The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1188 - บังคับให้ติดกับดัก
DND.
“เขายังพาหวังยุ่นเสวียนออกมาจากโลกเทพอุปกรณ์ด้วยความตั้งใจยังไม่เป็นที่แน่ชัด เขาอยู่ในเรือนหวังยุ่นเสวียนมาสิบห้าวัน เราไม่รู้เลยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่”
“สรุปแล้วซือหยูมีความลับที่เราไม่รู้ ข้าจึงคิดว่าควรเพิ่มระดับความยากไปอีกสองระดับ ให้เทียบเท่ากับว่าที่เทพ!”
บุรุษทำเสียงในคอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“เอาอย่างนั้นก็ได้เราวางเขาเป็นเหยื่อระดับสี่! แต่ในระดับสี่ เจ้ากับข้าต้องใช้พลังมากกว่าครึ่ง”
สตรีตอบ
“ลูกค้าเราวางค่าหัวอย่างเอื้อเฟื้อเช่นนี้ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะต้องระวังตัวขึ้นอีกเท่าไหร่! ไปกันเถอะ! ไปเรือนตระกูลเทพกระเรียน!”
แต่ทันทีที่พวกเขาาถึงเรือนตระกูลเทพกระเรียนพวกเขาก็ได้ข่าวเรื่องที่อยู่ของซือหยูในทันที
ซือหยูตอนนี้อยู่ที่โลกเทพจิง!
พวกเขาอยู่ด้านนอกเรือนเทพกระเรียนทั้งสองครุ่นคิด
บังเอิญหรือเมื่อในทันทีที่พวกเขามาถึง ซือหยูก็ไปที่โลกเทพจิง? หรือว่าพวกเขาจะถูกเจอตัวแล้ว?
แต่เคราะห์ดีที่มีเหตุผลดีที่ซือหยูจะไปโลกเทพจิง
บุตรของเทพกระบี่ท้าประลองเขาและเทพที่จะมาชมการประลองจะต้องมีอีกหลายคน
เพราะเทพกระบี่นั้นอยู่อันดับหนึ่งในเก้าเทพสูงสุดพ่อของเขาจำเป็นต้องสนับสนุนอยู่แล้ว
เทพที่เทพกระบี่เจอมักจะให้ความนับถือแก่เขาและสนับสนุนบุตรชายของเขาด้วย
หากเป็นฝ่ายท้าประลองถ้าไม่เชิญเทพมาให้กำลังใจ ก็คงจะเป็นการเสียหน้า
เมื่อรู้เช่นนี้มือสังหารทั้งสองจึงคิดดูใหม่
“เป็นเรื่องงานที่จะฆ่าซือหยูในโลกเทพกระเรียนแต่ในโลกเทพจิง เราจะถูกเปิดโปงได้ง่าย ๆ! ว่าที่เทพอย่างเรา หากก้าวไปที่โลกเทพจิง เทพจิงจะสัมผัสเราได้! ถ้าเราอยากจะฆ่าซือหยูด้วยตัวเอง มันจะยากยิ่งกว่าเดิม!”
บุรุษกล่าว
เขาหยุดคิดจากนั้นจึงพูดต่อ
“เราฆ่ามันในโลกเทพกระเรียนได้เท่านั้นในโลกใบอื่นจะมีเทพอื่นสัมผัสได้ เราจะทำอะไรไม่ได้เลย! มีแต่โลกเทพกระเรียนที่ไร้ซึ่งเทพ เราต้องรอเท่านั้น”
สตรีมิได้พูดตอบนางขมวดคิ้วเล็กน้อย การรอคอยเช่นนี้ทำให้นางไม่สบายใจ
“เขาจงใจงั้นหรือ?”
ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นในใจนางแต่นางก็สลัดความคิดทิ้งไปทันที นางคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น
ไม่ดีเลยที่พวกเขาทั้งสองได้แต่ซุ่มรอโดยไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าหา
ในไม่ช้าทั้งคู่ได้รอมาหนึ่งเดือนเต็ม
ที่ห้องลับมือสังหารทั้งสองใบหน้าไม่สู้ดี
“แปลกจริงเขาเดินทางไปหนึ่งเดือนแล้วยังไม่กลับมา มีเรื่องแปลก ๆ กำลังเกิดขึ้น…”
บุรุษกล่าว
สตรีพยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่!หากเราช้าลงไปเรื่อย ๆ ไม่นานจะมีเทพมาที่โลกเทพกระเรียน แล้วตัวตนของเราจะถูกสัมผัสได้! ถ้าเราผลีผลาม เราก็ตายแน่นอน! ก่อนที่เขาจะกลับมา เราต้องระวังตัวและหยุดเคลื่อนไหว!”
นางรู้สึกเฉื่อยชามากขึ้นเรื่อยๆ
มีเรื่องอื่นที่ทำให้นางกังวลยิ่งกว่า
“แล้วก็หลังจากวันประลองคือวันที่เทพจะมาบูชายัญ ตอนนั้นซือหยูก็จะไปที่แท่นบูชาแห่งพันธมิตรบูรพาเพื่อคารวะเทพผู้ล่วงลับ! เวลาส่วนใหญ่ของเขาก็จะอยู่ใกล้ชิดเทพจิง เราจะเสียโอกาสลงมืออีกครั้ง!”
มือสังหารชายเองก็รู้สึกว่าเขาทำอะไรไม่ได้
“เราต้องรอจนงานบูชายัญเทพจะจบลงก่อนที่จะลงมือหรือ?”
เขาพูด
“งานบูชายัญเทพอาจสั้นได้ถึงครึ่งปีแต่ถ้านานก็นานได้ถึงสิบปี! ลูกค้าให้เวลาเราครึ่งปีเท่านั้น! กว่าจะมาถึงนี่เราก็ใช้เวลาสามเดือนแล้ว เราใช้อีกสองเดือนหาข่าว เราเหลือเวลาเดือนเดียวเท่านั้น แต่ไม่มีทางที่เขาจะผละตัวออกมาจากเทพ!”
สตรีพูดช้าๆ
“เรามีโอกาสเดียวเท่านั้น!”
บุรุษเองก็คิดได้เหมือนนาง
“วันหลังจากประลอง!”
นางพยักหน้า
“ใช่!หลังประลองจบ พวกเทพจะกลับ และซือหยูก็ยังไม่มีเวลาไปโลกใบอื่น ทันทีที่เทพจากไป เราจะลงมือ!”
บุรุษตอบนางหลังจากคิดไม่นาน
“นั่นคือโอกาสเดียวของเรา”
แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ขมวดคิ้วแน่น
“เจ้าไม่รู้สึกหรือว่าแผนลอบสังหารของเขากำลังถูกคนอื่นบงการอยู่?”
ในทีแรกพวกเขาถูกบังคับให้ต้องออกจากตลาดมืดและมิอาจหาข่าวที่เชื่อถือได้
ต่อมาพวกเขาก็ถูกบังคับให้รอซือหยูกลับมาแต่พวกเขาก็ต้องพลาดโอกาสลอบสังหารไปเพราะการประลองของซือหยูกับปู้หลูยี่
สุดท้ายหลังจากประลองจบ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็คืองานบูชายัญเทพ พวกเขาถูกบังคับให้ทิ้งโอกาสลอบสังหารทั้งหมดโดยเหลือโอกาสสั้น ๆ เพียงครั้งเดียว!
“ข้าว่า…โอกาสเดียวที่เรามีก็คือโอกาสที่เขาจงใจเหลือเอาไว้ให้กับเรา!”
นางพูดอย่างเคร่งเครียด
“พวกเราได้แต่รอขณะที่เขาเป็นฝ่ายชี้นำเรา!”
