The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 478
ในตอนนั้น รอยแตกสีดำมากมายเกิดขึ้นบนผิวพลังต้นกำเนิด ทั้งสามธาตุแทบจะกลายเป็นสีดำสนิท ณ ตอนนี้ พลังทำลายล้างแพร่กระจายโดยรอบ! มันกำลังจะระเบิดแล้ว!
ซือหยูดูวิตก เขาโยนต้นกำเนิดที่กำลังจะระเบิดไปหาหยางยี่เต๋าโดยสัญชาตญาณ หน้ากากสีเงินบนใบหน้าส่องแสงเมื่อซือหยูเข้าไปซ่อนตัวในมิติหน้ากาก เขายังปล่อยพลังวิญญาณออกมารอบๆตัวเพื่อปกป้องตัวเองแม้จะมีเกราะราชาศิลานิรันดร์อยู่ด้วยก็ตาม
หยางยี่เต๋าหวาดกลัวอย่างมากเมื่อเห็นต้นกำเนิดสีดำสนิทที่ลอยมาทางเขา เขาที่ไม่มีทางเลือกอื่นในการป้องกันตัวนอกจากใส่พลังชีวิตลงในมุกสีม่วง
พลังชีวิตเข้าสู่ลำดับ ลำแสงพุ่งออกมาจากลำดับอย่างแข็งแกร่ง มันอาจจะป้องกันการโจมตีจากขอบเขตภูติได้เลยทีเดียว
เมื่อทั้งสองใช้วิชาป้องกันตัวสำเร็จ ต้นกำเนิดดำสนิททั้งสามธาตุก็ระเบิดออก มันลดขนาดเหลือเท่าเมล็ดถั่วจากนั้นก็ขยายใหญ่กว่าเดิมเป็นหมื่นเท่า ขนาดมันแผ่ขยายไปสิบลี้!
พลังทำลายล้างจากน้ำแข็ง อัคคี และสายฟ้าได้กลายเป็นเมฆารูปเห็ดจากแรงระเบิดอันมหาศาล มันทำลายทุกสิ่งในระยะสิบลี้จนกลายเป็นเถ้าถ่าน
ในระยะร้อยลี้ พื้นปฐพีสั่นสะเทือน ในระยะพันลี้ พื้นดินสั่นเบาๆ
พลังทำลายล้างสั่นคลอนทุกมุมในชั้นเจ็ดของกระโจมเทพ ในป่าศิลา คนนับร้อยที่กำลังต่อสู้กันรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนและหยุดหันไปมองด้วยความแปลกใจบนใบหน้า
“นั่นมัน…กระบวนท่าของขอบเขตภูติใช่หรือไม่?”
จางตี๋เก้อที่มองดูเหล่ามนุษย์สู็กันเองด้วยรอยยิ้ม…แต่รอยยิ้มนางก็หุบหายแทนที่ด้วยความตกตะลึง นางมองทิศทางของซือหยูอย่างหม่นหมอง
“พลังทำลายล้างอะไรกัน มีสัตว์ประหลาดขอบเขตภูติในกระโจมเทพสวรรค์ทั้งแต่เมื่อไหร่?”
นางพูดอย่างหนักแน่น
“เราจะไม่รออีกแล้ว แผนของเขาอาจจะถูกขัดขวางได้! มีอันตรายแปลกๆในกระโจมเทพสวรรค์!”
นางพูดจบและนำพาสี่ตระกูลไปเข้าร่วมการต่อสู้ในป่าศิลา
และเวลาเดียวกัน ราชาปีศาจไป่ฉีที่นั่งสมาธิอยู่บนยอดเขาก็ลืมตาขึ้นมา เขามองไปในทิศทางของซือหยู
“คลื่นพลังอะไรกันนี่! ฝีมือใครกัน?”
ในตอนนั้น ผู้เฒ่าในภาพเขียนสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน
“ไม่น่าเชื่อ…ข้าสัมผัสพลังต้นกำเนิดหลายธาตุได้ มันคือแรงระเบิดจากการที่ต้นกำเนิดหลอมรวมกันงั้นรึ? มันจะเป็นเรื่องจริงรึ ต้นกำเนิดไม่นับว่าหายากในจิวโจว แต่ก็ไม่มีคนมากนักที่จะมีต้นกำเนิดสองธาตุหรือมากกว่าขึ้นไปในคนคนเดียว ถึงจะใช้ห้าคนที่มีต้นกำเนิดต่างกันมารวมพลัง มันก็ไม่น่าจะมาถึงพลังขั้นนี้ได้ ที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
******
ซือหยูกับหยางยี่เต๋าอยู่ในจุดศูนย์กลางการระเบิดอันน่าตกใจ
พื้นที่ในระยะสิบลี้ทรุดลงไปเหลือแต่เพียงพื้นดินที่ไหม้เกรียมไร้สุดลูกหูลูกตา แม้แต่เขาจักรพรรดิสายฟ้าที่คงอยู่มาจนเป็นนิรันดร์ก็ถูกทำลายไม่เหลือซาก มันล่มสลายกลายเป็นซากศิลาลอยไปมาในอากาศ
ส่วนหยางยี่เต๋า ทั้งร่างของเขาไหม้เกรียมรามกับถ่าน นอกจากฟันสีขาวก็ไม่มีส่วนใดแล้วที่จะไม่เป็นสีดำ มีดครามจันทร์เสี้ยวในมือแตกสลายไป แม้แต่สมบัติเทพระดับกลางชั้นดีก็แหลกสลายไม่มีชิ้นดี!
