The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 374
เขาต้องชนะงั้นรึ? ซือหยูแอบกำหมัด ไม่เพียงแต่เขาจะต้องชนะเฉินคง แต่เขายังต้องเอาชนะคนทั้งหมดในลานประลอง เขามิอาจยอมแพ้ได้
“ถ้าผู้ชนะในท้ายสุดคือยู่เหลียง ครั้งนี้ก็จะไม่มีผู้ชนะในงานชุมนุมวิหคเพลิง เข้าใจหรือไม่?”
ทั้งห้าพยักหน้าและมองหน้ากันไปมา ทางเดียวที่พวกเขาจะจบการต่อสู้ตะลุมบอนให้เร็วที่สุดก็คือการร่วมมือกับบางคนที่เหลือ!
ยู่หลิงไม่ลังเล นางยิ้มอย่างเย็นชาและมองซือหยู
“เฉินคง เว่ยฉีหลิน ข้าเต็มใจที่จะให้พวกเจ้าได้ยืมมือ!”
นางไม่ลังเลที่จะเจรจากับทั้งสองคน
เหลือเพียงซือหยูกับซงหลวน เฉินคงเป็นยอดฝีมือลำดับหนึ่งจากตำหนักรองของอาณาจักรทมิฬแห่งทวีป เว่ยฉีหลินคือมหาบุตรคนแรกจากหอสดับหิมะ! นามของแต่ละคนล้วนเป็นที่น่าหวาดกลัวในทวีป ชื่อเสียงของพวกเขากระฉ่อนทั่วฟ้าดิน
และท้ายสุด เฉินึง ตำนานที่เขาเอาชนะคู่ต่อสู้ในกระบวนท่าเดียวนั้นเป็นเรื่องราวที่มิอาจมีเรื่องใดมาเทียบได้ในทวีปแห่งนี้ และเว่ยฉีหลินก็เป็นลำดับสองรองจากเฉินคงเท่านั้น! ไม่มีใครเคยรับเว่ยฉีหลินได้เกินห้ากระบวนท่า! ถ้าทั้งสองร่วมมือกัน ใครกันในทวีปนี้จะมีโอกาสจัดการพวกเขาได้?
และด้วยยู่หลิงที่ทั้งจู่โจมและป้องกันได้ในคราเดียว และพลังของนางยังใกล้เคียงกับอำมฤตระดับสี่ขั้นกลาง กลุ่มสามคนนี้จะจัดการซือหยูกับซงหลวนได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่คาดไม่ถึงที่เฉินคงยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เขายืนมือไพล่หลังโดยไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย
ส่วนเว่ยฉีหลิน เขาพูดอย่างเรียบเฉย
“ร่วมมือรึ? เจ้ากำลังพูดอยู่กับใครกัน? ข้าต้องร่วมมือกับผู้หญิงอย่างเจ้าเพื่อสั่งสอนพวกคนนิรนามนั่นรึ?”
เว่ยฉีหลินมองอย่างเยือกเย็น
ยู่หลิงใบหน้าบิดเบี้ยว นางรู้สึกกระอักกระอ่วน
“ข้าก็แค่แนะนำเท่านั้น!”
เว่ยฉีหลินถอนหายใจแรง
“คำพูดเจ้ามันไม่ต่างอะไรกับมอบความอัปยศให้กับข้า!”
“เจ้ามันก็แค่ตัวเกะกะ ก่อนที่จะจัดการพวกมัน ข้าจะจัดการเจ้าก่อน!”
ยู่หลิวโกรธเกรี้ยวในทันที! นางล้มเหลวในการเจรจาแล้วยังทำให้เว่ยฉีหลินไม่พอใจและทำให้เขาโกรธ
ยู่หลิงหัวเราะเยาะตัวเอง จากนั้นนางก็รีบใช้ฝ่ามือหยินหยางแปดทิศ ทั้งร่างของนางได้รับการป้องกัน
“ทลายเวหา!”
