The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 494
กลิ่นโลหะของโลหิตพัดลอยมาแล้ว!
“เตรียมสู้!”
ลู่จือยี่สั่งการ
ท่อนไผ่ทองคำเล็กๆปรากฏในฝ่ามือของนาง! ไผ่นี้ดูเหมือนจะเป็นสมบัติชนิดเดียวกับใบไม้ทองคำ แต่พลังมิติของไผ่นี้เหนือกว่าใบไม้ทองคำอย่างมาก! ซือหยูรู้สึกถึงพลังจิตสังหารภายในไผ่! นี่เป็น…สมบัติประเภทจู่โจม!
หลังจากที่โจวฉีหมิงเห็นสิ่งนี้เขาก็เบิกตากว้าง
“ไผ่เทวะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจิวโจว ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์!”
ไป่ฉีกับหมิงเฟยอ้าปากค้างเช่นกันเมื่อได้เห็น! พวกเขามองลู่จือยี่ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ไป่ฉีแทบจะพูดไม่ออก
“ไผ่นี้สูญหายจากทวีปจิวโจวไปนานแล้ว นางมีมันได้ยังไง?”
ซือหยูสังเกตเห็นสีหน้าของแต่ละคน ของสิ่งนี้จะต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน พลังของมันเหนือกว่าความเข้าใจของซือหยู ถ้าไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ถูกใช้กับเขาในคราวก่อน เขาคงจะตายอย่างแน่แท้!
ลู่จือยี่ก้าวไปข้างหน้า นางเผชิญหน้ากับฝ่ามือโลหิตเพียงลำพัง
“พลังของไผ่สูงเกินไป แค่ส่วนเดียวก็เหนือว่าขอบเขตภูติ พวกเจ้าถอยไปแล้วตั้งสมาธิอยู่กับเวท อย่าให้มันถูกทำลาย”
ซือหยูไม่แปลกใจที่นางจะใช้สมบัติชิ้นนี้ในตอนนี้ พลังของมันมหาศาลมาก ถ้าไม่ใช่มัน นางอาจจะถูกส่งออกไปที่ภายนอกกระโจมเทพได้
กลิ่นโลหิตเริ่มเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พวกเขารออย่างตั้งใจที่จะรับมือ!
มาแล้ว!
พวกเขามองไปยังทิศทางวของทะเลโลหิต
แต่ในตอนนั้นก็มีพลังอันน่ากลัวมาจากด้านหลังเวท! แย่แล้ว! ฝ่ามือนั้นยักย้ายตัวเองมาอยู่ที่ด้านหลังพวกเขา!
ฝ่ามือซัดใส่ด้วยพลังมหาศาล โจวฉีหมิงกับคนที่เหนืออ้าปากค้างด้วยความตกใจแต่ก็รีบคืนสติและช่วยกันป้องกัน โจวฉีหมิงปล่อยพลังออกจากดวงตา ไป่ฉีกับหมิงเฟยปล่อยพลังภูติสร้างฝ่ามือใหญ่เข้าไปปะทะกัน
การโจมตีของทั้งสามเกือบจะอยู่ในระดับขอบเขตภูติ…ในด้านพลังล้วนๆ การโจมตีนั้นเหนือกว่าระดับแรกๆของขอบเขตภูติไปแล้ว! แต่เมื่อเกิดการปะทะกัน พลังทั้งหมดที่สัมผัสกับฝ่ามือโลหิตก็สลายไป!
มีรอยแตกที่ฝ่ามือโลหิต แสงสีเงินอ่อนๆซ่อนอยู่ภายในสีโลหิตนั้น ซือหยูจดจำสีเงินเช่นนี้ได้ มันคือโลหะในร่างกายของสัตว์ประหลาดในทุ่งหญ้าซากศพ!
ทั้งสามตกใจเมื่อพบว่าการโจมตีของตัวเองล้มเหลวในการรับมือกับฝ่ามือโลหิต ฝ่ามือโลหิตที่พุ่งเข้ามากำลังจะทำลายเวทยักย้าย ทั้งสามรีบจู่โจมต้านพร้อมกันอีกครั้ง แต่ทั้งสามก็รับไม่ไหวและแตกกระบวนราวกับแมลงวัน
เมื่อไม่มีสิ่งกั้นขวาง ฝ่ามือโลหิตปะทะกับเวทยักย้ายอย่างป่าเถื่อน
แต่ในตอนนั้นเอง แสงสีทองโอบล้อมพื้นที่โดยรอบ ฝ่ามือโลหิตนั้นหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็มีรอยแตกสีทองที่กลางฝ่ามือ!
ฝ่ามือแบกแยกเป็นสอง!
