The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1152 - จากดักแด้เป็นผีเสื้อ
“พี่ซือหยูไม่ต้องห่วง!พี่จิงหยูบอกข้าว่านางรู้จุดหมายของนางก่อนที่นางจะไป บางทีเราอาจจะได้เจอนางในที่ที่เราไม่คาดคิดก็ได้ แผ่นหยกชีวิตของนางยังทำงานดีอยู่เลย!”
เซี่ยนเอ๋อพูด
ซือหยูถามด้วยความแปลกใจ
“แล้วนางไปไหน?ทำไมนางถึงไปล่ะ?”
เซี่ยนเอ๋อนิ่งไปชั่วครู่และพูดด้วยความลังเล
“พี่จิงหยูบอกข้าว่านางจะต้องเป็นวิบัติของพี่ถ้าหากนางไม่ไป พี่จะตาย พี่จิงหยูเลยเลือกหนีไปคนเดียวเพื่อหาทางแก้วิบัติของพี่!”
“นางคือวิบัติของข้ารึ?”
ซือหยูตกใจในคำพูดของเซี่ยนเอ๋ออย่างมาก
เขาแปลกใจเพราะเขาคิดว่าเซี่ยนเอ๋อคือวิบัติความสัมพันธ์ของเขา
ซือหยูห่วงจิงหยูมากโชคดีที่นางยังมีชีวิตอยู่ หมายความว่าการพยากรณ์ของนางเมื่อครึ่งปีก่อนถูกต้อง และนางก็ปลอดภัยด้วย
“เซี่ยนเอ๋อข้า…”
ซือหยูรู้สึกโล่งใจหลังจากผ่านอันตรายมากได้เขาตัดสินใจจะบอกสิ่งที่อยู่ในใจกับเซี่ยนเอ๋อ
แต่เซี่ยนเอ๋อก็จรดดัชนีที่ริมฝีปากซือหยูนางพูดอย่างเขินอาย
“อย่าพูดนะ!ข้าไม่ได้หลับตอนที่พี่พูด ข้าได้ยินแล้ว!”
อะไรนะ?ซือหยูตกใจอีกครั้ง
“ข้าดีใจที่ได้ยินนะ!”
เซี่ยนเอ๋อรวบรวมความกล้ามองตาซือหยูด้วยความรัก
“ข้ารู้สึกติดค้างพี่กับพี่จิงหยูตลอดมาข้ารู้ว่าพี่สองคนรักกันมาก แต่ข้าก็เป็นภรรยาของพี่ได้! ข้ามันเห็นแก่ตัว!” “ข้าดีใจที่พี่จิงหยูให้อภัยข้าข้าไม่ขออะไรจากพี่อีกแล้ว ข้าดีใจที่พี่บอกวันนั้น แต่ข้าก็กังวลยิ่งนักว่าผู้หญิงเห็นแก่ตัวอย่างข้าสมควรแก่ความรักของพี่หรือไม่!”
ซือหยูกอดเซี่ยนเอ๋อที่กำลังร้องไห้แน่นเขาพูดด้วยความรัก
“เจ้าโง่!ข้าเคยหลอกเจ้าหรือ?”
เซี่ยนเอ๋อเช็ดน้ำตานางก้มหน้า
“ข้าสวยน้อยกว่าอ่อนแอกว่า พึ่งพาไม่ได้ ไม่เหมือนพี่จิงหยู!”
“พี่ซือหยูพูดแบบนั้นเพราะรักข้าจริงๆ หรืออยากจะปลอบข้ากัน?”
เซี่ยนเอ๋อรู้สึกผิดในใจมาโดยตลอด
สำหรับซือหยูเซี่ยจิงหยูเหมือนดั่งหยกล้ำค่า ไม่มีสตรีใดเทียบกับนางได้
จิงหยูยังคงเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งในใจของเขา
“แต่เจ้ามีหนึ่งอย่างที่เหมือนกัน!” ซือหยูเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเซี่ยนเอ๋อ
เซี่ยนเอ๋อเงยหน้า
“อะไรหรือ?”
“ความรักที่เจ้ามีให้ข้ายังไงล่ะ!”
