงทั้งหมด’ เขียนเอาไว้ มันเป็นการเขียนด้วยพลังพิเศษเหมือนกับโลหิตของเทพแต่ก็แตกต่างในเวลาเดียวกัน มันดูแปลกประหลาดมาก
“นี่คือสีที่ผสมกับเลือดวิเศษและวัตถุดิบพิเศษพลังภายนอกมิอาจลอกเลียนได้ คำว่า ‘การเข้าถึงทั้งหมด’ คือคำเรียกเทพพ่อค้า หลังจากได้เป็นเทพ การค้าย่อมกระจายไปทั่วโลก เรือการค้าในจักรวาลเองก็เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของเทพพ่อค้า ตราบเท่าที่เจ้ามีตั๋วเรือนี้ เจ้าก็จะขึ้นเรือได้”
“เรือไปได้ทุกที่จะผ่านโลกจิวโจวเดือนละครั้งยังเหลือเวลาอีกเจ็ดวัน ตราบเท่าที่เจ้ามีตั๋วเรือ เจ้าจะเดินทางออกจากจิวโจวได้”
ซือหยูพูด
“เรือที่แล่นผ่านธารดาราหรือ?มันทนพลังของพวกสัตว์อสูรได้รึ?”
เทพกิเลนยิ้ม
“มันจะยากอะไรเล่า?เรือเดินทางข้ามจักรวาลต่อจากกระดูกเทพอสูร ยังมีค่ายกลเผ่ามนุษย์คอยปกป้องมันอีก ต่อให้เป็นเทพสัตว์อสูรก็ไม่กล้าเข้าใกล้!” เรือที่ต่อจากกระดูกเทพรึ?ซือหยูหายใจเข้าลึก
บางทีก็อาจจะมีเรือแบบนั้นเท่านั้นที่จะพาเขาหนีออกจากจิวโจวได้
“ตั๋วเรือหนึ่งใบจะให้หนึ่งคนใช้ได้เท่านั้นแต่ถ้าเจ้ามีทางเก็บคนที่เหลือ กัปตันเรือจะไม่สนใจเจ้า”
เทพกิเลนยิ้มและมองรอยสีเขียวบนแขนของซือหยู
เขาเป็นเทพจะไม่รู้ได้อย่างไร?สิ่งที่เรียกว่าช่องเก็บของนั้นก็คือโลกใบเล็กนั่นเอง
มันอาจจะไม่พอในการสะสมดวงวิญญาณหลายหมื่นดวงแต่มันก็มากพอที่จะพาคนหลายพันคนไป
“จัดการคนสี่กลุ่มนี้ให้ดีข้าเชื่อว่าพวกเขาจะให้ประโยชน์กับเจ้ามากมาย”
เทพกิเลนหัวเราะเมื่อแผ่นดินใหญ่ถูกย้ายไปแล้ว คนทั้งสี่กลุ่มนี้มิอาจหนีไปไหนได้ ถ้าซือหยูเต็มใจช่วย พวกเขาจะไม่มอบอะไรให้ซือหยูบ้างหรือ?
“ข้าจะเก็บตั๋วเอาไว้ก่อนเพราะข้ามีแค่ใบเดียว แต่ข้าจะมอบมันกับเจ้าในคราสุดท้าย! เอาล่ะ ยังเหลือเวลาอีกเจ็ดวัน ข้าจะเตรียมเคลื่อนทั้งแผ่นดินใหญ่ลงในหอคอย”
เทพกิเลนตะโกนและบินหายไป
เมื่อเห็นว่าเทพกิเลนเก็บตั๋วซือหยูก็ทำตาประหลาด
“ทำไมตั๋วนั่นถึงดูคุ้นนัก?”
“พี่ซือหยูพี่ดูดีใจนะ”
เซี่ยนเอ๋อวิ่งเข้ามานางแสยะยิ้มและคิดว่าซือหยูกำลังคิดถึงสิ่งใดอยู่
ซือหยูลูบหัวนาง
“พวกเรากำลังจะได้บ้านใหม่ข้าต้องดีใจอยู่แล้ว”
อพยพคนทั้งทวีปมุ่งหน้าสู่โลกใบใหม่ เรื่องใหญ่เช่นนี้ย่อมทำให้ทุกคนตื่นเต้น เขาจะไม่ดีใจได้หรือ? เซี่ยนเอ๋องุนงงย้ายบ้านใหม่รึ?
“เซี่ยนเอ๋อจิงหยูอยู่ที่ไหนล่ะ? เจ้าไม่ไปหานางรึ?”
วิกฤติของซือหยูหายไปแล้วเขาไม่มีอะไรต้องกังวลอีก สุดท้ายเขาถึงถามเรื่องเซี่ยจิงหยู
เขาคิดว่าเซี่ยนเอ๋อจะไม่พอใจแต่เซี่ยนเอ๋อกลับพูดอย่างไม่คิดอะไร
“พี่จิงหยูจากไปตั้งแต่ครึ่งปีก่อนหลังจากวางประตูมิติ”
จากไปรึ?นางไปอยู่ที่ใดกัน? ซือหยูเดินทางมาทั่วแผ่นดินจิวโจว ด้วยสัมผัสของเซียน เขาย่อมต้องรู้ว่าเซี่ยจิงหยูอยู่ที่ไหนนอกจากนางจะซ่อนตัวอยู่ตลอดเวลา
มีความเป็นไปได้เดียวที่เขายังไม่หา…นั่นก็คือแดนตะวันตก!
เซี่ยจิงหยูอยู่ที่นั่นหรือ?