เว่ยฉีหลินปล่อยหมัดธรรมดาออกไป
ทั้งสองห่างกันไม่มากนัก หมัดถูกปล่อยออกมา ยู่หลิงป้องกันตัวเองด้วยฝ่ามือหยินหยางแปดทิศ นางไร้ช่องโหว่ นางดูดซับพลังของหมัดได้แต่มิอาจดูดซับพลังทั้งหมด
อั่ก–
นางกระอักเลือดออกมาและถอยไปหลายก้าว ฝ่ามือทั้งสองช้างชา ใบหน้าทั้งโกรธเกรี้ยวและหวาดกลัว หมัดนั้นเหนือยิ่งกว่าคำว่าน่ากลัว! เทียบกันแล้ว การโจมตีของหลิวลี่ไม่ต่างกับหมัดเด็กเล่น
“ทลายเกราะ!”
เว่ยฉีหลินยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขาปล่อยหมัดที่ดูธรรมดาออกมาอีกครั้ง
หมัดทมิฬซัดไปทางยู่หลิง หมัดนั้นสร้างแรงสั่นสะเทือน
ยู่หลิงชักสีหน้า นางจะลังเลได้อย่างไร? นางรีบใช้วิชาจนถึงพลังสูงสุด เมื่อหมัดเข้ามาซัดใส่นางก็ปล่อยฝ่ามือออกมาสิบครั้งเพื่อขจัดพลังของหมัด แต่เสียงกระดูกแตกก็ดังมาจากฝ่ามือของนาง!
หมัดพุ่งตรงเข้าใส่ลำตัว!
ผั่วะ–
เสื้อผ้าบริเวณอกฉีกขาด ช่องท้องไหม้เกรียมและเต็มไปด้วยโลหิต สายโลหิตไหลออกจากปาก นางล้มลงบนลานประลอง
ปั้ง–
นางหมดสติและล้มลงเสียงดัง
เว่ยฉีหยินพูดอย่างเย็นชา
“สองกระบวนท่า!”
ใช่แล้ว ยู่หลิงเอาชนะนางด้วยสองกระบวนท่า ซือหยูสีหน้าหม่นหมองเมื่อได้เห็นวิชาของเว่ยฉีหลินเป็นครั้งแรก
เว่ยฉีหลินหันมองซือหยูกับซงหลวน เขาจ้องที่ซือหยู
“ต่อไปเป็นเจ้า”
“คู่ต่อสู้ของเฉินคงจะมีแค่ข้าคนเดียวเท่านั้น จะไม่มีคนที่สาม เจ้าไม่มีพลังที่จะมีลำดับเหนือข้า!”
ซือหยูตกใจ
“พลังตัดสินจากตัวเจ้า มิใช่คำพูด!”
“เช่นนั้นข้าก็จะบดขยี้จนเจ้าหุบปาก!”
เว่ยฉีหลินพูดอย่างตรงไปตรงมาก
ชั้นอัสนีรอบกายซือหยู
“เช่นนั้นเจ้าก็มาสู้กับข้า!”
แต่เว่ยฉีหลินกลับละสายตา เขามองไปยังซงหลวน
“ข้าไม่ชอบคนที่มาขวางหูขวางตาตอนที่ข้าจะลงมือ ลงไปซะ”
ซงหลวนไม่ยินยอม เขากลับยิ้ม
“ข้าได้ยินว่าท่านฉีหลินจากหอสดับหิมะได้วิชาอำมฤตโบราณ นพลักษณ์ทลายสวรรค์มาครอง ข้าอยากจะเห็นมานานแล้ว พวกเราไม่ค่อยได้เจอกัน ข้าก็ปรารถนาจะดูเสียหน่อย”
นพลักษณ์ทลายสวรรค์! ทลายเวหาและทลายเกราะเป็นแค่ทวิลักษณ์ของวิชาเท่านั้น
เว่ยฉีหลินไร้อารมณ์
“ข้ามักจะสนองคนที่อยากจะหาความอัปยศให้ตัวเองอยู่แล้ว…”
“ทลายเวหา!”
