The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 403
ท่ามกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่ท่ามกลางหมู่เมฆา ผืนกินคล้ายเกาะมรกตตั้งตระหง่าน
เหล่าสัตว์อสูรร่อนเร่อยู่ในเกาะแห่งนี้ หุบเขาทอดยาวตลอดเหนือลงใต้แบ่งเกาะเป็นสอง หุบเขานั้นลึกจนไม่เห็นเบื้องล่าง ความลึกเช่นนี้ราวกับจะกลืนกินแม้กระทั่งสายตาของผู้จ้องมอง ที่นี่สัมผัสได้ถึงความรกร้าง เก่าแก่
มันคือเกาะโบราณที่มีประวัติอันยาวนาน หุบเขาลึกอันลึกลับซับซ้อนได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่หลายยุคสมัย
บุรุษผมโลหิตผ่านมวลเมฆา แผ่นหลังของเขามีปีกที่เบาบางราวกับหมอกยาวหมื่นศอก เมื่อเขาสะบัดปีกเขาก็เดินทางได้สามหมื่นลี้ในทันที เขาคือซือหยูที่รีบรุดเดินทางมาหลายวัน
ซือหยูร่อนลงบนเกาะและมองลงไปยังหุบเขา เขาหยิบเหรียญก้นบึ้งมังกรเก้านรกออกมา แววตาไม่สบายใจนัก
“ที่เรียกว่าก้นบึ้งมังกรเก้านรกก็คือหุบเขาลึกหลายแสนศอกนี่น่ะรึ?”
ซือหยูใช้เนตรวิญญาณมองลงไปยังก้นหุบเขา เขาใช้เนตรวิญญาณเพ่งมองลงไปหมื่นศอก จากนั้นแสนศอก จากนั้นร้อยล้านศอก แม้จะใช้จนถึงสามแสนลี้ เขาก็ยังคงมองไม่เห็นก้นเหว! ซือหยูตกตะลึง ก้นบึ้งที่นี่เป็นที่แบบใดกัน?
ในตอนนั้นซือหยูไหล่แข็งทื่อ มีมือชองคนแก่เฒ่าวางลงบนไหล่ของเขา
ซือหยูตัวสั่นและชาไปทั้งตัว มีคน…อยู่ข้างหลังเขา!
เป็นไปได้ยังไง? เขาใช้เนตรวิญญาณไปเมื่อครู่มองเห็นทั้งเกาะทะลุปรุโปร่ง นอกจากสัตว์อสูรที่ไม่อันตรายแล้วเขาก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่น แต่แม้ว่าเขาจะมองพลาดไป เขาก็ระวังตัวอยู่เสมอ เนตรวิญญาณทำให้เขามองเห็นทุกสิ่งโดยรอบ
แต่มีอยู่หนึ่งคนที่รอดพ้นไปจากเนตรวิญญาณของเขาและปรากฏตัวจากข้างหลัง! เหงื่อเย็นเม็ดใหญ่ผุดขึ้นมาที่หน้าผาก
ซือหยูข่มความกลัวและพูดอย่างใจเย็น
“ท่านผู้เฒ่า ท่านต้องการอะไรหรือมไม่?”
เขาพูดและหันไปช้าๆ หางตาเขาเหลือบเห็นชายแก่ที่มีผมยุ่งและร่างกายอันสกปรก เขามีกลิ่นเหล้าและยิ้มเยาะให้ซือหยู
“ฮ่าๆๆๆ!”
เขาหัวเราะ
“น้องชาย เจ้าเป็นคนที่ขโมยเหล้าข้าไปใช่หรือไม่?”
ขโมยเหล้างั้นรึ?
ซือหยูส่ายหน้าเบาๆ เขาหันไปตอบ
“ข้าไม่ได้ขโมยไปเลย”
ชายแก่ที่มึนเมาเข้ามาใกล้และสูดดมลมหายใจของซือหยู เขากระซิบอย่างผิดหวัง
“เจ้าไม่มีสินะ เจ้าไม่มีจริงๆ! หรือว่าจะเป็นเจ้าปีศาจตัวเล็กนั่น?”
ฟึ่บ–
ในตอนนั้นเอง มีเงาร่างมนุษย์ปรากฏขึ้น! มันคือวิชาร่างเทียมพันลี้ของขอบเขตกึ่งเทพ
“ไอ้แก่!”