ซือหยูจิ้มอกนางด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยนเอ๋อยิ้มอย่างพอใจทั้งน้ำตานางหน้าแดงระเรื่อ นางฝังใบหน้าลงในอ้อมอกของซือหยูด้วยความเขินอาย
“พี่…พี่แตะหน้าอกข้า…”
คำพูดของนางทำให้ซือหยูรู้ตัวว่าปลายนิ้วของเขาได้สัมผัสบางอย่างที่เนียนนุ่ม
…
หลังจากพักได้ครึ่งวันซือหยูเข้าไปยังมุกวิญญาณเก้าหยก
เขาพบจางตี๋เก้อกำลังแหย่ผีเสื้อหลากสีข้างสวนอยู่
ซือหยูตกใจเล็กน้อยเพราะเขาไม่ได้นำผีเสื้อใส่มาในที่นี่เลย “นายท่าน!”
จางตี๋เก้อกระโดดขึ้นด้วยความดีใจผีเสื้อหลากสีบินมาที่ไหล่ของนางอย่างใกล้ชิด ดูเหมือนว่ามันจะชอบนางมาก
แต่ผีเสื้อค่อนข้างระแวงซือหยู
“นี่มันอะไรกัน?”
ซือหยูถามและมองผีเสื้อ
จางตี๋เก้อพูดด้วยความดีใจฃ
“ยินดีด้วยนายท่าน!ผีเสื้อโกลาหลออกมาจากดักแด้แล้ว!”
อ๊ะ!ซือหยูตกใจ เขามองผีเสื้อโกลาหลตาไม่กระพริบเพราะมันคือหนอนโบราณที่มิอาจหาได้จากจักรวาลอีกแล้ว!
พวกเขาเจอมันในเมล็ดไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์จากนั้นมันก็ปั่นเส้นไหมมาเป็นอาวุธให้ซือหยู
ซือหยูไม่คิดเลยว่าหลังจากผ่านไปหลายปีมันจะกลายมาเป็นผีเสื้อ จางตี๋เก้อดูแลมันในตอนที่มันออกจากดักแด้ดังนั้นมันเลยสนิทกับจางตี๋เก้อมาก
“นายท่านมันแข็งแกร่งมาก มันบอกข้าว่ามันกินอะไรก็ได้!”
จางตี๋เก้อพูดด้วยความดีใจ
เมื่อได้ฟังซือหยูหันไปมองสวน สีหน้าเขาหม่นหมอง สิ่งที่ผีเสื้อบอกนั้นถูกต้อง!
สมุนไพรล้ำค่ามากมายที่มีอายุมากกว่าพันปีถูกมันกินไปแล้ว
แม้แต่ต้นทับทิมวิญญาณขนนกที่อายุเกินหมื่นปีก็ถูกผีเสื้อโกลาหลกินไป
ทั้งสวนยุ่งเหยิงไปหมด!
โชคดีที่ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์อายุราวแปดร้อยปียังคงอยู่
จางตี๋เก้อแลบลิ้น
“ท่านสั่งให้ข้าทำภารกิจในครั้งที่แล้วพอข้ากลับมา ที่นี่ก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว ข้าหยุดมันทันในตอนที่มันกำลังจะกินไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ ข้าเลยให้มันกินอย่างอื่น แต่ข้าก็หาอะไรที่นี่ไม่ได้มาก…”
ซือหยูเส้นเลือดปูดโปนที่หน้าผากเขาจ้องผีเสื้อโกลาหลด้วยความโมโห
“เจ้าผีเสื้อโกลาหล!เจ้ายิ่งใหญ่นักหรือ? ทำไมเจ้าถึงตะกละตะกลามนัก?”
แม้ว่าสมุนไพรในสวนจะไม่มีประโยชน์กับซือหยูเขาก็ปลูกมันจนมีอายุอย่างน้อยพันปี เขาไม่คิดเลยว่าสมุนไพรเหล่านั้นจะถูกกินไปจนหมด
และเขาก็ไม่คิดว่าหนอนขี้เกียจจะฉลาดขึ้นหลังจากกลายเป็นผีเสื้อมันเข้าใจคำพูดของซือหยูและสะบัดปีกใส่ซือหยูด้วยความโมโห
ท่าทางโมโหของมันทำให้ซือหยูยิ้มออกแต่เขาก็ชักสีหน้าในเวลาต่อมา
ร่างกายเซียนของเขาที่อยู่นอกมุกวิญญาณเก้าหยกแตกหักไปหลายส่วน!