หมัดพุ่งเข้าใส่ซงหลวน แต่ซงหลวนยังคงยืนมือไพล่หลัง แววตาของเขาสงบนิ่ง ดวงตานั้นคมกริบและเปล่งประกาย
“เนตรกระบี่!”
รังสีกระบี่สองคลื่นพุ่งออกจากดวงตาของซงหลวน! ไม่ผิดแน่ รังสีกระบี่ออกมาจากดวงตาของมนุษย์! รังสีกระบี่อันทรงพลังเฉือนผ่านหมัด
ปั้ง—
หมัดที่พุ่งเข้ามาถูกทำลายในทันที!
ซือหยูเบิกตากว้าง รังสีกระบี่นั่นมันอะไรกัน! แล้วกระบี่ของซงหลวนอยู่ที่ใด? เขาปล่อยรังสีกระบี่ออกมาได้โดยไม่ต้องใช้อะไรเลยรึ?
เว่ยฉีหลินไม่สนใจที่การโจมตีถูกต่อต้าน เขาปล่อยหมัดที่สอง
“ทลายเกราะ!”
หมัดอันน่ากลัวที่มีพลังมากกว่าหมัดแรกเป็นสองเท่าพุ่งเข้าใส่ซงหลวน ซงหลวนวางแขนขวาไว้ข้างหลัง เขาสีหน้าจริงจัง
“ดัชนีกระบี่!”
ซงหลวนยกมือขวาและยกดัชนีเดียวชี้ออกไป
ฉั่วะ–
คลื่นรูปกระบี่พุ่งออกมาจากมือของเขา กระบี่นั้นตัดผ่านท้องนภาจนแยกเป็นสองท่อน! มีเพลิงปะทุออกมาจากรังสีกระบี่
ปั้ง–
หมัดถูกทำลายในทันที
เว่ยฉีหลินที่ไร้อารมณ์เริ่มแสดงสีหน้าออกมาบ้าง
“เจ้านับว่าใช้ได้ รับกระบวรท่าที่สามของข้าไปซะ! ทลายอสูร!”
ในตอนนั้น หมัดยักษ์พุ่งเข้าใส่ซงหลวนราวกับภูเขา แรงกดดันน่ากลัวจนยากที่จะหายใจ สีหน้าซงหลวนเคร่งเครียดกว่าเดิม เขาหายใจเข้าลึกและยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้น เขาปลดปล่อยรังสีกระบี่ออกไป
“กระบี่ฝ่ามือ!”
ซือหยูคิ้วกระตุกอย่างมิอาจควบคุมได้ รังสีกระบี่นั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าธนูของเขา! ถ้าอำมฤตระดับหนึ่งขั้นต้นถูกการโจมตีนี้จะต้องตายอย่างแน่นอน
ฟึ่บ ฟึ่บ–
กระบี่สองเล่มพุ่งออกไปทำให้พื้นที่รอบข้างสั่นไหว เพลิงที่เกิดจากกระบี่ทะลวงเข้าไปหาหมัด
ตู้ม—
หมัดราวกับภูเขาหลงเหลือเพียงพลังวิญญาณที่เหือดหาย! รังสีกระบี่ที่เหลือพุ่งเข้าใส่ร่างของเว่ยฉีหลิน!
ครั้งนี้เว่ยฉีหลินเริ่มเคร่งเครียด
“กระบี่ปีศาจซงหลวน!”
เขาตะโกน
“ข้ายอมรับว่าข้าประเมินเจ้าต่ำไป! แต่มันจะจบตรงนี้ ลักษณ์ลี่ ทลายอสูร!”