“ออกมาก่อเรื่องอีกแล้วเรอะ!”
เส้นเลือดปูดโปนบนหน้าผากของชายในเงา เขาเตะชายแก่ที่มัวเมาขณะก่นด่า ชายแก่ลืมลงกับพื้น หัวของเขากระแทกกับศิลาก้อนยักษ์
ฟึ่บ–
หัวของชายแก่ไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย แต่ศิลาก้อนยักษ์กลับหายไปในทันที! ใช่แล้ว มันหายไป…มันไม่แตกหรือกลายเป็นฝุ่นผง มันแค่หายไปเฉยๆ!
ซือหยูเบิกตากว้าง เขามือสั่น ร่างกายนั่นน่ากลัวมาก!
ซือหยูนึกถึงตอนที่ชายแก่วางมือลงบนไหล่ของเขาก็ทำให้ซือหยูกลัวยิ่งกว่าเดิม! ฝ่ามือนั่นทำให้เขาตายได้อย่างแน่นอน!
“ไอ้แก่ เป็นศิษย์ของเจ้ามันลำบากนัก!”
ชายหนุ่มพยุงชายแก่ให้ยืนขึ้น
“ข้าต้องคอยตามล้างตามเช็ดเจ้าอยู่เรื่อย! บัดซบ! โชคชะตาอะไรกันที่ข้าต้องมาได้อาจารย์อย่างเจ้า!”
ซือหยูมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความสับสน ชายในร่างเงาเป็นศิษย์ของชายแก่! แต่ถ้าศิษย์อยู่ในขอบเขตกึ่งเทพ…เช่นนั้นอาจารย์ก็ต้องเป็น…
ขอบเขตภูติ!
ซือหยูอ้าปากค้าง ชายขี้เมาเป็นยอดฝีมือในขอบเขตภูติ!
ร่างเงาพุ่งเข้ามาหาซือหยู
“น้องชายโปรดอย่าถือสาพวกเรา”
เขาขอโทษขอโพย
“ไอ้แก่ทำให้เจ้าต้องกลัว ขอโทษจริงๆที่รบกวนเจ้า”
จากนั้นเขาจึงเตรียมจะจากไปพร้อมกับพยุงชายแก่
“เดี๋ยวก่อน!”
ซือหยูหยิบเหรียญก้นบึ้งมังกรเก้านรกออกมา
“พี่ชาย ข้าจะใช้เหรียญนี้ได้ยังไงรึ?”
อีกฝ่ายเพ่งตามอง เขาเบิกตากว้าง
“บัดซบ! เจ้าพวกโสเภณีจากพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ได้สร้างเหรียญโง่ๆนี่มาอีกแล้ว!”
อีกฝ่ายโกรธอย่างมาก ร่างเงาโยนชายแก่ออกไป
ปั้ง–
ชายแก่กระแทกกับพื้น เขากลิ้งไปตามภูเขาที่ลาดชัน ความเร็วนั้นไม่ได้ลดลงเลย เขากลิ้งไปจนถึงตีนเขา
ปั้ง–
ปั้ง ปั้ง–
ปั้ง ปั้ง ปั้ง–
ร่างกับโรยรากระแทกทุกสิ่งรวมถึงต้นไม้และก้อนหินลงสู่เบื้องล่าง
ซือหยูเบิกตากว้างจากทุกแรงกระแทกที่เกิดขึ้น
“ไม่ต้องห่วง”
ชายหนุ่มพูด
“ไอ้แก่นั่นมันหนังหนา”
เขาปล่อยให้อาจารย์ของตัวเองกลิ้งลงจากยอดเขาไปจนถึงร่องสมุทร
ในทะเล ชายแก่ไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย เขากอดหินก้อนใหญ่และพูดด้วยความเมามาย
“หึหึ ข้าจับได้แล้ว เหล้า เหล้าของข้า…”
“น้องชาย เจ้าชื่ออะไรรึ?”
ชายในร่างเงาถามอย่างเป็นกันเอง
ซือหยูเอานิ้วแตะจมูก
“ข้าจะเรียกท่านว่าอย่างไรดี? แล้วทำไมท่านถึงมาอยู่กับผู้เฒ่าในเกาะนี้ล่ะ?”