เขาไม่คาดคิดเลย!
จางตี๋เก้อตะโกนทันที “หยุดนะ!ทำอะไรของเจ้า? กล้าดียังไงมาทำร้ายเจ้านายข้า?”
ผีเสื้อโกลาหลหุบปีกอย่างไม่เต็มใจและจ้องมองซือหยูอย่างโอหัง
ซือหยูแปลกใจเขาฟื้นฟูร่างกายด้วยหัวใจนิรันดร์ของตัวเอง
เมื่อขเามองผีเสื้อหลากสีอีกครั้งในใจก็ตกใจมาก แมลงนี้สามารถทำลายร่างกายของภูติขั้นสูงสุดได้จากการสะบัดปีก! นี่จะใช่พลังเต็มที่ของมันรึ?
จางตี๋เก้อตกใจนางรีบขอโทษขอโพย
“ข้าขอโทษนายท่าน! โปรดลงโทษข้าเถอะ!”
ซือหยูโบกมือด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าๆๆๆๆ!เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย! เจ้าทำดีมากที่ดูผลผีเสื้อตัวนี้!”
ซือหยูผนึกพลังเซียนลงในศีรษะของจางตี๋เก้อก่อนที่ระดับพลังของเขาจะลดลง
“พลังเซียนเท่านี้ควรจะมากพอให้เจ้าได้กลายเป็นอสูรเนรมิตร!”
จางตี๋เก้อดีใจมากพลังเซียนขั้นสูงสุดนั้นมากเกินพอที่นางจะเป็นอสูรเนรมิตรเสียอีก! บางทีนางอาจจะเป็นอสูรเนรมิตรขั้นสูงสุดก็ได้!
“หากมันชอบเจ้าเช่นนี้เจ้าก็ดูแลมันให้ดี!”
ซือหยูพูด
จางตี๋เก้อกลอกตา
“นายท่านผีเสื้อบอกข้าว่ามันจะโจมตีได้หลังจากดูดซับพลังมากพอ การโจมตีเมื่อครู่ของมันทำให้พลังที่มันดูดซับมาหายไป!”
อย่างนั้นรึ?ซือหยูไม่แปลกใจ การโจมตีอันน่ากลัวของมันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ มันจะต้องเป็นพลังที่ได้จากการดูดซับสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้น
“ดี!ข้าจะให้เจ้าอยู่ในแดนมณี เจ้านำของล้ำค่ามาไว้ในสวน และเจ้าก็ต้องเลี้ยงดูผีเสื้อต่อไป!” จางตี๋เก้อดีใจอีกครั้ง
ซือหยูเริ่มเปลี่ยนแปลงภายในมุกวิญญาณเก้าหยกเขาวางดินเพาะบ่มขั้นสูงกับกระท่อมจิ้งจอกเก้าหางในพื้นที่ปิดขนาดเล็ก ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะถูกใช้เพื่อกักเก็บผู้คน
เขายังเหลือเวลาอีกหกวันมากพอที่เขาจะจัดการคนที่เหลือให้พร้อม
เมื่อวิญญาณคืนร่างซือหยูเดินไปหาจักรพรรดิผีด้วยความเป็นห่วง
“ข้ามีคำถามเจ้าตอบได้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินจักรพรรดิผีตาลุกวาว เขารู้แผนของเทพกิเลน ซือหยูคือผู้ที่จะได้ตั๋วเรือ ซือหยูต้องตัดสินใจว่าจะพาเขาไปด้วยหรือไม่
“โปรดบอกสิ่งที่ท่านคิดมาเถิด!”
จักรพรรดิผีพูดอย่างอ่อนน้อม
“บอกข้าได้หรือไม่ว่าเหตุใดเจ้าถึงดึงดันที่จะช่วยเขตกลาง?”