ครืน—
ครืน—
เกิดแรงสั่นสะเทือนตั้งแต่ก่อนที่หมัดจะถูกปล่อยออกมา ราวกับภูเขาลูกใหญ่กำลังจะถล่ม เหล่าผู้คนมองหมัดใหญ่ยักษ์ที่ล้อมด้วยเพลิงทมิฬราวกับถูกอสูรอัญเชิญเพลิง!
แกร๊ก—
เสียงลานประลองแตกเริ่มดังขึ้น ลานประลองมิอาจทนพลังของฝ่ามืออสูรได้
ซือหยูตกใจ พลังโจมตีนั้นแทบจะเทียบได้กับผู้ตรวจการไป่ฮี!
เส้นผมของซงหลวนถูกพัดปลิวแม้จะไร้แรงลม เขากำลังปล่อยรังสีกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวออกจากทั้งร่าง! ซือหยูมองและตกตะลึงที่เห็นรังสีกระบี่ออกมาจากทุกส่วนของร่างกายซงหลวน! เส้นผม เล็บ ผิวหนัง ดวงตา…ทุกส่วนในร่างกายของเขากำลังปลดปล่อยรังสีกระบี่!
“ถ้าจิตใจต้องการ ทุกสิ่งก็เป็นกระบี่!”
พลังกระบี่อันน่าขนลุกล้อมรอบกายซงหลวน ในตอนนี้เขากลายร่างเป็นรูปลักษณ์กระบี่แห่งโลกา!
“มนุษย์ดั่งกระบี่ กระบี่ดั่งมนุษย์ กระบี่และมนุษย์เป็นหนึ่งเดียวกัน!”
กระบี่และมนุษย์เป็นหนึ่งเดียวกัน!
ตู้ม—
ซงหลวนระเบิดรังสีกระบี่ ร่างของเขากลายเป็นกระบี่เมื่อเคลื่อนไหว
จ้าววิหคเพลิงมองด้วยความยอมรับ
“ว่ากันว่าซงหลวนหมกมุ่นอยู่กับกระบี่มาตลอดช่วงชีวิต เขาเกือบเอาตัวไม่รอดถึงเก้าครั้งเพราะกระบี่ การบ่มเพาะดวงใจกระบี่นั้นไม่เคยมีผู้ใดในทวีปนี้ทำมาก่อน ทำให้เขาถูกเรียกว่ากระบี่ปีศาจ”
มู่เทียนฟางตกตะลึง
“ท่านอาจารย์ ดวงใจกระบี่คือสิ่งใดกัน?”
“กระบี่ซ่อนเร้นในจิตใจกลายเป็นกระบี่ไร้ลักษณ์ นั่นคือดวงใจกระบี่! เขาเป็นอิสระจากกระบี่ที่มีรูปลักษณ์และเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นกระบี่มานานแล้ว ทุกส่วนของร่างกายเขาคือกระบี่! ตราบเท่าที่จิตใจตั้งมั่น ทุกสิ่งก็จะกลายเป็นกระบี่!”
“ซงหลวนคือปรมาจารย์กระบี่ตัวจริง!”
มู่เทียนฟางชื่นชมซงหลวนไม่ต่างกับซือหยู
บนลานประลอง เว่ยฉีหลินตกใจ
“อะไรกัน?”
เขาตะโกน
วิชากระบี่ดั่งเทพนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ อีกฝ่ายกลายเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่ พลังมหาศาลนั้นเฉือนได้ทุกอย่างจนเว่ยฉีหลินสัมผัสได้ถึงความตาย!
ตู้ม–
ทลายอสูรมิอาจทำอะไรได้ มันถูกทำลายด้วยพลังกระบี่ของซงหลวน
เว่ยฉีหลินใจเต้นแรง เขากัดฟันแน่น
“เจ้าบังคับข้าเองนะ! ลักษณ์ห้า! ทลายเทพ!”