ด้ายโลหิตที่สร้างฝ่ามือขาดสะบั้น มันร่วงหล่นสู่พื้นและมุดลงใต้ดิน
โลหะสีเงินหล่นลงกับพื้น
ลู่จือยี่ยกมือคว้าเศษโลหะสองชิ้นเอาไว้ นางตกตะลึงเมื่อมองดูมัน
“นี่มัน…วัตถุดิบที่มีแค่ในโลกอสูรไม่ใช่รึ? มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ทุกคนรวมถึงซือหยูจ้องมองไผ่ทองคำ พลังของไผ่ทองคำนั้นเหนือกว่าที่ทั้งสามคาดคิด พวกเขาเห็นว่านางสะบัดข้อมือตัดผ่านความว่างเปล่าก่อนที่ฝ่ามือโลหิตจะแยกเป็นสองซีก!
โลหะสีเงินที่แม้แต่การโจมตีในขอบเขตภูติก็ทำให้สั่นสะเทือนไม่ได้กลับถูกฝ่าครึ่ง!
โฮก—
พวกเขาไม่มีเวลาได้พัก เสียงคำรามที่ไม่ใช่ของมนุษย์ดังมาจากขอบนภา ซือหยูกับคนที่เหลือตัวสั่น พวกเขาปล่อยพลังวิญญาณและพลังชีวิตออกมาป้องกันร่างกายโดยไม่รู้ตัว
โจวฉีหมิงหวาดวิตก
“นั่นมันอะไรกัน? ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับจ้าวเทวะล่ะ!”
พลังของสิ่งที่จะเข้ามาในกระโจมเทพสวรรค์นั้นมีขีดจำกัดที่ขอบเขตภูติ แต่สิ่งที่อยู่ภายในกระโจมเทพสวรรค์แต่แรกนั้นไม่มีข้อยกเว้นนี้!
“ทำใจดีๆไว้!”
ลู่จือยี่ตะโกน
“ปกป้องวงเวท!”
เมื่อนางพูดท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิต แม้ว่าโจวฉีหมิงกับคนที่เหลือจะมองไม่เห็น พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังอสูรที่น่ากลัว
ในดวงตาซือหยู ทะเลโลหิตมาถึงขอบนภาแล้ว ทะเลโลหิตได้แผ่ขยายหลายล้านลี้ มันกลืนกินทุกสิ่งเมื่อขับเคลื่อนร่างมาหาพวกเขา!
ฟึ่บ–
จางซื่อเหลียนที่กำลังแอบบินเข้ามาที่เหนือเวทยักย้าย ผู้ติดตามลู่จือยี่ก็มาที่เวทด้วยความกลัวบนใบหน้า ซือหยูถอยช้าๆ เขามองคลื่นโลหิตสูงพันศอกที่กำลังจะซัดใส่
พวกเขาถูกล้อมโดยคลื่นโลหิตในทันที ด้ายโลหิตหลายล้านเส้นพุ่งเข้าใส่พวกเขาราวกับนักล่าผู้หิวโหย
ในตอนนั้นเอง แสงสีทองเปล่งประกายราวกับจะผ่าโลกเป็นสองส่วน! แสงโลหิตหายไปเผยให้เห็นฟ้าคราม แสงสีทองนั้นผ่าทะเลโลหิตจนเป็นรูใหญ่ แต่คลื่นโลหิตจากด้านหลังก็เคลื่อนไหวกลับมาปิดรูเดิมนั้น
เกิดรูอีกครั้งกับทะเลโลหิตเมื่อแสงสีทองส่องประกายปกป้องเวทยักย้าย มันเกิดขึ้นอีกสามครั้ง ทะเลโลหิตพุ่งซัดเข้ามาพร้อมกับแสงสีทองที่เปล่งประกายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
แต่เมือ่เวลาผ่านไป ความถี่ของแสงสีทองก็เริ่มช้าลง ทะเลโลหิตค่อยๆร่นระยะเข้ามาแล้ว
ทุกคนในวงเวทขนลุก พวกเขามองดูทะเลโลหิตที่กำลังจะกลืนกินตัวเองได้ในทุกขณะ ตรงหน้าพวกเขาคือลู่จือยี่ที่ต่อสู้กับทะเลโลหิต…ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ในมือนางกลายเป็นแสงแห่งความหวังของพวกเขา แต่สมบัติชิ้นนี้ก็ใช้พลังชีวิตอย่างมาก แม้ว่าลู่จือยี่จะมีพลังชีวิตในระดับจ้าวเทวะ นางก็อาจจะใช้การโจมตีไม่ได้อีกถ้าผ่านไปสิบครั้ง!
เส้นผมของนางชื้นชุ่มเหงื่อ หน้าผากสะท้อนกับทะเลโลหิต ชุดของนางเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ทุกคนที่มองดูใจหายเมื่อรู้ว่านางอาจจะรับมือได้อีกไม่นาน!