เขาคือเผ่าผีจักรพรรดิผีนี้ต่อสู้อย่างกล้าหาญเสียยิ่งกว่าคนจิวโจว เมื่อได้ฟังจักรพรรดิผียิ้มแหย ๆ
“เพราะข้าไม่มีที่ให้กลับ!ท่านพ่อข้าเป็นเทพเผ่าผี มีลูกชายสามคน ข้าเปห็นคนสุดท้อง เราสามคนถูกท่านพ่อทดสอบ คนที่ผ่านจะได้รับการช่วยเหลือให้กลายเป็นเทพผีคนใหม่!”
“แต่ข้าเป็นคนที่ฉลาดน้อยที่สุดข้าเทียบกับท่านพี่สองคนไม่ได้เลย ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากทำเรื่องที่ยากที่สุดก็คือการช่วยจิวโจว ท่านพ่อถึงจะยอมรับข้าเพราะเทพผีกับเทพกิเลนเป็นสลายเก่ากัน แต่ข้าก็ไม่คิดว่าเรื่องในจิวโจวจะซับซ้อนเช่นนี้ ครั้งนี้ ข้าล้มเหลวในการเป็นตัวช่วยหลักของจิวโจว ข้าเกรงว่าข้าจะไม่ได้รับการยอมรับจากท่านพ่อในตอนที่ข้ากลับตระกูล!”
มันคือการแก่งแย่งบัลลังก์ของเหล่าองค์ชายนั่นเอง!
“แล้วทำไมเจ้าต้องให้พ่อช่วยด้วยเล่า?เจ้าเป็นเทพได้ด้วยตัวเอง!”
เทียบกับคนทั่วไปจักรพรรดิผีที่มีสายโลหิตเทพนั้นสามารถเป็นเทพได้อย่างไม่ยาก ซือหยูไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องอยากได้รับความช่วยเหลือจากพ่อ
จักรพรรดิผีค่อนข้างตกใจนางนั้นเขาก็คิดในใจว่ามันไม่มีทางง่ายในการเป็นเทพ! ต่อให้ได้รับความช่วยเหลือเต็มที่จากเทพผีก็ยังเป็นเรื่องยาก ยิ่งเป็นเทพด้วยตัวเองยิ่งเป็นไปไม่ได้!
แต่เขาไม่รู้เลยว่าจะพูดอย่างไรเมื่อซือหยูยืนอยู่ตรงหน้า
ซือหยูสามารถเลื่อนระดับตัวเองจนสูงส่งจากเป็นคนธรรมดาซึ่งมันก็ยากพอ ๆ กับการเป็นเทพด้วยตัวเอง!
หลังจากครุ่นคิดจักรพรรดิผีพูดยอ่างตรงไปตรงมา
ถ้าเขากลับตระกูลเขาก็คงไม่มีทางได้รับการยอมรับ เขาขออยู่ในโลกใบนี้จะดีกว่า ถ้าซือหยูทำได้ แล้วทำไมเขาจะทำไม่ได้?
“ท่านซือขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ! ข้าดีใจนักที่ยอมให้ข้าไปกับท่าน!”
ซือหยูพูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้ายินดีต้อนรับเจ้า!เจ้าต่อสู้กับจิวโจวมาร้อยปี ข้าย่อมไม่ทิ้งเจ้า!”
เขาไม่รู้อะไรเลยในเรื่องโลกภายนอกบุตรชายของเทพผีจะต้องช่วยเขาได้มากแน่นอน
ด้วยทางนี้ซือหยูก็ทำข้อตกลงกับเผ่าผีได้แล้ว เขาเดินไปหาเซียนขาวดำ
“ผู้อาวุโส…”
ซอืหยูพูดและกำลังจะคุกเข่าแต่เซียนทั้งสองหยุดเขา
“ซือหยูการคุกเข่าของเจ้ามากเกินไปสำหรับเรา!”
เซียนขาวพูดด้วยความอับอายซือหยูช่วยชีวิตพวกนาง และเขาก็คือวีรบุรุษที่สังหารราชาเขตกลาง ตระกูลบูรพาหวังพึ่งพาซือหยูในการหนีไปจากที่นี่ พวกนางจะกล้ารับการคุกเข่าจากซือหยูหรือ?