The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 308
“หยุนเซี่ยง ตู่หลง เจ้าตำหนักฉีหลาน พวกเจ้าหนีไปคนละทาง คนที่หนีไปได้คือคนที่จะรอด!”
ซือหยูสีหน้าหม่นหมอง
ผู้ตรวจการไป่ฮีกล้าเข้ามาขวางทางพวกเขา เขาเตรียมจะสังหารทุกคนเพื่อปิดปากอยู่แล้ว
แต่ถ้าหากสามคนหนีไปคนละทาง ก็จะมีโอกาสที่หนึ่งคนจะรอดไปได้
ถ้ามีหนึ่งคนรอดออกไปผู้ตรวจการไป่ฮีก็อาจจะไม่ฆ่าซือหยู เพราะเรื่องของเขาอาจจะถูกเปิดโปงได้!
“ข้าไม่ให้พวกเจ้าไปไหนทั้งนั้น! ใครที่กล้าหนีจะถูกลงโทษ!”
ผู้ตรวจการไป่ฮีเตือน
ฮั่วฉีหลานโกรธเกรี้ยว
“ไอ้แก่ เจ้าไม่รู้จักความละอายเลยรึ?”
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาลอบโจมตีและใช้ความผิดป้ายสีเพื่อที่จะสังหารคน เรื่องที่ทนไม่ได้จริงๆก็คือการที่เขาต้องการจะเก็บพวกซือหยูทุกคน แต่เขากลับพูดว่าทำไปเพราะเป็นตัวแทนแห่งกฎ!
“ไป!”
ฉีหยุนเซี่ยงกับคนที่เหลือนั้นคิดอ่านได้เร็ว พวกเขาเขาใจทันทีว่าถ้าหากหนีไปได้ ซือหยูก็จะมีโอกาสรอด
ฟึ่บ ฟึ่บ–
ทั้งสามพุ่งออกไปคนละทิศทาง
ซือหยูบินไปในทางตรงข้ามจากทั้งสาม
แม้แต่ผู้ตรวจการไป่ฮีก็ไล่ตามพวกเขาทั้งสี่คนไม่ได้
แต่ผู้ตรวจการไป่ฮีไม่ได้ไม่พอใจเลย เขายิ้มอย่างเย็นชา
“ถ้าผู้ตรวจการอย่างข้าปล่อยให้เจ้ารอดไปได้ ข้าก็จะกลายเป็นเรื่องตลกของคนทั้งโลก!”
“ร่างเงาระดับสอง!”
ซ่า—
พลังวิญญาณหนึ่งในสามของผู้ตรวจการไป่ฮีถูกปล่อยออกมาเป็นร่างมนุษย์
รูปร่างนั้นส่วนใหญ่เทียบเท่ากับผู้ตรวจการไป่ฮี และพลังก็ไปถึงอำมฤษระดับสี่!
ร่างเงาที่สร้างจากพลังวิญญาณงั้นรึ?
ฟึ่บ ฟึ่บ–
ร่างเงาของเขาบินไปทางฮั่วฉีหลานและใช้ร่างหลักไล่ตามซือหยูพร้อมกับหัวเราะอย่างเลือดเย็น
“เจ้ากบฏ ข้าจะต้องลงโทษเจ้า!”
แต่ฮั่วฉีหลานนั้นโชคร้าย วิชาเคลื่อนไหวของร่างเงานั้นเหนือว่านางทำให้นางถูกจับในทันที
สีหน้านางขมขื่น ฮั่วฉีหลานกำลังจะร้องไห้
“เจ้าตามข้ามาทำไม? เจ้าคนชั่วช้า!”
ครืน—
ร่างเงาจู่โจมอย่างไร้ปรานี ดัชนีซัดไปที่แผ่นหลังของฮั่วฉีหลาน
แต่ก่อนที่ฮั่วฉีหลานกำลังจะถูกสังหาร…
พรึ่บ—
ร่างมนุษย์โปร่งใสปรากฏตัวขึ้นมา
เสียงหัวเราะแหบแห้งดังมาจากร่างนั้น
“หึหึหึ….ผู้ตรวจการไป่ฮีจะต้องอารมณ์ดีนักถึงได้ซัดพลังอย่างไร้ปรานีกับพวกเด็กๆ ทำไมถึงไม่ลองกับข้าดูเล่า?”
