The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 514
แสงสีต่างๆสว่างวาบที่หลังยอดเขาตามด้วยเสียงคำรามด้วยความโกรธ ไป่ลั่ว ยี่หยู ฉิงจู และจ้าวแห่งความมืดทุกคนล้วนอยู่ที่นี่!
พวกสะดุดพื้นที่บางแห่งในยอดเขาที่สี่โดยไม่รู้ตัวและทำให้ถูกรายล้อมโดยผึ้งทมิฬ ผึ้งเหล่านี้มีขนาดเท่ากำปั้น เหล็กไนสีดำติดอยู่กับก้นของมัน ผึ้งเหล่านี้คือสัตว์อสูรที่มีพิษร้ายแรงอย่างมาก
มีผึ้งอยู่ประมาณสิบตัว แต่มันแต่ละตัวมีพลังระดับราชามนุษย์ และหนึ่งในนั้นยังพิเศษกว่าตัวอื่น มันมีสีม่วงและระดับพลังอยู่ที่กึ่งเทพ!
ในบรรดาจ้าวแห่งความมืด ไป่ลั่วนั้นมีพลังระดับกึ่งเทพ ยี่หยูกับฉิงจูเป็นราชามนุษย์ ส่วนที่เหลือเป็นแค่ผู้คุมสวรรค์ ในตอนนี้ ผึ้งทั้งสิบตัวกำลังจู่โจมพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง
หากมองดูใกล้ก็จะพบว่าผึ้งสีดำเหล่านี้มีดวงตาสีเลือด มันคล้ายกับสัตว์อสูรที่จู่โจมซือหยูมาก่อนหน้านี้ นั่นแสดงให้เห็นว่าสัตว์อสูรพวกนี้ถูกควบคุมให้ดุร้าย
เหล่าจ้าวแห่งความมืดนับว่าตกอยู่ในอันตรายเพราะจำนวนและกำลังที่ด้อยกว่า พวกเขาต้องพึ่งไป่ลั่ว ยี่หยู และฉิงจูในการป้องกันกลุ่ม แต่อย่างไรการโจมตีของพวกผู้คุมสวรรค์ก็ทำให้แค่ทำให้เหล่าผึ้งถอยหลบ แต่ผึ้งไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
เหล่าผึ้งยังคงจู่โจมโดยไม่กลัวตาย แต่ละคนทำให้พลังและโลหิตของเหล่าผู้คุมสวรรค์เดือดพล่าน แค่เวลาครึ่งถ้วยชาผ่านไปเหล่าผู้คุมสวรรค์ก็หน้าซีดราวกับกระดาษ
ในตอนนี้ ผึ้งตัวหนึ่งได้โอกาสเล็ดลอดผ่านการป้องกันไปหาลำคอของผู้คุมสวรรค์ มันยกเหล็กไนขึ้นและพุ่งลงไป
อ๊าก—-
จ้าวแห่งความมืดคนที่ถูกแทงรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัส เขาร้องเสียงหลง รอยดอกท้อสีดำปรากฏบนลำคอ รอยดอกท้อดำแพร่กระจายไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว
สีหน้ายี่หยูเปลี่ยนไปเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นางยิงไอวารีออกจากฝ่ามือเพื่อไล่ผึ้งตัวนั้นไป นางบินไปพร้อมกับคลื่นวารีที่หมุนวนในฝ่ามือ นางวางคลื่นวารีลงบนปากแผลทันที
คลื่นวารีหมุนนั้นมีพลังการดูดซับที่แข็งแกร่ง มันดูดเอาเหน็กไนสีดำออกมาจากแผล
และโลหิตสีดำจำนวนมากก็ถูกดูดออกมาด้วย แผลค่อยๆกลับมาเป็นสีตามปกติ
จ้าวแห่งความมืดที่ถูกช่วยชีวิตเอาไว้รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก
“ขอบคุณนะยี่หยู”
ฉิงจูถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขามองยี่หยูอย่างหลงใหล เขาพูดอย่างอ่อนโยน
“ลำบากหน่อยนะยี่หยู”
นี่เป็นคนที่สามที่ยี่หยูช่วยชีวิต มิเช่นนั้นด้วยพลังในตอนนี้ พวกเขาคงจะไม่มีทางยื้อได้นานนัก ทั้งหมดเป็นเพราะยี่หยูที่ชำนาญวิชาวารีโดยเฉพาะการฟื้นฟูและขับพิษ
แต่หลังจากทำเช่นนี้ไปสามครั้งก็มีคลื่นลมสีดำล้อมรอบฝ่ามือยี่หยู นี่คือสัญญาณบอกว่านางถูกพิษ! หลังจากที่ช่วยคนมาหลายครั้ง นางกำลังได้รับผลแล้ว
นางหน้าซีดอยู่ใต้ม่านวารีที่ปกคลุมหน้า เหงื่อเม็ดโตผุดออกมาจากหน้าผาก
นางต้องรับมือกับผึ้งทมิฬและยังต้องช่วยชีวิตคนในกลุ่ม ความรับผิดชอบที่นางต้องแบกรับนั้นหนักหนา และนางในตอนนี้ยังถูกพิษอีก ยากที่นางจะไปต่อได้
“ระวัง!”