ปั้ง ปั้ง ปั้ง–
พลังวิญญาณโดยรอบสั่นอย่างบ้าคลั่งเกิดเป็นคลื่นเหนือนภา
หมัดที่ใหญ่ยักษณ์ยิ่งกว่าหมัดใดพุ่งลงมาจากเมฆาราวกับเป็นหมัดจากสวรรค์! เหล่าผู้คนร้องตะโกนด้วยความตกใจ พวกเขารู้สึกได้ถึงอำนาจสวรรค์จากหมัดนั่น! พลังที่ทำลายทุกสิ่งได้ได้ทำให้เหล่าผู้คนขนลุก
แกร๊ก—
ลานประลองแตกแยกเป็นสองส่วน
ในตอนนี้ ซงหลวนพุ่งเข้าใส่ หมัดยักษณ์จากสวรรค์และกระบี่ปีศาจผู้ที่ได้ถือกำเนิดใหม่เข้าปะทะกัน เกิดแรงกระแทกอย่างรุนแรง
ครืน—-
ลานประลองกลายเป็นฝุ่นผง คลื่นพลังที่ปะทะกันทำให้คนโดยรอบเจ็บปวด แต่ก็ไม่มีใครละสายตาจากลานประลอง พลังที่ทั้งสองแสดงออกมานั้นน่าตกตะลึงจนเกินไป!
ทุกคนเริ่มประทับใจซงหลวน ซงหลวนผู้ที่ไม่มีคนรู้จักมากนักกลับรับมือกับยอดฝีมืออย่างเว่ยฉีหลินได้
เมื่อฝุ่นควันกระจายออกไป ทั้งสองก็เข้ามาในสายตาของเหล่าคนดู เว่ยฉีหลินยังคงยืนอยู่ที่เดิม หน้าเขาซีดเล็กน้อย แต่ซงหลวนนั้นถอยไปหลายก้าว โลหิตไหลออกจากมุมปาก เห็นได้ชัดว่าใครแข็งแกร่งกว่า สุดท้ายแล้วซงหลวนยังอ่อนแอกว่าเล็กน้อย
ซงหลวนสำลักโลหิตและประสานมือถอยกลับ
“เจ้าแข็งแกร่งกว่าข้า ข้าขอยอมแพ้”
แม้เว่ยฉีหลินจะหยาบคาย เขาก็ไม่พูดคำไม่ดีออกมา เขากลับแสดงความนับถือที่ตัวเขายากจะทำ
“เจ้ารับข้าได้ถึงห้ากระบวนท่า เจ้าควรจะภาคภูมิใจในตัวเอง”
ซงหลวนเกือบจะทำให้ตำนานเว่ยฉีหลินที่เอาชนะทุกคนในห้ากระบี่ท่าต้องแหลกสลาย เขาจะไม่นับถือบุรุษเช่นนี้ได้อย่างไร?
เว่ยฉีหลินหายใจเข้าลึกและหันไปมองซือหยู
“จำเป็นที่เจ้าจะต้องสู้หรือไม่?”
พูดอีกอย่างก็คือ…หลังจากที่เห็นการโจมตีของเว่ยฉีหลิน ซือหยูควรจะรู้ว่าควรต้องถอย
เหล่าผู้คนจ้องซือหยูและแอบเป็นกังวล เว่ยฉีหลินนั้นแข็งแกร่งเกินจะเอาชนะ แม้แต่ยอดฝีมือแห่งทวีปอย่างซงหลวนก็พ่ายแพ้ แล้วซือหยูจะมีพลังเหนือกว่าเว่ยฉีหลินได้อย่างไร?
เพลิงลุกในดวงตาซือหยู
“ทำไมเล่า? เอาชนะทุกคนในห้ากระบี่ท่างั้นรึ ข้าจะทำลายมันเอง!”
นานมาแล้วที่เขาได้ต่อสู้อย่างจริงจัง เว่ยฉีหลินคือศัตรูที่แข็งแกร่งที่เขาต้องการ ไม่ว่าผู้ใดจะชนะ ซือหยูก็จะได้เติบโตอย่างมาก! โดยเฉพาะฎีกาสวรรค์ของเขา!