ชายในร่างเงาลูบหัว
“ฮ่าๆๆ! ดูสิ! ข้าคือกังต้าเหล่ย อาจารย์กับข้าอยู่ในเกาะนี่เพื่อเฝ้าดูแลก้นบึ้งมังกรเก้านรก”
เฝ้าดูแลก้นบึ้งมังกรเก้านรกรึ? ซือหยูตกใจ
“ข้า…ราชาปีศาจหิมะทมิฬ…”
ซือหยูพูดด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีพี่…กัง”
กังต้าเหล่ยลืมตากว้าง
“อะไรนะ? เฮ่ยซื่อม่อจวินรึ?”
กังต้าเหล่ยแปลฉายาของซือหยู
“สกุลเจ้าคือเฮ่ยซื่อรึ? บัดซบ! ทำไมข้าไม่มีชื่อดีๆแบบนั้นบ้าง? แต่ข้าก็มีไม่ได้แล้วสิ…มันเป็นของเจ้าแล้ว!”
ซือหยูปากบิดเบี้ยว มิใช่ว่าธรรมดาเข้าใจว่า ‘ราชาปีศาจหิมะทมิฬ’ เป็นฉายาที่ไม่ใช่ชื่อหรอกรึ?
“เฮ่ยซื่อม่อจวิน เฮ่ยซื่อ ม่อจวิน หืม ชื่อเจ้าดีจริงๆ ข้าชอบใจนัก!”
กังต้าเหล่ยตบไหล่ซือหยู ดวงตาของเขาเป็นประกาย
“ข้าชอบคนที่มีนามอันยิ่งใหญ่ยิ่งนัก ข้าจะถือว่าเจ้าเป็นสหายข้า ต่อไปเจ้าจะได้เป็นพี่น้องกับข้า!”
ตาซือหยูแทบจะหลุดออกจากเบ้า! คนคนนี้พิสดารไม่ต่างกับอาจารย์ขี้เมาของเขา! แม้กังต้าเหล่ยจะดูหยาบๆ เขาก็ตรงไปตรงมาและโอบอ้อมอารี ซือหยูคิดกับเขาในแง่ดี
“ข้าขอบคุณพี่ต้าเหล่ยที่นับถือข้าเช่นนั้น…”
“เรียกข้าว่าหิมะทมิฬเถอะ”
กังต้าเหล่ยหัวเราะ
“ฮ่าๆๆ! น้องชายหิมะทมิฬ! ถ้ามีคนมาหาเรื่องเจ้า เจ้ามาหาข้าได้ ข้าจะช่วยเจ้าจัดการเอง ถ้าข้าจัดการไม่ได้ ไอ้แก่อาจารย์ข้าก็ยังทำได้ ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ เอาล่ะ ข้าจะไม่รบกวนน้องหิมะทมิฬแล้ว…โอ้ เดี๋ยวก่อน”
กังต้าเหล่ยเคาะหัวให้กับความเขลาของตัวเอง
“ดูสิ ข้าเกือบจะลืมไปแล้ว!”
พรึ่บ–
กังต้าเหล่ยเร็วราวอัสนี เขาพาซือหยูไปที่ตีนเขาในพริบตา ที่นี่มีถ้ำใต้ดินที่มีลมอุ่นพัดออกมา
“เจ้าไปชำระกายในนั้นก่อนที่จะเข้าก้นบึ้งมังกรเถอะ…”
“ด้วยนี่ เจ้าจะรู้สึกสบายมากกว่าในก้นบึ้งมังกร”
ซือหยูไม่เข้าใจ
“พี่ต้าเหล่ย พี่หมายความว่ายังไงรึ?”
กังต้าเหล่ยตอบ
“ปัดโถ่! นี่คือลมหายใจมังกรของก้นบึ้งมังกร มังกรอสูรถูกจองจำอยู่ในส่วนลึกที่สุดของก้นบึ้งมังกร ทั้งก้นบึ้งมังกรมีแต่ลมหายใจของมัน ถ้าคนธรรมดาเข้าไป ลมหายใจมังกรก็จะเข้าร่างได้ง่ายๆ พลังกายกับพลังวิญญาณเจ้าจะปนเปื้อน แม้จะเป็นข้าก็ไม่ต่างกัน ถ้าเจ้ารีบเข้าไป เจ้าจะสำลักลมหายใจมังกรไม่ต่ำกว่าครึ่งวันจนต้องออกมา!”
แม้แต่กึ่งเทพก็มิอาจเข้าไปได้ง่ายๆรึ?
