The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 423
จางตี๋เก้อมิอาจรู้ได้อยู่แล้วว่าซือหยูคิดสิ่งใดอยู่
“การยืมพลังนั้นไม่ต้องใช้การบ่มเพาะ มันก็แค่พลังชั่วคราว ถ้าเจ้าไม่เอาพลังออกไปทันเวลา อย่างน้อยจุดกำเนิดพลังของเจ้าจะถูกทำลาย หนักที่สุดที่ร่างกายกับวิญญาณของเจ้าจะถูกทำลายโดยสมบูรณ์!”
ซือหยูตกตะลึง เขารีบมองไปที่อื่น
จางตี๋เก้อหายใจเข้าลึกและคายพลังทมิฬออกมาจากปาก พลังภูติเข้มข้นล้อมรอบบอลพลังทมิฬเอาไว้ มีอักษรสลักเอาไว้บนบอลพลัง
“นีคือตำราลับร้อยภูติ…”
“ภูมิปัญญาของข้ากักเก็บอยู่ภายใน ถ้าเจ้าเอามันเข้าสู่ร่าง เจ้าจะได้ภูมิปัญญาของข้าในช่วงเวลาสั้นๆ นั่นจะทำให้เจ้าทนรับพลังของข้าได้”
ซือหยูรับบอลพลังทมิฬไว้ด้วยมือทั้งสองข้างและวางลงบนหน้าผาก บอลพลังเข้าสู่พื้นที่บริเวณระหว่างคิ้วของซือหยู
พลังอันเยือกเย็นที่ไม่คุ้นเคยเข้าสู่ดวงวิญญาณ มันคือภูมิปัญญาภายในตำราลับร้อยภูติที่ต้องโอนถ่ายฐานพลัง ภูมิปัญญาอื่นอาจจะถูกจางตี๋เก้อปิดผนึกเอาไว้และซือหยูมิอาจเข้าถึงได้
ซือหยูเข้าในใจทันทีว่าการยืมฐานพลังของผู้อื่นนั้นพูดง่ายเสียยิ่งกว่าการลงมือทำ มันต้องใช้สมบัติเทพเฉพาะหรือร่างกายพิเศษ สายเลือดปีศาจก็เป็นหนึ่งในเงื่อนไขนั้น
“จะเสียเวลามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว!”
จางตี๋เก้อตะโกน ในดวงตานั้นมีพลังที่ขัดแย้งต่อกัน คลื่นพลังเต็มไปด้วยพลังไร้ขีดสุดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ใช้สายโลหิตปีศาจของเจ้าหลอมรวมกับภูมิปัญญาของข้า!”
ซือหยูทำตามทันที พลังโลหิตปกคลุมกาย วายุพลังล้อมรอบตัวของเขา คลื่นพลังจากดวงตาของจางตี๋เก้อถูกดูดกลืนเข้าสู่วายุพลัง
ซือหยูกรีดร้องออกมา ร่างกายของเขาถูกความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่อย่างรุนแรง เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังถูกเติมเต็มช่องว่าง แต่พลังนั้นก็ยังไม่พอ…ราวกับว่าเขาจะระเบิดจากภายใน
สายเลือดปีศาจนั้นกำลังรับมือกับฐานพลังของขอบเขตภูติ ถ้าไม่ใช่เพราะสายเลือดปีศาจที่ช่วยให้พลังสงบลง การโอนถ่ายฐานพลังของจางตี๋เก้อคงทำให้ซือหยูตายไปแล้ว แต่ผลของมันก็ชัดเจน ฐานพลังของซือหยูนั้นพุ่งทะยานขึ้นไป เขาสำเร็จขั้นผู้คุมสวรรค์ในพริบตาเดียว! เขาก้าวข้ามไปถึงระดับกึ่งเทพและเกือบจะถึงขอบเขตภูติ!
เล่ยมู่ตื่นตระหนก
“บัดซบ! ข้ามันเร็ว!”