ในตอนนั้น ผึ้งทมิฬกำลังพุ่งเข้าใส่แผ่นหลังของยี่หยู
ฉิงจูซัดมันออกไปด้วยฝ่ามือ เขาดูเป็นกังวล
“ไป่ลั่ว ยี่หยูทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เราควรถอย ถ้าฝืนสู้ต่อไปจะมีแต่เสียกับเสียเท่านั้น”
ไป่ลั่วนั้นอยู่ในสภาพดี เขานั้นไม่ได้ผิดปกติอะไรนอกจากพลังวิญญาณที่ต้องเสียไปบ้าง มีบาดแผลเล็กน้อยบนตัวเขา
เขาเหลือบมองคนอื่นและใจหาย เขาถอนหายใจแรง
“ทนต่ออีกสักนิดเถอะ เรากำลังจะได้เจอสมบัติที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าแล้ว สมบัติภูมิปัญญาอยู่ที่นี่ เราจะทิ้งมันไปไม่ได้!”
ฉิงจูไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็กัดฟันสู้ต่อ ไป่ลั่วต่อสู้กับผึ้งสีม่วงมาสิบรอบ เขาเริ่มเห็นว่าผึ้งสีม่วงกำลังเหนื่อยแล้ว
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ–
ผึ้งสีม่วงไม่ทันระวัง วายุมิติเก้าแห่งปรากฏขึ้นในทันที ไป่ลั่วหยิบมีดสามเล่มที่มีขนาดแตกต่างกันออกมาขว้างใส่วายุมิติ มีดทั้งสามเล่มพุ่งออกจากวายุมิติเข้าใส่ผึ้งสีม่วง
ฟึ่บ–
มีดสองเล่มถูกสะท้อนกลับมาในทันทีที่สัมผัสกับร่างของผึ้ง ส่วรอีกเล่มนั้นทะลวงผ่านปีกของมัน แผลนั้นไม่ได้ลึก มันไม่เพียงพอที่จะสังหารผึ้งตัวนั้น
ผึ้งสีม่วงที่รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดยิ่งดุร้ายกว่าเดิม มันกระแทกเข้ากับมิติทั้งเก้าราวกับสัตว์ที่ถูกขัง มันต่อสู้เอาชีวิตรอด
วายุมิติทั้งเก้าที่ถูกการโจมตีอันรุนแรงสั่นสะเทือนอย่างแรง ไป่ลั่วกระอักเลือดออกมา
“ฮื่ม! เจ้ายังกล้าขัดขืนอีกเรอะ!”
ไป่ลั่วซัดฝ่ามือไปอย่างโกรธแค้น ฝ่ามือของเขาพุ่งไปยังวายุมิติในมุมที่คาดเดาไม่ได้ การโจมตีของเขาทำให้ผึ้งสีม่วงกรีดร้อง การขัดขันของมันทวีความรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
สุดท้ายผึ้งสีม่วงก็มิอาจทนต่อการโจมตีต่อเนื่องได้ ไป่ลั่วพบจุดอ่อนและแทงมีดเพื่อจบชีวิตของมัน
ผึ้งสีม่วงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ร่างของมันสั่นสะเทือนก่อนที่จะระเบิดราวกับลูกโป่ง! ไอพิษพร้อมกับน้ำพิษกระจายไปทั่ว
หลังจากระเบิด เหล็กไนยักษ์ที่อยู่ที่ปลายหางของมันพุ่งออกไปหาเป้าหมายจากหนึ่งในวายุมิติ วายุมิติพังทลายลงไป
ไป่ลั่วหน้าแดงและกระอักเลือดออกมา แต่เขาก็ไม่ทันได้แปลกใจ เข็มนั้นพุ่งออกมาผ่านวายุมิติ มันพุ่งเข้าหาตัวเขาเอง
ไป่ลั่วสลายวายุมิติทั้งแปดที่เหลืออยู่และสร้างวายุขนาดยักษ์ตรงหน้า วายุมิติปล่อยพลังดึงดูดเหล็กไนเข้าไป
วายุมิติขนาดใหญ่สั่นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยุดลง เหล็กไนนั้นไม่เป็นภัยอีก! และผึ้งกึ่งเทพก็ตายไปแล้ว!