หยางยี่เต๋าลมหายใจรวยริน เพียงการลืมตาก็ยากลำบากยิ่งนัก
สีหน้าของเขาหวาดกลัว แรงระเบิดจากการหลอมรวมสามธาตุเข้าด้วยกันนั้นทรงพลังกว่าที่เขาคิดไปร้อยเท่า! เขาเกือบจะถูกสังหารในพริบตาที่เกิดการระเบิด ถ้าไม่มีใครมาช่วย เขาจะต้องตายที่นี่อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อมองดูรอบๆก็พบว่าเขาเป็นคนเพียงคนเดียวที่นี่ ผู้สร้างการระเบิด ซือหยู ได้ตายไปด้วยสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมา หยางยี่เต๋าคลายใจอยู่บ้างกับเรื่องนี้
พรึ่บ–
แต่ในตอนนั้นเอง คลื่นพลังผุดมาจากซากปรักหักพัง
มันคือหน้ากากสีเงินที่เกือบจะแตกสลาย ตาขวาของหน้ากากแหลกละเอียดไป มันลอยอย่างสั่นๆเมื่อแสงสีมรกตอ่อนๆเปล่งประกาย จากนั้นก็มีคนในชุดเกราะทมิฬหล่นลงมา เขาคือซือหยู!
เขายังไม่ตาย แต่ก็สภาพย่ำแย่ไม่ต่างจากจคนตาย! เขาหน้าซีดราวกับกระดาษและไม่มีพลังวิญญาณเหลือในกายแม้แต่น้อย โลหิตไหลออกมาจากร่างกายที่สวมชุดเกราะย้อมครึ่งร่างเป็นสีแดงฉาน สายพลังในร่างขาดสะบั้น แก้วพลังวิญญาณทั้งสองในจุดกำเนิดพลังกำลังจะแตกสลาย! ถ้ามันแตกสลายไป ฐานพลังก็จะถูกทำลายไปด้วย! เขาบาดเจ็บขั้นร้ายแรง…กระดูกบางท่อนแหลกเป็นผง
ซือหยูนอนแผ่กับพื้นมิอาจขยับตัว เขาไม่ต่างอะไรกับหยางยี่เต๋าเลย
ซือหยูหัวเราะอย่างขมขื่น เขาไม่คิดว่าการหลอมรวมต้นกำเนิดจะน่ากลัวเช่นนี้! แม้แต่เขาที่เป็นคนใช้พลังก็เกือบตายเพราะมัน!
หน้ากากนิรันดร์ถูกทำลายไปแล้ว รอยแตกมากมายเกิดขึ้นบนเกราะอกของเกราะราชาศิลานิรันดร์เพราะแรงกระแทก เป็นเพราะเกราะนี้ที่ป้องกันแรงกระแทกไปเก้าสิบเก้าส่วน ซือหยูจึงไม่ตายในทันที
ซือหยูหยิบเอาขวดโอสถออกมาจากคันฉ่องจักรวาล มันคือโอสถหยาดจันทราเยือกแข็งที่จ้าววิหคเพลิงฉิวมอบให้กับเขา มันจะฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาได้ เขาไม่เคยใช้มันมาก่อน เขานี่ก็ถึงเวลาที่มันจะช่วยชีวิตเขาแล้ว
เขาขยับมืออย่างยากลำบากเมื่อที่จะเอาเม็ดโอสถวางลงบนริมฝีปาก แม้แต่เรื่องง่ายๆเช่นนี้ก็ใช้พลังทั้งหมดที่เขาเหลือ เขาเจ็บจนเหงื่อผุดออกมาจากหน้าผาก แต่เม็ดยาก็กลายเป็นพลังวิญญาณไหลเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว มันฟื้นฟ๔แก้วพลังวิญญาณที่กำลังจะแตกสลาย มันช่วยเขาให้หนีชะตาที่ฐานพลังจะถูกทำลายได้ชั่วคราว!
พลังวิญญาณฟื้นฟูสายพลังและกระดูก มันค่อยๆรักษาบาดแผลของเขา เขาไม่อยู่ในสภาพใกล้หมดลมหายใจอีกแล้ว
ต้องรอเวลาเท่านั้นก่อนที่เขาจะฟื้นฟูเต็มที่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้ก็ได้เรียกความสนใจจากผู้คนโดยรอบอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากที่ขยับตัวได้ ซือหยูเดินกะโผลกกะเผลกไปยังหยางยี่เต๋า เขาหยิบเอามีดเกล็ดทองออกมาเฉือนหัวใจ จบชีวิตของหยางยี่เต๋าไปอย่างไร้ปรานี
ซือหยูกำลังจะเดินออกไปแต่ก็เหยียบกับของแข็งชิ้นหนึ่ง เขาก้มลงมองและพบกันแหวนทมิฬจากดัชนีของหยางยี่เต๋า!
ซือหยูตื่นเต้น มันคือสมบัติมิติ!
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หยางยี่เต๋าใช้สมบัติชิ้นนี้ มันคืออุปกรณ์เก็บของจากกึ่งภูติที่เก็บของได้หลายสิ่งอย่าง ลำดับห้าธาตุเมฆาแห้งเหือดก็มากพอแล้วที่จะทำให้ซือหยูตื่นเต้น!
ซือหยูมองดูรอบๆและพบกับมุกสีม่วงใกล้ๆ เขารีบบินออกจากที่นี่ทันที แต่ในตอนนั้นเองก็มีคนสองคนบินเข้ามาด้วยความเร็วสูง
ซือหยูเงยหน้ามอง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คนที่บินเข้ามานั้นตื่นตัวอย่างมาก สีหน้าของพวกเขาน่ากลัว