เฮ่ยลั่วกัดฟัน เอาฉีกเนื้อบนอกออกไปส่วนหนึ่ง ส่วนที่เขาฉีกไปนั้นคือรอยสักหน้าภูติผี
เสียงหวีดร้องจากภูติดังมาจากอก กรงเล็บภูติปรากฏออกมา มันใหญ่กว่ากรงเล็บที่ใช้สังหารซัวหลี่เสียสามส่วน…มันแทงทะลุรอยสักออกมาจากความว่างเปล่า หมอกทมิฬปกคลุม กรงเล็บแผ่พลังภูติออกมาอย่างมาก
ซือหยูไม่ได้อยู่ไกลจากเฮ่ยลั่วและกรงเล็บนั้นยังรวดเร็วกว่ามาก ซือหยูตอบสนองไม่ทัน ซือหยูที่มักจะระวังเฮ่ยลั่วอยู่เสมอนั้นดูดกลืนพลังของจางตี๋เก้อไม่ทัน เขาพุ่งลงกับพื้นและไถไปร้อยศอกเพื่อที่จะหลบกรงเล็บนั้น แต่จากนั้นกรงเล็บภูติก็เริ่มพูดกับเขาอย่างน่าตกใจ
“หึหึ!”
มันหัวเราะ
“เจ้าก็ตอบสนองเร็วดี แต่มันยังไม่พอ!”
มันพุ่งเข้าใส่ซือหยูอีกครั้ง เฮ่ยลั่วใช้เวลาเดียวกันนี้โจมตีจากอีกข้าง เขากำหมัดและซัดลำตัวของซือหยูอย่างป่าเถื่อน
ซือหยูพยายามโต้กลับ มือซ้ายปล่อยน้ำแข็งออกมาพร้อมกับมือขวาที่ปล่อยสายฟ้า เขารับการโจมตีจากทั้งสองด้านเพียงลำพัง
พลังน้ำแข็งป้องกันกรงเล็บเอาไว้ ส่วนมือขวานั้นต้านมือยักษ์ของเฮ่ยลั่วเอาไว้อย่างง่ายดาย
เฮ่ยลั่วได้ยินเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นระรัว มนุษย์ผู้นี้ป้องกันการโจมตีจากสองด้านได้ในคราเดียว…และยังทำได้อย่างง่ายดาย! เฮ่ยลั่วกระอักหมอกโลหิตออกมา
หมอกโลหิตระเบิดและกลายเป็นใบหน้าภูติผี มันอ้าปากปล่อยพลังวายุกระหน่ำรุนแรงใส่ซือหยู ซือหยูที่อยู่ในระยะใกล้จะสวนกลับการโจมตีที่คาดไม่ถึงนี้ได้ยังไง?
ต่อหน้าความเป็นความตาย วงแหวนอัสนีสามวงพุ่งออกจากร่างซือหยู ด้วยฐานพลังกึ่งเทพ พลังของวงแหวนอัสนีนั้นเพิ่มขึ้นไปหลายเท่า หมอกโลหิตนั้นกรีดร้องเมื่อต้องวงแหวนอัสนี มันหายไปไม่หลงเหลือพลัง
แต่พลังของวงแหวนอัสนีก็ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น มันยังพุ่งเข้าไปด้วยพลังเต็มที่และปะทะเข้ากับร่างของเฮ่ยลั่วอย่างจัง
เอื้อก—
อั่ก—-
อ่อก—
เฮ่ยลั่วกระอักเลือดออกมาถึงสามครั้งเมื่อถูกอัสนีซัดใส่กาย เขากระเด็นออกไป เขากระแทกกับพื้นอย่างแรงและ…ตาย อสุราเลื่องลือนามแห่งก้นบึ้งมังกรตายไปต่อหน้าคนในเมืองก้นบึ้งนับหมื่น
ซือหยูไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น แค่ก้าวเดียวของเขาก็ทะยานไปได้หลายพันศอก ผู้คนโดยรอบมองเขาไม่ทันเลย! เขาเข้าถึงตัวเล่ยมู่ในพริบตาเดียว อัสนีสีม่วงเคลือบหมัดของซือหยู เขาซัดหมัดที่มีพลังถึงตายเข้าใส่เล่ยมู่
เล่ยมู่เบิกตากว้าง เขาตะโกน
“ข้าคือครองกระบี่สายฟ้าอยู่ เจ้ายังข้าทำอะไรข้าอีกเรอะ? ตายซะ!”