บุรุษเองก็เห็นด้วยตามที่นางวิเคราะห์
“แต่เราไม่มีทางเลือกถ้าเราไม่ใช้โอกาสนั้น ภารกิจนี้ก็จะถูกประกาศว่าล้มเหลว! สำนักนรกไม่มีวันออกภารกิจที่ทำไม่ได้! หากเราล้มเหลว เราจะถูกลงโทษหนักกว่าหากกลับไป”
นางไม่ค่อยพอใจนัก
“เรื่องนี้แหละที่ข้ากังวลเราจำเป็นต้องทำ!”
มือสังหารทั้งสองรู้ว่าซือหยูวางกับดักภายใต้แผนของซือหยู พวกเขาได้เปลี่ยนจากมือสังหารที่จะลงมือก่อนไปสู่ผู้ที่รอทำตามแผนของเหยื่อ
ต่อให้พวกเขารู้ว่ามีกับดักอยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ต้องฝ่าฟันเข้าไป!
“อย่าห่วงนักเลยถ้าไร้เทพกับว่าที่เทพ มันจะรอดไปได้หรือ?”
บุรุษปลอบใจสตรีมือสังหาร
นางถอนหายใจ
“ข้าก็หวังเช่นนั้น!แต่ข้ารู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าคนที่วางแผนเรื่องนี้น่ากลัวมาก!”
ในฐานะของว่าที่เทพที่เป็นมือสังหารเลือดเย็นนางไม่อยากจะเชื่อว่านางพูดแบบนั้นออกมา!
ซือหยูอยู่ในโลกเทพจิงทั้งเดือนแม้เทพจิงจะรู้สึกว่าแปลก เขาก็ไม่ไล่ซือหยูไป เขาทิ้งซือหยูให้บ่มเพาะตามลำพัง เขายังให้ทรัพยากรกับซือหยูเป็นพิเศษอีกด้วย ด้วยความช่วยเหลือเช่นนี้ ซือหยูได้ทะลวงพลังอีกครั้งและกลายเป็นอสูรเนรมิตรขั้นสี่
ในรุ่งสางวันประลองเขาตัดสินใจกลับโลกเทพกระเรียนกับเทพจิงเมื่อแน่ใจว่าเทพที่มาชมการประลองมาถึง
ณตำหนักเทพกระเรียน ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ทุกแห่งถูกทิ้งร้าง
แต่ที่เหนือโลกทเพกระเรียนนั้นมีมุมมองที่มิอาจมองทะลุได้มีเทพราวเก้าคนกระจายตัวอยู่ทั่วทิศ
แต่ละคนปล่อยพลังที่ทำให้ทุกสิ่งเลื่อมใสออกมาพลังเทพปิดบังใบหน้าพวกเขาเอาไว้ ไม่รู้เลยว่าเทพคนใดมาที่นี่
มีบรรดาเทพเหล่านั้นมีอยู่คนหนึ่งที่มีกระบี่ยาวที่แผ่นหลังเขาก้มลงมองอย่างไร้อารมณ์ ส่วนเทพที่เหลือนั้นเว้นที่ให้เขาอยู่ตรงกลาง พวกเขากระจายตัวรอบ ๆ รอคอยให้การประลองเริ่มขึ้น
ไม่นานเทพจิงกับซือหยูได้เดินทางมาถึง
ซือหยูปรากฏตัวที่กลางทุ่งร้างต่อหน้าศัตรู เขาหมดโอกาสชนะ เขาทำได้เพียงชี้นำศัตรูให้เดินตามตาหมากที่เขาต้องการ
เขาวางแผนอยู่เพียงลำพังและทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น
ซือหยูยิ้ม
“อีกไม่นานตอนที่พวกเทพกลับไป นั่นจะถึงเวลาที่สำนักนรกลงมือสินะ? ข้าเตรียมของขวัญให้พวกเจ้าเยอะดีเดียว อย่าพลาดซะล่ะ!”
แม้แต่ในตอนนี้ซือหยูก็ไม่สนใจการประลองที่จะมาถึงแม้แต่นิดเดียว!
สิ่งที่เรารอคอยมานานคือการต่อสู้เพื่อสังหารว่าที่เทพหลังจากการประลอง!