ไป่ลั่วเช็ดโลหิตที่มุมปาก สีหน้าของเขาทั้งไม่พอใจและโกรธแค้น
“ถ้าไม่ใช่เพราะราชาปีศาจหิมะทมิฬเอาเข็มเก้าหยินหยางของข้าไป เราก็คงไม่ต้องตกมาอยู่ในสถานการณ์นี้!”
ยี่หยูไม่สนใจเมื่อได้เห็นสถานการณ์ ถึงไป่ลั่วจะไม่เสียชุดเข็มไป มันก็ยังยากที่เขาจะรับมือกับผึ้งสีม่วงได้
“ไป่ลั่ว ช่วยพวกข้าเร็ว!”
ฉิงจูถูกโจมตีโดยผึ้งทมิฬสามตัว! ไป่ลั่วที่โกรธเกรี้ยวดวงตาลุกเป็นไฟ เขาปล่อยวายุมิติทั้งเก้าออกมา
เมื่อมีไป่ลั่วมาช่วยสู้ แรงกดดันจากคนอื่นเริ่มคลายลง พวกเขาสวนกลับเหล่าผึ้งได้อย่างรวดเร็ว ทั้งกลุ่มรู้สึกราวกับเพิ่งจะรอดตายมาได้ พวกเขารับซากผึ้งทมิฬไปเป็นของขวัญสงครามของตน
“เฮ้อ…”
ฉิงจูเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก เขาหายใจหอบอยู่นาน การต่อสู้เป็นเวลานานทำให้พลังวิญญาณในร่างของเขาหมดไปเก้าในสิบส่วน
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่ากระโจมเทพสวรรค์จะเป็นที่ที่อันตรายเช่นนี้ แค่ผึ้งก็มีระดับถึงกึ่งเทพ! เทียบไม่ได้เลยกับทวีปเฉินหลง”
ฉิงจูพูดออกมาด้วยความกลัวเล็กน้อย
พวกเขาตามทางที่ราชาแห่งความมืดมอบให้และหนีอันตรายมาได้ตลอดทางจนมาถึงยอดเขาทั้งห้า และพวกเขายังทำภารกิจที่ราชาแห่งความมืดมอบให้ได้สำเร็จ
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น พวกเขาก็ไม่เจออันตรายใดเลยในกระโจมเทพสวรรค์ การพบกับผึ้งเหล่านี้ถือเป็นอันตรายครั้งใหญ่ที่พวกเขาได้เจอ
ยี่หยูขมวดคิ้ว
“ข้าว่าเราออกจากที่นี่กันจะดีกว่า ตามที่ท่านราชาบอก ชั้นแปดของกระโจมเทพไม่ใช่สถานที่ที่พวกเราควรจะอยู่ ฝูงผึ้งนั่นก็เกือบจะคร่าชีวิตพวกเราไป แต่มันอาจจะเป็นแค่อันตรายระดับปกติของชั้นแปดก็ได้! แล้วก็มีคนมากมายต่อสู้เพื่อแย่งชิงสมบัติในยอดเขาทั้งห้า เราโชคดีอยู่แล้วที่ไม่เจอคนจากจิวโจว เราควรจะหนีไปก่อนที่พวกนั้นจะรู้ตัว”
ฉิงจูครุ่นคิดอย่างหนัก เขาเชื่อใจจ้าวยี่หยูจนไม่ฟังใครอื่น แต่พวกเขาก็เจอที่เก็บสมบัติหลังจากที่พยายามมามากมาย การทิ้งโอกาสไปตอนนี้มันน่าเสียดายเกินไป
“เจ้าลดพลังตัวเองโดยการพูดว่าศัตรูแข็งแกร่งน่ะรึ!”
ไป่ลั่วถอนหายใจแรง
“อย่างไรเราก็เป็นผู้บ่มเพาะพลัง แม้จะเทียบทรัพยากรกันไม่ได้ ระดับปัญญา ความขยัน และพรสวรรค์ของพวกเราก็ไม่ได้แย่ไปกว่าคนพวกนั้น ความต่างของพลังจะมากสักเท่าใดเชียว?”
คำพูดนี้ปลอบใจเหล่าจ้าวแห่งความมืดที่เหลือ เพราะอย่างไรพวกเขาก็ถูกเลือกจากราชาแห่งความมืดกับมือ แต่ละคนคือยอดฝีมือแห่งทวีปเฉินหลง ดังนั้นพวกเขาจึงมิอาจรับได้ที่ถูกบอกว่าอาจจะอ่อนแอกว่าคนจากจิวโจว
ยี่หยูไม่โต้แย้ง เพียงแค่ถอนหายใจกับตัวเอง
“ผู้คนก็เลือกเชื่อแต่ในสิ่งที่ตนจะเชื่อเท่านั้น…”