นิ้วทั้งสิบของเขาทับซ้อนกัน เขาขยับตัวอย่างรวดเร็ว
“ฉี!”
กระบี่สายฟ้าปล่อยอัสนีมรกตอ่อนๆออกมา พลังนั้นทำให้เกิดเพลิงอัสนีที่พุ่งเข้าใส่ซือหยู
ซือหยูถอยไปหลายก้าวด้วยพลังนั้น หมัดขวาของเขาไหม้เกรียม คราบโลหิตไหลอาบหมัดนั้น โลหิตไหลออกจากมุมปาก และอัสนีมรกตนั้นยังทำลายพลังชีวิตของเขาอีกด้วย
อัสนีเดียวทำให้เขา…ที่เป็นกึ่งเทพในตอนนี้…บาดเจ็บเช่นนี้ได้ยังไง? ถ้าเขาเป็นอำมฤตระดับสี่ เขาคงจะตายในพริบตาเดียว
ซือหยูใช้พลังอัสนีในกายหยุดอัสนีภายนอกที่กลืนกินเขา
สายฟ้าทั้งสองปะทะกันในกายซือหยู เสียงสายฟ้าปะทุออกมาจากร่างของเขา แต่อัสนีสีม่วงนั้นก็อ่อนแอกว่าอัสนีมรกตอย่างชัดเจน มันทำให้แค่ถ่วงเวลาให้อัสนีมรกตทำลายร่างของซือหยูได้ช้าลงเท่านั้น
เขาต้องจบมันโดยเร็ว!
ซือหยูตะโกน ด้วยพลังจากฐานพลังที่เพิ่มขึ้น สมุนไพรเทพเยือกแข็งที่เติบโตอยู่ข้างจุดกำเนิดพลังได้แยกตัวออกมาจากร่างกายของเขา
สมุนไพรเทพพัดส่งความเย็นถึงกระดูก ต้นสมุนไพรเทพได้กลายเป็นใบน้ำแข็งเก้าใบที่พุ่งเข้าใส่เล่ยมู่ด้วยความเร็วสูง
เล่ยมู่ไม่คิดว่าซือหยูจะรับพลังของกระบี่สายฟ้าได้เลยไม่ได้หนี เขาตกใจแต่ร่างก็ปล่อยอัสนีทมิฬออกมา สายฟ้านั้นพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง มันกลายเป็นแหสายฟ้าห่มนภาพุ่งตรงไปยังใบไม้น้ำแข็งทั้งเก้า
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ–
ใบไม้น้ำแข็งปะทะกับแหสายฟ้าและถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แหสายฟ้าพลังลดลงตามแรงปะทะของสมุนไพรเทพ จากนั้นแหสายฟ้าจึงหายไป
เหลือเพียงใบเดียวที่เหลืออยู่ มันพุ่งตรงไปยังลำตัวของเล่ยมู่
พลังน้ำแข็งอันน่ากลัวทำให้เล่ยมู่เจ็บปวดแต่เขาก็ยังยืนอยู่ได้ ใบหน้าแสดงถึงจิตสังหารอันเข้มข้น
เล่ยมู่กู่ร้อง
“เจ้าต้องตาย…!”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซือหยูก็ตะโกน
“จงระเบิด!”
ใบไม้น้ำแข็งที่เข้าสู่ร่างของเล่ยมู่ระเบิดออกมา
โลหิตและบาดแผลลึกเท่าชามเกิดขึ้นบนตัวเล่ยมู่ เกล็ดน้ำแข็งทะลวงลึกใมนร่างกาย มันแข็งไปถึงกระดูก!
เล่ยมู่ต่อสู้กับความเจ็ฐปวดและถอยกลับ
“กระบี่สายฟ้า ดับซะ!”
เหนือกระบี่ สัญลักษณ์ทั้งเก้าเปล่งประกาย มันเต็มไปด้วยหมอกดำ กระบี่สายฟ้าสั่นสะเทือน เห็นได้จัดว่ามันกำลังจะระเบิด
“ไม่นะ!”
จางตี๋เก้อตะโกน
“เขากำลังควบคุมพลังของกระบี่สายฟ้า!”