ร่างเงาเงยหน้า พลังวิญญาณในร่างสั่นไหวและสลายไป
ซ่า—-
ร่างโปร่งใสกลายเป็นหยดพิรุณนับล้านร่วงหล่นสู่ธรณี
ท้องนภาเต็มไปด้วยพิรุณเย็นยะเยือก ร่างเงาไร้ที่หลบซ่อนและถูกทะลวงโดยหยดพิรุณ
สุดท้ายร่างเงาก็สลายไป
ที่อีกด้าน ซือหยูหนีไปได้ไม่ไกลนักผู้ตรวจการไป่ฮีก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า
“เจ้าหนู เจ้าคิดว่ารองเจ้าตำหนักอย่างเจ้าจะหนีจากข้าไปได้เมื่อข้าคิดจะจับตัวเจ้างั้นรึ?”
จิตสังหารอยู่ในแววตาของเขา
“เจ้าฆ่าหัวหน้าองครักษ์ของข้า โต้เถียงข้า ท้าทายอำนาจข้า ตายเป็นร้อยครั้งก็ยังชดใช้บาปของเจ้าไม่ได้!”
จิตสังหารเข้าจู่โจมซือหยู เขาหัวใจเต้นระรัว
การเจอกับชายผู้นี้เพียงคนเดียวนั้นย่ำแย่ยิ่งกว่าฮั่นเจียงหลินเสียอีก!
ชายคนนี้ระดับสูงกว่าฮั่นเจียงหลินมาก!
“หึหึ ในที่สุดเจ้าก็เลิกอ้างความยุติธรรมแล้วรึ? ท้ายสุดเจ้าก็ต้องการฆ่าข้าเพื่อกอบกู้หน้าเจ้ากลับมา”
ซือหยูเยาะเย้ยโดยไร้ซึ่งความกลัว
ด้วยจิตสังหารเช่นนี้ การแสดงความอ่อนแอและเรียกหาความเมตตานั้นไร้ประโยชน์
“เจ้าโง่เอ้ย! ข้าจะส่งเจ้าลงนรก!”
จิตสังหารของผู้ตรวจการไป่ฮีปะทุขึ้น
“ยักย้ายพื้นที่!”
ซือหยูเตรียมใช้พลังมานานแล้ว
พลังล้อมรอบซือหยู กำลังจะส่งเขาไปยังระยะสามสิบลี้ไกลออกไป
แต่ก่อนที่พลังพื้นที่จะได้ทำงาน ไป่ฮีก็ยิ้มเยาะ
“ต่อหน้าข้า เจ้ากล้าใช้พลังอ่อนแอเช่นนั้นเรอะ?”
“สลายไปซะ!”
เขาปล่อยพลังวิญญาณออกมา
พลังพื้นที่รอบกายซือหยูสลายไปทั้งหมด!
ซือหยูชักสีหน้า
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสลายพลังพื้นที่ของเขาโดยตรง!
“ผนึกเวลา!”
ซือหยูกัดฟันและตัดสินใจในทันที
มังกรม่วงเข้ารัดกายของไป่ฮี
แม้จะเป็นวินาทีเดียว มันก็พอยื้อเวลาได้
แต่ซือหยูก็ตกใจอีกครั้ง….
“หึหึ เจ้ามีวิชาเยอะนัก โชคร้ายที่ต่อหน้าข้ามันไร้ประโยชน์!”
เพียงคำราม มังกรม่วงที่ล้อมกายก็ถูกบดขยี้และร้องคำรามลั่น!
ซือหยูเบิกตากว้าง!
มีคนที่หลุดจากผนึกเวลาของเขาได้!
เขามีพลังแบบใดกัน?
“เร่วเวลา!”
“มิติบิดเบือน!”