ซือหยูมองดูทะเลโลหิตด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“ทิ้งที่นี่เถอะ ถ้าพวกเราทิ้งเวทยักย้ายไปก็ยังมีโอกาสที่จะทะลวงผ่านคลื่นหนีไปได้ ทะเลโลหิตนี้ทำอะไรไม่ได้ถ้าเราบินสูงพอ แล้วเราจะถูกส่งออกไปเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาสองเดือน”
คนที่เหลือสนับสนุนความคิดของเขา แม้ว่าพวกเขาจะเสียหายไปมากที่ไม่ได้ไปยังชั้นแปดของกระโจมเทพ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เทียบได้กับชีวิตที่จะต้องเสียไป
แต่ลู่จือยี่กลับหันมามองอย่างเยือกเย็น นางมองซือหยูด้วยแววตาทะลุทะลวง
“อย่าพูดแบบนั้นอีก! เราจะต้องไปที่ชั้นแปดของกระโจมเทพ!”
แววตานางมีความเด็ดเดี่ยวอยู่ภายใน ซือหยูรู้สึกแปลกไป ราวกับว่าลู่จือยี่เป็นคนละคนที่ซือหยูไม่รู้จัก
แต่หลังจากที่ใช้ไผ่เงินกล้วยไม้ทองคำไปห้าครั้ง ความเร็วของลดลงจนถึงขีดจำกัด นางหายใจหอบ เหงื่อกำลังหยดไหลจากหน้าผาก นางหน้าซีดอย่างไม่น่าเชื่อ ใบหน้านางไร้สีสันของความเป็นมนุษย์ นางถึงขีดจำกัดแล้ว แต่เวทยักย้ายก็กำลังจะใช้ได้ในอีกไม่นาน!
ซืหยูคิดจะบอกนางให้ยอมแพ้แต่ลู่จือยี่ก็สร้างผนึกพลังด้วยมือทั้งสอง นางวางดัชนีที่อกจากนั้นสีหน้าก็แทนที่ด้วยความเจ็บปวด นางร้องครางด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ยังไม่หยุด พลังชีวิตมหาศาลเอ่อล้นออกมามากมายอย่างน่าตกใจแม้ว่านางจะใช้พลังไปมากแล้วก็ตาม!
คนที่ติดตามนางดูเหมือนจะเข้าใจว่านางทำอะไรอยู่
“ท่านอาจารย์ ไม่นะ! ร่างกายท่านรับมันไม่ไหวหรอก!”
ในมุมมองเนตรวิญญาณของซือหยู เขาเห็นว่านางกำลังใช้วิชาลับเพื่อฝืนเอาพลังชีวิตในร่างกายออกมา ต้นกำเนิดของพลังชีวิตนี้มิได้มาจากแก้วพลังแต่มาจากเลือดเนื้อของตัวเอง นี่เป็นการสกัดเอาพลังชีวิตที่ต้องแลกกับร่างกายของนางเอง!
ลู่จือยี่ไม่หันกลับไปมอง
“หุบปาก! ปกป้องวงเวทเอาไว้ ข้าจะฆ่าเจ้าถ้าเวทยักย้ายถูกทำลาย!”
ซือหยูไม่เข้าใจเลยที่อารมณ์ของนางเปลี่ยนไปมากและดึงดันเช่นนี้! ด้วยพลังของนาง ทะเลโลหิตอาจจะกักขังนางไม่ได้ แล้วเหตุใจนางถึงสละร่างกายตัวเองเพื่อให้ได้เข้าไปในชั้นแปดของกระโจมเทพด้วยเล่า?
นางกลับมาควบคุมพลังชีวิตและป้องกันทะเลโลหิตอีกครั้ง แต่ทุกครั้งเลือดเนื้อของนางก็จะลดหายไป หลังจากใช้ไปสามครั้ง ผิวของนางก็ดูเน่าเปื่อยเป็นสีเหลือง! โชคดีที่เวทยักย้ายทำงานได้แล้ว…เร็วกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย
แต่ในตอนนั้นทะเลโลหิตก็หยุดถาโถมเข้ามาไปเสียดื้อๆ! ด้ายโลหิตนั้นแข็งทื่ออยู่กับที่ ทั้งโลกเงียบกริบไร้เสียงใด!
ซือหยูกับคนที่เหลือไม่สบายใจเลย พวกเขาระวังตัวมากกว่าเดิมอีก ทำไมทะเลโลหิตถึงหยุดไปทั้งอย่างนั้นเล่า?
ปั่ก ปั่ก–
เสียงฝีเท้าอันชัดเจนจากในส่วนลึกของทะเลโลหิตดังทำลายความเงียบ ฝีเท้าเหล่านั้นดูเชื่องช้า แต่ทุกย่างก้าวก็มีระยะที่ไกล ทะเลโลหิตแหวกกลางเป็นทางเดินอันสมบูรณ์แบบ ราวกับว่ามันกำลังจะต้อนรับราชา