เล่ยมู่หัวเราะดังลั่น นิ้วทั้งห้าคว้าอากาศอันว่างเปล่า เขาทำท่าราวกับแกว่งดาบ
“ตายซะเถอะ!”
เขาตะโกน
กระบี่สายฟ้าตอบสนองตามท่าทางของเล่ยมู่ กระบี่ยาวพันศอกเหวี่ยงตัวเอง…ไปที่ซือหยู!
ทั้งก้นบึ้งมังกรสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเมื่อกระบี่เคลื่อนไหว! ซือหยูรู้สึกราวกับเป็นเทียนที่อยู่ท่ามกลางสายลมเชี่ยวกราก ด้วยพลังอันน่าตกตะลึงของกระบี่ ร่างของเขาต้องรับแรงกดดันมหาศาล สายโลหิตทุกสายหนักอึ้งและถูกกดเอาไว้
กระบี่กำลังจะทำลายร่างกายและดวงวิญญาณของเขาจนหมดสิ้น
ในตอนนั้น พลังสุดท้ายของจางตี๋เก้อได้ระเบิดออกมา
ครืน—
ครืน—
ฐานพลังของซือหยูพุ่งทะยานจากกึ่งเทพไปเป็นขอบเขตภูติ!
ในตอนนั้น พลังทั้งหมดเอ่อล้นออกมาจากหัวใจของซือหยู เขารู้สึกราวกับว่าตัวเขาได้เป็นอิสระจากพันธมิตรการของจักรวาล เขาอยู่เหนือทุกสิ่ง ทุกสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งหมดล้วนอยู่แทบเท้าเขาและสมควรแก่การถูกเหยียดหยาม เขาได้กลายเป็นภูติแล้ว
ซือหยูสลัดความคิดทิ้งไปเขาหายไปจากจุดเดิมที่กระบี่เข้าซัด
ครืน—
ครืน—
กระบี่สายฟ้าที่ซัดเข้ามาสร้างพลังกระบี่ที่ยาวแสนศอก มันแบ่งเมืองก้นบึ้งออกเป็นครึ่ง!
แผ่นดินแยกออก ลาวาปะทุท่วมเมืองที่พังทลาย พลังกระบี่ที่เหลือกระจายไปยังด้านข้างและทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในหลายหมื่นศอกจนสิ้น!
เมืองก้นบึ้งมากกว่าครึ่งถูกทำลายไปด้วยการโจมตีที่ไม่ได้ลงแรงมากนัก!
เล่ยมู่เบิกตากว้างกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป แต่เขาก็ยังไม่หยุดมือ กระบี่สายฟ้าชี้ขึ้นอีกครั้ง ศัตรูของเขาหายไปไหนแล้ว?
ซือหยูกระทืบเท้าจากเบื้องบน นภาสั่นคลอนอย่างรุนแรง พลังชีวิตเล็ดลอดออกมา เหล่าเมฆาจากทุกทิศทางสั่นสลายออกไป ยอดฝีมือมากมายบนพื้นต่างล้มลงไปกองกับพื้นด้วยแรงกระแทกที่หนักราวกับภูเขาลูกยักษ์
มือของเล่ยมู่ที่ควบคุมกระบี่นั้นหยุดไปในทันที เขากระอักเลือดออกมา ร่างนั้นล้มลงไปกองกับพื้นเสียงดัง โลหิตกระจายไปทั่วดั่งพิรุณ
กึ่งเทพ…พ่ายแพ้ในการกระทืบเท้าครั้งเดียว!
ซือหยูไม่มีเวลาจะตกใจกับพลังของขอบเขตภูติ เขารู้สึกเจ็บปวดถึงขีดสุดในร่างกาย ร่างของเขาขยายไม่หยุดราวกับลูกโป่งและกำลังจะระเบิด!