ในเวลาเร่งรีบ ซือหยูใช้พลังเร่งเวลาและใช้มิติบิดเบือนพยายามที่จะบดขยี้หัวใจของไป่ฮี
แต่ความเร็วที่มากกว่าเดิมสามเท่านั้นไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าไป่ฮี
เพียงสั่นกายเล็กน้อยมิติบิดเบือนก็สลายไป
เขาไล่ตามจนถึงตัวซือหยู
ในตอนนี้ ความรู้สึกถึงความตายเอ่อล้นในตัวซือหยู
ราวกับภูเขาใหญ่กำลังกดดันเขา
ความต่างในพลังมันมากเกินไป
ต่อหน้าเขา ซือหยูไม่มีโอกาสจะได้โต้ตอบ!
เขาต้องตายเพราะคนชั่วช้าเช่นนี้รึ?
แต่ในตอนนั้นเอง คลื่นพลังได้พุ่งมาทางพวกเขาจากในทิศทางของตำหนักหลิงเสี่ยว เล็งไปที่อกของไป่ฮี
“สมบัติเทพของตำหนัก หอกเทพพังทลาย!”
เขาไม่สนใจซือหยูอีกแล้ว เขารีบปล่อยพลังวิญญาณออกมาสร้างเกราะป้องกันการโจมตี!
แกร๊ก—
เกราะแหลกสลายในพริบตา มันป้องกันอะไรไม่ได้เลย
หอกได้ทะลวงอกของผู้ตรวจการไป่ฮี
เอื้อก—
เขากระอักเลือดออกมา เคราสีขาวถูกย้อมด้วยสีแดง
ที่อกของเขาเป็นรูแผลที่มีโลหิตทะลัก
เพียงการโจมตีเดียวก็ทำให้ผู้ตรวจการไป่ฮีบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าเขาจะมีพลังมหาศาล!
หอกเทพพังทลายนี้น่ากลัวแค่ไหนกัน?
เมื่อเทียบกันแล้ว ไหมเทพน้ำแข็งไม่ควรค่าให้พูดถึงด้วยซ้ำ
ฟึ่บ–
บุรุษคนหนึ่งพุ่งมาทางพวกเขาและคว้าหอกเทพพังทลายที่ย้อมไปด้วยโลหิต
เขามีใบหน้าหล่อเหลา ชุดของเขาโบยบินไปตามแรงลม
ผู้ตรวจการไป่ฮีจ้องมองหอกเทพพังทลายอย่างไม่ละสายตา
“หลิงเสี่ยวเทียน เจ้ากล้าใช้สมบัติเทพของตำหนักได้ยังไง? สมบัตินี้ใช้เพื่อฆ่าศัตรู แต่เจ้ากล้าใช้มันกับผู้ตรวจการ!”
“ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้ท่านจ้าวพิจารณา!”
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะสังหารรองเจ้าตำหนัก แต่เขาก็ปัดความผิดตัวเองทิ้งไป!
หลิงเสี่ยวเทียนถือสมบัติเทพในมือ เขามองอย่างเยือกเย็น
“ผู้ตรวจการ! ไป่! ฮี!”
“เจ้าใช้นามของผู้ตรวจการขอพบรองเจ้าตำหนักของข้า ข้ายังพอรับได้!”
“เจ้าใช้เรื่องของหยินหยูเพื่อเข้ามาสร้างปัญหา ลงโทษเขาต่อหน้าข้า เพราะเจ้าอยากจะข่มอำนาจของข้า ข้าก็ยังรับได้!”
“แต่ข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้าถ้าจะฆ่าคนของตำหนักรองในทวีปนี้!”
มีเส้นกั้นหนึ่งที่มิอาจมีใครข้ามไปได้
หลิงเสี่ยวเทียนเคยสัญญาว่าหากมีเขาอยู่ ซือหยูจะไม่ลำบาก
“ถ้าข้าใช้หอกเทพแล้วเจ้าก็ไม่มีทางรอดออกไปได้! ข้าจะอธิบายให้ท่านราชารู้ทีหลัง!”
“ส่วนตอนนี้!”
หลิงเสี่ยวเทียนกำหอกเทพชี้ไปยังผู้ตรวจการไป่ฮี
พวกเขาอยู่ไกลกันมาก แต่หอกเทพพังทลายก็มีพลังแห่งความตายอยู่