มังกรอสูรที่ต้องใช้ยอดฝีมือขอบเขตภูติในการเฝ้าดู ฐานพลังของมันจะน่ากลัวเพียงใดกัน?
“นี่เป็นรังของจักรพรรดิสัตว์อสูรในขอบเขตกึ่งเทพ…”
กังต้าเหล่ยพูดต่อ
“ก่อนที่ข้าจะย่างจักรพรรดิสัตว์อสูรในนี้กิน มีสายพลังธรณีอยู่ข้างใน ดูดซับพลังธรณีจะเป็นผลดีกับกายเจ้า แล้วมันก็ยังป้องกันพลังอสูรให้เข้าสู่ร่างเจ้าได้ นั่นจะช่วยให้เจ้ามีภูมิคุ้มกันต่อลมหายใจของมังกรอสูร ในอดีตข้าใช้สระพลังไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีกครึ่ง เจ้าเอาไปเลย ไม่ต้องมากพิธีหรอก”
ซือหยูตกตะลึง จักรพรรดิสัตว์อสูรกึ่งเทพถูกชายคนนี้ย่างกินไปแล้ว!
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาตกใจเรื่องนั้น หลงเฟยหยูไม่เคยพูดถึงสิ่งที่เรียกว่าลมหายใจมังกรในก้นบึ้งมังกรเก้านรก ซือหยูดีใจที่ได้พบกับกังต้าเหล่ยที่เป็นมิตรกับเขาอย่างประหลาด
ซือหยูขอบคุณกังต้าเหล่ยและเข้าสู่ถ้ำ
ถ้ำนี้ไม่ลึกและยังคงมีรังสีพลังอันแข็งแกร่งของจักรพรรดิสัตว์อสูรอย่างเข้มข้น!
สระโค้งที่มีวารีสีโลหิตตั้งอยู่ในปลายสุดของถ้ำ พลังอันอบอุ่นที่ปะทุออกมานั้นทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย
ซือหยูหายใจเอาพำลังเข้าไป ความอบอุ่นหลั่งรินเข้าสู่ร่างของเขา
ปั้ง ปั้ง–
ซือหยูตกใจหลังจากพบว่าพลังนั้นเข้าสู่หัวใจแก่นแท้น้ำแข็ง หัวใจน้ำแข็งของเขาแข็งแกร่งขึ้นและเริ่มเต้นอย่างบ้าคลั่ง! หลายส่วนในร่างดูจะแข็งแรงขึ้นอย่างประหลาดและต่อเนื่อง และมันเกิดขึ้นจากการที่เขาแค่สูดลมหายใจเข้าไป! นี่น่ะรึสายพลังธรณี? ผลที่ได้นั้นน่ากลัวยิ่งนัก!
กังต้าเหล่ยพูดอย่างเรียบเฉิยจนซือหยูไม่ได้สนใจมากนัก ใครจะไปคิดว่ามันจะทรงพลังเช่นนี้?
ซือหยูเลิกระวังตัว เขาใช้นิ้วช้อนหยดพลังขึ้นมากลืนกินไปหนึ่งหยด
ซือหยูเบิกตากว้างในทันที! แม้ว่ามันจะเป็นของเหลวที่อบอุ่น แต่เมื่อเข้าสู่ร่างมันก็แผดเผาอย่างบ้าคลั่ง…ราวกับเพลิงพิโรธที่ยังไม่ดับมอด! ความร้อนระอุแผ่ทั่วร่าง เขากำลังจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน!
แย่แล้ว! เขาประมาทเกินไป! สำหรับกังต้าเหล่ย หยดวารีพวกนี้ไม่มีค่าพอจะพูดถึงด้วยซ้ำ แต่กับซือหยู…มันฆ่าเขาได้!
แม้ซือหยูจะกระวนกระวาย เขาก็ยังเข้มแข็งเพราะเขารู้ว่าจะรับมือกับมันยังไง
เขารีบหยิบกล่องหยกออกมา มันมีสมุนไพรเทพที่เย็นยะเยือกที่แข็งแกร่งจนเขาชีวิตเขาไปได้!
ในอดีต ซือหยูเคยกินขนรากของมันที่หนาเท่าเส้นผมและเกือบจะแข็งตาย ตั้งแต่นั้นมาซือหยูก็ยังไม่ถึงระดับที่เขาจะใช้มันได้ เขาจึงเก็บมันเอาไว้ ตอนนี้เขาอยู่ในอันตรายเช่นนี้ การกินมันอาจจะเป็นหนทางในการเอาตัวรอด!