เปรี๊ยะ–
กระบี่สายฟ้าเสียเจ้าของไป มังกรสายฟ้าที่ขังจางตีษเก้อหายไปเช่นกัน
นางบินมาที่ข้างซือหยูในพริบตาและใช้นิ้วแตะหน้าผากของซือหยูอย่างรวดเร็ว พลังมหาศาลถูกดึงออกผ่านบริเวณหน้าผากของซือหยู พลังของขอบเขตภูติที่ผสมอยู่กับสายเลือดปีศาจหลั่งไหลราวกับแม่น้ำเชี่ยวกราก
ร่างของซือหยูที่ขยายออกสงบลงอย่างมาก ซือหยูหอบหายใจอย่างแรง ร่างของเขาเหนื่อยอ่อน ราวกับพลังทั้งหมดของเขาถูกใช้จนหมดในทีเดียว+
จางตี๋เก้อรับพลังนั้นเอาไว้กับตัวและได้ฐานพลังคืนมาอีกครั้ง นางยินดีอย่างมาก
“เจ้าทำได้ดีจริงๆ!”
ซือหยูพยักหน้าอย่างใจลอย
“นั่นก็เพราะฐานพลังอันยิ่งใหญ่ของท่าน”
“มันคือการยืนยันพลังของท่านก็เท่านั้น”
จางตี๋เก้อยินดีอย่างมากที่ขจัดภัยร้ายไปได้
“ไม่ต้องมากความ…”
“ข้านั้นยุติธรรมในการให้รางวัลและบทลงโทษ เจ้าช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ข้าอาจจะปล่อยเจ้าไปหลังจากที่ได้ออกจากก้นบึ้งมังกร หรือจะเอาเช่นนี้เล่า? ติดตามข้าไปห้าสิบปี แล้วข้าจะปล่อยเจ้าเป็นอิสระ”
ซือหยูตอบอย่างไร้อารมณ์
“ขอบคุณท่านที่เอื้อเฟื้อ”
จางตี๋เก้อพยักหน้าเล็กน้อยและมองไปยังกระบี่สายฟ้าเบื้องล่าง นางขมวดคิ้วและหวาดกลัวเล็กน้อย
“เอาล่ะ….”
“ข้าจะปล่อยเรื่องการฟื้นฟูกระบี่สายฟ้ากับเจ้า กระบี่นั้นยับยั้งพลังข้าได้ คงจะดีกว่าถ้าเจ้าได้ฟื้นฟูมัน!”
จางตี๋เก้อกำมือจากกลางอากาศ กระบี่สายฟ้าที่ยาวพันศอกได้ส่งเสียงร้องและลดขนาดลง สุดท้ายมันก็ยาวเท่ากระบี่ธรรมดา กระบี่นั้นมาหยุดอยู่ที่หน้าซือหยู
จางตี๋เก้อหัวเราะชอบใจเมื่อได้เห็นกระบี่สายฟ้า
“ไม่เลว นั่นใกล้เคียงกับสมบัติวิญญาณอย่างมาก แต่มันก็ยังขาดการเติบโต หากพลังของมันอยู่ในขั้นเต็มที่ มันจะนับว่ามีค่าเทียบเท่าสมบัติวิญญาณ”
สมบัติวิญญาณรึ? ซือหยูคิด ‘ข้าคิดว่าสมบัติเทพเป็นอาวุธที่อยู่ในขั้นสูงสุดแล้ว…’
“เอาคัมภีร์นี่ไป…”
“มันจะชี้แนะเจ้าถึงวิธีควบคุมกระบี่ เจ้าจะต้องควบคุมกระบี่นี้ได้ในครึ่งวันแน่!”
จางตี๋เก้อโยนคัมภีร์ให้กับซือหยูจากนั้นจึงลงไปตรวจสอบบาดแผลของเซี่ยจิงหยู นางแค่หมดสติไปเท่านั้น ดังนั้นเมื่อจางตี๋เก้อใส่พลังชีรวิตเข้าไปเล็กน้อยจึงทำให้นางตื่นขึ้นมาทันที นั่นก็เพราะมันเป็นพลังชนิดพิเศษที่ครอบครองโดยผู้ที่อยู่ในขอบเขตภูติ
จากนั้นจางตี๋เก้อก็แตะขาตัวเองเพื่อสร้างสายลมรุนแรงพาซือหยูกับเซี่ยจิงหยูกลับสู่ซากศิลา พวกเขากลับมาถึงจุดเริ่มต้นแห่งก้นบึ้งมังกร!