ซือหยูหยิบสมุนไพรเทพเยือกแข็งออกมา เขาดึงขนรากหนึ่งเส้นและกินมัน
ความเย็นอันน่าตกใจเข้าสู่ร่างและแช่แข็งเพลิงพิโรธในกาย
เฮือก—
ซือหยูเป็นอิสระจากความเจ็บปวดและหายใจเข้าลึก แต่เขาก็ตระหนักในทันทีว่าพลังความเย็นนั้นแข็งแกร่งเกินไป หลังจากที่มันดับเพลิงพิโรธในกายไปแล้ว มันก็เริ่มคร่าชีวิตของซือหยูโดยการแช่แข็งตัวเขาเป็นน้ำแข็ง!
เป็นไปได้ยังไง? ซือหยูครุ่นคิด
เขาอยากจะร้องไห้แต่ก็ไร้น้ำตาในดวงตา พลังของสมุนไพรเทพเยือกแข็งนั้นแข็งแกร่งเกินไป ซือหยูไม่รู้เลยว่าถ้าเขากินมันไปเยอะกว่านี้เขาจะเป็นยังไง ถ้าเขากินเยอะกว่านั้นอีกนิดเดียว เขาก็จะทำให้ร่างกายเป็นอันตราย
ไม่! จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!
ซือหยูช้อนหยดพลังธรณีอย่างรวดเร็วและใช้พลังความร้อนกดความเย็นเอาไว้! แต่ในครั้งนี้มีพลังความร้อนเยอะเกินไป ซือหยูไม่มีทางเลือกนอกจากกินสมุนไพรเทพเยือกแข็งอีกครั้ง!
ด้วยวงจรเช่นนี้ ใบหน้าของซือหยูดำคล้ำ แม้เขาอยากจะร้องไห้แต่ก็ไร้ซึ่งน้ำตา ซือหยูยังคงต้านพลังร้อนเย็นอย่างต่อเนื่อง เกิดทั้งความรู้สึกเจ็บปวดและผ่อนคลายสลับไปมา ครั้งหนึ่งร่างของเขาเย็นยะเยือก ต่อมาเขาก็ถูกแผดเผาด้วยเพลิงร้อนระอุที่แทบจะเผาชีวิตของเขาไป ร่างของเขาถูกชำระล้างด้วยพลังสองชนิดอย่างต่อเนื่อง!
ผ่านไปหนึ่งวันเต็ม เก้าในสิบส่วนของพลังธรณีถูกซือหยูดื่มไปแล้ว! ส่วนสมุนไพรเทพในมือก็ถูกกินไปมากจนเหลือแค่สองใบ!
ซือหยูแผ่กับพื้น เขาเหนื่อยล้าอย่างมาก หลังจากที่ทรมานตัวเองมาทั้งวันทั้งคืน เขาก็ช่วยชีวิตตัวเองไว้ได้!
พลังทั้งสองชนิดปะปนอยู่ในร่าง ร่างกายของเขาเริ่มคุ้นชินกับมัน พลังธรณีและพลังน้ำแข็งเริ่มไม่มีผลกับร่างกายของเขาแล้ว
แม้ว่ามันจะเป็นภัยต่อชีวิต มันก็มิใช่อันตราย ซือหยูถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาพยายามดันมือเพื่อยกตัวเองขึ้นจากพื้น
ฟึ่บ–
เกิดเรื่องประหลาดขึ้น! พื้นหินที่อยู่ใต้ฝ่ามือของซือหยูกลายเป็นเถ้าถ่าน! และมีบางส่วนก็หายลับไป…เหมือนกับที่ชายแก่ประหลายเคยทำ!
“นี่มัน…”
ซือหยูตกตะลึง
เขากำหมัดแน่น พลังอันมหาศาลเอ่อล้นออกมาในหมัดของเขา!
“ร่างกายข้า…”
ซือหยูแทบจะกัดลิ้นตัวเอง
“นี่มัน…ร่างกายที่มีแต่ผู้คุมสวรรค์จะมี! ไม่สิ…มันอาจจะไม่ต่างกันมาก แต่มันเหมือนกับระดับราชามนุษย์เสียมากกว่า!”